วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้ที่ตั้งใจดูแลพ่อแม่ตลอดไปครับ :b8:

ลูกที่สามารถชักนำพ่อแม่ให้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เป็นผู้มีศีล มีศรัทธา มีจิตน้อมไปในการศึกษาและปฏิบัติธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ดีแล้ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สามารถตอบแทนคุณพ่อแม่ได้อย่างแท้จริง ...

จากพระไตรปิฏก เล่ม ๒๐ ปฐมปัณณาสก์

[๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่
ท่านทั้ง ๒ ท่านทั้ง ๒ คือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตร
พึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง
เขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้ง ๒ นั้นด้วยการอบกลิ่น
การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด และท่านทั้ง ๒ นั้น พึงถ่ายอุจจาระ
ปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนั้น
ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์ ในแผ่นดิน
ใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอัน
บุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย


ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ
มารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย ส่วนบุตร
คนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา ยังมารดา
บิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้
สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นใน
ปัญญาสัมปทา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
การกระทำอย่างนั้น ย่อมชื่อว่าอันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา ฯ..

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 04 ก.ย. 2010, 19:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2010, 03:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Nothing เขียน:
เวลาพ่อนอน ปกติจะมีเสียงกรน
พอไม่มี ผมก็เอามือไปแตะตรงจมูกดู กลัวมากๆ


ผมกำลังสงสัยว่าพ่อคุณอาจจะเป้นโรคที่ชื่อว่า โรคภาวะหบุดหายใจขณะหลับ
ซึ่งเป็นโรคอันตรายมาก

ให้ลองสังเกตุเวลาพ่อหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่
ถ้าใช่ ต้องรีบรักษานะครับ ไม่งั้นสมองจะขาดออกซิเจน ร่างกายไม่ได้พักผ่อน ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมลงทุกวัน และเชื่อกันว่าโรคนี้เป้นสาเหตุของโรคอีกหลายโรคเลย

เวลาพ่อหยุดกรน เสียงกรนหายไป ขอให้ไปสังเกตุใกล้ๆดุว่าท่านหายใจอยู่หรือไม่
ถ้าหยุดหายใจ ก็ลองดุต่อไปว่า สักครู่ พ่อจะเริ่มดิ้นรนที่จะหายใจ ก้จะเฮือกขึ้นมา เป้นเสียงกรน
เป็นวัฏจักรตลอดคืน


โรคนี้คนเป็นกันมากจริงๆ แต่ไม่รู้ตัว
แม่ผมก็เป็น และตอนนี้กำลังรักษาอยู่

โชคดีที่ผมได้มีโอกาสอยู่ใกล้เวลาแม่หลับ จึงได้จับสังเกตุได้


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 05 ก.ย. 2010, 03:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2010, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2007, 14:38
โพสต์: 28

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ อย่างไรเสียก็เป็นพ่อแม่ คงได้แต่ทำใจ

.....................................................
โทษคนอื่นแก้ไขไม่ได้ โทษตนเองแก้ไขได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 06:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 16:27
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลองฝึกสมาธิดูสิครับ น่าจะช่วยได้
เป็นกำลังใจให้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2010, 15:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2010, 13:31
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: :b48: ผมมีเหตุการณ์คล้ายคุณแต่ของผมหนักกว่าเยอะ มันซับซ้อนจนยากจะเล่าให้ฟังหมด ผมเคยคิดว่าถ้าทำอะไรให้แม่หยุดได้ก็จะทำทุกวิถีทาง ลูกๆทุกคนในครอบครัวต่างได้รับผลมาจากการกระทำของแม่จนทุกวันนี้ก็ยังมีเรื่องให้กลุ้มอยู่ แต่สำหรับตัวผมนะได้ถอนออกมาห่างๆแล้วแต่เป็นน้องสาวและพี่สาวที่ยังต้องสัมผัสสัมพันธ์กับแม่อยู่
มไปปฏิบัติธรรมมา๗วัน เกิดความรู้ชนิดหนึ่งขึ้นถึงกับน้ำตาร่วง แล้วก็มาระลึกถึงคุณของแม่ที่ให้ชีวิต เลี้ยงจนเติบใหญ่ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความไม่อบอุ่น ร้อนเป็นไฟก็ตาม แต่ก็ได้อาศัยเขาเกิดจึงได้พบพระศาสนาของพระพุทธเจ้า ได้ปฏิบัติจนพอได้หลักใจ ถ้าเขาไม่เป็นแบบนี้มีหรือเราจะได้พบทุกข์ใจแสนสาหัสปานนี้ ทำให้เราต้องดิ้นรนหาทางออกให้ได้จึงได้ไปปฏิบัติธรรม
[b]ขอให้คุณลองทำดูสิ ขอเป็นกำลังใจให้ แล้วคุณจะรูว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพราะเราทั้งนั้น ถ้าเราได้สั่งบุญที่มากกว่านี้คงไม่ได้มาเกิดกับเขาหรอก เพราะเราทำกรรมร่วมกันมานั่นเอง นี่แหละจึงเกิดความรู้สดชื่น เบิกบานได้ แม้จะกระทบใจก็ไม่ติดค้างนานแป็ปเดียวก็ผ่านไป[/b]
:b45: :b45: :b53: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2010, 16:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 07:11
โพสต์: 93

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องคุ้มครองรักษา

การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่ได้กล่าวถึงความสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ติดต่อกันมาหลายอาทิตย์ เพื่อเป็นการช่วยเตือนสติที่บางทีจะมีผู้หลงลืมไปมากบ้างน้อยบ้างตามวิสัยผู้เป็นปุถุชน ขณะเดียวกันก็ได้แนะให้ใช้ธรรมสำคัญข้อหนึ่งประกอบ คือ กตัญญูกตเวที

ธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งหมดเป็นเครื่องให้เกิดสุข แม้ความกตัญญูกตเวทีก็เช่นกัน เป็นเครื่องให้เกิดสุข และมิใช่เกิดสุขแก่ผู้อื่น ให้เกิดสุขแก่ตัวเองนั่นแหละ แต่บางทีก็ไม่เข้าใจกัน และความไม่เข้าใจนี้เองทำให้ไม่เห็นความสำคัญของความกตัญญูกตเวที

ที่จริงความกตัญญูกตเวทีมีคุณมาก อาจเป็นเครื่องป้องกันความเสื่อมทราม ความชั่วร้าย ความไม่สวัสดีนานาประการได้จริง และนอกจากจะเป็นเครื่องป้องกันแล้ว ยังเป็นเครื่องส่งเสริมให้เกิดความเจริญรุ่งเรื่อง ความดีงาม ความสวัสดีทุกประการได้ด้วย ลองพิจารณาให้เห็นความจริง ซึ่งไม่น่าจะยากจนเกินวิสัยของคนทั่วไป

ผู้มีกตัญญูกตเวทีนั้น จะคิดจะพูดจะทำอะไรมีความกตัญญูกตเวทีคุ้มครองรักษา เพราะผู้มีความกตัญญูกตเวทีย่อมมุ่งดีต่อผู้มีพระคุณเต็มเปี่ยม จะไม่คิดไม่พูดไม่ทำอะไรก็ตามที่ไม่ดี เพราะจะเป็นการกระทบกระเทือนเป็นโทษถึงผู้มีพระคุณ

เคยมีปัญหาแย้งว่า ถ้าผู้มีพระคุณเป็นคนร้าย ผู้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณจะมิต้องทำอะไรๆ ที่ถูกใจของผู้ร้ายด้วยหรือ เช่นมิต้องไปลักขโมยหรือตีรันฟันแทงเขา เพื่อช่วยเหลือผู้ร้ายผู้มีพระคุณด้วยหรือ ปัญหานี้ตอบได้ว่า ความกตัญญูกตเวทีไม่มีความหมายเช่นนั้น

การรู้พระคุณท่านและการตอบสนองพระคุณท่าน ไม่ใช่การทำให้ถูกใจท่านแม้ในทางที่ไม่ดีไม่งาม ความมีกตัญญูกตเวทีหมายถึง การคิดการพูดการทำเพื่อช่วยยกย่องเชิดชูท่านผู้มีพระคุณ มิใช่ซ้ำเติมให้ที่ไม่ดีอยู่แล้วเพิ่มความไม่ดียิ่งขึ้น

เช่นนั้นเป็น “การเอาใจ” ไม่ใช่ “กตัญญูกตเวที”

“การเอาใจ” นั้นเป็นไปได้ทั้งทาง “ที่ควรและไม่ควร”
แต่การแสดง “กตัญญูกตเวที” นั้น เป็นไปได้ใน “ทางดีทางเดียว”

ผู้มีพระคุณทำไมดีไม่ชอบ จะแสดงกตัญญูกตเวที
ต้องช่วยวิธีใดก็ตามเพื่อให้เลิกทำเช่นนั้น

ไม่จำเป็นจะต้องให้ถูกใจอย่างเดียว
จะขัดใจบ้างหรือแม้จะขัดใจอย่างยิ่งก็ควรทำ


หากด้วยการทำเช่นนั้นจะสามารถช่วยให้ผู้มีพระคุณหยุดทำไม่ดี
หันมาทำดีได้ ไม่มีการตอบแทนพระคุณใดจะงดงามเท่า
การช่วยให้ท่านมีโอกาส “ได้ทำดีทำชอบ”

ดังนั้นแม้ผู้มีพระคุณจะเป็นผู้ร้าย การแสดงกตัญญูกตเวทีตอบสนอง ก็เป็นสิ่งพึงทำอย่างยิ่ง จะไม่เป็นการทำให้ต้องพลอยเป็นคนไม่ดีไปด้วยได้เลย ผู้แสดงกตัญญูกตเวทีตอบสนองพระคุณของผู้แม้เป็นผู้ร้ายย่อมทำให้ผู้แสดงกตัญญูกตเวที ผิดไปว่าเช่นเดียวกับการเอาใจดังกล่าวแล้วข้างต้น

การเอาใจ ที่ไม่ประกอบด้วยความกตัญญูกตเวที แม้บางทีจะเหมือนไม่เป็นโทษแต่บางทีก็เป็นโทษได้อย่างยิ่ง ทั้งผู้เอาใจและผู้ถูกเอาใจ ตัวอย่างที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปก็มีอยู่เป็นอันมาก บางทีถือการเอาใจไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าผิดว่าชอบ ไม่ว่าควรหรือไม่ควรว่า เป็นการแสดง ความกตัญญูกตเวที

เช่นนี้ก็เป็นโทษเห็นๆ อยู่ ควรจะได้รอบคอบสังวรระวังให้เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีจริงๆ อย่าเพียงให้เป็นแต่การเอาใจหรือจะกล่าวว่าประจบไปเสียทุกเรื่องทุกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียผลดีอย่างใด การเอาใจถึงเช่นนั้นนอกจากจะไม่เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีแล้ว ยังเป็นความอกตัญญูไปได้ แม้โดยไม่ตั้งใจก็ตาม

ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งละเอียดประณีต ควรทำความเข้าใจให้ดี จะได้ปฏิบัติให้เกิดผลดี ไม่หลงปฏิบัติผิดจนเกิดโทษทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๗

viewtopic.php?f=6&t=18797&start=45

เอามาฝากทุกท่านคะ เป็นหนังสือพระนิพนธ์ที่ดีมาก ๆ :b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย นิดหนึ่ง เมื่อ 27 ก.ย. 2010, 16:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร