10 ล้านคนต่อครั้ง เป็นตัวเลขผู้ชม รายการ Let s get cooking with Tommy Tang หรือรายการ มาทำอาหารกันเถอะกับทอมมี่ แทงค์ ซึ่งเป็นรายการสอนทำอาหารไทยในอเมริกา ออกอากาศทาง PBSสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีเครือข่ายกว่า 310 ช่อง ทั่วสหรัฐอเมริกา

ที่สำคัญ คือ รายการนี้มี นายทอมมี่แทงค์ คนไทยแท้เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินรายการนอกจากนี้แล้วยังอีกรายการหนึ่ง คือ Modern Thai Cuisine หรือรายการอาหารไทยประยุกต์ ซึ่งดำเนินการออกอากาศมาแล้วประมาณ 5 ปีทอมมี่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการตั้งร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา ระหว่างสงครามเวียดนามเขาตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกาด้วยความช่วยเหลือ จากเพื่อน เพื่อช่วยรักษาร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ในฮอลลีวู้ด รัฐแคลิฟอร์เนีย เอาไว้ ด้วยฝีมือปรุงอาหารไทยในที่สุดเขาก็เป็นที่รู้จักอย่างดีในแวดวงดารา ฮอลลีวู้ด ขณะเดียวกันเขายังเป็นผู้ทำให้"โลกรับรู้ถึงรสชาติความเป็นไทย" ด้วยการสอนทำอาหารไทยผ่านสถานีโทรทัศน์

ทั้ง 2 รายการแม้ว่าจะเป็นรายการสอนทำอาหาร แต่ทอมมี่ได้สอดแทรกการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาไว้อย่างแนบเนียน โดยระหว่างรออาหารสุกนั้นจะพาไปเที่ยววัดและเทศกาลต่างๆ และสิ่งหนึ่งที่ตามมา คือ นักท่อเที่ยวส่วนหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยหลังจากดูราการโทรทัศน์ดัง ล่าว และล่าสุดเมื่อปลายปี 2551 ต่อเนื่องต้นปี 2552 เขาได้เดินทางมาถ่ายทำเรื่องราวทั้งหมด 26 ตอน เพื่อนำไปอากาศสถานีโทรทัศน์PBS ของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2552 เป็นต้นไปเป็นเวลา 26 สัปดาห์ หรือ ประมาณครึ่งปี


ต้องเป็น วัดที่สำคัญวัดที่มีคุณค่าทางจิตใจของผู้ได้มาท่องเที่ยว วัตรปฏิบัติของพระสงฆ์เป็นที่น่านับถือ วัดไหนที่ดังแล้วยิ่งทำเป็นพุทธพาณิชย์ รวมทั้งพระไม่อยู่ในวัตรปฏิบัติอันดีงามจะไม่ไปถ่ายทำอย่างเด็ดขาด รวมทั้งวัดที่สร้างศาสนสถานใหญ่โตเกินความจำเป็นก็จะไม่เน้นด้วย นี่คือหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการเลือกวัดเพื่อถ่ายทำรายการทีวีของทอมมี่ สำหรับวัดสำคัญๆที่ ทอมมี่ ได้ถ่ายทำในครั้งนี้ ประกอบด้วย เส้นทางไว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ ตามคติความเชื่อของคนไทยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เช่น 1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) มีคติความเชื่อว่า "ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมาตลอดปี" 2 .วัดชนะสงคราม มีคติความเชื่อว่า "ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้" 3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) มีคติความเชื่อว่า "ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ อยู่ดีกินดีตลอดปี"4.วัดสุทัศนเทพวราราม มีคติความเชื่อว่า "ไหว้พระวัดสุทัศนฯมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"และ 5.วัดระฆังโฆษิตารามมีคติความเชื่อว่า "ไหว้พระวัดระฆังมีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี" เป็นต้น

ส่วนวัดในต่าง จังหวัดเช่น วัดตะพานหิน วัดพระธาตุศรีชุม จ.สุโขทัย วัดถ้ำทอง วัดท่าซุง (วัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) จ.อุทัยธานี ส่วนใน จ.พระนครศรีอยุธยามี 3 วัด คือ วัดพนัญเชิงฯ วัดพุทไธศวรรย์ วัดโพธิแก้วเจษฎาราม และวัดสำเร็จ(สำริด) อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีจุดเด่น คือ พระพุทธรูปทุกๆ องค์ทำจากปะการัง และยังมีพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยหยกขาวทั้งองค์ หน้าตักประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 1.5 เมตร ศิลปะพม่า นอกจากนี้ยังมีวัดอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง

ผมเอาเรื่องอาหารไทยกับพุทธศาสนามารวมไว้ในรายการเดียวกันเพราะทั้ง 2 อย่างเกี่ยวข้องกัน อาหารไทยถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารทางกาย ในขณะที่พุทธศาสนาก็ถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารทางใจ ผมเพียงอยากให้ผู้ชมอิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจในเวลาเดียวกัน ทอมมี่กล่าว

พร้อมกันนี้ทอมมี่ยังบอกด้วยว่า เหตุที่พุทธศาสนาก็ถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารทางใจนั้น เพราะหลักธรรมของพุทธศาสนาเป็นหลักปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องเหตุและผล มิใช่เป็นเรื่องของการอ้อนวอนและร้องขอศาสดา ทุกอย่างที่จะได้มานั้นต้องมาจากการกระทำของตนเองเป็นหลัก อย่างกับกรณีของพระเครื่ององค์เดียวที่แขวนมาตลอดชีวิตนั้นเป็นพระเครื่อง ที่ได้รับมอบมาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งโดยไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร ทั้งนี้แขวนเพื่อเตือนสติเพื่อให้นึกถึงหลักธรรมของพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนเรื่องพุทธคุณและปาฏิหาริย์นั้นมาที่หลัง

อย่างไรก็ตามจากการ เดินทางไปถ่ายเรื่องราวเกี่ยวกับวัดมาเกือบทั่วทุกจังหวัดทอมมี่ แนะนำว่า วัดบางแห่งมีความสง่างามมาก แต่ขาดการจัดระเบียบของวัด โดยเฉพาะในส่วนของการจำหน่ายวัตถุมงคลนั้นมีมาก จนชาวต่างชาติมักจะเข้าใจว่า คนไทยเอาพระพุทธเจ้ามาขายกินหาเงินเข้ากระเป๋า ขณะเดียวกันเรื่องของหมาวัดก็เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวกลัวไม่ใช่น้อยเราะ ในต่างประเทศเขาไม่ปล่อยให้สุนัขมาเดินตามสถานที่ท่องเที่ยว ในส่วนของรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้น ควรรักษาให้อยู่ในสภาพเดิม ดีกว่าพังของเก่าทิ้งแล้วสร้างของใหม่ของมาแทน

เมื่อถามถึงความ พยายามของหน่วยงานรัฐบาลไทยในการประท้วงร้านอาหารในต่างประเทศที่นำพระพุทธ รูปไปตกแต่งประดับร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านนั้น ทอมมี่ แทงค์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า

ในเมื่อเมืองไทยมีร้านขายพระพุทธรูปเป็นของ ที่ระลึกมากกว่าเป็นสัญลักษณ์และสิ่งที่เคารพทางพุทธศาสนา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อไปเป็นของตกแต่งร้านมิใช่หรือ ขณะเดียวกันเขาไม่เข้าใจพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย การแก้ปัญหาจึงเปรียบเหมือนเป็นเรื่องของการขี่ช้างจับตั๊กแตน หรือไม่ก็ ตำน้ำพริกละลายมหาสมุทร พยายามอย่างไรก็ไม่มีวันจบสิ้น ทำไปก็ไร้ประโยชน์สู้สร้างความเข้าใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย จะเป็นเรื่องที่ง่ายและได้ผลยิ่งกว่า

พร้อมกันนี้ทอมมี่ได้ฝากข้อคิด ถึงผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการท่องเที่ยวว่าไม่ควรมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเฉพาะ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของประเทศ เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง เท่านั้น เพราะต่างชาติเขารู้หมดแล้ว ควรเน้นการท่องเที่ยวนอกเทศกาลด้วยนอกจากนี้ททท.ควรให้ความสำคัญในการประชา สัมพันธ์วัด หรือสถานที่อื่นๆ ที่ถูกมองข้ามด้วย เพราะยังมีวัดอีกจำนวนมากที่ถูกมองข้ามไป ทั้งๆ ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมไม่แพ้ววัดขนาดใหญ่

ที่มาhttp://www.phrathai.net/node/1898