วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากพูดธรรมแล้วพูดว่า “ทวารอินทรีย์” ฯลฯ พูดแล้วก็ว่าไปเรื่อยเปื่อยอะไรนักก็ไม่รู้ :b1:

อย่างนั้นผิดหลัก

เมื่อต้องการพูดเกี่ยวกับทวารก็ใช้ศัพท์ทวารศัพท์เดียวเป็นที่รู้กัน เพราะทวารมี 6 คือ จักขุทวาร โสตทวาร

ฆานทวาร ชิวหาทวาร กายทวาร มโนทวาร

เมื่อต้องการพูดเกี่ยว อินทรีย์ ก็ใช้อินทรีย์ศัพท์เดียวก็เป็นที่รู้กันในวงนักศึกษาทั่วไป เพราะอินทรีย์ท่านจำแนกไว้

22 อย่าง คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฯลฯ ดังกล่าวแล้ว

มิใช่พูดว่า “ทวารอินทรีย์” แล้วพร่ำพรรณนาไปอย่างนั้น

ทวารกับอินทรีย์ คนละความหมายกัน หากต้องการระบุว่าทวารไหน อินทรีย์ใด ก็เติมศัพท์นามเข้าไปด้วย

ดูความหมาย ทวาร คร่าวๆ

ทวาร แปลว่า ประตู, ช่องทาง ทวาร มี 6 คือ จักขุทวาร โสตทวาร ฆานทวาร ชิวหาทวาร

กายทวาร มโนทวาร

คำว่า ทวาร เมื่อนำไปกล่าวในระบบการทำงานของกระบวนธรรมแห่งชีวิต ท่านนิยมเปลี่ยนไปใช้คำว่า

อายตนะ (ดังกล่าวแล้ว) แทน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 01 พ.ค. 2010, 13:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทวารในอายตนะ กายมีหลายทวาร ทุกรูขุมขน เป็นทวาร อวัยวะน้อยใหญ่ เป็นทวาร

ไม่ใช่แค่ทวารเบ่งขี้ ที่อ.หื่นกาม และคู่หูดูโอ ผู้มีธรรมอันเลว เปลี่ยนเวทนา เป็นสดใสซาบซ่า

หรอก

ผู้มีธรรมอันเลว แบบอ.กลัดกามหื่น บอกไปแล้วไม่รู้จักจำ

ไปขุดตำราศึกษาต่อไปก็แล้วกัน



นั่นก็เหวี่ยงแห "ทวารในอายตนะ" ฯลฯ ไม่ไหว จะบ้าตาย :b7:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไม่ใช่แค่ทวารเบ่งขี้ ที่ อ.หื่นกาม และคู่หูดูโอ ผู้มีธรรมอันเลว เปลี่ยนเวทนา เป็นสดใสซาบซ่า

หรอก


พูดกันเรื่องเห็นๆด้วยตายังเลอะเทอะขนาดนั้น ลำพองไปพูดเรื่องสภาวธรรมที่เกิดแต่ละขณะของความคิด

จะให้ดูคร่าวๆก่อน

อายตนะ-อารมณ์-วิญญาณ = ผัสสะ => เวทนา...

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ

ธรรมชาติ ยังไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เกี่ยวข้อง

...ตัดตอนแต่เวทนาไปแล้ว กระบวนธรรมแยกเป็นสองแบบ คือกระบวนธรรมแบบสังสารวัฏฏ์ (ก่อ

ทุกข์) กับกระบวนธรรมแบบวิวัฏฏ์ (พ้นทุกข์)

ทีนี้บัณฑิตพึงเลือกเอาดิว่าต้องการความทุกข์หรือต้องการพ้นจากทุกข์ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 01 พ.ค. 2010, 14:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ทวารในอายตนะ กายมีหลายทวาร ทุกรูขุมขน เป็นทวาร อวัยวะน้อยใหญ่ เป็นทวาร

ไม่ใช่แค่ทวารเบ่งขี้ ที่อ.หื่นกาม และคู่หูดูโอ ผู้มีธรรมอันเลว เปลี่ยนเวทนา เป็นสดใสซาบซ่า

หรอก

ผู้มีธรรมอันเลว แบบอ.กลัดกามหื่น บอกไปแล้วไม่รู้จักจำ

ไปขุดตำราศึกษาต่อไปก็แล้วกัน



นั่นก็เหวี่ยงแห "ทวารในอายตนะ" ฯลฯ ไม่ไหว จะบ้าตาย :b7:


เหอๆๆ

ธรรมะทุกข้อยึดโยงถึงกัน
แสดงถึง

ความอ่อนด้อยในปัญญาธรรม ของ อ.หื่นกลัดกาม
ความมีธรรมอันเลว เป็นอุปสรรค์
จึงไม่อาจโยงใยธรรมได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 16:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อยากพูดธรรมแล้วพูดว่า “ทวารอินทรีย์” ฯลฯ พูดแล้วก็ว่าไปเรื่อยเปื่อยอะไรนักก็ไม่รู้ :b1:

อย่างนั้นผิดหลัก

เมื่อต้องการพูดเกี่ยวกับทวารก็ใช้ศัพท์ทวารศัพท์เดียวเป็นที่รู้กัน เพราะทวารมี 6 คือ จักขุทวาร โสตทวาร

ฆานทวาร ชิวหาทวาร กายทวาร มโนทวาร

เมื่อต้องการพูดเกี่ยว อินทรีย์ ก็ใช้อินทรีย์ศัพท์เดียวก็เป็นที่รู้กันในวงนักศึกษาทั่วไป เพราะอินทรีย์ท่านจำแนกไว้

22 อย่าง คือ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฯลฯ ดังกล่าวแล้ว

มิใช่พูดว่า “ทวารอินทรีย์” แล้วพร่ำพรรณนาไปอย่างนั้น

ทวารกับอินทรีย์ คนละความหมายกัน หากต้องการระบุว่าทวารไหน อินทรีย์ใด ก็เติมศัพท์นามเข้าไปด้วย

ดูความหมาย ทวาร คร่าวๆ

ทวาร แปลว่า ประตู, ช่องทาง ทวาร มี 6 คือ จักขุทวาร โสตทวาร ฆานทวาร ชิวหาทวาร

กายทวาร มโนทวาร

คำว่า ทวาร เมื่อนำไปกล่าวในระบบการทำงานของกระบวนธรรมแห่งชีวิต ท่านนิยมเปลี่ยนไปใช้คำว่า

อายตนะ (ดังกล่าวแล้ว) แทน


เหอๆๆ



ความนิยม เกิดจากเวทนา

เหอๆๆ สอนอินทรีย์ ตกม้าตายเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไม่ใช่แค่ทวารเบ่งขี้ ที่ อ.หื่นกาม และคู่หูดูโอ ผู้มีธรรมอันเลว เปลี่ยนเวทนา เป็นสดใสซาบซ่า

หรอก


พูดกันเรื่องเห็นๆด้วยตายังเลอะเทอะขนาดนั้น ลำพองไปพูดเรื่องสภาวธรรมที่เกิดแต่ละขณะของความคิด

จะให้ดูคร่าวๆก่อน

อายตนะ-อารมณ์-วิญญาณ = ผัสสะ => เวทนา...

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ

ธรรมชาติ ยังไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เกี่ยวข้อง

...ตัดตอนแต่เวทนาไปแล้ว กระบวนธรรมแยกเป็นสองแบบ คือกระบวนธรรมแบบสังสารวัฏฏ์ (ก่อ

ทุกข์) กับกระบวนธรรมแบบวิวัฏฏ์ (พ้นทุกข์)

ทีนี้บัณฑิตพึงเลือกเอาดิว่าต้องการความทุกข์หรือต้องการพ้นจากทุกข์ :b1:




เหอๆๆ

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ.............


เหอๆๆ ความโสโครกขนาดนั้น เห็นเป็นกระบวนการรับรู้ที่ บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า คงไม่ละทิ้งความบริสุทธิ์ของกระบวนการ แบบอ. หื่นกลัดกาม
หรอก
ถ้ามันบริสุทธิ์จริง แบบอ.หื่นกลัดกามว่า

เหอๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ.............


เหอๆๆ ความโสโครกขนาดนั้น เห็นเป็นกระบวนการรับรู้ที่ บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า คงไม่ละทิ้งความบริสุทธิ์ของกระบวนการ แบบอ. หื่นกลัดกาม
หรอก
ถ้ามันบริสุทธิ์จริง แบบอ.หื่นกลัดกามว่า

เหอๆ


ถามป๊อดไลท์ไฟรั่ว พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจไหม

มีการรับรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก เป็นต้นไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ.............


เหอๆๆ ความโสโครกขนาดนั้น เห็นเป็นกระบวนการรับรู้ที่ บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า คงไม่ละทิ้งความบริสุทธิ์ของกระบวนการ แบบอ. หื่นกลัดกาม
หรอก
ถ้ามันบริสุทธิ์จริง แบบอ.หื่นกลัดกามว่า

เหอๆ


ถามป๊อดไลท์ไฟรั่ว พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจไหม

มีการรับรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก เป็นต้นไหม


เหอๆๆ

จิตแสวงหา จิตบันลัย
กลับไปขุดตำรา ด้วยการแสวงหาที่สร้างความบันลัยของจิต เถอะกลัดกาม เด็กน้อยผู้หื่นกาม
ผู้มีธรรมอันเลว


ถ้าผุ้ที่พอมีจะสติ พอมีปัญญา พอมีการศึกษาธรรมะมาบ้าง มีธรรมอันดีอยู่ บ้าง
ก็พึงจะถามว่า

มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ



เหอๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 19:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ.............


เหอๆๆ ความโสโครกขนาดนั้น เห็นเป็นกระบวนการรับรู้ที่ บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า คงไม่ละทิ้งความบริสุทธิ์ของกระบวนการ แบบอ. หื่นกลัดกาม
หรอก
ถ้ามันบริสุทธิ์จริง แบบอ.หื่นกลัดกามว่า

เหอๆ


ถามป๊อดไลท์ไฟรั่ว พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจไหม

มีการรับรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก เป็นต้นไหม


เหอๆๆ

จิตแสวงหา จิตบันลัย
กลับไปขุดตำรา ด้วยการแสวงหาที่สร้างความบันลัยของจิต เถอะกลัดกาม เด็กน้อยผู้หื่นกาม
ผู้มีธรรมอันเลว


ถ้าผุ้ที่พอมีจะสติ พอมีปัญญา พอมีการศึกษาธรรมะมาบ้าง มีธรรมอันดีอยู่ บ้าง
ก็พึงจะถามว่า

มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

เหอๆๆ


มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

ท่านป๊อดไลท์ไฟรั่ว โปรดอธิบายคำพูดนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหอๆๆ

ตั้งแต่อายตนะภายในถึงเวทนา เป็นกระบวนการรับรู้ที่บริสุทธิ์ มีแต่องค์ธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของ.............


เหอๆๆ ความโสโครกขนาดนั้น เห็นเป็นกระบวนการรับรู้ที่ บริสุทธิ์

พระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า คงไม่ละทิ้งความบริสุทธิ์ของกระบวนการ แบบอ. หื่นกลัดกาม
หรอก
ถ้ามันบริสุทธิ์จริง แบบอ.หื่นกลัดกามว่า

เหอๆ


ถามป๊อดไลท์ไฟรั่ว พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจไหม

มีการรับรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก เป็นต้นไหม


เหอๆๆ

จิตแสวงหา จิตบันลัย
กลับไปขุดตำรา ด้วยการแสวงหาที่สร้างความบันลัยของจิต เถอะกลัดกาม เด็กน้อยผู้หื่นกาม
ผู้มีธรรมอันเลว


ถ้าผุ้ที่พอมีจะสติ พอมีปัญญา พอมีการศึกษาธรรมะมาบ้าง มีธรรมอันดีอยู่ บ้าง
ก็พึงจะถามว่า

มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

เหอๆๆ


มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

ท่านป๊อดไลท์ไฟรั่ว โปรดอธิบายคำพูดนั้น :b1:


เหอๆๆ

กลัดกาม ผู้มีธรรมอันเลว มีความหื่นเอ๋ย

ตำราบดบังธรรมะมั่นคงเสียแล้ว

ถ้ารูป และนาม อันมีลักษณะที่จะให้เกิดความรู้ขึ้น
ยังไม่เห็นเหตุให้เห็น ให้รู้จักพระพุทธเจ้าและพระอริยะได้แล้ว
แล้วจะมีอำนาจอย่างอื่นอะไรอีก ที่จะทำให้เห็นแจ้งในพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์
ในหูตาจมูกปากลิ้นกายใจ เหล่านั้น

เหอๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

ท่านป๊อดไลท์ไฟรั่ว โปรดอธิบายคำพูดนั้น

เหอๆๆ

กลัดกาม ผู้มีธรรมอันเลว มีความหื่นเอ๋ย

ตำราบดบังธรรมะมั่นคงเสียแล้ว

ถ้ารูป และนาม อันมีลักษณะที่จะให้เกิดความรู้ขึ้น
ยังไม่เห็นเหตุให้เห็น ให้รู้จักพระพุทธเจ้าและพระอริยะได้แล้ว
แล้วจะมีอำนาจอย่างอื่นอะไรอีก ที่จะทำให้เห็นแจ้งในพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์
ในหูตาจมูกปากลิ้นกายใจ เหล่านั้น

เหอๆๆ


อ้อ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ มีใน หู ตา จมูก ปาก ลิ้น กาย ใจ หรือขอรับ อืมม :b1:

แล้วพระพุทธเจ้า พระอริยะเหล่านั้นมาจากไหนกันล่ะขอรับ เป็นคนหรือเป็นเทวดาหรืออินทร์พรหมจากสรวง

สวรรค์วิมานแมนแดนสรวงกันล่ะขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2010, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
มีพระพุทธเจ้า พระอริยะ ในตาหรือ มีในหูหรือ มีในลิ้นหรือ มีในกายหรือ มีในใจหรือ

ท่านป๊อดไลท์ไฟรั่ว โปรดอธิบายคำพูดนั้น

เหอๆๆ

กลัดกาม ผู้มีธรรมอันเลว มีความหื่นเอ๋ย

ตำราบดบังธรรมะมั่นคงเสียแล้ว

ถ้ารูป และนาม อันมีลักษณะที่จะให้เกิดความรู้ขึ้น
ยังไม่เห็นเหตุให้เห็น ให้รู้จักพระพุทธเจ้าและพระอริยะได้แล้ว
แล้วจะมีอำนาจอย่างอื่นอะไรอีก ที่จะทำให้เห็นแจ้งในพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์
ในหูตาจมูกปากลิ้นกายใจ เหล่านั้น

เหอๆๆ


อ้อ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ มีใน หู ตา จมูก ปาก ลิ้น กาย ใจ หรือขอรับ อืมม :b1:

แล้วพระพุทธเจ้า พระอริยะเหล่านั้นมาจากไหนกันล่ะขอรับ เป็นคนหรือเป็นเทวดาหรืออินทร์พรหมจากสรวง

สวรรค์วิมานแมนแดนสรวงกันล่ะขอรับ


เหอๆๆ

กลัดกาม ผู้มีความหื่น มีธรรมอันเลว
มีความเห็นด้วยวิปลาส อันเป็นปทปรมะอย่างมั่นคง
ความเป็นพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ไม่่ไช่ฐานะ ที่จะพึงมีได้ในหู ในตา ในจมูกปากลิ้นกายใจ

นับว่า เป็นทิฎฐิวิปลาส อันเป็นปทปรมะอย่างมั่นคง ของผู้มีธรรมอันเลว
มีความหื่น กลัดกามจึงว่าพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พึงมีอยู่ในฐานะเยี่ยงนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 01:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนทุศีล...ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยนิ..

อ.กรัชกายจะไปเอาอะไรดีกับคนทุศีลอย่างเอ็นไลท์..ไอท์..เล็น..เหล่า..

หายาง..ไม่ได้แล้ว....

ยางอาย :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 04:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คนทุศีล...ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยนิ..

อ.กรัชกายจะไปเอาอะไรดีกับคนทุศีลอย่างเอ็นไลท์..ไอท์..เล็น..เหล่า..

หายาง..ไม่ได้แล้ว....

ยางอาย :b32: :b32:



เหอๆ

พวกปทปรมะ หาสติ หาปัญญาทางธรรมไม่ได้
ก็ไ้ด้แต่แสดงความเห็นไร้ปัญญา แบบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
กะลาแก้ว ไต้สะดือทะเล

ความมียางหัว เป็นเรื่องของสัตว์เดียรรัจฉาน ครึ่งบกครึ่งน้ำแบบกบ นิ

ความมีตัวยางอาย ไม่มีตัวยางอาย เป็นเรื่องของจิต
ครอบแต่กะลา แต่หารู้ไม่ ในกะลามี กบกับตัวเหี้-ย
เปิดจอมปลวกหมดทุกรู ก็หาตัวเหี้-ย ไม่เจอ นิ
ความบริบูรณ์พร้อม มีอะไรต้องทำเพิ่ม นิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คนทุศีล...ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยนิ..
อ.กรัชกายจะไปเอาอะไรดีกับคนทุศีลอย่างเอ็นไลท์..ไอท์..เล็น..เหล่า..
หายาง..ไม่ได้แล้ว....
ยางอาย


ไม่เป็นไรครับคุณกบฯ ไม่ยังงั้นเราก็ไม่รู้ว่าป๊อดไลท์ไฟรั่ว รู้อะไรบ้าง ที่เค้าว่า ก็รู้ๆว่ารู้ธรรม กรัชกายอยากรู้ว่า ป๊อดไลท์รู้ทำ อะไร
แต่ดูๆแล้ว... :b21: :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร