34678.รางวัลแด่ "ชู้"

ทักทาย

เมื่อครั้งพุทธกาล นางอิสิ ลูกสาวมหาเศรษฐีแห่งกรุงอุชเชนี เป็นหญิงสาวที่สวยมาก
จึงมีลูกชายเศรษฐี ฐานะเท่าเทียมกันมาสู่ขอ แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน สามีก็ไล่ออกจากบ้าน ทั้งๆที่ทำหน้าที่
ภรรยาที่ดี ปรนนิบัติรับใช้สามีดุจนางทาส (จึงเรียกชื่อว่า อิสิทาสี)

ต่อมา ก็มีชายหนุ่มฐานะด้อยกว่ามาสู่ขอไปเป็นภรรยาอีก แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ชายนั้นก็ขับไล่นางออกจาก
บ้านอย่างไม่มีเหตุผลอีกเช่นกัน ทั้งๆที่นางทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมบูรณ์แบบเสมอมา

ครั้นแล้วก็มีขอทานผ่านมา แต่เป็นขอทานที่มีสำรวม กาย วาจา ใจ ชักชวนผู้อื่นประพฤติธรรม เศรษฐีจึงเสนอ
นางอิสิทาสีให้เป็นภรรยา โดยให้อยู่กินที่บ้านเศรษฐีนั้นเอง แต่ไม่นานชายขอทานก็ขอออกจากบ้าน เพื่อ
เลิกกันนาง ทั้งที่นางไม่เคยดูถูกเหยียดหยาม ซ้ำยังทำหน้าที่ภรรยาได้สมบูรณ์แบบอีกด้วย

นางอิสิทาสีแบกความทุกข์หนักไว้ จนมีโอกาสสดับธรรมจากพระแม่ชินทัตตาเถรี สาวิกาของพระพุทธองค์
แล้วเกิดศรัทธาขอบวชเป็นภิกษุณี เพียง ๗ วันที่ได้บวช นางก็บรรลุอรหันผล ระลึกชาติย้อนหลังไปได้
๗ ชาติ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ชาติที่ ๑.อิสิทาสีภิกษุณี เกิดเป็นช่างทอง มีทรัพย์มาก มัวเมาในกาม เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

ชาติที่ ๒.เมื่อตายลง ได้ตกนรกหมกไหม้ในนรก เป็นเวลาช้านาน

ชาติที่ ๓.ครั้งออกจากนรกแล้วก็ไปเกิดในท้องวานร เมื่อเป็นลูกวานรอายุได้ ๗ วัน ก็ถูกวานรจ่าฝูง
กัดอวัยวะเพศขาด จึงตายเพราะโรคเน่า ฟอนเฟะแห่งอวัยวะสืบพันธุ์นั้น ซึ่งเป็นผลแห่งกรรมที่เป็นชู้
กับภรรยาผู้อื่น

ชาติที่ ๔.เกิดเป็นลูกแพตาบอดและเป็นง่อย เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ถูกเด็กขี่หลังแล้วเดินโซเซไปกระแทก
ไม้มีคม เกิดเป็นโรคหนอนชอนไช ที่อวัยวะเพศ นี่เป็นกรรมทีทำชู้กับภรรยาผู้อื่น

มีต่อ

ทักทาย

ชาติที่ ๕.ถือกำเนิดในท้องแม่โค พออายุได้ ๑๒ เดือน ก็ถูกตอน และถูกใช้
ลากไถเกวียน จนป่วยเป็นโรคตาบอดตาย นี่ก็เป็นผลกรรมที่ทำชู้กับภรรยาผู้อื่น

ชาติที่ ๖.ไปเกิดในท้องนางทาสีริมถนน ด้วยร่างกายและจิตใจที่วิปริตผิดแปลกจากคนทั่วไป จะว่าชาย
ก็ไม่ใช่ หญิงก็ไม่เชิง มีรูปร่างไม่สมส่วนจะเป็นชายหรือเป็นหญิง พออายุได้ ๓๐ ปี ก็ตาย นี่เป็นผลกรรม
แห่งการทำชู้กับภรรยาผู้อื่น

ชาติที่ ๗.เกิดเป็นลูกสาวช่างทำเกวียน ผู้ตกทุกข์ได้ยาก มีหนี้สินสะสมรุงรัง เมื่อบิดาไม่มีเงินใช้หนี้
นายกองเกวียน เขาก็ฉุดนางในวัย ๑๖ ปีมาอยู่ด้วย เมื่อบุตรนายกองเกวียนชื่อ คิริทาส เห็นนางเข้าก็เกิด
หลงรัก ขอไปเป็นภรรยา แต่นายคิริทาสมีภรรยาอยู่แล้วคนหนึ่ง เธอเป็นคนมีศิล มียศ มีคุณ จงรักภักดี
ต่อสามี อิสิทาสีในชาตินั้น ได้ทำให้สามีเกลียดนาง ดังนั้นข้อที่สามีทั้งหลายในชาติปัจจุบันของนาง
พากันเลิกร้างกับนาง ทั้งที่นางปรนนิบัติประดุจทาส ก็เป็นเพราะผลของกรรมนี้

จะเห็นว่า ผลกรรมแห่งการผิดศิลธรรมนั้นเผ็ดร้อนมาก แต่คนเรามักจะลืม
เพราะการเดินทางข้ามภพ ข้ามชาติเป็นเวลานาน บทความนี้นำเสนอเฉพาะส่วนที่เป็นอกุศลกรรม
ของนาง (ในส่วนของกุศลกรรมนั้น นางก็ทำมาเยอะจึงได้บรรลุดวงตาเห็นธรรมในชาติสุดท้าย)

โปรดสังเกตุว่า นี่คือบุคคลที่มีบุญบารมีมาก จนได้มาบรรลุธรรมในขณะที่
พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ บุคคลเหล่านั้นยังโดนหนักขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นคนที่ไม่เคยสร้าง
บุญบารมีเลย จะโดนหนักกว่านี้กี่เท่า

เหตุที่เอาเรื่องอิสิทาสีมาเผยแพร่ เพราะคนปัจจุบันไม่ค่อยเกรงกลัว และละอาย
ต่อบาปกันเลย พากันเห็นการผิดศิล ข้อกาเมฯ เป็นเรื่องเท่ ทันสมัย น่าชื่นชม เห็นข้อศิลธรรมเป็นเรื่องตลก
อ่อนแอต่อกิเลสเครื่องยั่วยุ

แถมถ้าเจอใครรักเดียวใจเดียว ไม่มีชู้ ไม่มีเมียน้อย คือเป็นคนประพฤติดี มีศิลธรรม กลับมองว่าเป็นคน
ไม่เอาไหน น่าเยาะเย้ยเหยียดหยามเสียนี่กระไร

คัดลอกมาจากหนังสือพิมพ์ MT ตีพิมพ์เผยแพร่ที่นครลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ค.ศ.๒๐๑๐ อ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์บ้าง จึงนำมาแบ่งปันให้อ่านเพื่อ
เป็นข้อเตือนใจในการรักษาศิล....อ่านแล้วโปรดพิจารณา :b8:

กรัชกาย

ชู้ทางใจ-

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... 9&gblog=46

ทักทาย

กรัชกาย เขียน:

ชู้ทางใจ-

เป็นแค่ชู้ทางใจ...ก็ใช่ว่าจะพ้นผิด
โดนเหมือนกันแหละ... :b34:

เพราะฉะนั้นใครคิดจะมี
หรือกำลังมี ก็ ลด ละ เลิก และ ลา เสียเถอะค่ะ


ทั่วไป เว็บธรรมจักร

34678.รางวัลแด่ "ชู้"

ผู้ใช้งานขณะนี้