วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 21:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เทวดาเป็นเทพชั้นสูงกว่ามนุษย์ เป็นเทพที่สามารถช่วยเหลือมนุษย์เราได้ สามารถบันดาลอะไรก็ย่อมได้จึงมักกล่าวกันว่า สาธุ ! เทวดาช่วยด้วยทำนองนั้น แต่เคยอ่านเจอพบว่าพวกเทวดาอิจฉามนุษย์และอยากเกิดมาเป็นมนุษย์ จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะเข้าใจว่าเกิดเป็นเทวดาดีกว่าเกิดเป็นมนุษย์เราอยู่แล้ว ไม่เข้าใจเลย ช่วยอธิบายด้วย


กระทู้นี้ตั้งเลียนกระทู้ "สงสัยว่าทำไมเทวดาอยากเกิดเป็นมนุษย์" ก็เคยเห็นเคยได้ยินเหมือนกันว่า

มนุษย์อยากเกิดเป็นเทวดา เวลาทำบุญทำทานมัก...ขอให้ได้เกิดเป็นเทพเทวาชั้นนั้นชั้นโน้น

โดยเฉพาะชั้นดุสิตนี่มีคนอยากไปเกิดเป็นอันดับหนึ่งเลย ....ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมจึงเป็นอย่าง

นั้น ทั้งทีเกิดมาเป็นมนุษย์ก็แสนประเสริฐ เกิดยากอย่างยิ่ง ท่านว่าอยู่ในภูมิกลางๆระหว่างนรกกับ

สวรรค์ ทำความดีก็ได้ผลสูงสุดจากปุถุชนเป็นอริยชนก็ยังได้ ซึ่งเกิดเป็นเทวดาแทบไม่มีโอกาสเอา

เลย แล้วทำไมมนุษย์ไม่พอใจภาวะของตน ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ สงสัยๆ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 26 มิ.ย. 2010, 21:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 23:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนตัวเห็นว่ามนุษย์ส่วนมากที่รับรู้เรื่องภพภูมิแบบผิวเผิน
ก็จะเห็นอย่างนี้แทบทั้งนั้น สังเกตจากเวลาทำบุญอธิษฐานก็มักจะขอให้ได้ไปสวรรค์
ก็อย่างที่ quote มาค่ะ
เทวดาเป็นเทพชั้นสูงกว่ามนุษย์ เป็นเทพที่สามารถช่วยเหลือมนุษย์เราได้ สามารถบันดาลอะไรก็ย่อมได้จึงมักกล่าวกันว่า เข้าใจว่าเกิดเป็นเทวดาดีกว่าเกิดเป็นมนุษย์เราอยู่แล้ว
ความเห็นคนในสังคมส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้

ดิฉันเองก็เคยมองว่าเป็นเทวดานางฟ้าน่าจะดีกว่ามนุษย์
แต่ตอนนี้เห็นกลับกัน เพราะมนุษย์มีโอกาสสั่งสมบุญได้เยอะกว่า
(สวรรค์นั้นใครๆก็มีบุญเต็มของเขาอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีใครขาดแคลน
ไม่งั้นคงไม่มีที่ว่าเทวดามาให้มนุษย์ช่วยสร้างบุญบารมีเพิ่ม)

ถึงมนุษย์จะทุกข์บ้างสุขบ้าง(ไม่สุขเป็นส่วนมากอย่างเทวดา)
แต่ทุกข์นี่แหละที่จะเป็นต้นทางของความพ้นทุกข์ค่ะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



เพราะความไม่รู้ค่ะ
:b28:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ

มนุษย์ที่อยากเกิดเป็นเทวดา ก็เพราะคิดว่าได้ "เสวยสุข" อย่างเดียว
จะกิน จะนอน ก็นแสนสบาย อยากมีคู่ อยากมีรัก แค่นึก และคิด
ก็ได้ตามที่ปรารถนา ไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่ต้องใช้น้ำมันพราย :b13:

ก็เพราะยังไม่รู้ว่า เหนือกว่าเทวดายังมีอยู่

ส่วนที่รู้ว่าเทวดา ก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์สักเท่าไหร่?
ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เขาก็ไม่ปรารถนาที่จะเป็นเทวดาแล้ว
กลับปรารถนา การกลับมาเป็นมนุษย์ เพราะมีโอกาสที่จะหลุดพ้น
จากการเวียนว่ายตายเกิดมากกว่าเทวดาค่ะ



http://www.youtube.com/watch?v=HU54U-dW72A :b28: :b28:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ

ส่วนคุณทักทายเข้าใจเทวดาดีกว่าเพื่อนนะขอรับ ว่าจะกิน...จะทำอะไรดูเหมือนว่า แค่คิดเอาเท่านั้น

ก็สำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว จะมีแควนมีคู่สักคนสองคนก็สบายๆ แค่นึกเอาก็ได้แล้ว

ไม่ต้องเสียเวลานั่งจีบนั่งหว่านล้อมชักแม่น้ำทั้ง ๕ เหมือนมนุษย์น้ำมันภูตน้ำมันพรายก็ไม่ต้องใช้

ถึงว่ามนุษย์จึงอยากไปเกิดเป็นเทวดา

ก็นะในเมื่อเป็นเทวดาดูจะง่ายไปหมด แค่นึกคิดเอาก็ได้แล้ว จึงไม่น่าจะผิดหวังเรื่องความรักถึงกะ

ร้องห่มร้องไห้เหมือนมนุษย์ว่ามะ แล้วทำไมฟ้าจึงร้องไห้ :b2:

“น้ำตาฟ้า” :b2: เนี่ยะ

http://www.youtube.com/watch?v=scZ31f8P ... re=related

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมมนุษย์จึงอยากเป็นเทวดา

- เพราะได้ฟังการพรรณาว่า มีแต่ความสุข ทุกท่านงามเหมือนกันหมด อยากได้อะไร ก็ได้ดังใจ มีบริษัทบริวารเป็นหมื่นเป็นแสน หาความทุกข์ไม่มี มีอายุยืนกว่ามนุษย์ เป็นหมื่น เป็นแสนปี อยากเสวยสุขให้สมอยาก
- อันนี้สำคัญ เพราะยังติดใจในกามอยู่ คือ รูป รส กลิ่นเสียง การสัมผัส ตัดไม่ขาด ละยังไม่ได้

อย่างนี้แล.. :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 15:13
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระผมอยากเป็นเทวดาเพราะ
อยากเหาะได้ จะเหาะไปแอบดูคนนั้นคนนี้ อิอิ :b32: :b32: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
ทำไมมนุษย์จึงอยากเป็นเทวดา

- เพราะได้ฟังการพรรณาว่า มีแต่ความสุข ทุกท่านงามเหมือนกันหมด อยากได้อะไร ก็ได้ดังใจ มีบริษัทบริวารเป็นหมื่นเป็นแสน หาความทุกข์ไม่มี มีอายุยืนกว่ามนุษย์ เป็นหมื่น เป็นแสนปี อยากเสวยสุขให้สมอยาก
- อันนี้สำคัญ เพราะยังติดใจในกามอยู่ คือ รูป รส กลิ่นเสียง การสัมผัส ตัดไม่ขาด ละยังไม่ได้

อย่างนี้แล.. :b8:


ที่ท่านพรรณา... คุณวิริยะพูดเหมือนกับว่าท่านใช้ความสุข ความสะดวกสบายความมีอายุยืน ฯลฯ

เป็นเครื่องล่อให้มนุษย์ทำดี พูดดี คิดดี เช่นทำแล้วจะได้ไปมีความสุข...อยู่บนโน่น

หากทำไม่ดี พูดไม่ดี คิดไม่ดี จะต้องลงไปรับทุกข์ที่นั่น ประมาณนี้

คล้ายๆว่าหากไม่ใช้เครื่องล่อแล้วมนุษย์จะไม่ทำดี จะไม่พูดดี เป็นต้น ประมาณนี้ใช่ไหมครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉัตรพงษ์ เขียน:
กระผมอยากเป็นเทวดาเพราะ
อยากเหาะได้ จะเหาะไปแอบดูคนนั้นคนนี้ อิอิ :b32: :b32: :b8:


เดี๋ยวก็โดนหนังสติ๊กยิงลูกตาหรอกคุณฉัตรพงษ์ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องมนุษย์อยากเกิดเป็นเทวดา...คงไม่มีมนุษย์ตนใดปฏิเสธล่ะครับแม้แต่ตัวกระผมเองครับ :b12:
มีแต่อยากจะเกิดในภพที่สูงขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ ถึงแม้ความเป็นจริงนั้นอยากจะหลุดพ้น จาก สงสารวัฏคือ
ปรารถนาสู่ ความสิ้น กิเลส อาสวะทั้งปวง หรือ นิพพาน แต่ที่รู้กันอยู่ ถ้าไม่มีบุญบารมีสะสมและการบำเพ็ญเพียรอย่างยิ่งยวดแล้ว...ในชาตินี้หรือชาติเดียวคงไม่พอที่ล่วงก้าวเข้าไปสู่กระแสแห่งธรรมนี้ได้
แต่ก็ยังไม่หมดความพยายามนะครับ :b16:
.....ส่วนเรื่องเทวดาอยากจะกลับไปเกิดเป็นมนุษย์...เอ..อันนี้เหมือนการจะลดชั้น..กลับมาเสวยทุกข์อย่างหยาบๆอีก...เคยได้ยิน..ได้อ่านมา..แต่ว่า เทวดาที่ปลอมตัวลงมาเป็นมนุษย์เพื่อมาร่วมฟังธรรมเทศนา กับพวกมนุษย์
เห็นเทวดาบ่น..เรื่องกลิ่นตัวของมนุษย์..นี่แรงจริงๆ :b13 เออ...แล้วไฉนจะอยากจะกลับมาอีก??
ด้วยความเคารพ..เป็นความเห็นส่วนครับ
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ที่ท่านพรรณา... คุณวิริยะพูดเหมือนกับว่าท่านใช้ความสุข ความสะดวกสบายความมีอายุยืน ฯลฯ

เป็นเครื่องล่อให้มนุษย์ทำดี พูดดี คิดดี เช่นทำแล้วจะได้ไปมีความสุข...อยู่บนโน่น

หากทำไม่ดี พูดไม่ดี คิดไม่ดี จะต้องลงไปรับทุกข์ที่นั่น ประมาณนี้

คล้ายๆว่าหากไม่ใช้เครื่องล่อแล้วมนุษย์จะไม่ทำดี จะไม่พูดดี เป็นต้น ประมาณนี้ใช่ไหมครับ

แหะ..สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเทศน์ พรรณาถึงคุณของทาน พรรณาถึงคุณของศีล ฯลฯ เทศน์ถึงความสุข ความสบายของเทวดาชั้นนั้น ชั้นนี้ เพื่อสร้างศรัทธาของพุทธบริษัทที่ยังไม่มีศรัทธาให้เกิดขึ้น ที่ศรัทธาแล้วก็ให้ศรัทธายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

แม้แต่พระนันทเถระ เอตทัคคะ ในทางสำรวมอินทรีย์ พระองค์ยังเอานางฟ้ามาล่อ..
เพื่อสำเร็จประโยชน์อันเป็นคุณแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ดังนี้..

สำหรับ ข้าน้อย ..ขอแค่เป็นมนุษย์เหมียนเดิมก็พอแล้ว ขอรับ..

สาธุ.. :b32: :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณทักทายเขียน
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ

มนุษย์ที่อยากเกิดเป็นเทวดา ก็เพราะคิดว่าได้ "เสวยสุข" อย่างเดียว
จะกิน จะนอน ก็นแสนสบาย อยากมีคู่ อยากมีรัก แค่นึก และคิด
ก็ได้ตามที่ปรารถนา ไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่ต้องใช้น้ำมันพราย


ขอคำยืนยัน จากคุณทักทาย :b1:
และหลายๆท่าน อีกครั้งน่ะค่ะ
ได้ไปเกิดเป็นเทวดาแล้ว ยังต้องไปมีคู่อีกเหรอค่ะ :b1: :b32: :b41: :b55: :b43: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 12:41
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ไม่ต้องใช้น้ำมันพราย" :b32: :b32: :b32:
คิดได้ไงเนี๊ยยยยย :b32: :b32: :b28:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นเทวดาไม่มีคู่ได้มัย อ่านเกี่ยวกับเรื่องเวียนว่ายตาย เกิด
เป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นหมา เป็นแมว เป็นอะไรต่างๆนาๆ
บางครั้งกลายมาเป็นคู่กัน แต่มันกลายเป็นปกติของการเวียนว่ายตายเกิด แล้วจำไม่ได้
ฟังธรรมครูบาอาจารย์ท่านเล่าเกี่ยวกับการเวียนว่ายกับเรื่องคู่แล้ว เฮ้อ.....
ตอนแรกฟังพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ
ได้ฟังและได้อ่านจากประวัติพระอาจารย์แต่ล่ะท่านบ้าง
อ่านจากข้อความของท่านที่ฝึกแล้วมาลงในเน็ตบ้าง
ยิ่งฟังยิ่งอ่านเรื่องการเวียนว่ายกับเรื่องคู่แล้ว เฮ้อ.....


แก้ไขล่าสุดโดย Rotala เมื่อ 27 มิ.ย. 2010, 20:03, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ
Rotala เขียน
อ้างคำพูด:
ฟังธรรมครูบาอาจารย์ท่านเล่าเกี่ยวกับการเวียนว่ายกับเรื่องคู่แล้ว เฮ้อ.....
ตอนแรกฟังพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ
ได้ฟังและได้อ่านจากประวัติพระอาจารย์แต่ล่ะท่านบ้าง
อ่านจากข้อความของท่านที่ฝึกแล้วมาลงในเน็ตบ้าง
ยิ่งฟังยิ่งอ่านเรื่องการเวียนว่ายกับเรื่องคู่แล้ว เฮ้อ.....


คุณ Rotala ทำไมเวลาที่คุณพูดถึงเรื่องคู่แล้ว
มีแต่คำว่าเฮ้อ......
มีคู่แล้ว เป็นยังไงค่ะ
ทุกข์ระทมมากเลยเหรอค่ะ :b32: :b32: :b41: :b55: :b46:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร