mail มาได้ที่ chinaf1111@gmail.com

จะเอาเฉพาะผู้มีความรู้ระดับอริยะบุคคลเท่านั้นหรือครับ อาจหายากหน่อยนาครับ
ระดับกัลยาณชน เตรียมชาวพุทธ ชาวพุทธ หรือ รองอริยะ ก็คงพอได้บ้างกระมังครับ คุณติ๊ก1111

หวังสูงไปหรือเปล่า

อริยบุคคล ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป
ไม่น่าจะเกี่ยวกับ ความรู้ ความไม่รู้นะครับ

ที่พูดอย่างนี้อย่าได้เข้าใจผิด เราเพียงแค่ต้องการแก่นไม้ จึงหาผู้ที่รู้ว่านี่คือแก่นไม้ นี่ไม่ใช่แก่นไม้ เพื่อจะได้ถามสิ่งต่างๆที่เรายังไม่เข้าใจ แล้วทำไมต้องเป็นคนที่มีความรู้ในระดับอริยบุคคล ก็เพราะว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้อยู่ในตม จะดึงผู้อื่นให้หลุดออกจากตม ทั้งนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบนะครับ

(-__- ') แล้วท่านจะแยกของจริงกับของปลอมยังไงครับเนี่ย??

สวัสดีค่ะ คุณติ๊ก1111
ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคุณเท่าไรนะ ที่ต้องการจะสนทนาธรรมกับ "อริยบุคคล" เพราะคนที่เป็นถึง "อริยบุคคล" จริง ๆ เขาไม่บอกคุณหรอก เพราะเข้าข่าย "อวดอ้างตน" มิใช่วิสัยของผู้ "ปฏิบัติธรรม" เป็น "ปัจจัตตัง" รู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น
แต่การ ศึกษาธรรม และปฏิบัติธรรม จำเป็นต้องมี ครูบาอาจารย์ แนะนำแนวทาง โดยเฉพาะการ
"เจริญวิปัสสนา" หรือ "เจริญสมถกรรมฐาน" ดังนั้นผู้มีปัญญาจะรู้วิธีการเข้าถึง ครูบาอาจารย์ ที่จะนำพาตนเองข้ามพ้น "สังสารวัฎ" ได้

ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ถ้าคุณต้องการ เข้าถึงครูบาอาจารย์ เพื่อศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรม เราจะแนะนำให้คุณเข้าไปที่ www.kanlayanatam.com เข้าไปที่ห้องสนทนาธรรม
ของท่าน ศาสตราจารย์ Dr.สนอง วรอุไร ท่านจะตอบปัญหาให้กับผู้ที่ศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรม
เราไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่า ภูมิธรรม ของท่านเป็นอริยบุคคล หรือไม่ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมไม่ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น แต่ท่านสามารถแนะนำ ให้คุณถึง มรรค ผล นิพพานได้ ถ้าคุณมีสัจจะ บารมีและความเพียรเป็นแรงสนับสนุนมากพอ...

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม

ช่ายแล้ว..สัญญาความจำได้..ใครอ่าน..ใครก็รู้



ยิ่งอยู่กันสอง..ต่อ..สอง..ปลอมง่ายดี



ครูบาอาจารย์..ที่ปฏิบัติดี..ปฏิบัติชอบ..ก็มีอยู่เยอะ..ไม่น่าจะมั่วมาเดา..สุ่มหา..เสี่ยงโชคเอาเลย..หรือว่าจริง ๆ แล้ว..ท่านไม่ต้องการหา..แต่ต้องการแสดง..อันนี้ยิ่งดีใหญ่เลย..แสดงที่นี้เลยครับ..คนดูเยอะดี..มีอานิสงค์มาก


ความจริงในนี้ก็มีอยู่เยอะ..แต่มีนิสัยไม่วุ่นวายกับอะไร..กับใคร ๆ ..เห้นแต่กิจที่ตนควรทำ..ควรละ..

แต่ที่ชอบวุ่นวายกับคนอื่นก็เห็นแต่เป็นคนอย่างกระผมนี้แหละ.. ..นี้ก็มีเยอะ..แต่ดูท่าคุณ ติ๊ก 1111..ไม่อยากคบเท่าไรนิ..

สาธุ..คุณปลีกวิเวก..ครับ
แต่ขอเสริมนิดครับ..

ผมคิดนะ..ที่อริยะบุคคล..เขาไม่บอก..(อาจจะ)ไม่ได้กลัวใครเขาว่า..แต่(อาจจะ)ไม่รู้จะบอกไปทำไม..ก็ลาภ..ยศ..สรรเสริฐ..คำชม..ความนิยมชมชอบเขาไม่ได้ต้องการแล้ว...บอกไม่บอกก็มีค่าเท่ากัน..ยกเว้นการบอกนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ฟัง..


สาธุ.. ..ไม่ว่าท่านจะมีจริตแบบไหน..การมีอาจารย์จะปลอดภัยกว่า..ครับ..

สวัสดีคะ แค่มาทักทาย

ปัญญาอันน้อยนิดนี้ มิบังอาจสนทนาธรรมด้วยคะ

แต่ขอแนะนำท่านนึงนะคะ ท่านผู้นี้มีวาจาว่า

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา



ยึดที่ธรรม อย่ายึดที่บุคคลคะ

ผมขอแนะนำครับว่าถ้าคุณติ๊ก1111สงสัยธรรมในข้อใดก็กรุณาตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ไว้ก็ได้นี่ครับ เพราะลานธรรมจักรนี้มีทั้งผู้รุ้และไม่รู้ การที่คุณถามนั้นไม่เฉพาะคุณคนเดียวที่ได้ตำตอบ แต่ท่านอื่นที่ไม่รู้ก็จะได้คำตอบไปด้วย เท่ากับว่าได้สร้างปัญญาบารมีกันด้วยครับ ส่วนคำตอบของท่านใดที่ร่วมแสดงเข้ามาคุณติ๊ก็พิจารณาดูก็แล้วกันนะครับเพราะของแบบนี้มันเป็นเฉพาะบุคคลครับ บางทีเรารู้แบบนี้ แต่ท่านอื่นรู้อีกแบบนึง อย่างน้อยก็จะได้หลายมุมมองครับ การฟังธรรมทุกครั้งต้องอย่าเพิ่งปักใจเชื่อในครั้งแรก แต่ต้องพิจารณาไปตามหลักธรรม ก่อนจะรู้และเข้าใจในธรรมต้องเกิดความสงสัยก่อนครับเพราะความสงสัยนี่แหละจะทำให้เราได้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนครับ ในกาลมสูตรพระพุทธเจ้าก็ทรงยังไม่ให้เชื่อในธรรมของพระองค์ท่านจนกว่าจะรู้ได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ผู้รู้ได้เฉพาะตน (รู้ในที่นี้หมายถึงรู้แจ้งในธรรมครับ)

” ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และบัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นพระศาสดาของพวกท่าน สืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว”

สวัสดีครับคุณติ๊ก1111

คุณติ๊กต้องลองกลับไปค้นหามาอ่านเรื่องของท่านโพธิละเถระ ภิกษุคัมภีร์เปล่า ซึ่งสมัยเป็นภิกษูปุถุชน ท่านมีปัญญาดี จดจำพระไตรปิฎกไดอย่างแม่นยำ สั่งสอนลูกศิษย์ให้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ได้ตั้งมากมาย

อาจารย์ขี้เหล้า ขี้ยาในโรงเรียน มหาวิทยาลัย สั่งสอนลูกศิษย์ที่เชื่อถ้อย ฟังคำ เป็นคนดี เป็นใหญ่เป็นโตก็มีเยอะนะครับ

ต้องเอาธรรมเป็นใหญ่ อย่ายึดบุคคลเป็นหลัก ดังที่กัลยาณมิตรหลายท่านบอกไว้ ปฏิบัติไปก็จะรู้ไป พบกัลยาณมิตรที่ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อการประพฤติปฏิบัติของคุณถึงที่ ถึงเวลาที่จะต้องได้พบ มหากัลยาณมิตร คืออริยบุคคลทั้งหลาย เทวดาจะดลจิตดลใจให้คุณได้พบเองครับ

คำสอนหลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง
โดยธีรรัฐ เชี่ยวสกุลณ วันที่ 1 ตุลาคม 2010 เวลา 15:04 น.

ผู้บรรลุธรรมนั้น

คล้ายกับว่า เรามองเห็นงูเห่าที่มันเลื้อยไป เราก็รู้ว่างูนั้นเป็นอสรพิษ ถ้ามันกัดใครมันก็จะถึงตายหรือเจียนตาย อันนี้เรียกว่าเรารู้ในงูเห่าตามความเป็นจริง แล้วก็ไม่กล้าไปจับงูนั้น ใครจะบอกอย่างไรก็ไม่กล้าจับ คือเราบรรลุถึงพิษของมัน ความชั่วทั้ง หลายก็เหมือนกัน ถ้าเราเห็นโทษของมันก็ไม่อยากทำ ขอให้เรา ปฏิบัติไปพิจารณาไป มันก็จะเลิกจะถอนของมันเอง เมื่อมันบรรลุถึง ธรรมะเมื่อไรมันก็จะรู้จักธรรมะ เมื่อรู้จักธรรมะมันก็จะเป็นธรรมะขึ้นมา