เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วทำไมจึงทำสติปัฏฐานไม่ได้ ร่างกายก็มี เวทนาเคยเกิด ฯลฯ แล้วทำไม่เจริญสติปัฏฐานไม่ได้[/quote]

เจริญสติปัฏฐานที่ กรัชกายเข้าใจ คือเจริญอะไรครับ?

เช่นนั้น ไม่ได้ เจริญกาย
ไม่ได้ตามเจริญเวทนา
ไม่ได้ตามเจริญสัญญา
ไม่ได้ตามเจริญสังขาร
ไม่ได้ตามเจริญวิญญาณ

กายเช่นนั้น ก็เจริญด้วยอาหารคือคำข้าว
เวทนาเช่นนั้น ก็เจริญด้วยผัสสะทั้งหลาย
สัญญา เช่นนั้นก็เจริญด้วยความตรึก
สังขาร เช่นนั้น ก็เจริญด้วยมโนสัญญเจตนา
วิญญาณเช่นนั้น ก็เจริญไปตาม จิตสังขารเหล่านั้น

แต่การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ได้เจริญเพื่อสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แต่ด้วยมรรคภาวนา สติปัฏฐานจึงจะเจริญตามได้ ใช่ไหมท่านกรัชกาย

เจริญสติปัฏฐานที่ กรัชกายเข้าใจ คือเจริญอะไรครับ?

เช่นนั้น ไม่ได้ เจริญกาย
ไม่ได้ตามเจริญเวทนา
ไม่ได้ตามเจริญสัญญา
ไม่ได้ตามเจริญสังขาร
ไม่ได้ตามเจริญวิญญาณ

กายเช่นนั้น ก็เจริญด้วยอาหารคือคำข้าว
เวทนาเช่นนั้น ก็เจริญด้วยผัสสะทั้งหลาย
สัญญา เช่นนั้นก็เจริญด้วยความตรึก
สังขาร เช่นนั้น ก็เจริญด้วยมโนสัญญเจตนา
วิญญาณเช่นนั้น ก็เจริญไปตาม จิตสังขารเหล่านั้น

แต่การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ได้เจริญเพื่อสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แต่ด้วยมรรคภาวนา สติปัฏฐานจึงจะเจริญตามได้ ใช่ไหมท่านกรัชกาย[/quote]


อ้อ ร่างกาย เจริญด้วยข้าวสุกขนมสด น้ำ รวมๆก็คืออาหาร เรียกว่า เจริญกาย ถูกไหมครับ คำว่าเจริญของคุณ คือ เติบโต จากเด็กถึงผู้ใหญ่ คือเจริญกาย

เพิ่งนึกได้ เอางี้ได้ไหมครับเปลี่ยน "เจริญ" เป็น "บำเพ็ญ" เป็นบำเพ็ญสติปัฏฐานเสีย ตัดเจริญออก

ไป ใช้บำเพ็ญแทน เป็นไงครับพอไหวไหม

ไปได้เรื่อยๆ นะกรัชกาย
กรัชกายยังไม่ได้ตอบคำถามเลย

เห็นคุณติดศัพท์ เจริญ จึงได้เข้าใจ เจริญกาย (กายานุปัสสนา) ก็ด้วยอาหารคือคำข้าว แสดงว่า เรา

สองคนเข้าใจคำว่าเจริญต่างกันแล้ว

เมื่อคุณเข้าใจคำว่า เจริญอย่างนั้นแล้วเอาศัพท์เจริญไปใช้กับสติปัฏฐานมันจึงติดจึงตันไงขอรับ

จึงได้เปลี่ยนจากเจริญสติปัฏฐาน เป็นบำเพ็ญสติปัฏฐาน ฝึกสติปัฏฐานคือฝึกกายใจนี่เสีย

กรัชกาย ยังไม่ได้ตอบคำถาม

ท่านเช่นนั้น อย่ายึดติดศัพท์ เจริญนะครับ บอกก่อน หากติดไม่หลุดก็เปลี่ยนเป็นบำเพ็ญ เป็นฝึกฝน

อบรมกายใจเสีย อาจพอมองเห็นการเจริญสติปัฏฐานบ้างไม่มาก็น้อย

กรัชกายเจริญสติปัฏฐานอย่างนี้ครับ


-กาย มีอยู่แล้วนั่งศรีษะโด่อยู่นี่ อยู่นั่น นี่เป็นฐานเจริญสติ สัมปชัญญะ วิริยะ สมาธิ เป็นต้น

(=กายานุปัสสนา -การตามดูรู้ทันกาย)

-เวทนา ทุกคนคงเคยประสบมาแล้ว สุข ทุกข์ เฉยๆ (= เวทนานุปัสสนา-ตามดูรู้ทันเวทนา)

-จิตต์ ความคิด เดี๋ยวคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ คิดนั่นนี่ ฯลฯ (= จิตตานุปัสสนา-การตามดูรู้ทันความคิด)

-ธัมม์ เป็นต้นว่า ความหดหู่ เหงาหงอย เซื่องซึม อึดอาด ฯลฯ (ธัมมานุปัสสนา-การตามดูรู้ทันธรรมารมณ์)

ขณะนี้ ขณะนั้น แต่ละขณะๆ สิ่งใดเกิดรู้สึกจับสิ่งนั้นเป็นอารมณ์เจริญเป็นอาหารของสติเป็นต้นเสีย ฯลฯ

กรัชกาย เจริญสติปัฏฐาน แบบนี้เองหรือครับ

กรัชกาย เจริญอย่างนั้น แล้ว...
กรัชกาย พิจารณา หรือพิจารณาเห็น ...
กายในกาย
เวทนาในเวทนา
จิตในจิต
ธรรมในธรรม...

หรือแค่คิดนึกไปตามขันธ์ 5 ที่ปรากฏ .......

ในขณะนั้น สิ่งใดปรากฏชัดทั้งกายทางใจก็สิ่งนั้น เป็นอารมณ์ระลึกรู้ ณ ขณะนั้นๆ

อ้อ..หมู หมา กา ไก่ ขโมย โจรปล้นฆ่า...
ต่างก็ กำลังเจริญสติปัฏฐาน แบบท่านกรัชกาย สิครับ

อะไรไม่เข้าใจครับ หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ หมายถึงอะไร ไม่เข้าใจ นี่เรากำลังพูดกันเรื่องอะไรขอรับท่านเช่นนั้น

อ้อ หรือ ท่านเช่นนั้น กำลังคิดว่า หมู หมา กา ไก่ เจริญสติปัฏฐานได้ จะบ้ากันไปใหญ่แล้วนะ

ขอรับท่านเช่นนั้น คุณกำลังปรามาสสติปัฏฐานอยู่นะครับเนี่ยะ

ลองไปสนทนาธรรมกับหลวงพ่อสงบ มนัสสันโตที่วัดป่าสันติพุทธาราม จ.ราชบุรีดูนะครับ

เว็ปไซค์ของวัด http://www.sa-ngob.com/index.php
แผนที่วัด http://watpa-photharam.blogspot.com/2009/04/blog-post.html

หลวงพ่อสงบเป็นศิษย์ของหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาดและหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัติครับ
รวมเทศนาของหลวงตามหาบัวที่กล่าวถึงหลวงพ่อสงบครับ http://www.antiwimutti.net/Antiwimutti/rwm_thesna_hlwng_phx_sngb.html
พระธรรมเทศนาของหลวงพ่อสงบเรื่อง "การพิจารณาจิต"
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=buddhamonthon

ขอแสดงความนับถือครับ

IRON MAIDEN

ถามศัพท์ สติปัฏฐาน ก่อนแปลว่าอะไร ยังไง เพื่อที่จะบีบวงล้อเรื่องที่เราสนทนากันแคบเข้ามา