วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 22:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 771 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38 ... 52  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณพงพัน ช่วงนี้หายไป สบายดีอยู่ไหมค่ะ
อยากพิจารณา เข้าใจขันธ์ อย่างคุณพงพัน
เร็ว ๆ จัง จะได้พ้น จากทุกข์ซักที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ใดมีความรัก ที่นั่นมีโศก


ที่ใดมีความรัก ที่นั่นมีภัย


เมื่อไม่มีความรักเสียแล้ว


โศก ภัย ก็ไม่มี


พี่รู้ว่าน้องอ้อ ทำได้ น้องเก่งและเข้มแข็ง มีสติอยู่ตลอดแล้วน้องจะไม่ทุกข์เพราะรักค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 พ.ค. 2010, 15:09
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool คุณอ้อ....
โยไม่แน่ใจนะว่าได้ดูทีวีช่องอะไรแต่เป็นพระท่านหนึ่ง ซึ่งได้เทศนาเกี่ยวกับกรรม การชดใช้กรรม ซึ่งเวลาฟังแล้วก้อทำให้เราเข้าใจค่ะว่ากรรมก้อเปรียบเสมือนยาพิษและความดีก้อเปรียบเสมือนน้ำเปล่า สมุมติว่าเราสร้างกรรมเยอะ ยาพิษก้อจะเยอะ และมีผู้ที่สอบถามกับพระไปว่าการทำบุญเยอะๆจะสามารถชดใช้กรรมได้ไหม๊......และพระท่านก้อพูดว่ากรรมนั้นสร้างไว้เท่าไหร่ก้อจะมีเท่านั้น สมุนติว่ากรรมคือยาพิษ เราสร้างกรรมก้อเหมือนกับเรามียาพิษ 1 แก้ว และยาพิษนั้นก้อจะยังอยู่ หากเราดื่มยาพิษไป 1 แก้ว ก้อสามารถทำให้เราเสียชีวิตในทันที แต่ถ้าหากเราสร้างความดี ความดีก้อเปรียบเสมือนน้ำเปล่า แล้วถ้าหากเราสร้างความดีเยอะ เราก้อสามารถนำน้ำเปล่ามาจือจางยาพิษได้ ยิ่งเราทำความดีมากๆ ยาพิษที่มีก้อจะเจือจางลง ทำให้เราได้รู้ว่าไม่ว่าเรากระทำอะไรก้อตามเราต้องได้ผลกรรมนั้นแน่นอนเพียงแต่จะมีควาเข้มข้นหรือเจือจางก้อเท่านั้นเอง........โยคิดว่าการที่เรามีกรรมนั้น...ไม่ว่าจะทำอย่างไรก้อคงไม่มีทางที่จะหมดกรรมได้ เพียงแต่เราไม่สร้างกรรเลว และเราหมั่นสร้างกรรดี ก้อจะทำให้กรรมที่เรามีอยู่เบาบางหรือเจือจางไป

สู้ๆคะคุณอ้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะพี่อ้อ...
ไม่ค่อยได้แวะเข้ามาที่บ้านพี่อ้อเท่าไหร่ แต่เป็นกำลังใจให้พี่อ้อเสมอนะคะ
ไม่มีอะไรจะแนะนำได้ มีแต่กำลังใจนี่แหละค่ะ แต่ปอนด์ก็เชื่อว่าพี่อ้อสามารถผ่านเรื่องราวต่างๆได้ และจะมีความสุขอย่างที่พี่อ้อต้องการแน่นอนค่ะ :b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
คุณพงพัน ช่วงนี้หายไป สบายดีอยู่ไหมค่ะ
อยากพิจารณา เข้าใจขันธ์ อย่างคุณพงพัน
เร็ว ๆ จัง จะได้พ้น จากทุกข์ซักที


หวัดดีครับคุณอ้อและทุกท่าน
ผมสบายดีอยู่ครับ แล้วช่วงนี้สุขภาพคุณอ้อเป็นยังไงบ้างครับ

ผมไม่ได้พ้นทุกข์อะไรหรอกครับ เพียงแต่พ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในทุกข์
เพียงไม่ยึดขันธ์ ทุกข์ก็ไม่มีในเราแล้ว ทุกข์ก็ทุกข์ที่ขันธ์
จึงต้องเพียรพิจารณาขันธ์ให้แจ้ง ให้ยอมรับ ให้เข้าใจว่าไม่ใช่ตัวเราของเราจริงๆ
ทุกข์มันมาจากไหน มันเกิดขึ้นได้อย่างไรคุณอ้อต้องพิจารณาตรงนี้ครับ
แล้วดูต้นเหตุของทุกข์นั้นๆ ว่าเป็นเราตรงไหน มีเราตรงไหน
มันก็ไม่พ้นขันธ์๕นั่นแหละครับ ทุกอย่างไม่พ้นไปจากขันธ์๕ ที่เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน
แนะนำให้พิจารณารูปหรือกายนี้บ่อยๆ สู่ความเป็นดินน้ำลมไฟ จะช่วยได้มาก
อยากให้มีโอกาสได้ฟังเทศน์หลวงพ่อชานนท์บ่อยๆ จะช่วยในการพิจารณาเยอะครับ
ถ้าละเอียดในการพิจารณาขันธ์๕ ความยึดมั่นมันจะลดลงไปเอง
แต่จะให้พ้นทุกข์ไปเลยคงจะไม่ได้ ตราบใดยังมีขันธ์๕
ถึงแม้ผู้ที่หลุดพ้นแล้วก็ยังคงต้องทุกข์ขันธ์อยู่ แต่จะไม่ทุกข์ที่จิต
ต่อเมื่อวันขันธ์ดับไป จึงจะเข้าสู่ความพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงจริงๆ

คุณอ้อเพียรพิจารณาขันธ์๕ของคุณอ้ออยู่เสมอก็จะเข้าใจละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้วล่ะครับ
บางครั้งเมื่อปัญญามันเกิดจากการพิจารณา ผมว่ามันก็สนุกดีนะครับ ถึงแม้จะมีทุกข์ให้พิจารณามากกว่าสุขก็เถอะ
เป็นกำลังใจในการปฏิบัติต่อไปครับ

rolleyes rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้สุขภาพดีค่ะ ทั้งกายและใจ
ได้พักกาย พักใจของตัวเองจริง ๆ ซะที
หลังจากที่เอาใจไปผูกติดกับอะไรไม่รู้มานาน
การเกิดเหตุการณ์นี้ และการไปญี่ปุ่นของเขาครั้งนี้
ทำให้อ้อรู้ว่า ที่ผ่านมาเรายึดมั่นถือมั่นในตัวเราและ
ตัวเขามากไปจริง ๆ เมื่อก่อนถ้าเขาไปไหนอ้อจะ
ห่วง ใจคอไม่ดี คิดถึงตลอดเวลา แต่ในครั้งนี้รู้สึก
ได้ถึงความเป็นอิสะของใจเรา ที่เบาสบายถึง
เขาจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ก็มีความไม่เที่ยงที่แอบคิดบ้าง
แต่เข้ามาแล้วก็หายไป อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมา
เรารักแบบผิด ๆ ผูกติด ยึดมั่น จนตัวของเราไม่เป็น
ตัวของเรา (แต่ก็ยังดึงตัวเองออกมาไม่ได้ทั้งหมดหรอก)
ตอนนี้รู้มากขึ้น ส่วนการพิจาณณาขันธ์ ก็ทำอยู่เนือง ๆ
ในขณะที่จิตมันแอบคิด ก็บอกตัวเองว่า จิต ใจ นี้ไม่ใช่
ของเราบังคับให้มันไม่ให้คิดมันก็ไม่ยอม กายนี้เมื่อกระทบ
ร้อน เย็น บอกให้มันไม่รู้สึกมันก็ไม่ฟัง กายนี้ก็ไม่ใช่ของเรา
(พยายามอยู่ แต่ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า)

ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากลับมาแล้วอ้อจะทำได้เหมือนตอนนี้
ไหม เวลารู้ เวลาเห็นอะไรที่เราไม่ชอบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ในขณะที่จิตมันแอบคิด ก็บอกตัวเองว่า จิต ใจ นี้ไม่ใช่
ของเราบังคับให้มันไม่ให้คิดมันก็ไม่ยอม กายนี้เมื่อกระทบ
ร้อน เย็น บอกให้มันไม่รู้สึกมันก็ไม่ฟัง กายนี้ก็ไม่ใช่ของเรา
(พยายามอยู่ แต่ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า)


ไม่ว่าสภาวะใดๆเกิดขึ้นก็แล้วแต่ ก็สักแต่ว่า สักแต่ว่า
สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่ารู้สึก สักแต่ว่าทุกข์ สักแต่ว่าสุข สักแต่ว่าเจ็บปวด สักแต่ว่ายินดี สักแต่ว่ารู้
ถ้าพิจารณาขันธ์๕ในความเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน โดยละเอียดแล้ว
อาการสักแต่ว่านี้มันจะเกิดขึ้น แต่เราต้องเข้าใจว่า ทุกอาการที่เกิดขึ้นมันบังคับไม่ได้
บังคับให้เกิดไม่ได้ บังคับไม่ให้เกิดไม่ได้
เหมือนกับกลางวันและกลางคืนที่เราไม่สามารถบังคับได้เลย แม้แต่นิดเดียว
ด้วยเหตุนี้กายใจของเรา มันจึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
การไปบังคับสิ่งต่างๆแม้แต่นิดเดียว ตัณหาเกิดขึ้นทันที อยากที่จะสงบ อยากนิ่ง ก็เป็นตัณหาแล้ว
ไม่อยากทุกข์ ไม่อยากวุ่นวายใจ ก็เป็นตัณหาแล้ว
เพราะฉนั้นจะทุก จะสุข จะสงบ จะวุ่นวาย ก็สักแต่ว่าเป็นไป จะเป็นอะไรก็ให้มันเป็นไป
การที่คุณอ้อหยุดที่จะบังคับสภาวะต่างๆนั้น เท่ากับการหยุดตัณหาด้วย
ไม่ใส่ใจแม้แต่ตัวที่จะเข้าไปหยุด เพราะตัวพยายามที่จะเข้าไปหยุดนี้ก็ไม่ใช่เราเช่นกัน ลองพิจารณาดูว่ามันเป็นขันธ์ตัวใด และมันก็ไม่เที่ยงเช่นกันใช่หรือไม่
หยุดตัวอยากที่จะบังคับสภาวะอาการทุกอย่าง แต่ไม่ใช่อยากไปหยุดมัน
การที่จะรู้แจ้งในสัจธรรมความจริงก็ต้องใช้ความพยายามที่จะเข้าไปรู้ ไปเห็น ไปเข้าใจ
แต่สุดท้ายแล้วตัวพยายามนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะยึดไว้ได้ ไม่เที่ยงแท้เช่นกัน
เป็นอาการที่เกิดจากขันธ์๕ ที่เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตนเช่นกัน
มันจึงจบตรงที่ทุกสภาวะไม่มีเรา ไม่ใช่เรา แม่แต่นิดเดียว
ขอให้คุณอ้อละเอียดในการพิจารณายิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 23:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ สาธุ ค่ะคุณพงพัน สิ่งที่คุณแนะนำ
ช่วยอ้อได้มาก ในการพิจารณา และช่วงนี้
ก็พยายามเจริญสติ รู้ในสิ่งที่เกิดกับกายและ
ใจของเรา เท่าที่จะทำได้ แต่ก้ยังหลุดที่จะไม่
แค่รู้ บางครั้งยังบอกตัวเองว่าคิดทำไมไร้สาระ
คือไม่แค่รู้เท่านั้น พยายามอยู่ค่ะ แต่การเจริญสติ
ทำให้จิตกลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ทุกข์ที่จะ
เกิดจากความคิดของเรามันก็ลดลง เพื่อน ๆ
พี่ ๆ ในลานนี้ลองนำไปใช้ดูนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 08:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


หนูอ้อกำลังพยายามจะให้หลุดพ้น
จากทุกข์ของความรัก พี่ทักทายหลุดจากเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่ใช่ว่าจะไม่มีความทุกข์ พี่ก็ยังคงมีความทุกข์มาเยี่ยมเยียน
อยูไม่ได้ขาด เรื่องนั้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง โดยเฉพาะความอาลัย
อาวรณ์ ทั้งจากลูกๆที่อยู่ไกล จากพ่อแม่ที่แก่เฒ่าแล้ว เป็นห่วง
อยากเห็นหน้า อยากกอด สารพัด พี่เองก็ยังคงต้องเพียรพยายาม
ใช้ธรรมะ เพื่อหาทางดับทุกข์อยู่เหมือนกัน ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า
การยอมรับ การมองดูความทุกขื ความสุข อยู่กับเขาเป็นเพื่อนกับเขา

ไม่ต้องเร่งเวลาว่า เมื่อไหร่จะหลุดพ้น เมื่อไหร่เราจะทำใจได้
พิจารณาไปเรื่อยๆ เพราะแท้จริงแล้วสิ่งที่เราจะได้รับ ไม่ใช่เพราะ
ถ้าเราพิจารณาขันธ์ห้าได้ถ่องแท้แล้วเราจะหลุดพ้น หากแต่เป้นเพราะ
ถ้าเราพิจารราขันธ์ห้าได้เข้าใจแล้ว เราจะรู้ว่า ไม่มีอะไรที่ยึดถือได้
สุขก็ไม่จริง ทุกข์ก็ไม่จิรัง เมื่อเราคิดได้อย่างนี้แล้ว ใจเราก็ยอมรับ
ไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์ เราก็ไม่ยึด ผ่านมาเดี่ยวก็ผ่านไปเองต่างหากค่ะ :b1:

อนุโมทนาในความเพียรของหนูอ้อ :b8:

และอนุโมทนาในคำแนะนำของคุณพงพันค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่ทักทายช่วงนี้อ้อปฏิบัติธรรมได้ดีเลยค่ะ
เพราะใจดูเรียบ ๆ ไม่มีสิ่งเร้าอะไรมากระตุ้น
ให้อ้อต้องรับรู้และเกิดทุกข์ ทั้งกายและใจ
มันเหมือนเรามีช่วงเวลาพัก นิดนึง เพื่อปรับ
ความคิด ความรู้สึกของเรา แต่ถามว่าอ้ออยาก
อยู่แบบนี้หรือเปล่าก็ไม่นะค่ะ ยังงัยมีเขาอยู่ก็ยังดีกว่า

วันพรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้ว แปลกนะทุกครั้งอ้อจะ
ดีใจ นับวัน นับเวลารอเลยละ แต่ตอนนี้ จับความรู้สึก
ของตัวเองได้เลยว่า กลัว (รู้นะค่ะว่าปรุงแต่ง) กลัวว่า
พอเขากลับมา ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม และก็เพียร
ทำความเจ็บช้ำให้เราอยู่เสมอ ๆ แต่ก็อาศัยช่วงนี้แหละ
พิจารณาความรู้สึกของตัวเอง กลัวก็รู้ว่ากลัว ปรุงแต่งก็รู้
มันมาเป็นระยะ ๆ แล้วก็หายไป ไม่นานก็มาอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรอีกนะค่ะ แต่อ้อก็พยายามอยู่
กับปัจจุบัน ทำให้ตัวเองอยู่และเข้าใจปัจจุบันให้มาก
รวมทั้งพิจารณาเพื่อลดความยึดมั่นถือมั่นของตัวเอง
และตัวเขาลง เขาพูดประชดอ้อนะว่าเขาไปอยู่ญี่ปุ่น
อ้อคงไม่คิดถึงเขาหรอก

เอ...วันนี้อ้อสับสนในตัวเองหรือเปล่าเขียนไม่รู้เรื่องเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 13:20
โพสต์: 131

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




friend_0014.gif
friend_0014.gif [ 35.73 KiB | เปิดดู 4598 ครั้ง ]
คุณอ้อคะ ต้นหญ้าขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณอ้อนะจ๊ะ สุขภาพตอนนี้เป็นยังไงบ้างจ๊ะ พักผ่อนมาก ๆ นะคะ ยังคิดถึงและเป็นห่วงเสมอค่ะ cool :b4: :b4:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 14:33
โพสต์: 26

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณอ้อ

แวะมาให้กำลังใจค่ะ :b53: :b51: :b45: :b46:
และขอให้บุญจากการที่คุณปฏิบัติธรรม ประคับประคองให้คุณมีความสุขกาย ใจ หลุดพ้นจากความทุกข์นี้ นะคะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 12:23
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอหยิบมาให้เพื่อนๆตอบจากหัวข้ออื่น นะคะ


สวัสดีค่ะทุกคนที่มีธรรมมะในใจ
รู้จักเวปนี้เพราะมีความทุกข์ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ พอได้มาอ่านเรื่องราวดีๆ
ที่ตรงกับชีวิตบ้าง อยากจะนำมาแก้ไขปัญหาของตัวเองเช่นเดียวกัน
ดิฉันก็กำลังประสบปัญหาสามีนอกใจและสามีเบื่อภรรยาอยากเลิกกับดิฉัน
ดิฉันเองอายุ 28 ปี ทำงานดีจบ ป.ตรี สามีอายุ 30 ปี จบ ม.3 ไม่มีงานหลักแหล่ง
เรื่องก่อนนี้ ก่อนที่ดิฉันจะมาคบกันเป็นแฟน สามีได้มีภรรยาลูกเมียมาแล้ว
ตอนนี้ลุกที่อยู่กับภรรยาเก่า คนโตผู้ชายอยู่ ป.4 คน2 ผู้หญิงอยู่ ป.2
ปัญหาที่เลิกกับภรรยาเก่านั้น ภรรยาเก่านิยมมีสามีไปเรื่อย คือมั่วผุ้ชาย
ส่วนสามีดิฉัน จากที่สอบถามประวัติจากคนอื่น เล่นการพนัน กินเหล้า ทะเลาะตบตีหึงหวง
กันตลอด ครอบครัวไม่มีความสุข
ตอนเจอกันใหม่ สามีบอกว่าเลิกกับภรรยาเก่าแล้ว มีลูก1 คน(ซึ่งโกหก)
และทำตัวเหมือนจะเป็นคนดีให้ดิฉันเชื่อใจ ส่วนตัวดิฉันเอง เป้นคนมองโลกในแง่ดีจนเกินไป
เชื่อคนง่าย เลยตกลงเป็นแฟนกัน ระหว่างนี้เค้าเอาใจใส่ดิฉันและพูดจาดีกับดิฉันมาตลอด
แต่ก็แอบรู้ทีหลังจากปากภรรยาเก่าที่ยังมาเกาะเกะราวีไม่เลิกไม่ราว่า ยังเคยไปแอบมีอะไรกัน
ในขณะที่อยู่กับดิฉัน ดิฉันเจ็บปวดทรมานมาก แต่เขาสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
หลังจากนั้น ดิฉันได้พลาดไป เพราะความไม่รู้เท่าทันคน ดิฉันท้อง ตอนเเรกเครียดสับสน
ไม่รู้จะทำยังไง อายคนที่ทำงาน เพราะทำงานมีหน้ามีตา จึงตัดสินใจแต่งงานตอนท้องได้ 4 เดือน
และตอนนี้เองที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนไป
ตอนท้อง สามีลาออกจากที่ทำงาน เพราะต้องไปดูแลทำไร่ที่บ้านกับแม่
ดิฉันก้อุ้มท้องไปทำงานลำพังคนเดียวทุกวันจนคลอด ก่อนนี้ต้องอยู่กัน 2 คนแม่ลูกมาตลอด
พอกลับไปที่บ้านก็คุยกัน 2 คนกับลุกในท้อง เขาก็โทรมาบ้าง ไม่โทมาบ้าง เพราเข้ารับลุกคนที่ 2 กับเมียเก่าไปเลี้ยงที่ ตจว ด้วย ซึ่งเขาเลี้ยงจนลูกเป็นเด้กไม่ดี ก้าวร้าว ขโมยของ และที่สำคัญภรรยาเก่ากับเขาก็ยังติดต่อกันอยู่ เพราะต้องคุยเรื่องลูก ดิฉันช้ำใจมาตลอด บางครั้งมีวันหยุดหลายวัน ดิฉันต้องอุ้มท้องโตๆขึ้นรถ บขส . กลับต่างจังหวัด 400 กว่าโล เพื่อไปหาเขา เขาก็สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง เพราะเขาติดเพื่อน กินเหล้ากับเพื่อน
จนคลอด ตกดึกคืนนั้นดิฉันปวดท้องมากจนทนไม่ไหว ให้น้องสาวเขาพาไป รพ. ได้ลูกสาว 1 คน น่าเกลียดน่าชัง น่าตาเหมือนสามีมาก ตอนนี้อายุ 1 ปี กำลังน่ารักทีเดียว
วันแรกที่คลอดลูกเขาก็มา แม่ดิฉันก็มา แต่เกิดมีเรื่องทะเลาะกัน2 ครอบครัว เพราะสามีกับดิฉันมีปากเสียงกัน เขาบอกไม่อยู่แล้ว จะกลับแล้ว ดิแนน้อยใจร้องไห้ ที่เขาไม่คิดถึงลุกเลย ยังส่งข้อความมาบอกว่าเลิกกัน ดิฉันเสียใจมาก อยากตายๆไป แต่ก้ออดนึกถึงลุกที่แบเบาะตาดำไม่ได้ ลุกช่างน่าสงสารจริงๆ
ตอนพักฟื้นที่บ้าน ส่วนมากดิแนเลี้ยงลุกคนเดียวตลอด เพราะไปอยู่กับเขาที่ ตจว มีแม่เขาคอยดูอีกคน แต่ส่วนใหญ่ดิฉันจะดูแล พอครบกำหนด 3 เดือน ดิฉันกลับมาทำงานที่ กทม ดดยที่เอาลูกมาเลี้ยงด้วย โดยให้ญาติผุ้ใหญ่เลี้ยงเดือนละ 3 พันกว่าบาท ค่านมและทุกสิ่งทุกอย่าง ดิฉันต้องรับภาระทั้งหมด ค่าให้จ่ายเดือนๆนึงเป็นหมื่นๆ ดดยที่ดิแนก็เลี้ยงตัวเองมาตลอดจนลูกสาวตอนนี้ 1 ขวบพอดิบพอดี
ความที่เขาเป็นคนไม่เอาไหน แม่เขา พี่ๆ ถึงให้เขามาหางานที่ กทม ทำ เพราะอยู่ที่บ้านก็เที่ยวเล่น ไม่ทำการทำงาน เล่นการพนัน เลี้ยงเบียร์ เหล้าเพื่อน ไปวันๆ มีผู้หยิงมาพัวพัน ผู้หญิงก็เสียนี่กระไร เพิ่งอยู่ ม.2 แท้ๆ ที่ดิฉันจับได้ เพราะเขาเปลี่ยนซิมการ์ดใหม่ไม่ยอมบอกดิฉัน แต่ดิฉันไปสืบมาได้ และรู้ว่าเขาคุยกันทุกคืน แต่เขายังไม่มีอะไรกันนะค่ะ เพราะเพิ่งเริ่มจีบกัน ดิแนเลยไปปิดสัญญาณโทรศัพท์และเปิดใช้เอง จนทำให้รู้เบอเด้กหยิงคนนั้น และโทรไปต่อว่า เด้กคนนั้น ก็โดนสามีดิฉันหลอกว่า เขาเลิกกับแฟนตั้งนานแล้ว ไม่มีพันธะใดๆ จนจับได้และทะเลาะกัน ตอนแจกเขาจะไม่มา กทม เพราะดดนจับได้ แต่แรงกดดันจากแม พี่ๆ เขา เขาเลยต้องมา เพราะอยู่ไปก็ผลาญเงินแม่ไปวันๆนึง
ล่าสุด เมื่อวานนี้ วันที่เกิดเรื่อง
ดิฉันจับได้ว่าเขาส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น ว่าปีใหม่จะไปหานะ และโทรคุยกัน ดิฉันโกรธมาก เพราะเราสัญญากันใหม่ว่า จะตั้งใจเก็บเงิน ไปดาวว์แท๊กซี่มาขับ แต่ทุกอย่างต้องมาจบลง ดิฉันไปต่อว่าเขา
เรามีปากเสียงกันรุนแรง คำด่าทอที่เขาด่าฉัน สารพัด อีเ ฮียย...อีสัตย์...มึง กู สารพัด แถมบอกให้รีบเก็บของมึงไปเลย กูจะเลิกกับมึง มันทิ่มแทงใจดิแนมาก เพราะดิฉันสงสารลูกจับใจ เขาตบตี ดิแน บีบคอ จะเอาขวดเบียร์ฟาดหัวดิฉัน แถมขู่จะมาเอากุญแจรถของดิแน ดดยเอาคัตเตอร์มาขู่ ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย ดิฉันนอนกับลูก ทั้งลูกและดิแนนนอนอยู่ เราทั้ง 2 ไม่สบาย เขายังด่าทอว่า ให้ตายไวๆเถอะมึง
ดิแนร้องไห้ไม่หยุดเหมือนคนเสียสติ หลังจากนั้น ก้เอาบทสวดมนต์มาอ่าน จิตใตเลยดีขึ้น มาสามรถข่มตานอนลงได้อีก แต่ไม่สนิทใจ
ดิฉันเสียใจที่ความดีที่ดิฉันทำไป ไม่เคยเข้าถึง และเขาไม่เคยรับรู้เลย ลุกดิแนต้องรับภาระเองตลอด ค่านมต่างๆ แม้แต่ตัวเขาเองก่อนดิฉันไปทำงาน เขายังนอนไม่ตื่น ดิแนยังต้องทิ้งเงินไว้ให้เขากินข้าว โดยความที่เป็นห่วงเขา แต่เขาไม่เคยคิดห่วงดิแนเลย ซื้อกับข้าวมาทำกับแกล้ม เยงเพื่อนฝูงในขณะที่เป็นเงินดิฉันเอง และไม่เคยเรียกกินเลย ดิแนก้ได้แต่นอนหิวและน้อยใจ
เรื่องที่มันบานปลายทุกวันนี้ เพราะ2 วันก่อน เขารับลูกสองคนมา เด็กสองคน ถุกเลี้ยงมาในสังคมไม่ดี นิสัยก้าวร้าว ไม่เคารพผู้ใหญ่ เป็นเด้กนิสัยไม่ดี ชอบมีอะไรเอาไปฟ้องสามี ดิฉันก้เป็นคนตรงๆ ไม่ชอบอะไรก็จะพุดตรงๆ เลยทำให้เราทะเลาะกัน เพราะลูกเมียเก่าไปฟ้องสามีว่าดิฉันไม่ยอมให้อุ้มน้อง
ทั้งๆที่เวลาลับหลังพ่อ เขาไม่สนใจ จะเเกล้งน้องด้วยซ้ำ ดิแนเลยกลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายไปดดยปริยาย ในสายตาสามี
ผู้รู้ค่ะ จะให้หนูทำยังไงต่อไปกับชีวิตดีค่ะ เลิกกับเขาใช่ไหมค่ะ หรืออดทน แต่เขาคงเบื่อและอยากเลิกกับดิฉันมาก เขาไม่เคยพูดจาดีกับดิฉันเลย ดิฉันทุกข์ใจมาก ปวดหัว ไม่มีความสุขเลย จิตใจไม่สงบเลย อยากตัดใจจากเขา แต่ยังรักเขาอยู่ แลสงสารลูก แตสิ่งที่เขาทำมันทนไม่ไหวอีกแล้ว นี่พ่อแม่ดิฉันไม่รู้ เพราะดิฉันไม่เคยบอกความทุกข์ทรมานนี้ให้ใครรู้ ได้แต่เก็บ และเจ็บอยู่คนเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณฟ้าใสค่ะ ขอตอบตามความรู้สึกส่วนตัวของดิฉันนะค่ะ
ถ้าคุณยังรักสามีของคุณอยู่ และคิดว่าสามีจะกลับตัวเป็นสามีที่ดีได้ในอีกไม่นาน และคุณรอจนถึงวันนั้น
ได้ ก็ขอให้คุณรอต่อไปสักพักก่อน

แต่จากเท่าที่ดิฉันได้อ่าน ดิฉันยังไม่เห็นสามีของคุณมีส่วนที่ดีหลงเหลือบ้างเลย ตัวคุณเองก็ทุกข์ ต้อง
แบกรับภาระไว้ทั้งหมด ...คุณปล่อยเขาไปเถิดค่ะ ยิ่งอยู่ด้วยกันคุณก็จะยิ่งทุกข์ทุกวัน ไหนจะเมียเก่า ลูก
กับเมียเก่า ไหนจะเมียใหม่ วุ่นวายไปหมด ดึงดันคบกันต่อไปสามีจะฉุดความก้าวหน้าในทุก ๆ ด้านของ
คุณไปเปล่า ๆ คุณเครียดมาก ๆ งานการที่ทำก็จะไม่เต็มร้อย พอเหนื่อยมากอารมณ์คุณก็เสียอีก ผลดีใน
ชีวิตยิ่งหาไม่เจอไปใหญ่เลยค่ะ ....ไม่ต้องกลัวว่าลูกของคุณโตขึ้นมาจะเป็นเด็กมีปัญหาหรอกค่ะ เด็ก
เดี๋ยวนี้ฉลาด เข้าใจอะไรได้ง่าย แต่คุณก็ค่อย ๆ เล่าให้ลูกฟังตอนที่ลูกอยู่ในภาวะรับรู้เรื่องราวของผู้ใหญ่
ได้แค่นั้นเอง....ถ้าคุณพอมีเวลาก็อ่านเรื่องราวของเพื่อน ๆ ในลานนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อน คุณจะได้อะไรดี ๆ
กลับไปสู่ตัวคุณแน่นอนค่ะ ...ตั้งสติ ถามตัวเอง ทุกข์มากไหม สุขมีบ้างไหม จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ไหม
ถ้าไม่มีเขา... คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ตัวคุณเองล่ะค่ะ......จะเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามตัวเองให้เยอะ ๆ นะค่ะ ถามแล้วได้คำตอบ
คำตอบนั้นจะบอกทางเดินให้คุณเองค่ะ

หากเขาดีพอที่จะให้เรารัก เราก็รัก
แต่หากไม่ เราก็ใช้เหตุผลพิจารณานะค่ะ

หมั่นสวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล
ไปให้สามีมาก ๆ ขอให้เขาระลึกดี ระลึกชอบ
ขอให้เขามีเมตตากับเราและลูกนะค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 771 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38 ... 52  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร