วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 771 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33 ... 52  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2010, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคน

ตอนแรกว่าจะไม่เข้ามาจะแอบด้อมๆมองๆเฉยๆ
แต่จะน้อยหน้าอาจารย์ทักทาย
แหม เรื่องความคาดหวังจากสามีนะหรอ
ถ้านิตาเล่าร้อยหน้ากระดาษก็ไม่จบ
เรียกว่าตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ
นิตาคนเดียวค่ะ ถ้ามีการประกวดรับรองนิตาได้ถ้วยทองแน่นอนขอบอก


ไม่ห่วงฉัน ก็ไม่เป็นไร ฉันห่วงเธอก็พอ อย่างร้ายที่สุด
ถ้าจะไม่รักฉันเลยก็ไม่เป็นไร ฉันรักเธอก็พอ



น้องอ้อคิดได้ดีนะเนี่ย ทำได้ก็มีความสุขนะ


พี่นิตาคิดแบบนี้ ไม่รักเราก็ไม่ต้องรัก ไม่ห่วงเราก็ไม่เป็นไรเราดูแลตัวเองได้
แล้วเราจะไปห่วงเขาทำไม ไม่ต้องการไม่เห็นความรักที่เรามีให้ก็ไม่เป็นไรก็เอารักของเราคืนมา
(ข้อความทำนองนี้เป็นคำแนะนำที่อาจารย์ทักทายเคยแนะนำไว้ พิมพ์ออกมาท่องเลย
ก็ทำให้มีความสุขได้ทำให้เราไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากสามีอีก)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2010, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


นนนน เขียน:
พี่ทักทาย ...
คนเรานี่นะ รู้หน้าไม่รู้ใจ
ใจเขา...ไม่เหมือนใจเรา
อยากตัดเขาออกจากใจได้
เหมือนพี่ทักทายนะ....
เชอะ...ก็แค่ผู้ชายคนนึง


ฝึกมองเขาเป็น "คนอื่น" ก่อนซิค่ะ
ฝึกทุกๆวัน....เมื่อรู้สึกแบบนั้นได้
ไม่ต้องตัดใจ...เยื่อใยก็ขาดเอง :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
นั่นซิค่ะ
ขอครองตำแหน่ง "เทพี ร้าวราน"
คนเดียวจะไม่ยกให้ใครแล้วนะค่ะ :b2:

เดี๋ยวจะมีการจัดประกวดเทพีร้าวรานเพื่อชิงตำแหน่งจากคุณทักทายครับ
เพราะรู้สึกว่าหลายคนจะไม่ยอมนะ :b32:

แต่ผมขอสละสิทธิ์ :b2: :b2: :b2: :b2:





taktay เขียน:
นนนน เขียน:
พี่ทักทาย ...
คนเรานี่นะ รู้หน้าไม่รู้ใจ
ใจเขา...ไม่เหมือนใจเรา
อยากตัดเขาออกจากใจได้
เหมือนพี่ทักทายนะ....
เชอะ...ก็แค่ผู้ชายคนนึง


ฝึกมองเขาเป็น "คนอื่น" ก่อนซิค่ะ
ฝึกทุกๆวัน....เมื่อรู้สึกแบบนั้นได้
ไม่ต้องตัดใจ...เยื่อใยก็ขาดเอง :b1:

ขนาดตัวเราเองยังไม่ใช่ของเราเล๊ยยย :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 15:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปริตา เขียน:
ขอบคุณค่ะพี่อ้อ...และคุณลูกโป่งด้วยค่ะ
เป็นบทสวดที่ยาวมากเลยค่ะ ต้องใช้ความพยายามมากๆ แต่ปอนด์ก็จะพยายามค่ะ
พี่อ้อเป็นอย่างไรบ้างคะ สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง มีพี่ๆน้องๆให้กำลังใจอยู่ตั้งเยอะนะคะ สู้ๆค่ะ


พี่อ้อมักสวดบทนี้ในวันพระค่ะ ตอนแรก
ก็สวดไป ไม่รู้หรอกว่าแปลว่าอะไร
ก็เลยพยายามหาคำแปลมา
อ่านแล้วเป็นบทแผ่เมตตาที่น่าทึ้งมาก
ก็เลยพยายามสวดให้ได้ค่ะ
แล้วก็อุทิศไป ให้คนที่เข้ามาเบียดเบียนเรา

ตอนนี้พี่อ้อก็ดีขึ้นมากแล้วละค่ะ
แต่ก็มีบ้างที่น้อยใจ เสียใจ ผิดหวัง
ก็พยายามพิจารณาอาการของใจ
ให้เข้าใจ และยอมรับ อีกหน่อยก็คง
รู้แล้วเบื่อที่จะน้อยใจ เสียใจ หรือผิดหวัง
ไปเองละค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ประกวดเทพีร้าวราน อ้อว่าไม่เอาดีกว่า
เปลี่ยนมาจัดเทพีอย่างอื่นดีกว่าค่ะ
เป็นต้นว่า เทพียิ้มสวย หรืออะไรดีละ
พี่ทักทาย พี่มานิตา คุณพงพัน
เทพีร้าวรานมันเป็นอดีต ที่เรานึกถึง
แล้วเจ็บปวด ไม่ดีหรอกค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


[


ฝึกมองเขาเป็น "คนอื่น" ก่อนซิค่ะ
ฝึกทุกๆวัน....เมื่อรู้สึกแบบนั้นได้
ไม่ต้องตัดใจ...เยื่อใยก็ขาดเอง :b1:
[/quote]


คุณทักทายคะ นิตาชอบมากคำคำนี้ ขอนำไปใช้นะคะ
ช่วยส่งไปให้ที่กระทู้ของนิตาหน่อยค่ะ ขอเพิ่มด้วยแบบที่จะทำให้ตัดใจตัดขาดได้เร็วขึ้นน่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย มานิตา เมื่อ 02 เม.ย. 2010, 18:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 14:40
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูคุณอ้อเข้มแข็งขึ้นเยอะเลยนะครับ เป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณรักลูกมากค่ะ อ้อได้อ่านกระทู้คุณแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกัน ดีใจที่คุณคิดได้
ตอนนี้ก็หวังแค่ว่าให้สามีของอ้อเอง
คิดได้เหมือนกับคุณ ความทุกข์ใด ๆ
ไม่เท่าความทุกข์ที่สามีไปมีผู้หญิงอื่น
หรอกค่ะ
จริง ๆ อยากทราบความคิดเห็นนะว่า
ผู้ชายไม่คิดกลัวการที่จะต้องสูญเสียภรรยาไปหรือไง
หรือคิดว่าถึงเสียไป เขาก็มีผู้หญิงใหม่รออยู่แล้ว
คืออยากทราบความคิดเห็น เพราะไม่ค่อยมีผู้ชาย
เข้ามาในกระทู้ และยิ่งที่มีประสบการณ์อย่างคุณ
ก็ยิ่งน้อย มีหลายคำถามมากที่อยากถาม แต่เอาไว้ก่อนแล้วกันค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พิม...
อ้อยังคิดถึง และเป็นห่วงพิมนะ
แล้วจะโทรหานะจ๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำยังงัยอ้อถึงจะ หยุด ลด ความรู้สึกหงุดหงิด
ที่เกิดขึ้นได้บ้างนะ เวลาที่เขาเอาของที่ผู้หญิงคนนั้นมาใช้
มาใส่ อ้อจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วอารมณ์ก็เปลี่ยนเลย
จากที่เฉย ๆ ก็มีอารณ์ ไม่อยากเห็น ไม่อยากมอง
แต่ยังงัยก็เห็นอยู่ดี หงุดหงิดอยู่พักใหญ่ กว่าจะดึง
อารมณ์ตัวเองกลับมาได้ บางที่ก็ให้รู้สึกเบื่อตัวเอง
เบื่อเขา ที่ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน ก็อยากใส่นิ อยากใช้นิใครจะทำไม
ดูเขาทำเหมือนเรายินดี มากที่ีมีคนมาช่วยดูแลสามีให้เรา
(เราจะได้สบาย) แต่เราไม่ต้องการ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ทำยังงัยอ้อถึงจะ หยุด ลด ความรู้สึกหงุดหงิด
ที่เกิดขึ้นได้บ้างนะ เวลาที่เขาเอาของที่ผู้หญิงคนนั้นมาใช้
มาใส่ อ้อจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วอารมณ์ก็เปลี่ยนเลย
จากที่เฉย ๆ ก็มีอารณ์ ไม่อยากเห็น ไม่อยากมอง
แต่ยังงัยก็เห็นอยู่ดี หงุดหงิดอยู่พักใหญ่ กว่าจะดึง
อารมณ์ตัวเองกลับมาได้ บางที่ก็ให้รู้สึกเบื่อตัวเอง
เบื่อเขา ที่ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน ก็อยากใส่นิ อยากใช้นิใครจะทำไม
ดูเขาทำเหมือนเรายินดี มากที่ีมีคนมาช่วยดูแลสามีให้เรา
(เราจะได้สบาย) แต่เราไม่ต้องการ


อย่างแรกคงต้องบอกว่า "พี่อ้อ สู้ๆค่ะ" :b4: :b4: :b4:
ปอนด์ว่านะคะ วิธีที่จะทำให้พี่อ้อหลุดพ้นตรงนี้ได้คงต้องทำอย่างที่พี่ทักทายแนะนำแหละค่ะ
หัดมองเขาเป็นคนอื่น ทำบ่อยๆทำมากๆค่ะ สักวันคงสัมฤิทธิ์ผลนะคะ คิดซะว่าเขาอยากทำอะไรก็เชิญ อยากใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ เราก็ทำของเราเหมือนเดิม ก็ให้เขาทำอะไรอย่างที่เขาอยากทำไป คิดซะว่าเขามาช่วยให้เราฝึกความอดทนอดกลั้นไงคะ ในความไม่ดี ยังไงก็ต้องมีสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์กับเราบ้างละคะ เพียงแต่ให้พี่อ้อคิดให้เป็นบวกเข้าไว้เท่านั้นเอง


พี่นิตาคิดแบบนี้ ไม่รักเราก็ไม่ต้องรัก ไม่ห่วงเราก็ไม่เป็นไรเราดูแลตัวเองได้
แล้วเราจะไปห่วงเขาทำไม ไม่ต้องการไม่เห็นความรักที่เรามีให้ก็ไม่เป็นไรก็เอารักของเราคืนมา
(ข้อความทำนองนี้เป็นคำแนะนำที่อาจารย์ทักทายเคยแนะนำไว้ พิมพ์ออกมาท่องเลย
ก็ทำให้มีความสุขได้ทำให้เราไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากสามีอีก)
[/quote]

เห็นด้วยกับพี่ทักทายที่แนะนำพี่นิตาค่ะ ประโยคนี้กินใจมากค่ะ ต้องทำให้ได้ค่ะ
ไม่รักก็ไม่ต้องรัก ไม่ห่วงก็ไม่เป็นไรเราดูแลตัวเองได้ จริงค่ะ เขาไม่ห่วงเรา เราก็ไม่ต้องไปห่วงเขาให้เสียเวลาเสียความรู้สึก ถ้าเราทำได้อย่างนี้คงทำให้เรามีความสุขมากขึ้นนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ประกวดเทพีร้าวราน อ้อว่าไม่เอาดีกว่า
เปลี่ยนมาจัดเทพีอย่างอื่นดีกว่าค่ะ
เป็นต้นว่า เทพียิ้มสวย หรืออะไรดีละ
พี่ทักทาย พี่มานิตา คุณพงพัน
เทพีร้าวรานมันเป็นอดีต ที่เรานึกถึง
แล้วเจ็บปวด ไม่ดีหรอกค่ะ


ก็ว่างั้นแหละครับ :b6:
อดีตและอนาคตล้วนแล้วแต่เป็นสัญญา(ความจำ)ทั้งสิ้น
ไม่ได้น่าให้ความหมายอะไรนักหนา แม้แต่ปัจจุบันเดี๋ยวก็เปลี่ยนไปเป็นอดีต
เราเพียรพิจารณาขันธ์๕ให้จิตหลุดจากอดีต อนาคตหรือแม้แต่ปัจจุบันกันดีกว่า
แล้วจะเห็นถึงจุดนิ่งของจักรวาลที่ไม่ใช่อดีต ปัจจุบันหรืออนาคต
ที่เป็นความสงบอย่างยิ่งของจิตหรือสภาวะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้นั่นล่ะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ทำยังงัยอ้อถึงจะ หยุด ลด ความรู้สึกหงุดหงิด
ที่เกิดขึ้นได้บ้างนะ เวลาที่เขาเอาของที่ผู้หญิงคนนั้นมาใช้
มาใส่ อ้อจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วอารมณ์ก็เปลี่ยนเลย
จากที่เฉย ๆ ก็มีอารณ์ ไม่อยากเห็น ไม่อยากมอง
แต่ยังงัยก็เห็นอยู่ดี หงุดหงิดอยู่พักใหญ่ กว่าจะดึง
อารมณ์ตัวเองกลับมาได้ บางที่ก็ให้รู้สึกเบื่อตัวเอง
เบื่อเขา ที่ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน ก็อยากใส่นิ อยากใช้นิใครจะทำไม
ดูเขาทำเหมือนเรายินดี มากที่ีมีคนมาช่วยดูแลสามีให้เรา
(เราจะได้สบาย) แต่เราไม่ต้องการ


เวลาที่คิดจะหยุดๆๆๆ หรือต้องการบังคับสภาวะของขันธ์ตัวใดก็แล้วแต่
คุณอ้อรู้ตัวไว้เลยครับว่าเป็นการเริ่มสร้างตัณหา จากการไปพยายามบังคับหรือหยุดธรรมชาติที่มันเกิด
เหมือนเราอยากจะบังคับกลางวันให้เป็นกลางคืนเร็วๆ หรือหยุดดวงอาทิตย์ไม่ให้ลับขอบฟ้า
เราทำไม่ได้ฉันใดเราก็หยุดหรือห้ามสภาวะของขันธ์ไม่ได้ฉันนั้นแหละครับ
แต่การที่เราสร้างเหตุ พิจารณาขันธ์๕ในความเป็นไตรลักษณ์ตลอดมา
มันทำให้จิตยอมรับมากขึ้น อาการที่จะดิ้นรนวิ่งหนีสภาวะต่างๆมีน้อยลง

ขอแนะนำอีกครั้งว่าพยายามอย่าพิจารณาผู้อื่นเยอะ ให้น้อมพิจารณากายใจตัวเองเท่านั้นอยู่เสมอ
เมื่อเห็นอะไรต่างๆแล้ว เริ่มคิดเริ่มรู้สึกก็ให้รีบน้อมเข้ามาพิจารณากายใจขันธ์๕ทันที
ทำแบบนี้บ่อยๆ อีกหน่อยมันจะค่อยเป็นไปตามอัตโนมัติของมันเอง ใครจะทำอะไรช่างเขา
น้อมเข้ากายใจเสมอๆ

จะขอยืนยันกับคุณอ้ออีกครั้งครับว่า ความเจ็บปวดต่างๆยังเป็นประโยชน์มากกับคุณอ้อเพื่อการพิจารณา
หรือแม้แต่ความสุขก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น หรือแม้แต่อารมณ์กลางๆที่อยู่ระหว่างทุกข์กับสุขก็เช่นกัน

ถ้าเวลาใดเครียดมากๆ แนะนำให้ทำอะไรคลายเครียดบ้างก็ดีครับ เช่นไปพบปะพูดคุยทานข้าวกับเพื่อนๆบ้าง ให้ผ่อนคลายหน่อย เพราะถ้าเพียรวิปัสสนาความทุกข์เพียงอย่างเดียวอาจจะหนักไป ให้มีอารมณ์สบายๆให้พิจารณาบ้างก็ดี
แต่ถ้าคิดว่ารับมือได้สบายๆอยู่แล้ว ก็ให้พิจารณาสภาวะไปเลยครับ

สักวันคุณอ้อจะรู้สึกขอบคุณในอารมณ์ต่างๆที่ตอนนี้คุณอ้อไม่อยากให้มันเกิด
และจะขอบคุณตัวเองเป็นอย่างยิ่งที่พากเพียรในการพิจารณาขันธ์๕ ที่เป็นการสร้างเหตุให้จิตหลุดพ้น
เป็นกำลังใจให้ครับ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้ทำไมเขาถึงสร้างให้ผู้ชายส่วนใหญ่
กับผู้หญิงส่วนใหญ่ แตกต่างกันมากนักก็ไม่รู้
เลยไม่มีใครเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง
ผู้หญิงก็มักมองว่าผู้ชายไม่เข้าใจเรา
ผู้ชายก็มองว่าผู้หญิงประหลาดคิดอะไรก็ไม่รู้
แย่จังนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นนนน เขียน:
ไม่รู้ทำไมเขาถึงสร้างให้ผู้ชายส่วนใหญ่
กับผู้หญิงส่วนใหญ่ แตกต่างกันมากนักก็ไม่รู้
เลยไม่มีใครเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง
ผู้หญิงก็มักมองว่าผู้ชายไม่เข้าใจเรา
ผู้ชายก็มองว่าผู้หญิงประหลาดคิดอะไรก็ไม่รู้
แย่จังนะ


นั่นสินะครับ ทำไมนะ
แล้วทำไมเราต้องรู้สึกแย่ด้วยล่ะ
เราเป็นเจ้าของใจตัวเอง ทำไมเราบังคับหัวใจให้เป็นสุขไม่ได้ล่ะ
ทำไมเราต้องทุกข์กับความรัก
ทำไมอยากรักอย่างบริสุทธิ์ใจแต่ก็ยังทุกข์อยู่
ทำไมอยากรักแบบไม่คาดหวังแต่ก็ยังคาดหวังอยู่
ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ล่ะ
ทำไมๆๆๆๆ

ทุกอย่างมีผลก็ต้องมีเหตุครับ เหตุและผลทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎของกรรมและธรรมชาติ
แต่ถ้าเราพยายามที่อยากจะไปรู้เหตุของผลทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ชีวิตก็จะไม่มีความสุขเลย เราจะติดอยู่ในวังวนของความคิด
ไม่มีใครพ้นทุกข์อย่างแท้จริงได้ด้วยความคิด
แต่จะพ้นทุกข์ได้ด้วยการปล่อยวาง
สร้างเหตุโดยการพิจารณาความไม่เที่ยงของทุกข์เพื่อเกิดผลคือการปล่อยวาง
ผลอะไรจะเกิดขึ้นกับเราในตอนนี้ ก็ปล่อยมันตามธรรมชาติดีกว่าครับ
เราหมั่นสร้างเหตุอันเป็นกุศลเพื่อให้เกิดผลที่ดีในอนาคตจะดีกว่า

ผมก็เคยติดอยู่ในวังวนความคิดอย่างหนักเป็นระยะเวลายาวนาน ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านยิ่งทุกข์
จนทราบว่าความคิดมันไม่ได้ช่วยให้เราปล่อยวางได้เลย แต่ยิ่งทำให้เพิ่มทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกข์ทรมาณเป็นอย่างมากกับคำถามของตัวเองที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า"ทำไม"
แต่เมื่อพิจารณาความคิดและความทุกข์ที่เกิดจากความคิดแล้ว
เห็นว่ามันไม่จีรังยั่งยืน เกิดแล้วต้องดับไปอย่างนั้นตลอด
จึงรู้ว่าเราไม่ควรเชื่อหรือใส่ใจในทุกความคิดของเรา
เลือกใช้เฉพาะความคิดที่เป็นประโยชน์กับตัวเองดีกว่า
และหมั่นพิจารณาถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นต้นตอแห่งทุกข์ก็คือขันธ์๕นี้

ขันธ์๕นี้เป็นไฟ เป็นกองทุกข์จริงๆ
ตราบใดที่เรายังยึดติดขันธ์๕นี้ว่าเป็นเรา ไม่พิจารณา ไม่ปล่อย ไม่วางเฉย
ก็ต้องร้อนรนต้องทุกข์กับมันอยู่เรื่อยไป
แต่ไม่ใช่ว่าจะพยายามดับความทุกข์ทุกอย่างให้สิ้น
เพียงแต่ขันธ์ทุกข์ ก็ไม่ทุกข์ไปกับขันธ์ ขันธ์มันสุขก็ไม่สุขไปกับขันธ์
ทุกข์ก็ช่างมัน สุขก็ช่างมัน เป็นเพียงสภาวะที่เกิดขึ้นแล้วต้องดับไปอยู่ดี
พิจารณาได้แบบนี้ เราก็จะอยู่กับธรรมชาติของขันธ์ได้อย่างสบายใจ

สู้ๆครับ เป็นกำลังใจที่ยาวยืดทีเดียว :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 771 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33 ... 52  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร