วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 06:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2010, 16:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 18:11
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


เราเคยคบกับเพื่อนร่วมงานผู้ชายคนหนึ่งเมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว เป็นนักเรียนทุนต่างประเทศ สอบได้ระดับท๊อปเท็นของประเทศไทยและระดับท๊อปของมหาลัยต่างประเทศที่ไปร่ำเรียนมา ทำให้เค้ามั่นใจในความเก่งของตัวเองมากๆ และดูถูกคนอื่นเสมอ ซึ่งตอนแรกๆเราก็รู้สึกว่าเขามีนิสัยบางอย่างที่แปลกๆไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษเท่าไหร่ แต่อีกใจก็คิดว่าเราอาจมองคนในแง่ร้ายเกินไป เลยให้โอกาสเมื่อเค้าเข้ามาจีบ

เราคบกันเป็นแฟนกันจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมาประมาณ 3 ปี ฝ่ายชายก็ได้ย้ายงานใหม่ไปอยู่ที่อื่นและเริ่มเปลี่ยนไป ไม่มีเวลาให้ ไม่มาหา เนื่องจากเค้าบอกว่างานหนักมาก แต่เขาจะคุยโทรศัพท์กับน้องที่ทำงานใหม่หรือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงดึกๆทุกคืน ให้ความช่วยเหลือดูเป็นพี่ชายที่แสนดีมาก รวมถึงแอบคุยกับแฟนเก่าหลายๆคนเป็นประจำ และจะปิดบังเพื่อนที่ทำงานใหม่ทุกคนว่าเค้ามีแฟนแล้ว เค้าจะโมโหมากทุกครั้งหากเราเอ่ยปากพูดเล่นๆว่าเราอยากไปงานเลี้ยงของเพื่อนๆที่ทำงานใหม่ด้วยกันกับเขา

ระหว่างนี้เราก็พยายามดูแลเค้าทุกอย่าง ไปหาเค้าเองเพราะเค้าบอกว่างานหนัก ซื้ออาหารเช้า อาหารเย็นไปให้
ทำความสะอาดบ้านให้ ทั้งที่อยู่บ้านเรา เราเองก็ไม่ได้ทำเองเพราะมีคนดูแลบ้านให้ ยอมอดทนทุกอย่างทั้งที่งานเราเองก็หนักเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสได้เล่าหรือระบายอะไรเลย เพราะทุกครั้งที่คุยกันเค้าจะเล่าแต่เรื่องราวความยากลำบากของเค้า และตำหนิติเตียนคนอื่น ไม่เคยสนใจฟังเรื่องของเราเลย จนเราเองปวดหัวทุกครั้งกับความเจ้าคิดเจ้าแค้น ดูถูกคนอื่นเพราะความมั่นใจในความเก่งของตัวเอง ไม่ยกเว้นแม้แต่คนในครอบครัวพี่น้อง พ่อแม่ ของเค้า แต่เนื่องจากเราเองก็ไม่ค่อยได้โกรธใคร สิ่งที่เค้าทำกับเราหลายๆครั้ง เราเลยไม่ค่อยได้เก็บมาใส่ใจมากนัก และเพราะความรักจึงหลงและอดทนและเก็บกดมาตลอด

จนช่วงหลังเราเริ่มรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบมาตลอดและเริ่มมีปากเสียง โดนเค้าทั้งด่า ทั้งไล่ โยนข้าวของเสื้อผ้าเราออกจากบ้าน ทิ้งเราไว้กลางทางต้องเดินเสียใจร้องไห้หลายกิโลเพื่อหารถกลับบ้าน โดนดูถูก โยนความผิดทุกอย่างให้ เราเลยต้องแข็งใจตัดใจบอกเลิกเค้าไป แต่ตัดกันไม่ขาดจริงๆหลังจากนั้นก็คบๆเลิกๆ กันตลอด1 ปี

เหตุการณ์แปรปรวนอีกเมื่อที่บ้านเห็นว่าเราเริ่มอายุมากขึ้นเรื่อยๆจึง อยากให้เราไปคบกับผู้ชายอีกคนที่เป็นคนดีมากอย่างจริงจัง ซึ่งเค้าชอบเรามาตั้งแต่เรายังเด็ก ช่วยเหลือเรามาตลอด ติวหนังสือจนเราสอบได้ที่หนึ่งของรุ่น ช่วยทำวิทยานิพนธ์ ทำการบ้านให้ตั้งแต่เด็กๆ เราเองก็มองเห็นว่าเค้าดี แต่ก็รักเค้าแบบพี่ชายหรือญาติสนิทเท่านั้น แต่ก็ไม่อยากให้ที่บ้านและเค้าผิดหวังจึงตกลงคบเค้าไป และโทรไปบอกลาแฟน เค้าร้องไห้และรีบติดต่อที่บ้านเค้าจะให้มาสู่ขอเรา เรางงมาก กับการกระทำเค้า และกลัวมากในตอนนั้นเนื่องจากการกระทำโหดร้ายหลายอย่างของเค้ายังฝังใจเรา เหมือนเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลบเลือน เราจึงปฏิเสธเค้าไปอีกครั้งทั้งที่ยังรักมาก

หลังจากนั้นเราก็คบกับพี่ชายคนนั้นแบบลุ่มๆดอนๆอยู่ไปวันๆ เราเองก็บอกพี่เค้าว่ารักเค้าแบบพี่ชายแบบญาติ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เค้าแค่บอกว่าได้มีเราอยู่ใกล้ๆ ดูแลเรา เค้าก็พอใจ พ่อแม่ครอบครัว เราก็พอใจเค้ามาก เพราะเค้าทำเพื่อเราทุกอย่าง เราเองก็เกรงใจพี่เค้า เกรงใจที่บ้าน แต่ทุกวันก็ยังนึกถึง คิดถึงแฟนเก่าคนนี้ตลอดไม่เคยลืม

จนผ่านไป 2 ปีก็บังเอิญไปเจอแฟนเก่าอีก เราต้องทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในบางส่วนของงานเค้า จึงทำให้ได้กลับมาติดต่อกันบ่อยขึ้น ต้องออกไปข้างนอกดูงานด้วยกันบ้าง ซึ่งตัวเค้าเองมีแฟนใหม่แล้วเป็นน้องที่ทำงานเค้า แต่ไม่ได้บอกเราและอีกครั้งก็ปิดบังเรากับเพื่อนๆของเราทุกคน จนเรามารู้เองว่าเค้ามีแฟนใหม่แล้ว ทั้งที่เราเองก็ยังรักเค้ามากอยู่และไม่เคยลืม แต่ก็แข็งใจบอกเค้าไปว่า เราควรจะห่างๆกันเพราะเราสงสารแฟนเค้าไม่อยากให้น้องเค้าเสียใจ และเค้าก็ควรจะเลิกนิสัยชอบคุยโทรศัพท์หรือหยอกผู้หญิงเพราะอาจทำให้น้องเค้าไม่สบายใจได้ และตอนนี้เราเองก็กำลังป่วยเรื้อรังอยู่ซึ่งเมื่อทุเลาแล้วก็น่าจะวางแผนสร้างครอบครัวกับพี่เค้าเลย

แต่เค้าก็ทำเรางงอีกครั้ง เค้าร้องไห้และไปบอกเลิกกับน้องที่เป็นแฟนเค้าซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าถึงไม่มีเราเค้าก็ตั้งใจจะเลิกกับน้องเค้าอยู่แล้ว แต่เค้าเองก็ไม่ได้บอกกับน้องคนนั้นว่าจะกลับมาคบแฟนเก่า

หลังจากนั้นเราก็กลับมาคบกันอีก ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายของเรา ในช่วงที่เรากำลังรักษาอาการป่วยของเราอยู่ ยาที่เราใช้นั้นจะส่งผลทำให้อารมณ์แปรปรวนอย่างหนัก เนื่องจากยาจะเข้าไปปรับการทำงานของสารเคมีในสมองและฮอร์โมน ทำให้ช่วงนั้นเราอารมณ์ร้ายมาก ขี้น้อยใจ โมโหร้าย และควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลย

ส่วนน้องคนที่เป็นแฟนที่เค้าเพิ่งเลิกไปก็พยายามง้อเค้าทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาคืนดี และส่งข้อความารบกวนเราอยู่เสมอ ทำให้เราแทบบ้า รวมทั้งผลข้างเคียงจากยาทำให้เราเครียดมาก เครียดจัด เราคิดว่าเราคงต่อว่าเค้าเรื่องที่เค้าไม่พูดความจริงและยังติดต่อกับน้องเค้าอยู่ เราคิดว่าแฟนเราคงโมโหมากและไม่เข้าใจเรื่องผลข้างเคียงของยา จึงขอเลิกกับเรา และกลับไปคบกับน้องเค้าใหม่

เราเองก็เสียใจ แต่ก็พยายามรักษาตัวเอง ไปตรวจสุขภาพ แต่กลับพบว่าอาการไม่ดีขึ้น และต้องเพิ่มตัวยาเป็น 2 เท่า หลังจากทานไปวันแรก ก็แพ้ยามาก หายใจไม่ออก ปวดหัวมาก ในขณะขับรถ และเราพบว่าเราไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มาด้วย จึงพยายามขับรถไปจอดในหมู่บ้านของแฟนเราซึ่งใกล้สถานที่นั้นมากที่สุด และโทรและส่งข้อความเข้าไปขอความช่วยเหลือ และกดกริ่งให้เค้าเปิดประตูมาช่วย ปรากฏว่าเค้าไม่ช่วย เราเลยต้องทิ้งรถไว้และกระเสือกกระสนออกมาขอความช่วยเหลือยามกับคนอื่นแทน เราทิ้งรถไว้ข้างรั้วบ้านเค้าหลายวันเนื่องจากอาการยังไม่สู้ดีนักและไม่สามารถขับรถได้

ขณะเรากำลังป่วยหนักอยู่เค้าไม่ได้สนใจอะไรนอกจาก ส่งข้อความมาสั่งให้มาเอารถกลับไปและต่อว่าเรื่องจอดรถเกะกะบ้านเค้าและเพื่อนบ้าน ซึ่งเราคิดว่าเค้าคงอาฆาตเรามากจนสามารถปล่อยให้เราตายไปต่อหน้าต่อตาได้ โดยไม่ต้องช่วยเหลือ

ตอนนี้เรายังรับยาอยู่ ถ้าไปตรวจครั้งหน้าอาการดีขึ้นอาจไม่ต้องใช้ยาอีก หรือถ้ายังแย่อยู่ก็ทำการผ่าตัดแทนการใช้ยา

เราเองเกิดมาไม่เคยเลิกคบใคร ไม่เคยทะเลาะกับใครแบบนี้ จริงๆแล้วก็ไม่ได้โกรธอะไรเค้าอีกอยู่ดี จำลำดับเหตุการณ์อะไรไม่ค่อยได้มากว่าพูดอะไรไปบ้างช่วงอารมณ์ขึ้น มันเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนช่วงทานยาตัวนี้ เลยไม่แน่ใจว่าพูดอะไรไปบ้างให้เค้าโกรธ จนใจดำกับเราได้ขนาดนี้ ซึ่งทำให้เราไม่ค่อยสบายใจเลย

เราเลยคิดว่าถ้าเราไม่ต้องทานยานี้และควบคุมตัวเองพอได้ จะโทรไปปรับความเข้าใจเพื่ออย่างน้อยก็จบลงด้วยดี หรือ เป็นคนที่ไม่ได้โกรธเกลียดกัน แต่คงไม่กลับไปเป็นแฟนแล้วเนื่องจากไม่อยากไปแย่งแฟนใคร

เพื่อนๆกัลยาณมิตรเห็นว่าเราควรไปปรับความเข้าใจกันอีกหรือพยามยามทำใจปล่อยเค้าออกไปจากชีวิต และปล่อยให้จบลงแบบเค้าโกรธแค้นเราไปตลอดแบบนี้ดีค่ะ อย่างหลังนี้จะรู้สึกคาใจและไม่สบายใจเลยค่ะ

ตอนนี้ทานอะไรไม่ค่อยได้แล้ว นอนได้แค่วันละ 2 ชั่วโมง และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรมค่ะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2010, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะ ขออนุญาตเ้ข้ามาแนะนำนะคะ อยากให้นึกถึงตัวเองก่อนคะ
รักษาตัวเองให้แข็งแรงและเข้มแข็ง เรื่องอื่นอยากให้พักไว้ก่อนดีกว่าไม๊คะ
ให้พอมีแรงแล้วค่อยมาสู้กับปัญหาต่างๆรอบตัวคุณดีกว่าคะ
ณ ตอนนี้ไม่ต้องนึกถึงใคร อะไร ทำไม รักษาจิต รักษาใจ แล้วปัญหามาปัญญาจะเกิด
แน่นอนคะ ทิ้งเรื่อง(คนอื่น) พับเก็บไว้ก่อนนะคะ รักตัวเอง สู้เพื่อตัวเองนะคะ
เอาใจช่วยคะ เข็มแข็งคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2010, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 128

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความทรมานที่เกิดจากโรคนี้ คนอื่นไม่ได้มาทรมานกับคุณด้วย
รักตัวเองให้มากๆนะค่ะ ดูแลตัวเองให้หายจากโรคนี้ในเร็ววันค่ะ

บุญรักษาค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2010, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ลำดับเหตุการณ์อะไรไม่ค่อยได้มากว่าพูดอะไรไปบ้างช่วงอารมณ์ขึ้น
มันเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนช่วงทานยาตัวนี้ เลยไม่แน่ใจว่าพูดอะไรไปบ้าง
ให้เค้าโกรธ จนใจดำกับเราได้ขนาดนี้

เมื่อก่อนคุณทำดีกับเขาทุกอย่าง
แต่เขาก็ยังใจดำและเลิกกับคุณได้บ่อยๆ
จะเลิกอีกสักครั้งก็คงไม่ต้องการเหตุผลหรอกค่ะ
รักษาสุขภาพตัวเอง...รักตัวเองดีกว่านะค่ะ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร