ตอนนี้ผมจะให้อะไรใคร ผมไม่เคยคิดต่อเลยครับ ว่าเราจะได้อะไรกลับมา หรือแม้แต่จะได้บุญไหมก็ตาม

แต่ก็มีหลายคนบอกว่าทำไมไม่อธิษฐานผมเลยสับสนมากเลยครับ

รบกวนทุกท่านในนี้ให้ความกระจ่างด้วย

ขอบคุณครับ

การอธิษฐษานก็เพื่อ ให้ผลของบุญที่ทำ เกิดในลักษณะที่ตนเองต้องการ บางคนขอให้รูปงาม ขอให้ไม่พบกับคำว่าไม่มี ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้า การอธิษฐานนั้นควร ทำในลักษณะที่ช่วยให้ ตนพัฒนาในทางโลกและทางธรรม การทำบุญแล้วอธิษฐานขอโน่นขอนี่ ท่านยังยกให้กับคฤหัสต์ ที่ยังมีตัณหาอยู่

บุญเป็นชื่อของความสุข คนฉลาดย่อมสั่งสมเงินเป็นนิธิ เพื่อใช้ในกิจการงานต่างๆ บุญนิธิ เป็นทรัพย์อันประเสริฐที่ใครผู้ใดก็ขโมยไปไม่ได้ ความมีรูปสวย ความมีเสียงไพเราะ การมีผิวพรรณงาม การได้เกิดเป็นมนุษย์ หรือได้เกิดเป็นเทพพรหม ล้วนสำเร็จได้ด้วยบุญ

พึงเข้าใจให้ถูกต้องเสียก่อนว่า...การ"อธิษฐาน"ในพุทธศาสนาไม่ใช่การ"ขอ" โดยเอาอะไรๆไปแลกเปลี่ยน ..การอธิษฐานหมายถึงการตั้งเจตนาที่จะกระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ โดยอาศัยบุญเป็นฐานเพื่อให้ถึงเป้าประสงค์นั้นๆ เช่น อธิษฐานว่า ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยแก่มรรคผลนิพพาน ก็มิได้หมายความว่าบุญนั้นจะทำให้คนอธิษฐานได้มรรคผลนิพพานโดยไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นเลย...บุญนั้นย่อมเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในปัจจัยมากมายที่จะมีผลในการสนับสนุนคนอธิษฐานให้ไปตรงทางที่ปรารถนา คือทางไปมรรคผลนิพพาน..การอธิษฐานเปรียบเสมือนจรวดนำวิถี เพื่อให้ถึงเป้าโดยตรง ไม่กระจัดกระจายไปตามยถากรรม...เพราะบุญนั้น แม้มิต้องอ้อนวอนขอร้อง เขาก็ส่งผลให้ได้เสวยอยู่แล้ว ..เมื่อต้องการแรงส่งให้ถูกทิศทางที่ควรเป็น ก็ทำได้ด้วยการ"อธิษฐาน"อย่างถูกเรื่องดังนี้แล

การอธิษฐานเป็น ๑ใน ทศบารมีของพระโพธิสัตว์ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญ.. เป็นสิ่งที่ควรทำ.. เพราะมีประโยชน์มาก..

การอ้อนวอนร้องขอเป็นเรื่องที่คนส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าเป็น"การอธิษฐาน".. การขอนั้น มีกิเลสคือโลภะ(ตัณหาราคะ)และโทสะ(ความเดือดร้อนทั้งทางกายและใจ)เข้าบงการหรือชักจูงไปให้กระทำ..ดังที่เห็นกันในชนหมู่มากที่ทำบุญ๑๐๐บาทแล้วตั้งความปรารถนาขอให้ถูกหวยรางวัลที่๑ หรือขอให้ร่ำรวยสวยหล่อ เป็นนางงามจักรยานหรือสอบได้TOEFEL เป็น รมต ผบช. สส. ฯลฯ...ฯลฯ...ที่จริงก็กล่าวได้เช่นกันว่า"การขอ"นั้นเป็นเครื่องนำวิถีไปสู่เป้าหมายอย่างที่ต้องการได้ แต่ไปตามกำลังของตัณหา เมื่อเป็นเช่นนี้ จะมีความเกษมปลอดภัยจากผลนั้นได้หรือ? ได้สิ่งเหล่านั้นก็เพื่อเพิ่มกิเลสตัณหาทะยานอยากไปเรื่อยอีก...ดีไม่ดี(ส่วนมากไม่ดี)ก็เพราะมีบุญมากนั่นเเหละ เลยอุปการะมานะตัณหาจนสามารถทำบาปชั่วได้มากกว่าชาวบ้านหาเช้ากินสาย ดูอย่างตำแหน่งประธานาธิบดีปะไร สั่งทีเดียวทหารเอาปรมาณูไปลงที่หนึ่งคนตายไปเท่าไร เทียบกะโจรร้ายอย่างพระองคุลีมาน ยังฆ่าได้แค่๙๙๙คนเท่านั้น.. หรือนักการเมืองตำแหน่งสูง บุญนำมาให้ได้ยศ ..แ้ล้วใช้ยศนั้นทำทางไปใหนกันโดยมาก?..จึงควรอธิษฐานทุกครั้งที่ทำบุญว่าขอให้มีปัญญา มีหิริโอตตัปปะ มีพรหมวิหาร มีสัมมาทิฏฐิ จะได้ไม่หลงทำบาปกรรมเพราะบุญส่งผลให้รวยสวยหล่อมีอำนาจมียศสูง..ในภายหน้า..

โอ้ ให้ตายเหอะ เจ้าหมอนี่ช่างลึกซึ้งจริงๆ อิอิ

ชอบประโยคนี้มากเลยค่ะท่านdd ขอเกาะจรวดนำวิถีไปด้วยคนได้ไม๊คะ
ว่าแต่ว่า ไม่ได้ทักทายกันนาน.....สบายดีนะคะ

คุณddเขียน



การที่เราจะทำให้การอธิฐานนั้นเสมือนจรวดได้ สิ่งที่สำคัญคือ การตั้งจิตในขณะที่เราอธิฐานด้วยค่ะถ้าตั้งจิตอธิฐานขอความช่วยเหลือ เราก็ต้องตั้งจิต
ไปที่อาจารย์ ที่ท่านให้ความเคารพและศรัทธามากๆค่ะ

เราอยากจะพูดต่อน่ะ แต่พูดไม่ถูกค่ะ คุณdd
จริงๆแล้ว เราก็มีเรื่องอยากจะถาม คุณddอยู่เหมือนกัน
แต่พูดไม่ถูกค่ะ
คือต้องใช้คำทางพระน่ะค่ะ เราก็เลยพูดไม่ถูก

แหม คิดจะแจวเรือ ใจคอจะไม่ตั้งทิศตั้งทางเชียวหรอคะ


แจวไปแจวมา ไม่มีทิศทางมันจะวนอยู่ในอ่้างบุญนะ อิๆ

O.wan กล่าวทักทาย:

..

สวัสดีขอรับท่าน O.wan ขอบคุณที่แวะมาทักกัน คิดถึงอยู่เสมอๆนะครับ หมู่นี้ได้เห็นนำบทความธรรมะมาลงด้วย ขออนุโมทนาสาธุการยิ่งครับ ...

ส่วนที่ขอเกาะจรวดนั่น ครือแบบว่า จรวดใครจรวดท่านอะคับ..
เพราะตะละคน "น้ำหนัก"(บุญ) ต่างกันอยู่อะคับ..

ผมสบายดีอย่างที่ไม่คาดหวัง ..หวังว่าคุณ O.wan คงสบายดีมีสุขนะครับ..

bbby รำพึง:



ท่าน bbby ขอรับ ผมเพียงอุปมาเรื่องจรวดนำวิถี ไม่ได้หมายถึง"ความเร็ว"ของผลครับ หมายเอาเพียงว่าเป็นเครื่องนำให้ถึงเป้าหมายที่ถูกควรเหมาะสมเท่านั้น

ส่วนที่กล่าวมาว่า --ต้องตั้งจิตในขณะที่เราอธิฐานด้วย--นั้นก็เห็นด้วยครับ....สำหรับเรื่องขอความช่วยเหลือ ด้วยการตั้งจิตอธิฐานไปที่อาจารย์ที่เคารพ นั้นผมไม่มีความรู้พอ จึงตอบไม่ได้ .. ขออภัยด้วยครับ ..

ทำความดี..ย่อมพบกับความดี
ทำด้วยความบริสุทธิ์...ย่อมได้พบความบริสุทธิ์..

ทำความดีไม่บริสุทธิ..ย่อมได้พบความดีไม่บริสุทธิ์
ทำความดีด้วยความบริสุทธิ์..ย่อมได้พบความดีที่บริสุทธิ์..จนได้

ไม่ว่าคุณ..ปรารถณาหรือไม่ปรารถณา..ก็ตาม..Action..=..Reaction..เสมอ

คุณ กบ

Action = Reaction

แหมนึกถึงหนังสือของพระอาจารย์ภาสกรเลยค่ะ ตอบแนวเด็กวิทย์อธิบายธรรม..ดีค่ะ เข้าใจง่าย เด็กวิทย์เก่าเหมือนกันค่ะ

คุณddเขียน




bbby รำพึง: ไม่ใช่รำพึงค่ะ เราบ่นค่ะ ไม่รู้ว่าจะบ่นให้ใครฟังดี
คุณน้ำก็ไม่อยู่ คุณทักทายก็นอน คุณอมิตาพุทธก็เงียบไปเลย
มีคุณddอยู่ เราก็เลยบ่นให้คุณddฟังค่ะ แหม๋! หาว่าเรารำพึง



เราไม่ใช่จะถามตรงนี้ค่ะ เราจะถามอย่างอื่นค่ะ


(ตรงนี้เหมือนเราพูดผิดน่ะ ใช่เรียกอาจารย์หรือปล่าวค่ะ)

เจ้าหล่อนจะขอให้ผี เอ๊ย เทวดา ช่วยเหรอ...

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับผม

การอธิษฐานหมายถึงการตั้งเจตนาที่จะกระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ โดยอาศัยบุญเป็นฐานเพื่อให้ถึงเป้าประสงค์นั้นๆ เช่น อธิษฐานว่า ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยแก่มรรคผลนิพพาน ก็มิได้หมายความว่าบุญนั้นจะทำให้คนอธิษฐานได้มรรคผลนิพพานโดยไม่ต้องทำอะไร อย่างอื่นเลย
-----ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยแก่มรรคผลนิพพาน ผมเข้าใจว่ายิ่งปัจจัยปริมาณมาก หรือสมบูรณ์มาก ก็จะทำให้การนั้น สำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น ใช่หรือเปล่าครับ
ถ้าเช่นนั้นให้บุญไปเป็น 1 ในปัจจัย ก็เหมือนการขอนั่นแหละ ใช่ป่ะครับ ผมหาความแตกต่างไม่เจอ

Action = Reaction
-----อันนี้เป็นสมการที่ผมใช้ยกขึ้นมาให้เหตุผลตัวเองเมื่อครั้นตอนบวช และอธิบายคนอื่นถึงการทำความดีว่ามันจะย้อนกลับมาหาเราแน่นอน ซึ่งสมการนี้เองทำให้ผมเชื่อในคำสอนของพุทธองค์ เชื่อถึงการมีอยู่ของชาตินี้ชาติหน้าชาติก่อน บุญ-บาป
-----แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้สงสัย และเป็นคนวิทย์มากๆครับ คือ ไม่เชื่ออะไรที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ (ซึ่งผมเข้าใจว่าพุทธองค์ท่านอยากให้ทุกๆคนเป็นแบบนี้) ผมจึงมีคำถามแบบนี้อ่ะครับเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ และหาคำตอบที่ตอบคำถามแบบฟันฉับยากมากๆ ขอฝากอีกกระทู้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เป็นกระทู้ที่เกิดพร้อมกระทู้นี้และยังไม่จบครับ
viewtopic.php?f=1&t=34426&start=15&st=0&sk=t&sd=a

การอ้อนวอนร้องขอเป็นเรื่องที่คนส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าเป็น"การอธิษฐาน"
-----เห็นด้วยครับ ผมเป็น 1 ในคนส่วนมากนั้น

การขอนั้น มีกิเลสคือโลภะ(ตัณหาราคะ)และโทสะ(ความเดือดร้อนทั้งทางกายและใจ)เข้าบงการหรือชักจูงไปให้กระทำ
-----ถ้าผมอธิษฐานหลังตักบาตรว่าขอให้ได้มรรคผลนิพพาน หรืออีกทางหนึ่งอธิษฐานว่าขอให้ได้เรียนสูงๆจะได้เป็นใหญ่เป็นโต มีเงินมากๆ จะได้เลี้ยงแม่ได้ดีๆ แบบไหนเรียกขอแบบไหนเรียกอธิษฐานครับ

การอธิษฐานเปรียบเสมือนจรวดนำวิถี เพื่อให้ถึงเป้าโดยตรง ไม่กระจัดกระจายไปตามยถากรรม
-----Action = Reaction อยู่แล้วนี่ครับ ฉะนั้นอธิษฐานหรือไม่อธิษฐาน ผลก็น่าจะไม่ต่างกันมาก