วันเวลาปัจจุบัน 20 มิ.ย. 2025, 04:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 12:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยมากๆค่ะ
คนที่เป็นมะเร็ง แต่ไม่ต้องการรักษา
แต่ต้องการที่จะเสียชีวิต ทั้งๆที่มีเงินที่จะรักษา แต่นำเงินส่วนนั้นไปทำบุญ
ถ้าเสียชีวิต แบบนี้เรียกว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือปล่าวค่ะ

ไม่ใช่ตัวของเราหรอกค่ะ :b1: เพื่อนน่ะค่ะเป็นมะเร็งทรวงอกระยะที่3
ผ่าตัดเรียบร้อยเดือนกว่า แต่ต้องรักษา โดยการฉายแสง
แต่ไม่รับการรักษา สาเหตุเพราะน้อยใจแฟน
หมอบอกว่า ถ้าไม่รักษา จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน8เดือน
อย่างนี้เรียกว่าฆ่าตัวตายใช่มั๊ย!ค่ะ :b41: :b55: :b46:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 01 ส.ค. 2010, 12:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 12:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สงสัยมากๆค่ะ
คนที่เป็นมะเร็ง แต่ไม่ต้องการรักษา
แต่ต้องการที่จะเสียชีวิต ทั้งๆที่มีเงินที่จะรักษา แต่นำเงินส่วนนั้นไปทำบุญ
ถ้าเสียชีวิต แบบนี้เรียกว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือปล่าวค่ะ

ไม่ใช่ตัวของเราหรอกค่ะ :b1: เพื่อนน่ะค่ะเป็นมะเร็งทรวงอกระยะที่3
ผ่าตัดเรียบร้อยเดือนกว่า แต่ต้องรักษา โดยการฉายแสง
แต่ไม่รับการรักษา สาเหตุเพราะน้อยใจแฟน
หมอบอกว่า ถ้าไม่รักษา จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน8เดือน
อย่างนี้เรียกว่าฆ่าตัวตายใช่มั๊ย!ค่ะ :b41: :b55: :b46:


สวัสดี คุณ bbby
ถ้า... สาเหตุเพราะน้อยใจแฟนเป็นเหตุผลหลัก ก็เป็นการประชดชีวิตด้วยความตาย

แต่.. เช่นนั้น ไม่คิดถึงขนาดนั้น

สิ่งที่คุณ bbby ทำได้คือ เพื่อนคุณกำลังกลัวความตาย กลัวความเงียบเหงา และต้องการกำลังใจเพื่อต่อสู้กับความตายอันใกล้เข้ามา

ความโทมนัส ความคับแค้นใจ โดยไม่มีการปลอบประโลมด้วยธรรมะอันเป็นน้ำเย็น คติต่อไปคือทุคติ
และเพื่อนคุณก็ยังมุ่งหวังสุคติ จึงคิดจะนำเงินไปทำบุญ

การให้ความกรุณาช่วยเหลือเพื่อนคุณ จึงเป็นเรื่องจำเป็น คุณต้องชักชวนให้เพื่อนของคุณแสวงหาความยินดีในธรรม ด้วยการบำเพ็ญภาวนาเพื่อให้จิตสงบสงัดจากความเดือดร้อนใจ สะสมเป็นทุนรอนในภพต่อไป

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สวัสดี คุณ bbby
ถ้า... สาเหตุเพราะน้อยใจแฟนเป็นเหตุผลหลัก ก็เป็นการประชดชีวิตด้วยความตาย

แต่.. เช่นนั้น ไม่คิดถึงขนาดนั้น

สิ่งที่คุณ bbby ทำได้คือ เพื่อนคุณกำลังกลัวความตาย กลัวความเงียบเหงา และต้องการกำลังใจเพื่อต่อสู้กับความตายอันใกล้เข้ามา

ความโทมนัส ความคับแค้นใจ โดยไม่มีการปลอบประโลมด้วยธรรมะอันเป็นน้ำเย็น คติต่อไปคือทุคติ
และเพื่อนคุณก็ยังมุ่งหวังสุคติ จึงคิดจะนำเงินไปทำบุญ

การให้ความกรุณาช่วยเหลือเพื่อนคุณ จึงเป็นเรื่องจำเป็น คุณต้องชักชวนให้เพื่อนของคุณแสวงหาความยินดีในธรรม ด้วยการบำเพ็ญภาวนาเพื่อให้จิตสงบสงัดจากความเดือดร้อนใจ สะสมเป็นทุนรอนในภพต่อไป



เรื่องเพื่อนเรื่องอะไรก็ช่าง เค้าจะเป็นคนที่ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
เค้าเป็นคนที่ชอบสวดมนต์ชอบทำบุญ
ชอบคุยกับเราเรื่องธรรมะ เชื่อคนง่ายเราต้องเตือนเค้าบ่อยๆ
แต่ไม่ค่อยได้ผล

เค้าจะมีปัญหาเรื่องแฟนเรื่องเดียว เพราะแฟนจบต่างประเทศ
มีฐานะ แฟนเค้าจะไม่ฟังเค้าพูดอะไรทั้งนั้น
คิดแต่ว่าเค้าคือคนโง่

แต่ตัวเค้าเองก็ดื้อเหมือนกัน ก่อนที่จะเจ็บ เค้าไปรับองค์เข้าที่ตัวเค้า
แล้วก็เชื่อว่าองค์ที่เค้ารับมา จะช่วยเค้าได้
จนมะเร็งสู่ระยะที่3ถึงยอมไปผ่าตัด

เราก็มีพูดกับเค้าว่า ทำแบบนี้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายน่ะ
ถ้ามีครอบครัวแล้ว คิดว่าไม่มีความสุข ก็เลิกสิ
แต่เค้าก็ยืนยันคำเดียว ว่าเค้าอยากจะตาย

แต่เค้าก็ให้เราถามน่ะ ว่าเค้าทำแบบนี้ เรียกว่าฆ่าตัวตายหรือไม่
เรามีบอกให้เค้าไปคืนองค์อะไรซ่ะ
เพราะเราคิดว่า การที่บางคนไปรับองค์มา
จะเป็นไปได้มั๊ยค่ะ ถ้าองค์นั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวร :b41: :b55: :b46: :b38:


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 14:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
...
เรื่องเพื่อนเรื่องอะไรก็ช่าง เค้าจะเป็นคนที่ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
เค้าเป็นคนที่ชอบสวดมนต์ชอบทำบุญ...

...ก่อนที่จะเจ็บ เค้าไปรับองค์เข้าที่ตัวเค้า
แล้วก็เชื่อว่าองค์ที่เค้ารับมา จะช่วยเค้าได้
จนมะเร็งสู่ระยะที่3ถึงยอมไปผ่าตัด...

แต่เค้าก็ให้เราถามน่ะ ว่าเค้าทำแบบนี้ เรียกว่าฆ่าตัวตายหรือไม่
เรามีบอกให้เค้าไปคืนองค์อะไรซ่ะ
เพราะเราคิดว่า การที่บางคนไปรับองค์มา
จะเป็นไปได้มั๊ยค่ะ ถ้าองค์นั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวร ...


การสวดมนต์ทำบุญ ของเพื่อนคุณ bbby ย่อมไม่อาจทำให้จิตนั้นสงบได้ นั่นคือปัญหา

เพราะความหวังว่าจะไปเกิดในสุคติภพ อันอยู่ร่วมกับเทพได้ภายหลังความตายเพราะ ว่าได้รับองค์มาแล้ว

แต่จิตใจกลับไม่ได้ละความยึดมั่นถือมั่น เต็มไปด้วยกิเลส โลภะ โทสะ โมหะเต็มตัว ทุคติย่อมหวังได้

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 01 ส.ค. 2010, 14:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่ปราศจาก
ความพอใจ ไม่ปราศจากความรัก ไม่ปราศจากความระหาย ไม่ปราศจากความเร่าร้อน ไม่ปราศ-
*จากความทะเยอทะยานอยากในรูป ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุผู้ไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่
ปราศจากความพอใจ ไม่ปราศจากความรัก ไม่ปราศจากความระหาย ไม่ปราศจากความเร่าร้อน
ไม่ปราศจากความทะเยอทะยานอยากในรูปนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อ
ความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น ข้อที่จิตของภิกษุไม่น้อมไปเพื่อ
ความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น
อย่างนี้ ชื่อว่าเครื่องผูกพันใจประการที่ ๓ ที่ภิกษุนั้นยังถอนไม่ได้แล้ว.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง ภิกษุจักประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อปรารถนาเทพนิกาย
อันใดอันหนึ่งว่า เราจักได้เป็นเทพเจ้าหรือเทพองค์ใดองค์หนึ่งด้วยศีลอันนี้ ด้วยข้อวัตรอันนี้
ด้วยตบะอันนี้ หรือด้วยพรหมจรรย์อันนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุผู้จักประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อปรารถนาเทพนิกายอันใดอันหนึ่งว่า เราจักได้เป็นเทพเจ้าหรือเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีล
อันนี้ ด้วยข้อวัตรอันนี้ ด้วยตบะอันนี้ หรือด้วยพรหมจรรย์อันนี้นั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความ
เพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น ข้อที่
จิตของภิกษุไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ
เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น อย่างนี้ ชื่อว่าเครื่องผูกพันใจ ประการที่ ๕ ที่ภิกษุนั้นยังถอนไม่ได้แล้ว
เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการเหล่านี้ ชื่อว่าอันภิกษุนั้นยังถอนไม่ได้แล้ว


http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=3449&Z=3630&pagebreak=0

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่เพื่อนคุณประสพ คือทุกข์ล้วนๆ

ทุกข์เพราะตัณหา อันมีโมหะเป็นมูลมีอวิชชาเป็นปัจจัย

ศรัทธาหยั่งลงไปในสิ่งใด เป็นเรื่องที่ยากจะไถ่ถอน

เพื่อนของเพื่อนเช่นนั้น ก็มีอาการแบบนี้ ใครบอกใครกล่าวก็ไม่ฟัง...

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
การสวดมนต์ทำบุญ ของเพื่อนคุณ bbby ย่อมไม่อาจทำให้จิตนั้นสงบได้ นั่นคือปัญหา

เพราะความหวังว่าจะไปเกิดในสุคติภพ อันอยู่ร่วมกับเทพได้ภายหลังความตายเพราะ ว่าได้รับองค์มาแล้ว

แต่จิตใจกลับไม่ได้ละความยึดมั่นถือมั่น เต็มไปด้วยกิเลส โลภะ โทสะ โมหะเต็มตัว ทุคติย่อมหวังได้


สิ่งที่คุณเช่นนั้นเขียนมา ถูกทั้งหมดเลยค่ะ
แล้วแบบนี้ เรียกว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือปล่าวค่ะ
เพราะเค้ามั่นใจตัวเค้าเองมากๆเลยค่ะ
ว่าเค้าจะต้องไปเกิดบนสวรรค์ เบื่อชีวิตทางโลก



ขอถามอีกข้อน่ะค่ะ
ถ้าคนเราตายแล้ว เราคิดว่าให้ทำพิธีศพแค่วันเดียวนี่
จะได้หรือปล่าวค่ะ สิ่งนี้เราก็เคยคิดเหมือนกัน
เรามีพูดกับแฟนไว้เหมือนกัน
เพราะเราคิดว่าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากอะไรมาก
(แค่คิดๆน่ะค่ะ เรายังไม่อยากตายค่ะ อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างบุญไปเรื่อยๆ) :b41: :b55: :b46: :b38:


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แล้วแบบนี้ เรียกว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือปล่าวค่ะ
เพราะเค้ามั่นใจตัวเค้าเองมากๆเลยค่ะ
ว่าเค้าจะต้องไปเกิดบนสวรรค์ เบื่อชีวิตทางโลก


คุณหมอบอกว่าถ้าไม่รักษาก็จะอยู่ได้อีก 8 เดือน
แล้วถ้ารักษาจะมีโอกาสหายหรือไม่... ถ้าเป็นเพียงยืดอายุ ออกไป
การตัดสินใจของเพื่อนคุณ ก็ไม่เป็นการฆ่าตัวตาย
เพียงแต่รอให้ โรคภัยเบียดเบียนจนสังขารทนอยู่ไม่ได้ สิ้นอายุไปเอง

จะบอกว่า ไปเกิดบนสวรรค์ หรือไม่ก็ขี้นอยู่กับเหตุปัจจัย

หากให้ทานรักษาศีล ไม่ล่วงอกุศลกรรมบถ ขณะที่จะถึงมรณะกาลระลึกถึงศีลที่ได้ทำมีใจยินดีในศีลที่ได้รักษา สุคติภพย่อมเป็นอันหวังได้ อย่างน้อยก็ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกหน แต่จะสมบูรณ์เพรียบพร้อมอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับเหตุ หรือกรรมที่ได้กระทำไว้ด้วย บางทีก็ได้เกิดเป็นเทวดาเลยก็ได้ครับ.

แต่.. ตามที่เล่ามา จิตของเพื่อนคุณ bbby ยังประกอบด้วยความโทมนัส ถืออัตตาเป็นประมาณ จิตมีโมหะกลุ้มรุม แม้จะรักษาศีล แต่ถ้าไม่นึกถึงศีลที่ได้รักษา ทานที่ได้ให้ ทุคติภพ คือแม้จะมิใช่ นรก เปรต อสุรกาย แต่เดรัจฉาน ก็เป็นอันหวังได้ครับ. ในกามภพ เดรัจฉาน นี่อยู่ในภพภูมิเดียวกับมนุษย์ครับ มีมากเพราะ มิจฉาทิฏฐิครับ.

อ้างคำพูด:
ขอถามอีกข้อน่ะค่ะ
ถ้าคนเราตายแล้ว เราคิดว่าให้ทำพิธีศพแค่วันเดียวนี่
จะได้หรือปล่าวค่ะ สิ่งนี้เราก็เคยคิดเหมือนกัน
เรามีพูดกับแฟนไว้เหมือนกัน
เพราะเราคิดว่าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากอะไรมาก
(แค่คิดๆน่ะค่ะ เรายังไม่อยากตายค่ะ อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างบุญไปเรื่อยๆ)


เช่นนั้น จำได้ว่า มีพิธีกรรมหนึ่งเป็นของมุสลิม หรือฮินดู ไม่แน่ใจครับ ที่ต้องทำพิธีศพให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินของวันถัดไปครับ
ถ้าไม่เกรงญาติ พี่น้องจะครหา นินทา หรือจองเมรุทัน หรือจะฝังก็เตรียมหลุมทัน หรือจะเผาเชิงตะกอน
เผานั่งยาง ก็ตามสบายครับ
ตายแล้ว ก็แล้ว ไม่ต้องคิดมาก สิ่งที่จัดการคือมหาภุติ ที่ไม่มีวิญญาณครอง ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


cool cool cool

งานศพเป็นเรื่องของประเพณี นัยคือ เป็นเรื่องของคนที่ยังมีชีวิตอยู่... เขาจะตั้ง 7 วัน 100 วัน หรือเอาไปดอง เราก็ไปเกิดใหม่เรียบร้อยแล้ว...
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าหวังให้เรียบง่าย ควรเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้คนข้างหลังกระอักกระอ่วนใจ...

ฆ่าตัวตายหรือไม่ คงต้องดูที่เจตนาว่า เจตนา ตัดรอน ชีวิตของตนหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการ ไม่รับการรักษา
เพราะงั้น เจตนาจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่มีทางรู้ได้ แต่ถ้าเขาต้องการ เตรียมพร้อม กับการตาย ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ ก็คงต้องหันไปปฏิบัติธรรมในช่วงเวลาสุดท้าย ซึ่งไม่ใช่แค่ทำบุญ... :b6: :b6: :b6:

การฆ่าตัวตายเป็นบาปมหันต์ เพราะจิตสุดท้ายที่ไม่ต้องการมีชีวิตอย่างรุนแรง มันอาจส่งผลอะไรบางอย่างต่อภพหน้า ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่า จะส่งผลอย่างไร แต่มันต้องหนักแน่ๆ
ส่วนเพื่อน จขกท. ไม่น่าจะหนักหนาอะไรแบบนั้น เพราะดูเหมือนผสมโรงไปกับโรคร้าย...


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณหมอบอกว่าถ้าไม่รักษาก็จะอยู่ได้อีก 8 เดือน
แล้วถ้ารักษาจะมีโอกาสหายหรือไม่... ถ้าเป็นเพียงยืดอายุ ออกไป
การตัดสินใจของเพื่อนคุณ ก็ไม่เป็นการฆ่าตัวตาย
เพียงแต่รอให้ โรคภัยเบียดเบียนจนสังขารทนอยู่ไม่ได้ สิ้นอายุไปเอง



เราดูว่า ถ้าเค้ารับการรักษา เรามองว่าเค้าหายน่ะ
เพราะร่างกายเค้าดีมากๆ พอแผลผ่าตัดหาย เค้าก็ขับรถไปไหนต่อไหนได้
นั่งทานของได้ ตระเวณขับรถทำบุญระยะทางไกล
ก็ขับไปขับไปคนเดียวด้วย

คือถ้าร่างกายเค้าไม่ดีเลย แต่เค้าพร้อมที่จะเสียชีวิต
พวกเราก็จะไม่กลัวอะไร จะยินดีด้วยที่เค้าจะได้หลดพ้นจากการทรมาน
แต่นี่ร่างกายก็ดีๆ แต่ไม่รักษา ปล่อยให้เชื้อรามไปเรื่อยๆ

พวกเราก็เลยกลัวว่า แบบนี้เรียกว่าเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย
โดยอาศัยเชื้อมะเร็งหรือปล่าว ซึ่งตอนนี้ เค้าเหมือนไปไหนไม่ไหวแล้วค่ะ
ดูๆแล้ว คิดว่าไม่ถึง8เดือนหรอกค่ะ แต่ก็ยังนั่งสวดมนต์ได้
เค้ามักจะพูดว่า เค้ากำลังจะหลุดพ้นจากความทุกข์แล้ว

เค้าก็สั่งเช่นกันค่ะ ให้มีพระจีนมาสวดคืนเดียว แล้วเผาเลยคือ
เราก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยน่ะ

มึนๆเหมือนกัน เพราะเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันมาก
นับถือกันเหมือนพี่น้อง การจากกันโดยความตายนี่
เป็นสิ่งที่ทรมานสำหรับคนที่อยู่น่ะค่ะ
เค้ามีซื้อต้นไม้มาให้เราปลูก บอกว่าเวลาคิดถึงเค้า
ให้ดูต้นไม้ของเค้า :b7:

อ้างคำพูด:
เช่นนั้น จำได้ว่า มีพิธีกรรมหนึ่งเป็นของมุสลิม หรือฮินดู ไม่แน่ใจครับ ที่ต้องทำพิธีศพให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินของวันถัดไปครับ


ถ้าพิธีศพของคนมุสลิม จะต้องฝังภายใน24ชม.
ของคนอินดู1วัน ต้องเผาก่อนพระอาทิตย์ตกดินค่ะ :b1:


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ฆ่าตัวตายหรือไม่ คงต้องดูที่เจตนาว่า เจตนา ตัดรอน ชีวิตของตนหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการ ไม่รับการรักษา
เพราะงั้น เจตนาจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่มีทางรู้ได้ แต่ถ้าเขาต้องการ เตรียมพร้อม กับการตาย ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ ก็คงต้องหันไปปฏิบัติธรรมในช่วงเวลาสุดท้าย ซึ่งไม่ใช่แค่ทำบุญ...


คุณmurano อ่านที่เราเล่ามา คุณคิดว่า
เค้าเจตนาตัดรอนชีวิตเค้าเองหรือปล่าวค่ะ
ถ้าสำหรับเราแล้ว เรามองว่าเค้าจงใจและเจตนา
ซึ่งเราก็มีพูดกับเค้าน่ะ ว่าให้เค้ารับการรักษา
แล้วสร้างบุญต่อไปไม่ดีกว่าเหรอ

เค้าเหมือนต้องการตาย ประชดแฟนเค้าด้วย
ส่วนแฟนเค้าก็แปลกๆ เหมือนไม่ค่อยสนใจ

ถ้าหากการตายแบบเค้า ไม่ผิดหลักธรรมะ
ถ้างั้นเวลาใครอยากจะตาย เวลาป่วยก็ไม่ต้องรักษา
ตระเวณทำบุญ ตั้งใจนั่งสมาธิ
เรามานั่งคิดๆแล้ว เราก็งง
หาข้อสรุปไม่ได้
คุณmuranoเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือปล่าวค่ะ :b1:


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


คือ... เรื่องแบบนี้มันมีหลายแง่มุมนะ

การไม่รับการรักษา ในกรณีที่รู้ว่ารักษาไม่หายน่ะ มันก็ไม่ใช่การฆ่าตัวตายหรอกนะ แต่มันเป็นการยอมรับว่า ตัวจะตายต่างหาก ถ้ายอมรับได้เร็ว ก็มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธการรักษาได้เร็ว

ทีนี้ ปัญหาก็อยู่คำว่า รู้ และคำว่า หาย ไง
คนเรารู้ไม่เหมือนกัน เขาอาจจะ "รู้" ว่า เขาไม่หายก็ได้ และคำว่า "หาย" คนเราก็ให้ความหมายไม่เหมือนกันอีก...

เท่าที่อ่านนะ เราคิดว่า เพื่อน จขกท. เขา คิดว่า เขาไม่หายมากกว่า ก็มะเร็งนี่นะ... และอาจจะผสมกับความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาด้วย (ดูจากที่เอาต้นไม้มาปลูก เขาอาจกำลังน้อยใจแฟนที่ไม่ใยดีเท่าไร และคิดว่า จขกท.ยังใยดีเขามากกว่า)

ใครเป็นมะเร็งก็ตกใจทุกคน...


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ
ถ้าไม่ยอมรักษา เพราะยอมจำนนต่อความเจ็บไข้
รู้ว่าถึงรักษาไป ก็ไม่หาย มีแต่จะเสียทรัพย์ไปเปล่าๆ ก้มหน้ายอมรับ
ผลของกรรม อย่างไม่ทุรนทุราย คิดว่าจิตเป็นกุศล มีที่หมายเป็นสุขคติ

แต่หากต้องการทำแบบนี้ ด้วยอารมณ์ของความน้อยเนื้อต่ำใจ แทนที่เป็นบุญกุศล
ข้างต้น ก็จะเจือด้วย "โทสะ" ทำให้บุุญไม่สมบูรณ์ เจือปนด้วยกิเลส ทำให้
อานิสงส์ ลดลงไป แม้ว่าจะนำเงินไปทำบุญ ก็จะได้ผลไม่เต็มที่

บอกให้เขาละความน้อยใจ ออกไป วางใจยอมรับ
ผลของ"ทุกข์" ที่กำลังได้รับอยู่ด้วยใจที่เป้นกลางๆ
จะได้รับความสุขใจ มากกว่าความเศร้าใจ
และไม่ถือเป้นการทำร้ายตัวเอง แต่เป็นการยอมรับ
ในความเป็นจริง ไม่เจือปน ไม่ปรุงแต่ง
ถือว่ากำลังชดใช้หนี้ให้หมดไป

อนุโมทนาค่ะคุณเต้ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 01 ส.ค. 2010, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 22:23
โพสต์: 8

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโลก แถมยังรู้อีกด้วยว่า รักษาไม่หาย เป็นมะเร็งระยะที่3ด้วย การไม่รักษาตัวเองเพราะต้องการประชดแฟนนั้นไม่ใช่ประเดน แน่ เพราะถึงจะประชดหรือไม่ประชดก็ไม่หายไปจากโรคที่เป็นอยู่ แต่ผู้ป่วยก็นับว่าเป็นผู้มีกำลังใจดีมาก ที่คิดว่าถึงตายก็คงได้ไปสวรรค์ เพราะสวดมนต์ประจำ คนเราตายแล้วจะไปสู่ภพภูมิไหน ขึ้นอยู่กับจิตก่อนตายว่าอยู่ในอารมณ์ใดเป็นสำคัญ ถ้าใจขุ่นมัวก็ไปสู่ภูมิภพที่ไม่ดี ถ้าจิตใจผ่องใสระลึกถึงผลบุญที่ตัวเองทำ ก็ต้องไปสู่สัมปรายภพอย่างแน่นอน อย่างเพื่อนคุณคนนี้ อยู่ในข่ายเตรียมตัวก่อนตาย เพราะคิดถึงแต่ผลบุญที่ตัวเองทำไว้อยู่ตลอด การไม่ยอมรักษาตัวเอง จะว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่แน่นอน


โพสต์ เมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 04:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 03:10
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากให้อ่านมหาชนกนะครับ // บางทีคิดถึงตัวเองอย่างเดียว ลองนึกถึงคนรอบข้างบ้างครับ พ่อแม่พี่น้อง..ไม่สงสารเหรอ การดำรงค์ชีวิตอยู่ คือ สิ่งสำคัญ เป็นผีเป็นเทวดานึกจะทำบุญมันไม่ได้นะ มีชีวิตอยู่ดีที่สุด..บางคนแม้เพียงระยะสั้นๆกลับทำคุณต่อคนอื่นได้เอนกอนันต์มากนัก(อย่างแม่ต้อยไง) สู้ต่อไปครับจนกว่าลมหายใจจะไม่มี อย่าให้ชีวิตเราไร้ความหมายกับการหายใจ..แล้วรอความตายไปวันๆ สู้ๆนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร