การพูดธรรมะครูบาอาจารย์หลายท่าน ที่มีความรู้เรื่องจิตอย่างลึกซึ้ง ท่านมักไม่พูดตรงๆ แต่มักใช่การอุปไมยเปรียบเทียบ หรือพูดเป็นปริศนาธรรม ซึงปริศนาธรรมนี้ ผู้มีปัญญา ทางธรรมมากน้อยก็จะตีความและมีความเข้าใจได้แตกต่างกัน คำพูดคำเดียวกันบางคนเข้าใจแจ่มแจ้งด้วยจิด แต่บางคนท่องจำได้แต่ไม่เข้าใจอะไรเลย โดยเฉพาะพระพุทธองค์ก็ทรงแสดง ปริศนาธรรมไว้มาก เช่น"ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นคถาคต" อันนี้เราก็ลองทำความเข้าใจดู ถ้าใครเข้าใจดี ก็จะเข้าใจธรรมมะได้ตรง และถูกต้อง ถ้าใครยังไม่เข้าใจ ก็ต้องปฏิบัติกันไปจนกว่าจิตมันจะเข้าใจ
.....นิกายเซนนี้ ทุกอย่างเป็นปริศนาธรรมทั้งหมด เช่นคำว่า"จิตเดิมแท้ นี้คือพุทธะ"ความหมายมันคืออะไร ตรงกับสิ่งที่เรารู้หรือไม่
....หลวงปู่ดุลย์ท่านว่า"ผู้ใดหลงในตำราและอาจารย์ ผู้นั้นไม่อาจพ้นทุกข์ แต่ผู้จะพ้นทุกข์ได้ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เหมือนกัน" อันนี้เราเข้าใจแค่ไหน
....หลวงปู่เทียน อรหันต์ผู้ไม่รู้หนังสือ ท่านว่า"เรื่องเมื่อวัยเด็ก เรายังจำไม่ได้ทั้งหมด แล้วเรื่องที่เกิดมาแล้วตั้ง2500กว่าปีเราจะท่องบ่นไปทำไม" อันนี้ต้องขยายความหน่อย เดี๋ยวมิจฉาทิฐิเอาไปตีความผิดเสียหายกันไปอีก คือท่านหมายความว่า ไปท่องบ่น จดจำพระคำภีร์แล้วเอามาคุยอวดอ้างกันมันไม่เกิดประโยชน์เกื้อกูล ทำไมไม่ลงมือปฏิบัติ เพราะถ้าปฏิบัติถูกทางแล้ว ความรู้ที่ได้จากการปฏิบัตินั้นมันก็จะตรงกับพระคัมภีร์ แล้วก้รู้ตรงกันทุกคนในหมู่นักปฏิบัติ..ทีนี้ใครมีปริศนาธรรมอะไรดี ก็ลองเอามาแชร์กันดู เพื่อประโยชน์เกื้อกูลกัน.....เจโตวิมุติ/

คนสามบ้าน กินน้ำบ่อเดียว เทียวทางเดียว บ่อเยียบฮอยกัน

ใครที่สามารถตีความหมายใด้ ช่วยอธิบายให้ด้วยครับ

ตามกติการ์ ต้องไม่โต้ตอบกันแค่สองคน ต้องแชร์กัน เรื่ง สี่ สาม สอง หนึ่ง นี้ใช่เลย และเป็นปริศนาธรรมที่แยบคายมาก ไม่รู้ใครกล่าวไว้ เราตั้งต้นให้ประโยคหนึ่ง มันครบองค์ธรรมนะถ้าใครต่อได้ สี่ คือกายนี้( ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกัน คือธาตุทั้ง 4) สามมันเป็นทางเดิน ของสี่ ตามหลัก การปฏิบัติเลย ถ้ามองให้ตรง จะเป็นไปตามนั้น
.....เว้นไว้ให้คนอื่นต่อ......เจโตวิมุติ/

กระผมขอปล่อยไก่ด้วยคน..

..สาม..คน..แห่...

...คิดว่าเป็น...

...กามภพ..รูปภพ..อรูปภพ...อันเป็นสังสารวัฏฏ์...เวียนเกิดเวียนตาย..ไม่รู้จบ..

ปริศนาธรรม ธรรมของใคร ใครที่ว่า
พุทธัมมา ไร้เจ้าของ ครอบครองธรรม
พุทธธรรม ไร้ปริศนา เลอค่าล้ำ
วิมุตติธรรม ไม่อาจตู่ รู้ครอบครอง

หากเจอใคร เป็นเจ้าของ ให้รีบฆ่า
ธรรมปริศนา ไร้อัตตา ไร้เจ้าของ
ธรรมมีเห็น แต่ไม่มี คนที่มอง
ธรรมทั้งผอง หากไม่จอง มองเห็นเอย...

ธาตุสี่ ไตรลักษณ์ เรา บุญ-บาป ถูกไหมนี่

คนสามบ้าน กินน้ำบ่อเดียว เทียวทางเดียว บ่อเยียบฮอยกัน
ถ้าเป็นภาษาภาคกลาง อ่านว่ายังไงครับอันนี้

(จริงๆ จะมี มากกว่านี้เพิ่มอีก อยากเรียนรู้ถามหญิงคันหูก อยากทำถูกถามเด็กเลี้ยงควาย
นะอยู่หัว3 ตัวอยู่ละ นะอยู่ที่ไหน ตามเอามาให้ได้ ประมาณนี้)
ข้อความที่อ้างข้างบน เคยมีผู้รู้ในนี้ตอบไว้หมดเมื่อ3 ปีก่อนคับ

เราเปลี่ยนเป็นจิต ตรงไตรลักษณ์เปลี่ยนเปนกิเลส 3 กอง
****************************************************************************************************************************



กราบพระ5 ครั้ง
กราบลงไปครั้งที่หนึ่ง ก็ระลึกถึงคุณพระพุทธ
กราบครั้งที่สอง ก็ระลึกถึงคุณพระธรรม
กราบครั้งที่สาม ก็ระลึกถึงคุณพระสงฆ์
กราบครั้งที่สี่ก็รำลึกถึงคุณ มารดา บิดา
กราบครั้งที่ห้าระลึกถึงคุณครูอุปฌาย์ อาจารย์ ผู้มีพระคุณฯ

สาธุ พระแก้วสององค์(บิดามารดา) พระสงฆ์ องค์ที่เชื่อ

ทุกคน...

เรื่องปริศนาธรรมแบบนี้ผมดูแล้ว มันก็คล้ายๆกับการใบ้หวยนั้นแหล่ะครับ
ทำไมน้าจะบอกมาตรงๆไม่อ้อมค้อมไม่ได้หรือ

ดูแล้วตลกดีครับ เราเคยคิดบ้างมั้ยครับ แค่คำพื้นๆที่เกี่ยวกับธรรมะ
ยังเถียงกันแทบเป็นแทบตาย นี่อยู่ดีๆดันเอาคำที่ยังเถียงกันแบบไม่สะเด็ดน้ำ
ไปทำให้มันเป็นปริศนาอีก ผมว่ามันจะไปกันใหญ่น่า

ธรรมะไม่ใช่สูตรวิทยาสตร์ ทำไมต้องทำให้มันเป็นปริศนา
แค่คำพูดอธิบายธรรมดาเรายังไม่เข้าใจกันเลย
แบบนี้มันเป็นเรื่องของคน ที่ต้องการยกฐานะภูมิธรรมของตน
ด้วยการพยายามทำเรื่องง่ายๆให้มันยากขึ้น ใครไม่รู้ก็คิดว่าคนนั้นฉลาดหนักหนา

เข้าใจคำว่ามอง"โลกตามความเป็นจริง"หรือเปล่าครับ
โลกคือธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือธรรมะ ไม่ควรทำให้ธรรมชาติผิดเพี้ยนฉันใด
ก็ไม่ควรทำให้ธรรมะผิดแผกไปฉันนั้น

ธรรมะจะต้องเป็นสิ่งที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้ความคิด
เพราะธรรมะเป็นธรรมชาติและเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

สวัสดีคุณ โฮฮับ
ผมว่านะ บางทีปริศนาธรรมต่างๆที่ครูบาอาจารย์หลายท่านกล่าวเอาไว้นั้น
ท่านคงไม่ได้จะหมายเอาว่า เพื่อยกฐานะภูมิธรรมของตนกระมั้งครับ
บางครั้งการที่ท่านแสดงปริศนาธรรมขึ้นมา จะด้วยเหตุใด ด้วยวิสัยอย่างใด
ก็ยากจะรู้ใจท่านได้เหมือนกัน รวมไปถึงผู้ฟังผู้สนทนาธรรมกับท่าน
ท่านอาจจะเลือกแสดงธรรมที่แตกต่างกันไปตามแต่วิสัยของผู้ฟังผู้สนทนาธรรม
ในขณะนั้นก็เป็นได้ครับ
ก็คงจะเหลือแต่การบันทึก บอกเล่า ของครูอาจารย์ที่ได้รับปัญหานั้นมาท่านจึง
นำมาแสดงไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้ชนชั้นหลังอย่างพวกเราไม่มากก็น้อย
ผมเห็นว่าอย่างนี้นะ

คุณผงครับ สิ่งที่ผมแสดงความเห็นไป ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะปรามาสครูบาอาอาจารย์
เพียงแต่อยากชี้แนะในกรณีของพวกเรากันเองในกระทู้นี้ครับ
พวกคุณลองทำใจกลางๆ แล้วลองดูใจตัวเอง ตอนที่เอาปริศนาธรรมมาถาม
แล้วเขาตอบได้หรือไม่ได้ ใจตัวเองจะรู้สึกอย่างไร ถ้าไม่โกหกตัวเอง
ก็จะรู้สึกเกิดความภูมิใจ
ไอ้ตัวนี้แหล่ะครับเป็นกิเลสที่เรียกว่า ปมเขื่อง

ปัญหาหรือปริศนาธรรมที่เกิดขึ้น มันก็มาจากรากฐานแห่งกิเลสที่เรียกว่า มานะ
หรือภาษาที่พวกเราชอบใช้กันในนี่ก็คือทิฐิมานะครับ
ลักษณะไม่ว่าจะเป็นผู้ถามหรือผู้ตอบ มันก็เนื่องมาจาก ถือตัวว่าดีกว่าเขา

การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเราต้องเอาพระธรรมเป็นหลัก
แล้วเอากายใจเราเป็นแบบ ไม่ใช่เคารพศรัทธาใครก็เห็นดีเห็นงามไปเสียทุกเรื่อง

อ่อๆเป็นอย่างนี้เองเข้าใจตามที่ท่านเห็น ตามนั้นๆคุณโฮฮับ

มีปริศนาธรรม เคยได้อ่านมาครั้งนึง ชอบในความแปล เอามาฝากกันครับ

รีบพายเรือ ตะวันจะสาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า รีบภายเรือแม่
รีบพายเรือพ่อ ตะวันจะสาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า รีบพายเรือ

ความแก้
ท่านพูดเพียงแค่นั้น ท่านก็ไม่แปลให้ฟัง ทีนี้ ก็มาทำความเพียร เมื่อจิตรวมลงไปนั้น
ถึงอุปจารธรรมแล้ว ตั้งมั่น ก็กำหนดถามผู้รู้คือใจ นั่นแหละรีบพายเรือ ได้แก่อะไร
ตะวันจะสายได้แก่อะไร ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่าได้แก่อะไร
พระธรรมพูดขึ้นที่หัวใจว่า รีบพายเรือ คือ รีบเดินจงกรม เดินภาวนา ยืนภาวนา นั่งภาวนา
อดนอนผ่อนอาหารพิจารณาธาตุขันธ์ น้อมลงสู่ไตรลักษณ์เห็นแจ้งประจักษ์ทุกเมื่อ
จิตจะรวมลงสู่ภวังคภพอันแน่นแฟ้นแล้วเห็นของจริง อะไรบ้าง อยู่ในตลาดนี้ ร่างกายนี้
เปรียบเหมือนตลาดนั่นแหละ มีทุกอย่างทุกประการ รีบขายของ รีบรื้อถอน ของออกจากใจ
คือกิเลส เมื่อเก็บเอาได้แล้วนั่นแหละ เป็นผู้ชายของขาด ถึงไม่หมดก็แปลว่าขาดนั่นแหละ
รีบพายเรือตะวันจะสาย คือมันจะแก่ นั่นแหละ รีบทำคุณงามความดี ร่างกายนี้มันจะแก่ตลาดจะวาย
สายบัวจะเน่า ก็คือ ตาย ร่างกายเปรียบเสมือนสายบัว วายคือตาย สายบัวมันก็เน่า เปื่อยเน่าเท่านั้น
เมื่อถึงสภาพเปื่อยเน่า แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นของ ๆ เราแท้ นี่แหละปัญหาธรรมของจริง
ที่นักปราชญ์ท่านสอน คือ หลวงปู่ขาวนั่นแหละ ผมจำได้แล้วก็เร่งทำความดีอย่างนั้นไม่ลดละ ก็สบายนั่นแหละ

ปริศนาธรรม หลวงปู่ขาว อนาลโย แก้โดยหลวงปู่จันทา ถาวโร