วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 04:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2010, 12:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


อยู่อย่างไรให้ปลอดโรคยามสูงวัย

เมื่ออายุมากขึ้นโรคภัยต่างๆ ยิ่งมากตามไปด้วย
ทั้งจากความเสื่อมตามสภาพของร่างกาย ตามกาลเวลา
และจากพฤติกรรมอันก่อให้เกิดโรค
ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นผู้สูงวัยที่มากด้วยโรคภัยแล้วล่ะก็
คุณควรจะดูแลสุขภาพตัวเองเสียแต่เนิ่นๆ
เพราะการจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงคงไม่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียว


พื้นฐานการมีสุขภาพดียามสูงวัย เริ่มได้ตั้งแต่ยังหนุ่มสาว

การจะมีสุขภาพดีเมื่อยามสูงวัยต้องเริ่มตั้งแต่ในวัยหนุ่มสาว
ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ตามหลัก 3 อ. คือ



:b39: 1. ออกกำลังกาย
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต้องนั่งโต๊ะทำงานเกือบตลอดทั้งวันและยังมีอุปกรณ์
เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้มากมาย
ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวน้อยลง
ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มการขยับและการเคลื่อนไหวของร่างกายให้มากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกาย
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง
โดยอาจเลือกการออกกำลังกายง่ายๆ
ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยสักนิดหนึ่ง เช่น การว่ายน้ำ การเดินเร็ว
แค่เพียงวันละประมาณครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว


:b39: 2. อาหาร
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายมีความสดใส
แข็งแรงได้ในยามสูงวัย ควรเน้นการกินอาหารให้ครบหมวดหมู่
โดยในแต่ละหมวดหมู่ควรมีลักษณะดังนี้

© คาร์โบไฮเดรต ควรเลือกกินในกลุ่มที่เป็นข้าว แป้ง และน้ำตาลเชิงซ้อน
เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต แป้งไม่ขัดขาว

© โปรตีน เลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันอิ่มตัว
หรือที่เรียกว่าโคเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) ต่ำๆ
เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อหมูไม่ติดมัน

© ไขมัน ควรกินแต่น้อย นอกจากนี้ยังควรระวังไขมันแฝง
ที่มักจะปนมากับอาหารชนิดต่างๆ เช่น ของทอด
อาหารจานผัด น้ำซุปหรือน้ำแกงต่างๆ เป็นต้น

© ผลไม้และผัก ผลไม้ควรเลือกกินชนิดที่ไม่หวานมาก
หรือถ้าจะกินควรกินแต่น้อย ส่วนในกลุ่มของผักสามารถกินได้ในปริมาณไม่จำกัด
แต่ควรกินผักให้ครบ 5 สี ได้แก่

- สีเขียว เช่น ตำลึง คะน้า บรอกโคลี

- สีส้มและสีแดง เช่น แครอท พริกแดง มะเขือเทศ

- สีเหลือง เช่น ฟักทอง พริกหยวกเหลือง ข้าวโพด

- สีม่วง เช่น มะเขือม่วง กะหล่ำปลีม่วง

- สีขาว เช่น ดอกแค หัวไช้เท้า หัวหอม เห็ด


:b39: 3. อารมณ์
มีส่วนสำคัญกับสุขภาพเพราะการที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ
จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานดีขึ้น
อีกทั้งอารมณ์หงุดหงิดและความเครียดยังเป็นปัจจัยของการเกิดโรคต่างๆ อีกมาก
เช่น โรคกระเพาะ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น


แม้ในช่วงวัยหนุ่มสาวจะเป็นช่วงที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
แต่เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนก็อาจเริ่มมีโรคภัยต่างๆ เข้ามา
โดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
ไขมันในเลือดสูง มะเร็งบางชนิด โรคกระดูกพรุน เป็นต้น
ดังนั้นเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนจึงควรไปตรวจสุขภาพ
เพราะในกลุ่มโรคเรื้อรังมักจะไม่ค่อยแสดงอาการ
กว่าจะรู้ตัวก็อาจเป็นมากหรือรักษาได้ยากแล้ว


เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุหากมีโรคเรื้อรังต่างๆ ที่ได้ตรวจพบแล้วในตอนต้น
การดูแลอย่างต่อเนื่องและควบคุมโรคให้มีความใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรกินยา
และไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
พร้อมกับปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด


ด้วยการปฏิบัติตามหลักง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณอยู่อย่างปลอดโรคได้ในยามสูงวัย


ที่มา: เรียบเรียงจากการบรรยายเรื่อง “อยู่อย่างไรให้ปลอดโรคยามสูงวัย”
โดย พญ.อรพิชญา ไกรฤทธิ์


Elderly Care

© ผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนที่สำคัญๆ คือ วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ และวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

© สิ่งที่ควรระวังอีกเรื่องหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุคือ อุบัติเหตุ
เพราะในวัยสูงอายุมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้สูง
เนื่องจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่เป็นไปตามวัย
ไม่ว่าจะในเรื่องของสายตาหรือแม้กระทั่งการทรงตัวที่ทำให้มีโอกาสสะดุดหกล้มได้ง่าย
นอกจากนี้ยังควรระวังการเกิดอุบัติเหตุจากไฟ สารเคมี และการใช้ยาอีกด้วย
ผู้สูงอายุบางรายมักจะหลงลืมหรือจำไม่ได้ว่ากินยาไปแล้วหรือยัง
จึงกินยาซ้ำใหม่อีกครั้ง ซึ่งยาบางชนิด
อาจก่อให้เกิดอันตรายหากได้รับในปริมาณที่มากเกินกำหนด

© ผู้สูงอายุบางรายควรได้รับวิตามินเสริม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่กินอาหารมังสวิรัติและกลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง
และต้องกินยาบางชนิดเป็นประจำ เช่น ผู้ที่ต้องกินยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ
เนื่องจากยาชนิดนี้มักเข้าไปทำให้ปริมาณวิตามินในร่างกายลดลง
หรือยารักษาโรคหัวใจบางชนิดทำให้รู้สึกเบื่ออาหารและกินอาหารได้น้อยลง
ดังนั้นก่อนตัดสินใจกินวิตามินหรืออาหารเสริมทางการแพทย์ชนิดใด
ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง


ที่มา.... http://www.healthtoday.net/thailand/eld ... r_112.html
ภาพประกอบจาก... http://www.fotosearch.com/bthumb/UNC/UN ... 802630.jpg

:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2011, 15:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7820

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2011, 07:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 09:11
โพสต์: 597


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณค่ะ :b8: :b8: :b8:
rolleyes rolleyes


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร