วันเวลาปัจจุบัน 21 พ.ค. 2025, 18:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 13:16
โพสต์: 279

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เยเกจิ โสกา ปริเทวิตา วา ทุกฺขา จ โลกสฺมึ อเนกรูปา
ปิยํ ปฏิจฺจ ภวนฺติ เอเต ปิเย อสนฺเต น ภวนฺติ เอเต
ความเศร้าโศก ความร่ำไรรำพัน และความ
ทุกข์มากมายที่มีอยู่ในโลกนี้
สิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยสิ่งอันเป็นที่รัก
เมื่อสิ่งอันเป็นที่รักไม่มีอยู่ ความเศร้าโศกเป็นต้นเหล่านั้นก็ย่อมไม่มี
(ขุ.อุ. ๒๕/๗๘ วิสาขาสูตร)


แก้ไขล่าสุดโดย ชีวิตนี้น้อยนัก เมื่อ 04 ต.ค. 2010, 12:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2010, 13:07
โพสต์: 4

แนวปฏิบัติ: ไหว้พระก่อนนอน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: โลกมหัศจรรย์ของเบลล์
ชื่อเล่น: Bamby
อายุ: 11
ที่อยู่: จ.เชียงใหม่

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอขอบคุณ คุณ ชีวิตนี้น้อยนัก ที่ให้ความรู้กับกัลยาณมิตรทั้งหลาย
:b8: อนุโมทนา :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus429.jpg
Lotus429.jpg [ 3.59 KiB | เปิดดู 3303 ครั้ง ]
จงทำความดีเพราะมันเป็นสิ่งที่ดี

ปัจจุบันนี้คนในสังคมมากมายมักจะพูดกันจนเกือบจะติดปากว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” ซึ่งทำให้วัยรุ่นปัจจุบันไม่ค่อยยึดมั่นในการทำความดี การที่คนเรามักมองว่าการทำความดีผลตอบแทนแห่งความดีต้องมากจากการที่ได้รับคำชมจากคนรอบข้างนั้นบางครั้งทำให้วัยรุ่นหลายๆคนเกิดความท้อแท้และผิดหวังจากการทำความดี เราควรจะปรับปรุงตัวเองอย่างไรจึงจะถูกต้อง คุณอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดผู้เขียนก็ได้ ขอแต่เพียงคิดว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งในความเห็นที่แตกต่างกัน เพื่อจะได้ปรับปรุงความคิดเสียใหม่ ซึ่งย่อมจะเป็นผลดีกับชีวิตและงานทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อความเข้าใจจะขอยกกรณีศึกษาของคนๆ หนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง

กรณีศึกษานี้มีอยู่ว่า

เธอผู้นี้เป็นสุภาพสตรีเพิ่งจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เธอเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว มีอายุห่างจากพวกพี่ ๆ หลายปี แน่นอนว่าทั้ง พ่อ-แม่ และพี่ ๆ ต่างก็รักและเอ็นดูพร้อมทั้งตามใจเธอ ดูเหมือนอะไร ๆ จะเป็นไปตามความต้องการของเธอเสียเป็นส่วนใหญ่ เธอก็มีความสุขและความอบอุ่นกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่แบบนั้นดีอยู่หรอก ชีวิตในครอบครัวจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

แต่เธอก็ยังอุตส่าห์คิดให้มีปัญหาจนได้ คือ เธอเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมและเล่นกีฬา แถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก ความประพฤติดี จนเคยได้รับคัดเลือกเป็นนักศึกษาดีเด่น เพราะเธอทำอะไรก็จะมุ่งมั่นตั้งอกตั้งใจอยากจะทำให้ดีที่สุด นั่นเป็นนิสัยของเธอตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นต้นมา เพราะเธออยากให้พ่อ-แม่ พี่น้องของเธอพึงพอใจ โดยเธอก็ไม่เคยคิดอะไรมาก่อนเลย ก็ยังคงเป็นคนดี เรียนดี มีกิจกรรมในมหาวิทยาลัยหลายอย่าง จึงมีความสุขและพอใจกับชีวิตนักเรียน-นักศึกษาของเธอตลอดมา ตราบจนสำเร็จตลอดมา

ปัญหาของเธอก็คือ เมื่อเธอเริ่มเป็นวัยรุ่น อายุ 16-17 ปี เธอเริ่มรู้สึกน้อยใจว่า เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นเด็กดี รักการเรียนได้ผลการศึกษาดีมาตลอด ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มอกเต็มใจ ไม่เคยเลยที่จะมีความประพฤติที่ทำให้พ่อ-แม่ต้องเสียใจ หรือเสียความรู้สึกกับเธอ

แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้รับคำชมเชยหรือความปราบปลื้มของพ่อ-แม่ จากการเรียนและความประพฤติของเธอเลย เพราะท่านดูเฉย ๆ ในขณะที่เพื่อน ๆ ของเธอ ไม่ได้มีการศึกษาดีไปกว่าเธอเลย แถมไม่สนใจกิจกรรมอีกต่างหาก ได้แต่แต่งตัวเกินวัยและเกินฐานะความเป็นนักศึกษา ออกเที่ยวเตร่กลับบ้านผิดเวลา ใช้เงินเปลืองอย่างไม่มีแก่นสาร ถึงขนาดนั้นพ่อ-แม่ของพวกเขาก็ยังพอใจ และชื่นชมว่าลูกเป็นเด็กดีและรักเรียนไม่สร้างปัญหาให้พ่อ-แม่ต้องยุ่งยากใจ
เธอจึงคิดน้อยใจอยู่ลึก ๆ ว่า ทำไมนะพ่อ-แม่จึงไม่ชื่นชมหรือพูดชมให้เธอชื่นใจและภูมิใจกับทุกสิ่งที่เธอตั้งใจทำ เพราะที่เธอทำล้วนเพื่อให้เป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อ-แม่ ทำไมไม่เหมือนพ่อ-แม่ของเพื่อน ๆ เลยเล่า ทั้ง ๆ ที่ลูก ๆ ของพวกเขาไม่ได้เก่ง และเป็นเด็กดีอย่างเธอสักหน่อย พ่อ-แม่ยังเป็นปลื้มกับลูกของเขา ทั้งชมเชยทั้งตบรางวัลอีกต่างหาก
สภาพเช่นนี้เคยคิดท้อแท้ว่าไม่รู้จะทำดี เรียนดี เพื่ออะไรกัน พ่อแม่ไม่เห็นชื่นชมสักนิดหรือว่าเธอจะต้องทำตัวเป็นวัยรุ่นเที่ยวเธค ใช้เงินเปลือง ฟุ่มเฟือย ไปโน่นมานี้ เรียนขาดๆเกินๆ ได้ผลการศึกษาแทบจะเอาไม่รอดบางทีพ่อแม่อาจจะหันมาให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญเธอบ้างกระมัง
ยิ่งกว่านั้นความรู้สึกน้อยใจทำให้เธอรู้สึกไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย เพราะเธอคิดว่าการที่พ่อ-แม่ไม่ได้แสดงความชื่นชมเธอนั้น เธอน่าจะมีปมด้อยอะไรในตัวเองกระมังท่านจึงแสดงเช่นนั้นกับเธอ

จงตั้งความคิดเสียใหม่ให้ถูกต้อง

คนเราควรตั้งความคิดให้ถูกต้องอย่างเป็นเหตุเป็นผล อย่าเพียงแต่เอาความคิดหรือความรู้สึกของตนเองมาตัดสินในเรื่องต่าง ๆ เพราะอาจจะใช้อารมณ์ของตนเองป็นบรรทัดฐานซึ่งอาจจะขาดเหตุผลอันสมควรก็ได้และการคิดเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและงานได้ในอนาคต

จึงควรจะลองตั้งความคิดในแง่มุมต่าง ๆ ดังนี้

คนเรานั้นควรจะทำความดีด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะมันเป็นความดีที่พึงกระทำและเมื่อทำแล้วย่อมจะส่งผลดีต่อตนเองอีกด้วย เช่น ถ้าเป็นนักเรียน-นักศึกษา การตั้งใจและเอาใจใส่ในการเรียน ได้ผลการศึกษาดีหรือดีเยี่ยม ย่อมเป็นเกียติประวัติของตนเองตลอดไป เป็นความภาคภูมิใจและมีความมั่นใจในความมานะพยายาม และสติปัญญาของตนเอง

หรือการประพฤติปฏิบัติตัวเป็นนักเรียน-นักศึกษา หรือเป็นลูกที่ดีของพ่อ-แม่ ใช้จ่ายอย่างประหยัดตามสภาพนักเรียน-นักศึกษาไม่เที่ยวเตร่ไร้สาระ ซึ่งไม่ควรเป็นสิ่งประพฤติปฏิบัติ สำหรับนักเรียนนักศึกษา

การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเป็นคนมีระเบียบวินัยในการควบคุมตนเองเป็นอย่างดีๆไม่ออกนอกลู่นอกทางในวัยที่ยังไม่สมควร ยังไม่มีรายได้ของตนเอง เมื่อเติมโตเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นคนทำงาน ก็จะเป็นผู้ใหญ่หรือคนทำงานที่ดี มีความรับผิดชอบในชีวิตและงานย่อมจะพบความสุขและความสำเร็จ

การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย จะมีประโยชน์ต่อชีวิตในภายภาคหน้า เพราะจะสอนให้คุณปรับตัวเองยอมรับคนอื่นได้ง่ายขึ้น ทำให้คุณมีมนุษย์สัมพันธ์ดีขึ้น เพราะต้องทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่น ทำให้คุณมีความรับผิดชอบกับภาระหน้าที่ที่ทีมงานมอบหมาย

เพราะฉะนั้นแทนที่จะเบื่อหน่ายท้อแท้กับการทำความดีที่ผ่านมา จงเลิกความคิดแบบนั้นเสียเถิด และคิดใหม่ว่าสิ่งดี ๆ ที่คุณทำล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองในแง่ของการสร้างทักษะที่ดี ๆ ให้กับชีวิตและการงานในอนาคตของคุณ ให้ประสบความสุขและความสำเร็จดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ฝึกทักษะเช่นนั้นมาก่อน
จงรู้จักชื่นชมตัวเอง เพราะจะทำให้คุณองอาจเชื่อมั่นในตัวเองและสะท้อนออกมาเป็นความสุข คนเราเมื่อทำในสิ่งที่ดีงาม ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจกับสิ่งที่ตนเองทำอยู่แล้ว และภาคภูมิใจในตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคำชื่นชมจากผู้อื่น และถ้าบุคคลที่คาดหวังว่าจะชื่นชมคุณ เกิดไม่แสดงออกถึงความสามารถ หรือความดีของคุณที่ทำไปนั้นด้วยคำพูดชมเชย หรือด้วยกิริยาอาการชื่นชมยินดี คุณก็เลยคิดว่าพวกเขาไม่เห็นคุณค่าของคุณ คุณจึงน้อยใจจนไม่อยากจะทำอะไรดี ๆ ต่อไปอีก ความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้องและไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเลย ความจริงคนอื่นหรือคุณพ่อคุณแม่ก็คงจะชื่นชมดีใจที่คุณเป็นคนเก่ง เป็นคนดี เพียงแต่ไม่ได้พูดหรือแสดงอาการให้คุณได้รู้ได้เห็นเท่านั้นเอง คนเราอาจจะมีวิธีแสดงออกถึงความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันก็ได้

บางทีการเป็นลูกคนสุดท้องของคุณทำให้คุณได้รับการตามใจจากทุก ๆ คน จนติดเป็นนิสัยว่าอะไร ๆ ก็ควรเป็นไปดังใจคุณเสมอ ไม่มีใครอยากขัดใจคุณ แต่จงตระหนักว่าสักวันหนึ่งเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่ ต้องไปทำงานร่วมกับผู้คนมากหน้าหลายตา จะไม่มีใครตามใจหรือเอาใจคุณเหมือนกับที่คุณเคยได้รับเมื่ออยู่ในครอบครัวอีกต่อไป
ยิ่งกว่านั้น สักวันหนึ่งเมื่อคุณต้องแต่งงานมีครอบครัว สามีของคุณก็คงไม่ยอมตามใจคุณทุกอย่างเหมือนที่คุณเคยได้รับมาจนเคยตัว

ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนิสัยและความคิดในเรื่องนี้เสียใหม่ เพราะตอนนี้คุณไม่ใช่เด็ก ๆ อีกต่อไป แต่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กำลังจะเป็นคนทำงาน ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ใคร ๆ ก็จะต้องพะเน้าพะนอตามใจคุณไปเสียทุกอย่าง

ถ้าหากคุณไม่ปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ คุณก็จะไร้ความสุข ผิดหวังกับผู้คนรอบข้าง เบื่อหน่ายผู้คนที่ไม่เป็นไปอย่างใจคุณในรายละเอียด คงจะผูกสัมพันธ์กับใคร ๆ ได้ยาก เพราะคุณตั้งข้อจำกัดไว้มากมาย

ขอได้โปรดตระหนักไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า โลกนอกบ้านหรือในที่ทำงานและสังคมใหม่ นอกบ้านและนอกรั้วมหาวิทยาลัยจะไม่มีวันเหมือนกันเลย โลกใหม่ของคุณจะต้องพบผู้คนมากมายที่ล้วนแต่มีความแตกต่างกันในโลกของงาน ในการประกอบอาชีพ เป็นโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในความสามารถ ความทรหดอดทน การรู้จักผูกมิตรกับผู้อื่น

ถ้าขาดคุณสมบัติเหล่านี้เสียแล้วก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ควรจะต้องรู้จักชื่นชมตนเอง และจะต้องรู้จักชื่นชมคนอื่นบ้าง อย่าเอาตัวเองเป็นความถูกต้องเสียทุกอย่าง คนเราทุกคนมีสิ่งดีๆ และสิ่งบกพร่องในตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคุณขืนมีข้อจำกัดอะไรมากมายละก็ คงจะหาคนที่ได้อย่างใจไม่ได้เลย หรือหาได้ยากมาก คนเราจะทำงานใหญ่ก็ต้องมีคนรักใคร่ ศรัทธาอยากร่วมงานด้วย คนเดียวน่ะ ถึงแม้จะเก่งแค่ไหน ก็คงไม่สามารถไปได้ไกลในชีวิต

คนที่จะได้รับความใครศรัทธาจากผู้คนรอบข้าง จึงมักจะต้องเป็นคนที่มีใจคอกว้างขวาง ยอมรับผู้อื่นได้เสมอโดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก


ความดีก็เป็นความดีอยู่วันยังค่ำไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ แต่ผู้ปฏิบัติย่อมรู้แก่ใจตนเอง เพราะฉะนั้นจงมุ่งมั่นทำความดีเพราะมันเป็นสิ่งที่ดีกับตัวของคุณและสังคมเถิด แล้วคุณจะประสบความสุข ความสำเร็จในชีวิตอนาคตอย่างแน่นอน


การทำความดี คือ กำไรของชีวิต

เพราะว่าความดี เท่านั้นเป็นสิ่งที่เพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิต

ทำชีวิตให้มีความสุข ความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

หากปราศจากการทำความดีแล้ว

ชีวิตที่แสนสั้นในโลกใบนี้ ก็ยิ่งจะหมดค่าลงไปทุกทีๆ

เพราะฉะนั้นเราจึงควรรีบทำความดีทุกๆ วัน

เพื่อแข่งกับเวลาที่มันกลืนเอาชีวิตของเราไปทุกขณะจิต

** และสุดท้าย จงจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ........ **

By: รศ. นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์

ที่มา :: จงทำความดีเพราะเป็นสิ่งที่ดี

กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ tongue tongue tongue

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


แก้ไขล่าสุดโดย ฟ้าใสใส เมื่อ 04 ต.ค. 2010, 17:37, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร