วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 19:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 126 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"บางสำนักสอนสติปักฐานโดยธรรมชาติตามปัจจุบันอารมณ์ไม่มีกำหนดกฏเกณฑ์ว่าต้องลำดับอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ให้เป็นไปตามธรรมและนิสัย วาสนา ทุนเดิมของผู้ปฏิบัติแต่ละคน การวิเนยยะโลเก อภิชฌา โทมนัสสัง หรือเอายินดียินร้ายออก จะไม่ใช้สติตัดทันที แต่จะเอาปัญญามาสังเกต พิจารณา ความยินดียินร้ายนั้น ให้ความยินดียินร้ายนั้นเป็นเครื่องมือ เป็นปัจจัยให้สามารถสาวค้นเข้าไปถึงสมุทัย คือตัณหา อันเกิดจากความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตัวกู ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ในที่สุดปัญญาจะได้พบกับอุปาทานว่าเป็น กู เป็นเรา ที่บงการอยู่ ปัญญาจะได้สู้ กู ถ้ากูหลบหรือตาย ปัญญาชนะ จิตจะได้เข้าถึงสภาวะไร้กูแบบชั่วคราว หรือหมดกูแบบถาวร หมด กู ยินดียินร้ายก็ดับเอง ตัณหาก็เกิดไม่ได้เอง"
....ที่ผมศึกษาแลปฏิบัติเป็นแนวทางนี้แหละครับ ความทุกข์ค่อยๆลดลงตามความรู้ที่เพิ่มขึ้น เดินช้าๆครับ ตามแรงแห่งปัญญาที่ยังน้อยอยู่ช้าๆแต่ว่ามั่นคงครับ อาศัยแรงน้อยเดินบ่อยๆก็ไกล้เข้าไปคงถึงสักวัน แต่ก็ขออนุโมทนากับสหายธรรมผู้มีพลังปัญญาบารมีสูงผู้เข้าถึงธรรมได้รวดเร็ว ผมก็ขออาศัยคำชี้แนะจากท่านเป็นแนวทางเดินต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 523

แนวปฏิบัติ: ดูปัจจุบันอารมณ์ เจริญมรรค ๘
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประทีปแห่งเอเซีย
ชื่อเล่น: อโศกะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b10: สาธุ อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งกับคุณ ขณะจิต

สมถะ ดูเหมือนง่ายในตอนแรก แต่จะยากในภายหลัง ต้องใช้พลังมาก และต้องระวังรักษาสติอยู่ตลอดเวลา

สมถะ เป็นการกลบบัง กิเลส ตัณหา อัตตา และ สมุทัย ด้วย สติ และ สมาธิ

ผู้สำเร็จสมถะ จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสภาวทุกข์ เวทนา ในกาย ใจ มาช่วยค้นหา สมุทัย เพราะสติสมาธิและฌาณ จะไปกลบบัง นิวรณ์ธรรมและ ทุกขเวทนาในกายและจิต ต้องไปอาศัยรูปนอกเนรมิตรรูปนอกมาเป็นเคร้องพิจารณา เป็นวิปัสสนาเทียม แล้วจึงน้อมเข้ามาเทียบในกาย ใจ เป็นวิปัสสนาแท้ภายหลัง

วิปัสสนาภาวนา ดูเหมือนยากในตอนแรก แต่จะง่ายยิ่งขึ้นทุกวันๆ ไมต้องใช้พลังมาก ยิ่งนานวัน สติก็จะยิ่งเป็นสติโดยธรรมชาติ ไม่ต้องคอยระวัง

วิปัสสนาภาวนา เป็นการขุดราก ถอนโคน กิเลส ตัณหา อัตตา และ สมุทัย ด้วย ปัญญา อันมีสติ สมาธิหนุน

ผู้ทำวิปัสสนาภาวนาเป็นแล้ว จะได้ใช้ประโยชน์ จากสภาวทุกข์ เวทนา ในกาย ใจ มาเป็นเครื่องช่วยในการค้นหา สมุทัย ซึ่งจะง่ายและอยู่กับความเป็นจริงตลอดเวลา

ในมรรคมีองค์แปดนั้น มีสมาธิมรรค 3 ข้อ ให้ฝึกปฏิบัติ จนเกิดความสงบ นิ่ง เป็นหนึ่งเดียวได้
เหมือนฌ่าณ 4 ของสมถะภาวนาแบบฤาษี แต่เรียกว่า สังขารุเปกขาญาณ จึงไม่จำเป็นต้องไปฝึกสมถะภาวนาตามแบบของฤาษีก็ได้

สมถะภาวนา สยบ กลบ บัง นิวรณ์ธรรมได้
แต่วิปัสสนาภาวนา ขุดถอนนิวรณ์ธรรมไปตลอดเวลาที่ปฏิบัติ จึงทำให้ผู้ปฏิบัติ มีกิเลส ตัณหา อัตตา เบาบางลงไปทุกวัน ๆ มีความสุขเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ


ที่กล่าวมาทั้งหมดของตอนนี้ถือเป็นของแถมแทรกเข้ามานะครับ เพราะได้แรงบันดาลใจจากคุณขณะจิตเป็นเหตุ

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กาลามสูตร ๑๐ และ มหาปเทส ๔


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 22:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แฮ่ม..คุณ Flame นี้..มาเงียบ ๆ ..แต่แรง..นะ.. :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


เบาหรือแรง ที่สุดก็คือความว่างเปล่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2011, 22:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 523

แนวปฏิบัติ: ดูปัจจุบันอารมณ์ เจริญมรรค ๘
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประทีปแห่งเอเซีย
ชื่อเล่น: อโศกะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b4:
ใจ = มโนวิญญาณธาตุ = ประสาทรับรู้ที่หัวใจ เป็นที่เกิดของนามธรรม เมื่อเกิดผัสสะที่ทวารทั้ง 5 วิญาณรับรู้แล้ว จะส่งสายต่อมาสู่ มโนวิญญาณธาตุ มโนวิญญาณธาตุจะแปลความหมายของวิญญาณทั้ง5 และ ผัสสะที่กระทบที่มโนวิญาณธาตุโดยตรง คือธัมมารมณ์ต่างๆ

การทำงานที่มโนวิญญาณธาตุนั้น จะไปค้นสัญญามาเทียบเพื่อแปลว่าผัสสะนั้นคืออะไร แล้วจึงเกิดสังขาร ปรุงแต่งไปตามสัญญา หากยังไม่มีในสัญญา ปัญญาสัมมาสังกัปปะจะเกิดขึ้นเพื่อไปค้นหาคำตอบ หากมีในสัญญา จะเกิดสังขาร ว่าเป็นนั่นเป็นนี่ แล้วเวทนาก็เกิดตามมา

เวทนาเกิดขึ้นแล้ว สติรู้ทัน ถ้าสติถูกปัญญาอบรมมาด้วย สติปัฏฐาน 4 แล้ว สติจะเตือนให้ปัญญา ละความยินดียินร้าย ปัญญาสัมมาสังกัปปะจะ สังเกต วิเคราะห์เข้าไปในความยินดี หรือยินร้าย จนได้พบว่า ที่ยินดีหรือยินร้าย เพราะมี ความเห็นผิดว่าเป็น อัตตา กู ของกู ของเรา อยู่ในจิต ปัญญาจะนิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปฏิกิริยาตอบโต้ของกู อันแสดงออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆด้วยอำนาจความยินดีหรือยินร้าย
เช่น หงุดหงิด งุ่นง่าน ขุ่นมัว อึดอัด ทุกข์ สุข ต่างๆ เพื่อจะให้เกิดกรรมสนองความอยาก ไม่อยากอันเกิดจากความยินดียินร้าย

สติและปัญญา อดทน นิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปฏิกิริยาของ กู ต่อไป โดยไม่ทำตามคำสั่งของกู ในไม่ช้า ปัญญา จะได้รู้ เห็น ความเห็นผิดว่าเป็น กู เป็นเรา ดับไปจากใจ

แต่ถ้าปัญญาสู้คำสั่งของกูไม่ได้ ตัณหา ก็จะได้รับการตอบสนอง ให้เกิดกรรมต่างๆไปด้วยอำนาจของตัณหา วิบากก็จะเกิดขึ้น แล้ว วกกลับมา กระทุ้งให้วงเวียนแห่งปฏิจจสมุปปบาท หรือวัฏฏะสงสาร หมุนเวียนต่อไปไม่รู้จบ

นี่คือเรื่องของใจ ในทัศนะของ อนัตตาธรรม
:b1: :b12: :b16:
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงแม้จะเป็นอินเตอร์เน็ต แม้เป็นหญิง ควรแสดงตัวเป็นหญิง มิควรแอบแฝงด้วยการแสดงตัวเป็นชาย

การที่ไม่ยอมรับตามความเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่จริง นั่นคือ การโกหกตัวเอง

ขนาดตัวเองยังโกหกได้ นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริง


ในเมื่อสภาวะที่แท้จริงที่ตัวเองเป็นอยู่จริง ยังยอมรับไม่ได้ ยังมีการยึดติดในโลกธรรม ๘ ยังมียึดติดในเรื่องเพศ ไม่กล้าแสดงตัวตน ไม่กล้าแสดงเพศที่แท้จริงของตัวเอง


นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง ยังห่างไกลยิ่งนัก ได้แต่ลูบคลำบัญญัติต่อไป


จะผ่านสภาวะต่างๆของกิเลสไปได้ ต้องกล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงเพศที่แท้จริง ตลอดจนตัวตนแท้จริงของตัวเอง และระมัดระวังในการสร้างเหตุ

นี่คือ ความเป็นอิสระทางจิต เป็นด่านแรกที่ทุกคนจะต้องเจอ ตัวเองยังเป็นอิสระไม่ได้ นับประสาอะไรที่เพียรพยามแสดงความเป็นอิสระที่ตัวเองยังไม่สามารถทำได้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 22:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 523

แนวปฏิบัติ: ดูปัจจุบันอารมณ์ เจริญมรรค ๘
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประทีปแห่งเอเซีย
ชื่อเล่น: อโศกะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


walaiporn เขียน:
ถึงแม้จะเป็นอินเตอร์เน็ต แม้เป็นหญิง ควรแสดงตัวเป็นหญิง มิควรแอบแฝงด้วยการแสดงตัวเป็นชาย

การที่ไม่ยอมรับตามความเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่จริง นั่นคือ การโกหกตัวเอง

ขนาดตัวเองยังโกหกได้ นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริง


ในเมื่อสภาวะที่แท้จริงที่ตัวเองเป็นอยู่จริง ยังยอมรับไม่ได้ ยังมีการยึดติดในโลกธรรม ๘ ยังมียึดติดในเรื่องเพศ ไม่กล้าแสดงตัวตน ไม่กล้าแสดงเพศที่แท้จริงของตัวเอง


นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง ยังห่างไกลยิ่งนัก ได้แต่ลูบคลำบัญญัติต่อไป


จะผ่านสภาวะต่างๆของกิเลสไปได้ ต้องกล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงเพศที่แท้จริง ตลอดจนตัวตนแท้จริงของตัวเอง และระมัดระวังในการสร้างเหตุ

นี่คือ ความเป็นอิสระทางจิต เป็นด่านแรกที่ทุกคนจะต้องเจอ ตัวเองยังเป็นอิสระไม่ได้ นับประสาอะไรที่เพียรพยามแสดงความเป็นอิสระที่ตัวเองยังไม่สามารถทำได้

:b6:

[size=150]คุณวลัยพรกำลังสื่ออะไรครับเนียะ[/size]
:b23:
:b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ถึงแม้จะเป็นอินเตอร์เน็ต แม้เป็นหญิง ควรแสดงตัวเป็นหญิง มิควรแอบแฝงด้วยการแสดงตัวเป็นชาย

การที่ไม่ยอมรับตามความเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่จริง นั่นคือ การโกหกตัวเอง

ขนาดตัวเองยังโกหกได้ นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริง

ในเมื่อสภาวะที่แท้จริงที่ตัวเองเป็นอยู่จริง ยังยอมรับไม่ได้ ยังมีการยึดติดในโลกธรรม ๘ ยังมียึดติดในเรื่องเพศ ไม่กล้าแสดงตัวตน ไม่กล้าแสดงเพศที่แท้จริงของตัวเอง



เห็นด้วยครับ..แม้จะเป็นอินเทอร์เน็ต...ก็ต้องไม่โกหก..ต้นค้ดปลายตรง..ไม่มี

ว่าแต่ว่า...นี้มันเรื่องอะไรกันรึครับ :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณวลัยพร อาจจะหมายความว่า แท้จริงเป็นหญิง แต่แสดงตนว่าเป็นชาย
เช่นว่าตัวเองเป็นหญิง แต่ คำลงท้ายที่ใช้ กลับเป็น "ครับ" มั้งครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 07 ก.ค. 2011, 15:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
walaiporn เขียน:
ถึงแม้จะเป็นอินเตอร์เน็ต แม้เป็นหญิง ควรแสดงตัวเป็นหญิง มิควรแอบแฝงด้วยการแสดงตัวเป็นชาย

การที่ไม่ยอมรับตามความเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่จริง นั่นคือ การโกหกตัวเอง

ขนาดตัวเองยังโกหกได้ นับประสาอะไรกับการเห็นตามความเป็นจริง

ในเมื่อสภาวะที่แท้จริงที่ตัวเองเป็นอยู่จริง ยังยอมรับไม่ได้ ยังมีการยึดติดในโลกธรรม ๘ ยังมียึดติดในเรื่องเพศ ไม่กล้าแสดงตัวตน ไม่กล้าแสดงเพศที่แท้จริงของตัวเอง



เห็นด้วยครับ..แม้จะเป็นอินเทอร์เน็ต...ก็ต้องไม่โกหก..ต้นค้ดปลายตรง..ไม่มี

ว่าแต่ว่า...นี้มันเรื่องอะไรกันรึครับ :b10: :b10:


:b22: ฮ๊าฮา แม้จะเป็น อินเตอร์เน็ต คุณwalaiporn ก็ยังไม่กล้า เอ่ยชื่อ ออกมาตรงๆ เลยนะเจ้าข๊ะ

แม้จะเป็น อินเตอร์เน็ต แอบรักใคร ชอบใคร ก็บอกตรงๆ ได้เลย นะเจ้าข๊าาาาา rolleyes :b13:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


คั๊บป๋ม :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


แว๊กกกกก :b32: :b32:
มาโพสต์เวลาเดียวกัน อิอิ
ฮานะ ไม่ใช่ เอกอน อวตารแน่นอน
อิอิ

คั๊บป๋ม :b12:



:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2011, 23:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


อนัตตาธรรม เขียน:
:b4:
ใจ = มโนวิญญาณธาตุ = ประสาทรับรู้ที่หัวใจ เป็นที่เกิดของนามธรรม เมื่อเกิดผัสสะที่ทวารทั้ง 5 วิญาณรับรู้แล้ว จะส่งสายต่อมาสู่ มโนวิญญาณธาตุ มโนวิญญาณธาตุจะแปลความหมายของวิญญาณทั้ง5 และ ผัสสะที่กระทบที่มโนวิญาณธาตุโดยตรง คือธัมมารมณ์ต่างๆ

การทำงานที่มโนวิญญาณธาตุนั้น จะไปค้นสัญญามาเทียบเพื่อแปลว่าผัสสะนั้นคืออะไร แล้วจึงเกิดสังขาร ปรุงแต่งไปตามสัญญา หากยังไม่มีในสัญญา ปัญญาสัมมาสังกัปปะจะเกิดขึ้นเพื่อไปค้นหาคำตอบ หากมีในสัญญา จะเกิดสังขาร ว่าเป็นนั่นเป็นนี่ แล้วเวทนาก็เกิดตามมา

เวทนาเกิดขึ้นแล้ว สติรู้ทัน ถ้าสติถูกปัญญาอบรมมาด้วย สติปัฏฐาน 4 แล้ว สติจะเตือนให้ปัญญา ละความยินดียินร้าย ปัญญาสัมมาสังกัปปะจะ สังเกต วิเคราะห์เข้าไปในความยินดี หรือยินร้าย จนได้พบว่า ที่ยินดีหรือยินร้าย เพราะมี ความเห็นผิดว่าเป็น อัตตา กู ของกู ของเรา อยู่ในจิต ปัญญาจะนิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปฏิกิริยาตอบโต้ของกู อันแสดงออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆด้วยอำนาจความยินดีหรือยินร้าย
เช่น หงุดหงิด งุ่นง่าน ขุ่นมัว อึดอัด ทุกข์ สุข ต่างๆ เพื่อจะให้เกิดกรรมสนองความอยาก ไม่อยากอันเกิดจากความยินดียินร้าย

สติและปัญญา อดทน นิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปฏิกิริยาของ กู ต่อไป โดยไม่ทำตามคำสั่งของกู ในไม่ช้า ปัญญา จะได้รู้ เห็น ความเห็นผิดว่าเป็น กู เป็นเรา ดับไปจากใจ

แต่ถ้าปัญญาสู้คำสั่งของกูไม่ได้ ตัณหา ก็จะได้รับการตอบสนอง ให้เกิดกรรมต่างๆไปด้วยอำนาจของตัณหา วิบากก็จะเกิดขึ้น แล้ว วกกลับมา กระทุ้งให้วงเวียนแห่งปฏิจจสมุปปบาท หรือวัฏฏะสงสาร หมุนเวียนต่อไปไม่รู้จบ

นี่คือเรื่องของใจ ในทัศนะของ อนัตตาธรรม
:b1: :b12: :b16:
:b4:


:b13: ฮ๊าฮา ใจ นั้นเป็นของ ละเอียด กว่านี้ เจ้าข่ะ
และเห็นได้ยากกว่า ทรรศนะแบบท่านอนัตตาธรรม อีกนะ เจ้าข๊า

มโนธาตุ แบบนั้น เกิดจาก เจตสิกธรรม ไม่ใช่ ใจ นะเจ้าข๊ะ

เมื่อเจตสิกธรรมที่เป็นธัมมารมณ์มากระทบทวาร

หทัยรูปอันเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจนี่แหละ เป็นบ่อเกิด ของมโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ นะเจ้าข๊า

น้ำเลี้ยงหัวใจนี้แหละเป็นที่อาศัยเป็นที่ทำให้เกิดจิต ทั้งหมด ๗๕ ดวง (เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ และอรูปวิบาก ๔ )

และก็น้ำหล่อเลี้ยงหัวใจนี่แหละ ทำให้เกิดมโนธาตุ ได้แก่ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ และ สัมปฏิจฉันนจิต ๒

และก็ น้ำหล่อเลี่ยงหัวใจนี่แหละ ทำให้เกิด มโนวิญญาณธาตุ นะเจ้าข๊า

ซึ่ง ได้แก่จิต ๗๖ ดวง (เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ มโนธาตุ ๓)

แล้วก็ยัง ถูกผสม เป็น มโนสัมผัส เสียแล้วละ เจ้าข๊าาาาาา :b13:

แบบนี้ แม้แต่ มโนธาตุ ก็ยัง มองไม่เห็น เลย นะเจ้าข๊า

ฮ๊าฮา ฮ๊าฮา rolleyes :b4:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 126 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร