ไปเรียน ศึกษา เยอะ ๆ เข้าไว้นะหนู....อย่าเพิ่งมาแสดงอารมณ์ เลือดร้อน...
พระพุทธเจ้า สอนเป็นแบบวิทยาศาสตร์ มีเหตุและผล...
พระพุทธเจ้า สอนให้สัตว์ ฉลาด
พระพุทธเจ้า สอนให้หายโง่...

ไสยศาสตร์....ไสยาส แปลว่า หลับ+ศาสตร์ แปลว่า วิชา...
ไสยศาสตร์ แปลว่า วิชาของคนนอนหลับ...

แต่พระพุทธเจ้าสอนให้ รู้ตื่น เบิกบาน ..มิใช่เหรอ...หนู...

สวัสดีคร๊า

แหม คุณ ก๊อปปี้คำพูดนุชมาซะหมดเลย ดีแล้วนะคร๊าที่เขาสอนแบบนั้น ให้ฉลาดและหายโง่ แล้วคุณทำตามหรือยังอ่ะคร๊า ... ไม่ต้องตอบค่ะ ไม่ต้องตอบ ...ดูผิวเผินก็ทราบแล้วว่าคุณนี่ฉลาดหัวแหลมเลยทีเดียว ไม่งั้นไม่ว่าคนอื่นโง่หรอก คริ คริ จร้า ยอมยกธงให้ให้คนฉลาดคร๊า .. ข้าน้อยขอคาราวะในความฉลาด เอ้าจากใจนะ มิใช่แกล้งทำ ที่สำคัญไม่ต้องก๊อปปี้คำพูดนุชแล้วนะคร๊า เดี๋ยวคนอื่นจะรำคาญเปล่า ๆ

...พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า เริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 พระเจ้ามิลินท์ (พระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1) กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธาราฐ(อัฟกานิสถาน)และได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า นาคเสน พระเจ้ามิลินท์ตั้งคำถามต่อพระนาคเสน(มิลินทปัญหา)จนทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา


...พระพุทธรูปแบบคันธาราฐ ถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก และต่อมาในภายหลัง ราวพุทธศตวรรษ ที่ 4-12 มีคตินิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดเล็กๆ (พระเครื่อง) บรรจุไว้ในพุทธเจดีย์

แล้วสร้างมาทำไม

ใครคิดทำลายพระพุทธรูป มันผู้นั้นต้องได้รับวิบัติ เช่น อัฟกานิสถาน

ไม่ทราบ ไปถามท่านเอง และถ้าท่านยังมีชีวิตให้ถามอยู่ก็จะไปถามเหมือนกัน



หลับอยู่ ก็ดีแล้ว ที่ยังหลับใหล ไม่ยอมตื่น
พระพุทธเจ้าสอนให้ตื่น...ไม่สอนให้หลับต่อไป
แต่ถ้าใครอยากหลับก็หลับไปเถอะ แต่ผู้ทีเรียนรู้แล้วเขาไม่หลับ
และเขาก็มีความกล้ากระชากหน้ากาก ของพวกมหาโจรในคราบ ของนักบุญ

หลับอยู่เอ้ย..ถ้าอาชีพเธอ ต้องขายพระศาสนากิน ก็เลิกเสียเถอะ
เพราะมันเกิดบาปมากมาย รู้จักมั๊ยบาปหน่ะ..

และไม่ต่อความยาวสาวความยืด ...กลับไปเรียนพระศาสนาใหม่ได้เลยว่า
พระพุทธเจ้าคือใคร
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอะไร
พระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างไร
พระพุทธเจ้าสอนรูปแบบวิธีดำเนินการตามพระพุทธองค์ต้องทำอย่างไร
จึงเรียกว่า เป็นผู้รู้ตาม

และเมื่อปัญญาตัวเอง มีอยู่เท่าใด ให้สำรวจตัวเอง
และก็ดำเนินการต่อไปจนถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองต้องการ

แต่ที่ข้าพเจ้าเข้ามาโพสต์ในเวปนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ที่ยังคาเรื่อง วัตถุในศาสนา ว่า
แท้ที่จริง ความถูกต้องคืออะไร และอะไรคือถูกต้องที่สุด
เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องความถูกต้อง ..มิใช่ถูกใจใคร...

และหลับอยู่ ก็พิจารณากิริยาท่าทาง ผู้รู้ตาม ท่านนี้ก็แล้วกันว่า
ต้องทำอย่างไร

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=3943

คงได้คำตอบที่ชัดเจน ถ้ายังไม่เข้าใจ เชิญหลับอยู่ขึ้นไปสนทนาธรรม กับองค์ท่านในวันที่ 28-30 พ.ค.53 นี้ได้ ค่ารถจ่ายให้ฟรี...

ดูมานานแล้ว

แต่หากให้ไปไม่ไป แต่ถ้ามีโอกาสก็จะถาม

ถ้าทำใจกับวัตถุสิ่งที่เขาสร้างมาโดยที่ตนไม่ได้ไปร่วมกับเขาเลย ก้แสดงว่า ยังมี ตัณหา มานะแบบเพียบอยู่ จะไปแตกต่างอะไรกับปุถุชนเหล่าที่ไม่เข้าใจว่า วัตถุที่สร้างไม่วันใดวันหนึ่ง ก้ต้องแตกสลาย ตามธรรมชาติ



พระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้ประมาทให้หมดกิเลสไปนิพพาน

ถึงคุณเช่นนั้นอีกครา หรือผู้ที่อ่านพระไตรปิฏก อันเนื่องจากความรู้ผมน้อยครับ

มีพุทธพจน์ บทใดบ้างที่กล่าวถึงว่า ในอนาคตกาลมีการสร้างรูปจำลองสักการะแล้วให้ ทำลายรูปจำลองพระองค์ทิ้ง

ก่อนอื่นต้องขอ อนุโมทนากับ เจ้าของกระทู้ที่มีเจตนาดี นำเอาความคิดของตนที่มีน้อยนิด...
มาช่วยเตือนสติ พุทธศาสนิกชน
ก่อนอื่นอาตมาต้องขอกล่าวสักหน่อย กลัวว่า จะเข้าใจผิด กันใหญ่...

หิ.. จริงอยู่ การที่มีของขลัง เกิดขึ้น ใช่ว่าจะให้ให้ศาสนาเสื่อมเสมอไป
เพราะพระเครื่องนั้น จดว่าเป็น พุทธานุสติ คือ เป็นที่ระลึก ถึงองค์ พระสัพพัญญูเจ้า คือองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ผู้ตั้งกระทู้ เอาปัญญาอันน้อยนิด บังอาจไปเปรียบเทียบท่านว่าเป็น ปรัชญาเมธี
เพราะว่า ปรัชญา ไม่ช่วยให้พ้นที่สุดแห่งทุกข์ได้ แสดงเห็นถึง ความรู้ที่มีน้อยแต่อยากแสดงออกว่ามีมาก
เหมือนกบในกะลาครอบ อีกทั้งยังมองโลกในแง่ร้าย ป้ายความผิดให้ครูบาอาจารย์ ที่ท่านเมตตา ช่วยสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ ซึ่งบางท่านเป็นพระอริยะเจ้า อย่างนี้เห็นจะไม่พ้นนรก เพราะชอบสะสมบาปไว้ที่ปาก... เจริญธรรม

นมัสการครับท่านวัชระเมธี "จัดเป็นพุทธานุสติ,,,,"

ชัดเจนดีครับหลายๆท่านที่สร้างเป็นพระอริยะเจ้า

พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ท่านก็เคยพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านอยู่เสมอว่า

“วัตถุมงคลก็เป็นเพียงวัตถุเท่านั้น ของจริงก็คือ พระสัจจธรรมทั้งปวง มีวัตถุมงคลแล้วไม่ทำตัวให้ดีไม่ทำใจให้เป็นกุศล ก็หวังอะไรไม่ได้สักอย่าง มีวัตถุมงคลแล้วต้องทำความดีด้วย จึงจะเกิดผลต่างๆเป็นนานาประการ หากหวังพึ่งวัตถุมงคลอย่างเดียวโดยไม่สร้างบุญกุศลย่อมไม่ได้อะไรขึ้นมา…”

ข้อความตอนหนึ่งจากหนังสือ “อตุโล ไม่มีใดเทียม” (หน้าที่ ๑๘๑) ของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล แห่งวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีพวกสาธุชนกลุ่มหนึ่งมาสนทนาธรรมด้วยและถามท่านว่า
“วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์จริงหรือหลวงปู่จึงได้สร้างหรืออนุญาติให้สร้างเหรียญขึ้น?”
หลวงปู่ดูลย์จึงวิสัชนาว่า

“พวกท่านทั้งหลายแสดงความสนใจในการบำเพ็ญภาวนา ก็พากันบำเพ็ญภาวนาไป ไม่ต้องไปห่วงไปสนใจกับวัตถุมงคลอันเป็นของภายนอกนี้ แต่สำหรับผู้มีจิตใจเพลิดเพลินอยู่ ยังยินดีในการเกิดตายในวัฏฏสงสาร ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้ ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอกเช่นวัตถุมงคลนี้ เป็นที่พึ่งไปก่อน อย่าไปตำหนิติเตียนอะไรเลย
ครั้นเขาเหล่านั้น ประสบเหตุเภทภัยมีอันตรายแก่ตนและเกิดแคล้วคลาดด้วยคุณแห่งพระรัตนตรัยก็ดี โดยบังเอิญก็ดี ก็จะเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ในภายหลัง ซึ่งจะเป็นเหตุให้เจริญงอกงามในทางที่ถูกต้องได้เอง สำหรับผู้ที่มีศรัทธามากแล้ว ชอบการบำเพ็ญภาวนาจิตใจในธรรมปฏิบัติอันยิ่งๆขึ้นไป ในเรื่องวัตถุมงคลนี้ หลวงปู่จะบอกตามสัจจธรรมว่าไม่มีอะไร เป็นเพียงช่วยด้านกำลังใจเท่านั้น…”


หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระสุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง แห่งวัดสะแก อ.อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา ท่านเคยกล่าวในเรื่องทำนองนี้ ไว้ว่า

“ติดวัตถุมงคล ยังดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล..”

ๆลๆ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=31320%20-

ท่านพระวัชระเมธี คือท่าน ว.วัชระเมธีหรือไม่หนอ???

คุณแกงไดครับ ขออนุญาตแก้ไขชื่อกระทู้จากคำว่า

วัตถุมงคล ทำให้พุทธศาสนาเสื่อม

เป็นคำว่า

วัตถุมงคล ทำให้คน เสื่อมจากพระพุทธศาสนา

อย่างนี้น่าจะดีและตีความได้ลึกซึ้งถูกต้องกว้านะครับ
สาธุ

วัตถุมงคลเป็นเครื่องเตือนให้เราระลึกถึงคุณความดีไม่น่าจะทำให้ศาสนาเราเสื่อมลงไปได้.

คนและความโลภ ความลุ่มหลงในตัวคนต่างหากที่ทำให้ศาสนาเสื่อมลง.ด้วยการเอามาทำเป็นพาณิชย์หวังกำไร ทั้งที่จริงๆการมอบวัตถุมงคลครั้งแรกมีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าแล้วที่ทรงตรัสรู้แล้วได้มอบเส้นเกศา(ผม).ของท่านให้ผู้ที่ศรัทธาท่านที่ผ่านไปมาได้ขอไว้เพื่อระลึกถึงท่าน.

คนครับที่หากินแม้แต่กับศาสนาทั้งปั่นราคาวัตถุมงคล ทั้งสร้างปาฎิหาร์ยต่างๆทั้งหมดก็เพื่อทำกำไรทั้งนั้น.บาปและเสื่อมทั้งสิ้นมาจากคนเรานี่แหละจร้า.