วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1854

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: THAILAND

 ข้อมูลส่วนตัว


tonnk เขียน:
ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร


:b6: ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหม นะคุณ tonnk
ถ้าไม่ใช่ ปานะ ในความหมายของคุณ tonnk ก็ขออภัยด้วย
ไปลอกเขามาอีกที จริงๆ แล้วถ้าคุณไปวัดเพื่อ
ฝึกกรรมฐานหรือนั่งสมาธิ สักครั้งละก็เข้าถึง
คำว่า น้ำ "ปานะ" แน่ เพราะมีให้ดื่มทุกเย็น :b9:
เจริญในธรรม


:b45: น้ำปานะ :b45:

:b53: ได้แก่ เครื่องดื่ม หรือ น้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้
ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติแก่พระภิกษุให้รับ ประเคน
แล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน ๑ คืน เรียกว่า ยามกาลิก
ทรงอนุญาติไว้ ๘ อย่าง
๑. อัมพะปานะ น้ำมะม่วง
๒. ชัมพุปานะ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า
๓. โจจะปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด
๔. โมจะปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด
๕. มะธุกะปานะ น้ำมะทรางต้องเจือด้วยน้ำจึงควร
๖. มุททิกะปานะ น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น
7. สาลุกะปานะ น้ำเหง้าบัว
๘.ผารุสะกะปานะ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่


:b51: นอกจากน้ำปานะ ๘ อย่างแล้ว
ท่านยังอนุญาตน้ำที่จะอนุโลมตามน้ำปานะไว้อีก เรียกว่า กัปปิยปานะอนุโลม
คือน้ำปานะที่สมควร ซึ่งฉันได้โดยไม่เป็นอาบัติในเวลาวิกาล ได้แก่
น้ำปานะแห่งผลไม้เล็ก เช่น ลูกหวาย
มะขาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังอนุญาติให้ฉันน้ำปานะเหล่านั้นผสมกับน้ำตาล
แล้วเคี่ยวไฟจนเข้มข้น (ยกเว้นที่ทำจากถั่วและนม)
สามารถฉันได้ จัดเป็น อัพโพหาริก เช่น น้ำอัดลมในสมัยนี้
แม้นน้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น น้ำองุ่นที่กรองเนื้อออกดีแล้ว ก็ดื่มได้


:b46: น้ำที่ไม่ทรงอนุญาต ดื่มแล้วองค์อุโบสถต้องแตกทำลาย
อกัปปิยปานะอนุโลม หรือ เครื่องดื่มที่ไม่พึงดื่ม คือ
น้ำปานะที่ไม่สมควร ภิกษุดื่มในเวลาวิกาลไม่ได้
ถ้าดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตย์ ได้แก่
น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) ๗ ชนิด
คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้
น้ำแห่งมหาผล (ผลไม้ใหญ่ ) ๙ ชนิด คือ ผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก
น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม และ ฟักทอง
น้ำแห่งอปรัณณชาติ ได้แก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือ ถั่วเขียว
ถั่วดำ และงา เป็นต้น แม้นจะต้มจะกรอง ทำเป็น
เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ก็ย่อมเป็นอาบัติปาจิตตีย์
นม ท่านจัดเป็นอาหารอันประณีต ภิกษุสามเณรไม่พึงฉันยามวิกาล
แม้นจะผสมกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ไม่ควร
หากฉัน ก็ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์


:b26: ดังนั้น ผู้หวังความบริสุทธิ์ของอุโบสถมีองค์ ๘
พึงงดเว้นเครื่องดื่มที่ทรงห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายในยามวิกาล

.....................................................
[สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย]
[ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2010, 16:40
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดส่วนตัวครับ
น้ำปานะ ผมคิดว่าน่าจะเป็นน้ำเปล่า ที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ใดๆทั้งสิ้น เพราะเคยได้ยินจากพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอก ว่าไม่สมควรทานน้ำที่มี รส จะเกิดความอยากความต้องการมากขึ้น แทนที่จะตัดความอยากให้เกิด แต่กลับไปเพิ่มพูนให้มีเยอะขึ้น

ฟังจากข้างต้นแล้ว ในสมัยก่อน การคั้นน้ำผลไม้ สำหรับพระสงฆ์แล้ว มันน่าจะลำบากน่าดูที่จะนำมาฉันท์ตอนเย็น ตอนค่ำ หรือจะเก็บไว้ก็ไม่สำควร เพราะพระไม่สมควรนำ อาหารคาว หวาน เก็บไว้เกินเที่ยง

ส่วนน้ำต่างๆที่ได้มีการกลั่น น่าจะไว้ตอนพระท่านอาพาส มากกว่าครับ

แต่สำหรับผู้ถือศีลอุโบสถ อาจจะเป็นการอนุโลมก็เป็นได้

ข้อความด้านบนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและส่วนครอบครัวโปรดใช้วิจารณาญานครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 00:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแล้วได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับวินัยของสงฆ์ดีจัง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2010, 01:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 21:33
โพสต์: 12

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บัวไฉน เขียน:
tonnk เขียน:
ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร


:b6: ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหม นะคุณ tonnk
ถ้าไม่ใช่ ปานะ ในความหมายของคุณ tonnk ก็ขออภัยด้วย
ไปลอกเขามาอีกที จริงๆ แล้วถ้าคุณไปวัดเพื่อ
ฝึกกรรมฐานหรือนั่งสมาธิ สักครั้งละก็เข้าถึง
คำว่า น้ำ "ปานะ" แน่ เพราะมีให้ดื่มทุกเย็น :b9:
เจริญในธรรม


:b45: น้ำปานะ :b45:

:b53: ได้แก่ เครื่องดื่ม หรือ น้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้
ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติแก่พระภิกษุให้รับ ประเคน
แล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน ๑ คืน เรียกว่า ยามกาลิก
ทรงอนุญาติไว้ ๘ อย่าง
๑. อัมพะปานะ น้ำมะม่วง
๒. ชัมพุปานะ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า
๓. โจจะปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด
๔. โมจะปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด
๕. มะธุกะปานะ น้ำมะทรางต้องเจือด้วยน้ำจึงควร
๖. มุททิกะปานะ น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น
7. สาลุกะปานะ น้ำเหง้าบัว
๘.ผารุสะกะปานะ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่


:b51: นอกจากน้ำปานะ ๘ อย่างแล้ว
ท่านยังอนุญาตน้ำที่จะอนุโลมตามน้ำปานะไว้อีก เรียกว่า กัปปิยปานะอนุโลม
คือน้ำปานะที่สมควร ซึ่งฉันได้โดยไม่เป็นอาบัติในเวลาวิกาล ได้แก่
น้ำปานะแห่งผลไม้เล็ก เช่น ลูกหวาย
มะขาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังอนุญาติให้ฉันน้ำปานะเหล่านั้นผสมกับน้ำตาล
แล้วเคี่ยวไฟจนเข้มข้น (ยกเว้นที่ทำจากถั่วและนม)
สามารถฉันได้ จัดเป็น อัพโพหาริก เช่น น้ำอัดลมในสมัยนี้
แม้นน้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น น้ำองุ่นที่กรองเนื้อออกดีแล้ว ก็ดื่มได้


:b46: น้ำที่ไม่ทรงอนุญาต ดื่มแล้วองค์อุโบสถต้องแตกทำลาย
อกัปปิยปานะอนุโลม หรือ เครื่องดื่มที่ไม่พึงดื่ม คือ
น้ำปานะที่ไม่สมควร ภิกษุดื่มในเวลาวิกาลไม่ได้
ถ้าดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตย์ ได้แก่
น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) ๗ ชนิด
คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้
น้ำแห่งมหาผล (ผลไม้ใหญ่ ) ๙ ชนิด คือ ผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก
น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม และ ฟักทอง
น้ำแห่งอปรัณณชาติ ได้แก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือ ถั่วเขียว
ถั่วดำ และงา เป็นต้น แม้นจะต้มจะกรอง ทำเป็น
เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ก็ย่อมเป็นอาบัติปาจิตตีย์
นม ท่านจัดเป็นอาหารอันประณีต ภิกษุสามเณรไม่พึงฉันยามวิกาล
แม้นจะผสมกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ไม่ควร
หากฉัน ก็ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์


:b26: ดังนั้น ผู้หวังความบริสุทธิ์ของอุโบสถมีองค์ ๘
พึงงดเว้นเครื่องดื่มที่ทรงห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายในยามวิกาล


ขอบคุณครับ ได้ทบทวนอีกครั้ง เกือบลืมไปเลยตั้งแต่บวชเรียนมา อนุโมทนาครับ

.....................................................
กิเลสหนอ ทำไมมันเก่งอย่างนี้!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2010, 11:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


น้ำเก็กฮวยน่าจะได้เนาะ กรองละเอียดเลยไม่มีผงเหลือเลย :b48:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร