วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 20:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2011, 22:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
)

แล้วความเพียรที่พอดีมันขนาดไหนได้หรือคะ สำหรับคนที่แสวงหาธรรม





เพียรไม่พัก

คือ เพียรตามสภาวะ ตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน

แค่มีจิตรู้อยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม ( ปัจจุบัน ) นั่นคือ การเพียรไม่พัก

เพราะไม่ได้เพียรเพื่อตอบสนองกิเลส ไม่ได้เพียรเพราะความอยาก แต่เป็นการเพียรตามสภาวะของตัวเอง

เพียงแต่รู้จักจิตของตัวเองดีพอแล้วหรือยัง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2011, 19:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
ความเพียรต้องเป็นความเพียรที่ชอบ คือ ตรงกับมรรค และต้องเพียรให้มาก คือ มีความรอบคอบใช่ไหมคะ


ความเพียรชอบ (สัมมาวายามะ) เพียรชอบเพียรยังไง สังเกตหลักก่อนนะครับ


“ภิกษุทั้งหลาย สัมมาวายามะ เป็นไฉน นี้เรียกว่า สัมมาวายามะ คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้

1. สร้างฉันทะ พยายาม ระดมความเพียร คอยเร้าจิตไว้ มุ่งมั่น เพื่อป้องกันอกุศลธรรมอันเป็นบาปที่ยังไม่เกิด มิให้เกิดขึ้น

2. สร้างฉันทะ พยายาม ระดมความเพียร คอยเร้าจิตไว้ มุ่งมั่น เพื่อละอกุศลธรรมอันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว

3. สร้างฉันทะ พยายาม ระดมความเพียร คอยเร้าจิตไว้ มุ่งมั่น เพื่อสร้างกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น

4. สร้างฉันทะ พยายาม ระดมความเพียร คอยเร้าจิตไว้ มุ่งมั่น เพื่อความดำรงอยู่ ไม่เลือนหาย เพื่อภิญโยภาพ เพื่อความไพบูลย์ เจริญ เต็มเปี่ยมแห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว”


สัมมาวายามะ อย่างที่แยกเป็น 4 ข้อ ตามคำจำกัดความแบบพระสูตร ^ นั้น เรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า สัมมัปปธาน 4 และมีชื่อเรียกเฉพาะสำหรับความเพียรแต่ละข้อนั้นว่า

1. สังวรปธาน เพียรป้องกัน หรือเพียรระวัง อกุศลที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น

2. ปหานปธาน เพียรละ หรือเพียรกำจัด อกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้สิ้นไป

3. ภาวนาปธาน เพียรเจริญ หรือ เพียรสร้าง กุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น

4. อนุรักขนาปธาน เพียรอนุรักษ์ หรือเพียรรักษาและส่งเสริม กุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2011, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
ความเพียรต้องเป็นความเพียรที่ชอบ คือ ตรงกับมรรค และต้องเพียรให้มาก คือ มีความรอบคอบใช่ไหมคะ


ความเพียรชอบตามแบบสรุปสาระสั้นๆ ก็คือ

-เพียรระวังอกุศลที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น

-เพียรกำจัดอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้สิ้นไป

-เพียรสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น

-เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป


อย่างไรก็ตาม การทำความเพียร ก็เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรมข้ออื่นๆ จะต้องเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

ให้พร้อม และถูกต้องก่อน แล้วจึงขยายออกไปเป็นการกระทำในภายนอกให้ประสานกลมกลืนกัน


มิใช่คิดอยากทำความเพียร ก็สักแต่ว่าระดมใช้กำลังกายเอาแรงเข้าทุ่ม ซึ่งอาจทำให้เกิดผลเสีย

ได้มาก

โดยนัยนี้ การทำความเพียรจึงต้องสอดคล้องกลมกลืนกันไปกับธรรมข้ออื่นๆด้วย โดยเฉพาะสติกับ

สัมปชัญญะ
มีความรู้ความเข้าใจ ใช้ปัญญาดำเนินความเพียรให้พอเหมาะ ไม่ตึงและไม่หย่อนเกิน

ไป แต่ถ้าเห็นเป้าหมายแล้วแม้ตายก็ยอม ดังการตั้งปณิธานที่ใต้ต้นโพธิ์ของพระโพธิสัตว์คืนวันตรัสรู้ฉะนั้นแล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2011, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็คือ ต้องถูกทาง ตรงเป้า ไม่งั้นมันก็ไม่เกิดผลจากความเพียรนั้นๆเท่าที่ควร


ทุ่มกำลังกายคู่กับปัญญา เพียรไม่ตรงทางก็เสียเปล่า ใช่ไหมคะ เหมือนเดินเข้ารกเข้าพงอ่ะป่าว :b8:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2011, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เลงเป้า(หมาย)ให้แม่น แล้วทุ่มไปให้สุดกำลัง

เมื่อยังไม่ได้ปฏิบัติไม่รู้ได้เลยว่าถูกหรือผิด เมื่อทำแล้วยังพอประมานผลได้

ไม่ต้องยึดติดกับการกระทำ ไม่ต้องหวังผลว่าจะต้องถูก ถ้าผิดก็เอาใหม่

เล็งให้แม่น ทุ่มให้สุดกำลัง แววไวในการอ่านผล ไม่รั้งรอที่จะแก้ใขเมื่อผิดพลาด

อย่างนี้แล้ว มากไป น้อยไป ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ถ้าเหนื่อยนักก็พักได้

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2011, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: :b8: :b8: :b8: :b44:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร