เอาเถอะครับคุณโฮฮับ ในเมื่อผมกับคุณเข้าใจต่างกันและคุณก็ยังพูดว่าผมพูดตามหนังสือมาไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะคนที่รู้ดีมากที่สุดคือตัวผมเองไม่ใช่คนอื่น ผมเพียงแค่วิเคราะห์ไปตามที่คุณเขียนมาและตอบให้เจ้าของกระทู้ได้หายสงสัยเท่านั้นเอง ยังไงผมก็ขอขอบคุณที่แนะนำข้อคิดบางอย่างให้ผม ผมถือว่ามีคนติดีกว่ามีคนชม(จะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิทธิของคุณ)เพราะคนที่ติเราอย่างน้อยลึก ๆก็อาจจะเป็นห่วงเราและทำให้เราได้สติด้วยครับ
นานาจิตตังครับ

ทำได้จริง..ก็สาธุเอาบุญด้วยคน..ครับ

คุณหัสพลครับ ผมเห็นว่าคุณถนัดเรื่องดูจิต ผมอยากให้คุณลองดูว่า จิตในขณะที่
จขกทเห็นปลาเทศบาลนอนแห้งใกล้ตาย คุณว่าจิตของจขกทในขณะนั้นเป็นอย่างไร
แล้วจขกทรู้ตัวมั้ยครับ เอาแค่นี้แหล่ะครับจะตอบหรือไม่ ไม่ว่ากันครับ

คุณจขกทครับ ปัญหาที่เกิดกับคุณ มันเป็นเพราะคุณไม่รู้จักการใช้หรือพิจารณาธรรมครับ
ซึ่งธรรมในที่นี้หรือเหตุการณ์นี้คือ พรหมวิหารสี่
ในพรหมวิหารสี่มันมีหลักอยู่สี่ข้อ ความมุ่งหมายของผู้บัญญัติที่บัญญัติไว้สี่ข้อ
ก็เพื่อให้เราเอาไว้พิจารณากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วนำเอาหลักข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ
มาใช้กับเหตุนั้นๆครับ

การที่คุณรู้สึกไม่สบายใจหลังจากที่ได้ช่วยปลาเทศบาลแล้ว เป็นเพราะคุณกระทำการ
โดยไม่พิจารณาธรรมในข้อพรหมวิหารให้ดีเสียก่อน
การที่มีคนมาบอกว่าคุณทำดีแล้วมันเป็นบุญเป็นกุศล ผมอยากให้คุณลองดูใจตัวเอง
ว่ามันเป็นตามที่คนอื่นบอกจริงมั้ย ถ้าจะให้ผมบอกผมฟันธงเลยครับว่า ใจคุณกำลังเป็นทุกข์
สาเหตุก็เพราะ คุณรู้อยู่แก่ใจดีว่า การกระทำของคุณมันส่งผลกระทบต่อคนอื่น

คุณจขกทครับผมขอแนะนำการใช้ พรหมวิหารสี่แก่คุณเล็กน้อยครับ
กับเหตุการณ์นี้ การที่คุณมาเจอปลากำลังจะตาย คุณควรช่วยมันในเบื้องต้น
นี้คือข้อเมตตาธรรมคือให้มันพ้นทุกข์เสียก่อน หลังจากนั้นก็นำกลับไปเลี้ยงที่บ้าน
เป็นข้อกรุณาให้คนอื่นมีสุข
ส่วนในข้อของมุทิตาคือยินดีกับผู้อื่นที่มีสุข อันนี้คือการยินดีกับคนส่วนรวม
ที่มีสุขไม่ต้องพบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ถ้าคุณไม่สามารถนำปลากลับไปเลี้ยงที่บ้านได้ ก็อย่าได้โยนปลาลงไป
ในคลองเป็นอันขาด คุณต้องยึดหลักของ อุเบกขา คือทำใจให้เป็นกลาง เพราะสิ่งที่เราพบ
มันไม่ได้เกิดจากการกระทำของเรา

ถ้าจะพูดถึงเรื่องกรรม วิบาก บาปบุญคุณโทษ เขาดูกันที่ผลครับไม่ได้ดูที่เหตุ
การที่คุณช่วยปลาลงคลองมันเป็นแค่เหตุ ส่วนผลก็คือมันไปทำลายระบบนิเวศน์
ที่ผมกล่าวแบบนี้ก็เพราะ คุณรู้อยู่เต็มอกก่อนแล้วว่า
ปลาพวกนี้มันไปทำลายระบบนิเวศน์ ถ้าคุณไม่รู้มันก็เป็นอีกเรื่องครับ

ปัญหาของคุณมันเกิดจากการไปฟังการพูดการคุยของคนที่ไม่มีความรู้
ประเภทพยายามพูดจาให้ดูดีไพเราะอ่อนหวาน แต่เนื้อหาสาระมันเป็นโทษต่อผู้ฟัง
ยิ่งถ้าใครขาดการพิจารณายิ่งไปกันใหญ่ มันเกิดผลกระทบกับคนอื่นไปทั่ว

ข้อนี้เอาแค่นี้แหล่ะ ฟังแล้วคิด พิจารณาแล้วค่อยทำ