วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 260 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 18  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


การเดินจงกลม เดินเป็นบางครั้งค่ะ การเดินจงกลมนี่
ส่วนใหญ่จิตจะออกค่ะ แต่เวลานั่งสมาธิคือจะดีกว่าเยอะค่ะ


คุณน้ำเขียน
อ้างคำพูด:
ถ้าเกิดสภาวะนี้อีก ให้หายใจยาวๆ




ใช่ค่ะ เวลาเกิดสิ่งนั้นขึ้น เราก็ใช้วิธีหายใจยาวๆ ก็ช่วยได้ค่ะ
แต่คงเป็นเพราะเราไม่ได้สวด รู้หนอๆๆ
ก็ต้องหายใจยาวๆนานเหมือนกันค่ะ
ไม่เคยตั้งเวลาเลยค่ะ ต้องตั้งเวลาด้วยเหรอค่ะ :b1:


ทีนี้ยังมีอีกค่ะ ถ้าวันไหนที่เรานั่งสมาธิ คือแบบจิตจะนิ่งมากๆน่ะค่ะ
แล้วนั่งได้นาน ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ช่าง
เราจะรู้เลยค่ะ จะต้องมีวิญญานมาหาเรา
แต่ก่อนนี้จะ กลัวๆแต่ไม่ถึงกับมาก คือกลิ่นของเค้าน่ะค่ะ
จะเหม็นมากๆ

ถ้าแต่ก่อน เราไม่กล้าลืมตาน่ะ แต่จะพูดว่า
ถ้าต้องการอะไร ขอให้มาบอกในความฝัน
แล้วกลิ่นก็จะหายไป แต่ตอนนี้ ถ้าเค้ามา
เราจะอธิฐานบุญให้เค้าไปเลยค่ะ

มีอยู่คืนหนึ่ง เราเห็นเค้ามานั่งอยู่ข้างเตียง เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย
คือเค้ามาจับที่มือ แล้วเขย่าๆ เราก็เลยลืมตาขึ้นมา
พอเราเห็น เราก็นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
คือให้รีบสวด ให้รีบส่งผลบุญให้เค้า เพราะวิญญานพวกนี้
จะมาได้ไม่นาน

พอเราสวดให้2คนนี้เสร็จ กลิ่นเหม็นก็หายไป แต่เป็นกลิ่นหอมๆแทน
พอเรานอนพลิกมาอีกข้างหนึ่ง เจออีก ทีนี้นั่งอยู่ข้างหมอนของเรา
จับมือเราไว้ เราก็ส่งผลบุญให้เค้า
เค้าก็หายไป

การที่เราต้องมาเจอกับวิญญาน แบบนี้บ่อยๆ
จะมีอันตรายกับตัวเราหรือปล่าวค่ะ :b8:


โพสต์ เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
การเดินจงกลม เดินเป็นบางครั้งค่ะ การเดินจงกลมนี่
ส่วนใหญ่จิตจะออกค่ะ แต่เวลานั่งสมาธิคือจะดีกว่าเยอะค่ะ




คุณเต้ ควรเดินจงกรมก่อนที่จะนั่งทุกครั้งค่ะ
ขณะเดิน ให้รู้เท้า ถึงแม้ว่าจะมีการส่งจิตออกนอก คิดโน่น คิดนี่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ




bbby เขียน:
ไม่เคยตั้งเวลาเลยค่ะ ต้องตั้งเวลาด้วยเหรอค่ะ


การตั้งเวลา จะเป็นตัวช่วยในการปรับอินทรีย์
ถ้าไม่ตั้งเวลาก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ควรจะเดินก่อนที่จะนั่งทุกครั้ง
เพราะคุณเต้มีสมาธิของเก่าติดตัวมาเยอะ แล้วของใหม่ที่ทำเพิ่มขึ้นอีก
กำลังสติของคุณมีน้อยกว่ากำลังของสมาธิ จึงทำให้เกิดสภาวะนี้ได้บ่อยมากๆ



bbby เขียน:
ใช่ค่ะ เวลาเกิดสิ่งนั้นขึ้น เราก็ใช้วิธีหายใจยาวๆ ก็ช่วยได้ค่ะ
แต่คงเป็นเพราะเราไม่ได้สวด รู้หนอๆๆ



การหายใจยาวๆ เป็นการเรียกสติ ให้จิตที่กำลังส่งออกนอกอยู่ ให้กลับมารู้ที่กายได้ไวมากขึ้น
ส่วนการที่ให้กำหนดรู้หนอ ลงไปนั้น เป็นการสำทับหรือตอกย้ำสภาวะของสติอีกที ให้มีกำลังมากขึ้น
เพราะแค่หายใจยาวๆอย่างเดียว กำลังของสติยังไม่มากพอหรอกค่ะ

เมื่อเราได้สำทับสภาวะด้วยการกำหนดรู้หนอลงไปบ่อยๆ กำลังของสติ จะมากขึ้น
ตัวของสัมปชัญญะก็จะมีกำลังมากขึ้น ทำให้จิตสามารถกลับมารู้อยู่กับกายได้มากขึ้น

วันใดที่กำลังของสติและสัมปชัญญะมีมากพอ การกำหนดรู้หนอนี่จะหายไปเองค่ะ จะเหลือแค่รู้
เวลามีสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้นมาอีก



bbby เขียน:

การที่เราต้องมาเจอกับวิญญาน แบบนี้บ่อยๆ จะมีอันตรายกับตัวเราหรือปล่าวค่ะ




ไม่มีอันตรายใดๆหรอกค่ะ เขาเหล่านั้นล้วนเคยสร้างเหตุมากับคุณเต้
จึงทำให้เขาสามารถติดต่อกับคุณได้น่ะค่ะ

เรื่องของวิญญาณ แต่ละคนจะเห็นสภาวะของวิญญาณแตกต่างกันไป
อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของจิตแต่ละคน จิตใต้สำนึก และเหตุที่ทำมาด้วยค่ะ




ถ้าคุณเต้ คิดว่า ชอบนั่งในแบบที่ทำอยู่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ
ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด สิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจากเหตุที่ทำมา
แล้วก็เหตุปัจจุบันที่กำลังสร้างให้เกิดขึ้นใหม่อีก

ถ้าวันไหน คุณเต้มีเวลาว่างพอ
ลองนั่งพิจรณาทบทวน ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า คณต้องการอะไรในชีวิต
แล้วที่ปฏิบัตินี่ ปฏิบัติเพื่ออะไร ลองตั้งคำถาม ถามตอบกับตัวเองดูนะคะ
ได้คำตอบยังไงแล้ว มาเล่าให้น้ำฟังด้วยนะคะ น้ำจะได้พูดต่อได้ว่า ควรแนะนำให้กับคุณยังไงค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 06 ส.ค. 2010, 22:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 22:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าวันไหน คุณเต้มีเวลาว่างพอ
ลองนั่งพิจรณาทบทวน ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า คณต้องการอะไรในชีวิต
แล้วที่ปฏิบัตินี่ ปฏิบัติเพื่ออะไร ลองตั้งคำถาม ถามตอบกับตัวเองดูนะคะ
ได้คำตอบยังไงแล้ว มาเล่าให้น้ำฟังด้วยนะคะ น้ำจะได้พูดต่อได้ว่า ควรแนะนำให้กับคุณยังไงค่ะ


ที่เราตั้งใจปฎิบัติ สิ่งที่เราต้องการ
เอาแบบที่ต้องการที่สุดเลยน่ะค่ะ
คืออยากจะช่วยให้ สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากความทุกข์น่ะค่ะ :b1:

คุณน้ำค่ะ เราจะมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง
คือไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง ส่วนใหญ่เวลาที่เราทำบุญ
เราจะอธิฐานให้สัตว์ทั้งหลาย วิญญานทั้งหลาย

เรามักจะลืมอธิฐาน ให้เจ้ากรรมนายเวรของตัวเราเอง
เพราะอย่างนี้หล่ะค่ะ

พี่สาวเรามักจะพูดว่า "ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจเรื่องของชาวบ้านเค้า
เค้าจะอดหรือลำบาก ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจ เค้า
เธอจะเป็นอย่างไง" :b1:


โพสต์ เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:

ที่เราตั้งใจปฎิบัติ สิ่งที่เราต้องการ เอาแบบที่ต้องการที่สุดเลยน่ะค่ะ
คืออยากจะช่วยให้ สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากความทุกข์น่ะค่ะ :b1:




ถ้าคุณเต้ต้องการที่จะช่วยคนอื่นๆ ให้หลุดพ้นจากความทุกข์
คุณต้องช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากความทุกข์ก่อนค่ะ
สิ่งที่คุณเต้ทำอยู่ทุกวันนี้ เรียกว่าแก้ปลายเหตุ ไม่ใช่ดับที่ต้นเหตุที่เกิดขึ้น

ที่ว่าแก้ปลายเหตุคือ คุณได้แต่ให้คนที่มาขอความช่วยเหลือ
แต่ไม่สามารถสอนให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้



ถามนะคะ คุณเต้เข้าใจถึงเหตุแห่งทุกข์หรือยังคะ
ถ้าเข้าใจแล้ว เข้าใจว่าอย่างไรมั่งคะ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ



bbby เขียน:

คุณน้ำค่ะ เราจะมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง
ส่วนใหญ่เวลาที่เราทำบุญ เราจะอธิฐานให้สัตว์ทั้งหลาย วิญญานทั้งหลาย
เรามักจะลืมอธิฐาน ให้เจ้ากรรมนายเวรของตัวเราเอง เพราะอย่างนี้หล่ะค่ะ




สติ สัมปชัญญะยังไม่แข็งแรงพอ ไม่เป็นไรค่ะ แก้ไขได้ด้วย การฝึกเจริญสติค่ะ



bbby เขียน:

เรามักจะลืมอธิฐาน ให้เจ้ากรรมนายเวรของตัวเราเอง เพราะอย่างนี้หล่ะค่ะ




คุณเต้เข้าใจว่า เจ้ากรรมนายเวรนี่ หมายถึงอะไรหรือคะ?



bbby เขียน:

พี่สาวเรามักจะพูดว่า "ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจเรื่องของชาวบ้านเค้า
เค้าจะอดหรือลำบาก ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจ เค้า เธอจะเป็นอย่างไง"



แล้วตอบพี่สาวว่ายังไงหรือคะ?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถามนะคะ คุณเต้เข้าใจถึงเหตุแห่งทุกข์หรือยังคะ
ถ้าเข้าใจแล้ว เข้าใจว่าอย่างไรมั่งคะ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ



เหตุแห่งทุกข์เหรอค่ะ เรามีความรู้สึกว่า เราทุกข์ที่สุด
คือช่วงเราเริ่มแต่งงานมีครอบครัว เพราะเราต้องห่างจากคุณแม่และพี่ๆ
ต้องมาเจอกับคน ที่พูดกันคนล่ะภาษา

แล้วก็ต้องมาเจอกับปัญหา ความไม่เข้าใจกับแฟนเรา ทำให้ชีวิตเรา
จากคนที่มีชีวิตที่สนุก (ตอนเราอยู่เมืองไทย เราทำงานแคชเชียร์โรงแรมค่ะ)
ได้เจอได้พูด ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆ
เปลี่ยนเป็นคนล่ะแบบ :b1:

เราเคยคิดน่ะ ว่าทำไมคนอื่นมีทุกข์ เราช่วยเค้าแก้ได้
แต่เวลาเราทุกข์ ทำไมเราถึงแก้ความทุกข์ของเราไม่ได้
เราก็เลยคิดว่า ในเมื่อเราแก้ความทุข์ของเราไม่ได้
เราก็ช่วยคนที่มีความทุกข์ สัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ไปซะ

คือเวลาที่เรารู้ว่า คนที่เค้าไม่มีข้าวกิน เราให้เงินเค้าไปแก้ปัญหา
เค้ามีข้าวแล้วน่ะ เด็กๆไม่ต้องอด นี่คือความสุขของเราค่ะ
(เราโดนพี่สาวว่าประจำ เพราะเงินเราจะให้ไว้กับพี่สาวเรา
เวลาเราจะให้ใคร พี่สาวเราต้องให้คนทำบัญชีไปโอน
ซึ่งบางครั้ง คนทำบัญชีเค้าก็งานยุ่ง
แล้วเราก็จะถามอยู่ๆบ่อยๆ โอนหรือยังๆ
พี่สาวเราก็ว่าเราเหมือนกันค่ะ)

ส่วนสัตว์ ถ้าเราเห็นสัตว์โดนขัง เช่นนกพอเราซื้อเค้ามาปล่อย
ได้เห็นเค้าบินอยู่บนท้องฟ้า มีชีวิตที่อิสระ เรามองแล้วก็รู้สึกมีความสุขดีค่ะ

แต่ตอนนี้ครอบครัวเรา เข้าใจกันได้ดีแล้ว ตอนนี้เราก็เลยยังคิดไม่ออก
ว่าเรามีความทุกข์หรือปล่าว เพราะเราคิดว่าเราอยู่ในโลกของธรรม
โลกของสัตว์(ไก่-กับสุนัขของเราน่ะค่ะ)
ซึ่งแฟนเราพูดว่า เราตามใจพวกเค้าซะจน
ไก่กับสุนัขของเรานิสัยเสีย :b1: :b41: :b55: :b49: :b38:


โพสต์ เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณเต้เข้าใจว่า เจ้ากรรมนายเวรนี่ หมายถึงอะไรหรือคะ?



เจ้ากรรมนายเวร ในความคิดของเราคือ
คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ ตัวเราเคยทำร้ายเค้า
ทำให้เค้าลำบาก ทำให้เค้าเสียหาย เคยโกงเค้าเคยฆ่าเค้า
เค้าก็ต้องรอ ที่จะแก้แค้นเรา
แต่ถ้าเราทำบุญให้เค้าบ่อยๆ เค้าก็จะได้มาอนุโมทนาบุญกับเรา
ซึ่งก็จะช่วยให้เค้า ค่อยๆพ้นจากทุกข์ค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสต์ เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
bbby เขียน:

พี่สาวเรามักจะพูดว่า "ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจเรื่องของชาวบ้านเค้า
เค้าจะอดหรือลำบาก ถ้าเธอไม่ต้องไปสนใจ เค้า เธอจะเป็นอย่างไง"


อ้างคำพูด:
คุณน้ำเขียน

แล้วตอบพี่สาวว่ายังไงหรือคะ?


ไม่เคยตอบเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เค้าพูดมัน
เป็นเรื่องที่หลายๆคนก็คิดอย่างนั้น
พี่สาวเราถ้าจะพูดในแง่ที่ถูกก็ถูก ถ้าพูดในแง่ที่ผิดก็คือผิด
แต่สำหรับเรา การที่ได้ช่วยคน
ให้พ้นจากความอดความลำบากคือความสุขของเราค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสต์ เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 10:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณน้ำเขียน

สติ สัมปชัญญะยังไม่แข็งแรงพอ ไม่เป็นไรค่ะ แก้ไขได้ด้วย การฝึกเจริญสติค่ะ


เห็นคุณน้ำพูดถึงการเจริญสติอยู่บ่อยๆ ช่วยสอนเราบ้างสิค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:


โพสต์ เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



คุณเต้ cool

ทางมีอยู่ ๒ ทาง ที่คุณจะต้องตัดสินใจเลือก

ทางที่ ๑ คือ คุณทำแบบเดิมที่เคยทำ แล้วนับวันสิ่งที่คุณได้รู้ได้เห็นจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
คุณสามารถช่วยคนอื่นๆได้ ชั่วครั้งชั่วคราว แต่คุณไม่สามารถช่วยตัวเองให้พ้นทุกข์ได้
และไม่สามารถสอนหรือแนะนำทางพ้นทุกข์ให้กับคนอื่นๆได้
คือ เขาต้องอาศัยคุณเป็นที่พึ่งพิงตลอดเวลา อุปมาคือ ต้องหาให้เขากินตลอดชีวิต

ทางที่ ๒ คุณทำแบบเดิมที่เคยทำ แต่เพิ่มเติมเรื่องการเจริญสติลงไป ผลที่ได้รับคือ

๑. คุณได้รู้จักเหตุแห่งทุกข์ที่ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นเหตุให้
คุณไม่คิดจะสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น

เช่นจากกระทู้นี้ นี่คือเหตุใหม่ที่คุณได้สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความไม่รู้
คุณโพสอะไรลงไป ทุกคำพูดนั้นจะย้อนกลับมาส่งผลให้กับคุณทุกคำพูดค่ะ
ถ้าสงสัยว่าทำไมน้ำถึงพูดแบบนี้ ถามได้นะคะ ยินดีอธิบายรายละเอียดให้ฟังค่ะ

viewtopic.php?f=4&p=221659#p221659

๒. เมื่อคุณมาเจริญสติ คุณจะเห็นตามความเป็นจริงมากขึ้น จะมีผลให้คือ
สิ่งที่คุณเคยได้รู้ได้เห็นตลอดเวลาจะหายไปจนหมดสิ้น อาจจะหลงเหลืออยู่คือ สัมผัส
ที่ยังคงพอสัมผัสได้บ้าง แต่สิ่งเหล่านี้จะมีกลับคืนมา และมีมากกว่าเดิม เมื่อปฏิบัติไปถึงจุดๆหนึ่ง

๓. เมื่อคุณสามารถช่วยตัวเองได้แล้ว คุณจะสามารถช่วยคนอื่นๆได้
คือสอนให้คนอื่นๆเขาช่วยเหลือตัวเองได้


ตกลงคุณเต้ตัดสินใจเลือกทางไหนคะ?
ไม่ต้องเกรงใจนะคะ สามารถพูดได้ตามความเป็นจริงค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำค่ะ แค่ใจนึกหรือว่าบอกกับคนอื่นๆ ว่าอย่าไปสนใจคนอย่างนั้น
ถ้าพูดอย่างนี้ เราต้องรับผลนั้นด้วยเหรอค่ะ :b1:

เวลาเพื่อนๆเรามาที่บ้าน เพื่อนเรามักจะพูดกับเราว่า
"ฉันเกลียดผู้หญิงคนนี้จริงๆนะ ถ้าบ้านเธอไม่อยู่ตรงนี้
ฉันจะไม่มาแถวนี้เลย" เราก็จะบอกว่า "อย่าไปสนใจกับคนอย่างนี้
ตาก็ไม่ต้องมอง หูก็ไม่ต้องฟังเรื่องมันก็จบ"

เวลาเค้าพูดอะไรกับเรา เรามักจะพูดว่า "ไม่รู้สิ" คือเราไม่อยากคุยกับเค้า



แต่เคยมีครั้งหนึ่งน่ะค่ะ ที่มีเงาดำมาบอกให้เราหยุด การสาปแช่งคนที่ทำให้เราโกรธ
เพราะกรรมนั้นจะตามเราไปชาติหน้าอีก เราก็หยุด


เลือกข้อ2ค่ะ


โพสต์ เมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้ำค่ะ เมื่อคืนเราเดินจงกลม โดยเปิดคำสวด "อามิโธโฝ"
แล้วเราก็สวด โดยนับประคำ เรารู้สึกว่า
จิตเราไม่ออกค่ะ จะอยู่ที่คำสวด "อามิโธโฝ" อย่างเดียวค่ะ
ใช้วิธีแบบนี้ได้หรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 00:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณน้ำค่ะ แค่ใจนึกหรือว่าบอกกับคนอื่นๆ ว่าอย่าไปสนใจคนอย่างนั้น
ถ้าพูดอย่างนี้ เราต้องรับผลนั้นด้วยเหรอค่ะ :b1:

เวลาเพื่อนๆเรามาที่บ้าน เพื่อนเรามักจะพูดกับเราว่า
"ฉันเกลียดผู้หญิงคนนี้จริงๆนะ ถ้าบ้านเธอไม่อยู่ตรงนี้
ฉันจะไม่มาแถวนี้เลย" เราก็จะบอกว่า "อย่าไปสนใจกับคนอย่างนี้
ตาก็ไม่ต้องมอง หูก็ไม่ต้องฟังเรื่องมันก็จบ"

เวลาเค้าพูดอะไรกับเรา เรามักจะพูดว่า "ไม่รู้สิ" คือเราไม่อยากคุยกับเค้า


แต่เคยมีครั้งหนึ่งน่ะค่ะ ที่มีเงาดำมาบอกให้เราหยุด การสาปแช่งคนที่ทำให้เราโกรธ
เพราะกรรมนั้นจะตามเราไปชาติหน้าอีก เราก็หยุด


คุณเต้พูดแบบนี้ไม่ผิดหรอกค่ะ ผลตรงนี้ไม่มี
แต่ลองกลับไปอ่านประโยคทั้งหมดที่พิมพ์ลงไปสิคะ มันไม่ใช่แค่นี้นะคะ



อ้างคำพูด:
เรามองว่า ลงทุนซื้อบ้านซะอย่างแพง แต่จู่ๆตัวเค้าเอง
ก็ตกแต่งบ้านให้เป็นนรก แม้แต่ลูกๆของเค้าเอง
ก็ไม่อยากจะกลับบ้าน เวลาคุยกับคู่หูของเค้า
ก็ตะโกนว่าคนที่ตัวเองเกลียดดังๆ (ไม่ใช่ว่าเราหรอกค่ะ)



อันนี้มันก็เรื่องของเขา ทำอย่างไร ย่อมได้รับผลไปตามนั้น
แต่คุณกำลังนำผลของเขามาสร้างเป็นเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นน่ะค่ะ


อ้างคำพูด:
เราเห็นแล้วรู้สึกสมเพช บ้านเราปลูกดอกไม้หอมๆหลายอย่าง มีแต่คนพูดว่า
เดินผ่านบ้านเธอ ได้กลิ่นดอกไม้หอมดี
แต่มีคนข้างบ้านเรากับคู่หูของเค้า บอกว่าเหม็น
แล้วคนอย่างนี้ คุณว่าน่าสงสารมั๊ย!ล่ะค่ะ
มีเพื่อนบ้านปลูกดอกไม้ให้ได้กลิ่นหอมๆ แต่ไม่รู้ว่ากลิ่นหอมของดอกไม้เป็นยังไง
ดอกแก้ว-ชมนาด-มะลิ-พุดซ้อน-พุดสามสี ดอกไม้พวกนี้มีกล่นเหม็นเหรอค่ะ



บางคนที่เขาไม่ชอบกลิ่นดอกไม้พวกนี้ก็มีค่ะ เขาบอกว่ามันเหม็นเขียว
เราไม่ควรไปว่าเขาแบบนั้นค่ะ ทั้งคำว่ารู้สึกสมเพชและน่าสงสาร


อ้างคำพูด:
คนพวกนี้คุณchickenpieค่ะ เค้า มีค่าของความเป็นคน
แค่เลข0เท่านั้นล่ะค่ะ



คนทุกคนล้วนมีค่าเท่ากันหมดค่ะ ไม่มีใครมีค่ามากกว่าใคร
เพราะทุกคนสุดท้ายล้วนต้องตายเหมือนกันหมด

เหตุที่แต่ละคนมีความแตกต่างกันไป ล้วนเกิดจากเหตุที่ทำมา
แล้วที่ใครชอบใคร ไม่ชอบใครนั้น ใครเชื่อใคร ไม่เชื่อใคร ล้วนเกิดจากเหตุที่ทำมาทั้งนั้นแหละค่ะ

ฉะนั้น เมื่อใครเขามีเหตุกับคนอื่น เราไม่ควรไปสนับสนุนการกระทำนั้นๆ
เพราะผลนั้น จะส่งกลับมาที่เรา หากเราจะให้ความเห็น ควรให้ความเป้นแบบกลางๆ
คือ มองเรื่องเหตุและผลเป็นหลัก เราไม่ควรไปว่าใคร ถึงแม้จะเป็นเพียงตัวหนังสือก็ตาม

เมื่อก่อนน้ำเองก็เคยทำค่ะ ทำแบบคุณเต้นี่แหละ เข้าไปตอบกระทู้
แล้วยังมีการให้ค่าอยู่ เช่นไปติติงคนอื่นๆ หรือไปสนับสุนนความที่ไม่ดีของคนอื่นๆ ( การเพ่งโทษ )
โดนหมดค่ะ ในสิ่งที่เคยทำเอาไว้ ทำทางเน็ต โดนใช้ทั้งทางเน็ตและทางโลก


bbby เขียน:
เมื่อคืนเราเดินจงกลม โดยเปิดคำสวด "อามิโธโฝ"
แล้วเราก็สวด โดยนับประคำ เรารู้สึกว่า จิตเราไม่ออกค่ะ
จะอยู่ที่คำสวด "อามิโธโฝ" อย่างเดียวค่ะ ใช้วิธีแบบนี้ได้หรือปล่าวค่ะ



ได้ค่ะ เหตุของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเริ่มต้นจึงแตกต่างกันไปตามเหตุ
คุณเต้ถนัดแบบนี้ ก็ทำแบบนี้ไปก่อน น้ำจะดูเรื่องสติและสมาธิเป็นหลักค่ะ

หลังจากเดิน แล้วได้นั่งต่อหรือเปล่าคะ?
ถ้าได้นั่งต่อ นั่งแล้วเป็นยังไงมั่งคะ?


bbby เขียน:
เลือกข้อ2ค่ะ



เมื่อคุณเต้ตัดสินใจเลือกข้อ 2 ต้องทำตามในสิ่งที่น้ำให้ทำตามนะคะ
เพราะมันมีสิ่งที่คุณเต้ควรต้องรู้ด้วย คือ เรื่องสภาวะ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ
ที่จะทำให้สภาวะของคุณผ่านไปได้ด้วยดี คือ เราทำกันตามเหตุ ไม่ได้ทำตามรูปแบบ

เดี๋ยวน้ำจะเขียนอธิบายเรื่องสภาวะให้คุณเข้าใจ
สภาวะมี 2 สภาวะ คือ สภาวะที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา หรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
และ สภาวะที่เกิดขึ้นภายใน สภาวะนี้เกิดขึ้นขณะที่เราปฏิบัติ
มันจะมีเรื่องการกำหนดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หลังจากเดิน แล้วได้นั่งต่อหรือเปล่าคะ?
ถ้าได้นั่งต่อ นั่งแล้วเป็นยังไงมั่งคะ?



เราจะถามคุณน้ำเรื่องนี้เช่นกันค่ะ ทีนี้พอเรานั่งสมาธิน่ะค่ะ
พอเรานั่ง ไม่รู้ว่าเราไปนึกหรือภาพมาเองน่ะค่ะ

ก็เป็นภาพของพระโพธิสัตว์กวนอิมน่ะค่ะ เราก็ลืมตาแล้วรวมจิตใหม่
พอหลับตาก็ยังมีภาพของท่านค่ะ เราก็เลยคิดว่า
สงสัยเรายังไปนึกภาพท่านอยู่ เราก็เลยไม่ได้นั่งค่ะ ไปนอน
พอหลับตา ก็ยังเห็นภาพท่านอยู่
เราก็เลยนอนสวด <อามิโธฝอ> ไปจนหลับค่ะ

บางครั้งเราก็เห็นเป็นภาพพระพุทธรูปค่ะ
คุณน้ำค่ะ ถ้าเราเห็นภาพนี่ จิตของเรายังเป็นสมาธิอยู่หรือปล่าวค่ะ
นี่หล่ะค่ะที่เราสงสัย :b8: :b41: :b55: :b48:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

โพธิสัตว์กวนอิม :b20:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
หลังจากเดิน แล้วได้นั่งต่อหรือเปล่าคะ?
ถ้าได้นั่งต่อ นั่งแล้วเป็นยังไงมั่งคะ?



เราจะถามคุณน้ำเรื่องนี้เช่นกันค่ะ ทีนี้พอเรานั่งสมาธิน่ะค่ะ
พอเรานั่ง ไม่รู้ว่าเราไปนึกหรือภาพมาเองน่ะค่ะ

ก็เป็นภาพของพระโพธิสัตว์กวนอิมน่ะค่ะ เราก็ลืมตาแล้วรวมจิตใหม่
พอหลับตาก็ยังมีภาพของท่านค่ะ เราก็เลยคิดว่า
สงสัยเรายังไปนึกภาพท่านอยู่ เราก็เลยไม่ได้นั่งค่ะ ไปนอน
พอหลับตา ก็ยังเห็นภาพท่านอยู่
เราก็เลยนอนสวด <อามิโธฝอ> ไปจนหลับค่ะ

บางครั้งเราก็เห็นเป็นภาพพระพุทธรูปค่ะ
คุณน้ำค่ะ ถ้าเราเห็นภาพนี่ จิตของเรายังเป็นสมาธิอยู่หรือปล่าวค่ะ
นี่หล่ะค่ะที่เราสงสัย :b8: :b41: :b55: :b48:




คุณเต้ ... เดินให้มากกว่านั่งนะคะ
อย่าคิดจะนั่งอยู่เรื่อยๆ เดินให้เยอะๆค่ะ

สิ่งที่คุณถามมานั้น เรื่องการเห็นนิมิต
นิมิต สามารถเห็นได้ทั้งตอนที่ลืมตาและหลับตาค่ะ :b38:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 260 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 18  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร