วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 16:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้จะตรงประเด็นหรือเปล่าครับ???
" ๑ จงถือตัวเองเป็นที่รักสูงสุด อย่ารักใครให้ยิ่งกว่าตัว จงสร้างตัวเองเมื่อเรารักตัวเองสร้างตัวเองได้แล้ว การจะใหคนอื่นมารักเป็นเรื่องง่าย
๒ จงมีความบากบั่นพยายามอย่างมั่นคง อย่าท้อถอยอะไรง่ายๆ
๓ อย่าโอดครวญร่ำร้องถึงความทุกข์ ยากลำบาก จงกัดฟันต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ อย่าร้องขอความเห็นใจจากใคร แต่จงเห็นใจผู้อื่นที่ทำผิดพลาด อย่าซ้ำเติมคนผิด เมื่อเขารู้สึกตัวแล้วจงให้กำลังใจเพื่อให้เขาทำความดีต่อไป
๔ อย่าด่วนตัดสินใจว่าใครเป็นคนเลว จงดูชีวิตของเขาให้ตลอด ชีวิตคนเปลี่ยนแปลงเสมอในใจเราจงพอกพูนอภัยธรรมให้มีมากที่สุด
๕ อย่าแสวงหาความสุขความเพลิดเพลิน บนความทุกข์ ความเดือดร้อนของผู้อื่น อย่านำปมด้อยคนอื่นมาล้อเลียน จงมีเมตตาต่อผู้มีปมด้อย รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
๖ จงมีความสุจริตใจในการกระทำและการพูด อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้เท่าทันเรา ถือเอาความสุจริตให้มั่นไว้ ความซื่อสัตย์เป็นอุบายที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะหาได้[color=#000000]
๗ จงให้เกียรติแก่สุภาพสตรี เมื่อสุภาพสตรีทำให้โกรธ อย่าแสดงความโกรธให้ปรากฏ จงอดทนต่อคำล่วงเกินและให้อภัย จงสุภาพอ่อนโยน ถ้าผิดหวังในความรักจงทำตัวให้เด่น อย่าให้ความรักฆ่าเราได้[color=#FF0000]จงถือความรักเป็นเครื่องประกอบเล็กๆ น้อยๆ จุดมุ่งหมายในชีวิตคือ มุ่งมั่น บำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ชีวิต อย่าให้ชีวิตว่างเปล่าจากคุณความดี[color=#000000]
[/color][/color][/color]
๘ สุดท้าย ขอให้รักความสงบสุข ให้ถือความสงบสุขเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต[color=#000000][/color]อย่าทะเยอทะยานในตำแหน่งฐานันดรใดๆ อะไรจะเสียไปก็เชื่อว่ามิได้เสีย อะไรที่ได้มา ก็เพียงสักแต่ได้มา สมบัติทั้งหลายในโลกนี้เป็นของโลก เราเพียงมาอาศัยใช้ชั่วคราวแล้วละทิ้งไป อย่าให้ความโลภมีอำนาจเหนือจิตใจจนทำผิดได้ สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดคือดวงใจที่สงบอยู่ด้วยธรรมของผู้มีปัญญา"[color=#000000]

[/color]คัดตัดย่อจาก "ภาพจำลองชีวิต" วศิน อินทสระ
หวังว่าข้อความในนิยายอิงธรรมะ คงจะมีประโยชน์ ถ้าเรามีศีล ศีลจะคุ้มครองเรา หมั่นทำความดีครับแล้วเพื่อนๆ จะกลับมา.
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ทุกท่านครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


ในส่วนความคิดเห็นของผมนะครับ

เหตุใดที่เราพึงทุกข์กับการที่เราไม่มีเพื่อน ที่เราทุกข์นั้นลองมองเข้าไปลึกๆแล้วท่านจะพบว่ามีสิ่งหนึ่งซ่อนอยู่ ถ้าถามว่าทำไมเราถึงต้องไปทุกข์กับมัน กลัวเพื่อนไม่รัก คิดว่าเพื่อนรังเกียจ ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าให้จัดเป็นหมวดแห่งกองทุกข์แล้วนั้นก็จะจัดอยู่ในโลกธรรม 8 คือเราไปยึดติดในโลกธรรม 8 มากเกินไป ดังนั้นถ้าคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว ก็ขอให้คงความดีนี้ไว้ แต่ถ้าไม่ดีพอก็ให้เร่งแก้ไขพัฒนา กล่าวคือ เราไม่ได้แก้เพราะเพื่อนแต่เราอยากจะแก้ไขตนให้เป้นคนดียิ่งขึ้น
อาจจะกล่าวโดยง่าย คือ ปธาน 4 อย่าง
1.ความชั่วที่กระทำแล้วให้ระงับเสีย
2.ความชั่วที่ยังไม่ทำก็ไม่ทำ
3.ความดีที่ทำแล้วก็ให้ดำรงต่อไป
4.ความดีที่ยังไม่ทำก็ทำให้ถึงพร้อมเสีย
ถ้าเราทำได้ตาม ปธาน 4 อย่างแล้วนี้ แล้วเพื่อนยังปฏิบัติตัวเหมือนเดิมเราก็ไม่ควรใส่ใจ
เพราะขอให้ท่านจำไว้ว่าโลกธรรม 8 มันหมุนเวียนอยู่ในโลกนี้เป้นธรรมดาหากเราเอาจิตใจไปจดจ่อกับโลกธรรมนี้ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ เรามีความทุกข์เป็นของธรรมดาอย่างแน่นอน

โลกธรรมเป็นกองทุกข์อย่างหนึ่งเหมือนดังไฟหากใจของเราไปจดจ่อเข้าไปใกล้โลกธรรมมากมันก็เหมือนเราอยู่กลางเปลวไฟ ย่อมร้อนรน ย่อมทุกข์อยู่เป็นธรรมดา
ขอทิ้งท้ายไว้แค่นี้ ผิดพลาดประการใดกระผมต้องขออโหสิกรรมด้วยครับขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b8: :b8: :b8:
..ก่อนมีเพื่อน ก็เคยไม่มีเพื่อน..
..ก่อนมีใคร ก็เคยไม่มีใคร..
ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ค่อยๆ ศึกษาทำความเข้าใจ แล้ว ปล่อยวาง
สาธุค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รู้จัก Nobody มั้ยคะ

ทางโลกมีในสิ่งที่มี
แต่
ทางธรรมมีในสิ่งที่ไม่มี

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หากสังเกตและเรียนรู้ตนเอง
จะเห็นว่า
ตัวเราเองยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
หากแน่ใจว่าเราทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่าที่ปุถุชนควรเป็น
ถึงที่สุดแล้วไม่มีใคร...ก็จงภูมิใจในตัวเองค่ะ
.................
คำว่ามิตร ไม่จำเป็นจะต้องระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
หนังสือธรรมะดีๆ สักเล่มก็สามารถเป็นกัลยาณมิตรให้คุณได้ค่ะ
:b8: ขออนุโมทนา :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
thereal / เขียน
อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดครับ

คือเวลาที่ผมเห็นหน้าเพื่อนคนนั้น พอรู้สึกโกรธขึ้นมา ผมก็จะบอกตัวเองว่า "เราโกรธแล้วนะ"และเสริมอีกว่า "เราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลกนะ ที่จะให้ทุกๆอย่างในโลกเป็นไปอย่างใจเรา", "ช่างมันเถอะ", "มันเป็นเช่นนั้นเอง" ฯลฯ แต่ผลก็คือ ความโกรธจะหายไปสักครู่ พอจิตมันคิดขึ้นมาอีก หรือได้ยิน/เห็นเพื่อนคนนั้น มันก็โกรธขึ้นมาอีกครับ..ท้อแท้มาก

แล้วไม่ใช่แค่นั้นครับ..ผมคิดว่าชาติที่แล้วผมคงทำกรรมไว้มากมายเหลือเกิน ตั้งแต่เด็กๆแล้วครับที่ผมโดนเพื่อนสนิททิ้งไม่พอ เพื่อนกลุ่มอื่นๆก็ไม่ชอบผมเช่นกัน พอเข้ามหาลัยแล้วก็เหมือนกัน ถ้าผมเกิดมีปัญหาขัดกับเพื่อนคนหนึ่ง พอเวลาผ่านๆไป เพื่อนของเพื่อนคนที่ผมขัดด้วยก็จะพาๆกันไม่ชอบหน้าผมไปด้วย ซึ่งในคณะของผม การทำงานเป็นกลุ่มถือเป็นสิ่งสำคัญ ทีนี้เวลาอาจารย์จะให้แบ่งกลุ่ม จะเป็นเวลาที่ผมเกลียดมาก เพราะผมรู้สึกเลยว่าผมเป็นเหมือน"ส่วนเกิน"ของพวกเขา ส่วนกลุ่มเพื่อนสนิท...ก็เริ่มที่จะห่างๆผมไป แม้ผมเข้าใจว่าทุกๆอย่างมันมีเหตุปัจจัย แต่ผมก็มั่นใจได้ว่าผมไม่เคยทำอะไรให้เพื่อนๆผมเดือดร้อน เว้นแต่เค้าจะไม่ชอบผมเพราะ "เหม็นหน้า"ผมก็เป็นได้ แต่ผมโชคร้ายตรงที่เพื่อนๆกว่าครึ่งพากันเหม็นหน้า

พี่ๆที่อุตส่าห์อ่านมาได้ถึงบรรทัดนี้ผมขอขอบคุณในความตั้งใจจริงของพี่ๆนะครับ ผมหมดหนทางจริงๆครับ ขอหนทางแสงสว่างให้แก่ผมทีเถิดครับ
ขอบคุณครับ

:b12:
...มีวิธีแก้อารมณ์โกรธคือ...ฝึกวางอารมณ์ไม่ให้เกิดการปรุงแต่ง...
...เวลาเห็นหน้าให้ท่องในใจว่า...เห็นหนอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....
...เวลาได้ยินเสียงให้ท่องในใจว่า...ยินหนอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....
...ตอนเจอเพื่อนคนนั้นก็ทำอย่างที่บอกจนกว่าจะไม่เห็นไม่ได้ยินเสียง...
...ลองเอาไปใช้ดู...ค่อยมาบอกเพื่อนๆในลานแห่งนี้ว่าโอเคไหมคะ...
:b16:
:b9: :b32:
:b20: :b20: :b20: :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2010, 11:36
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันเคยเป็นเหมือนคุณ มีเพื่อนสนิทสมัยมัธยมต้น นั่งด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ชอบเหมือนกัน คุยกันถูกคอ แต่แล้ววันหนึ่งในช่วง ม. 3 ดิฉันไปพูดอะไรไม่ทราบกระทบจิตใจเพื่อน ตั้งแต่นั้นเพื่อนคนนี้เขาไม่ยอมคุยกับดิฉัน สมัยนั้นเรายังเด็ก จึงคิดอย่างเด็กๆ ว่า 'อย่าไปสนใจเขา ในเมื่อเขาไม่คุยกับเรา เราก็เฉย' แต่ก็ทนเฉยอยู่นานไม่ได้ เพราะความที่เราสนิทแล้วนั่งอยู่ติดกัน ดิฉันจึงไปขอโทษเขา แต่เขาก็ยังไม่ยกโทษ แม้จะถามว่าโกรธเรื่องอะไร เขาก็บอกให้ไปคิดเอาเอง จนบัดนี้เวลาล่วงกว่า 20 กว่าปี แล้ว ดิฉันก็ยังนึกไม่ออก แต่คุณเชื่อไหมคะ ว่าดิฉันเจอเพื่อนคนนี้ใหม่อีกครั้ง ความขุ่มมัวที่เรากับเขาเคยเกิดขึ้น กลับหายเป็นปลิดทิ้ง เราคุยกันเหมือนสมัยตอนเด็กๆ เพราะดิฉันยิ้มและเข้าไปคุยกับเขาก่อน และเราไม่พูดเรื่องในอดีตนั้นอีก อีกอย่างดิฉันคิดเอาเองว่า พวกเราไม่ได้เจอหน้ากันมา 10 ปีกว่าแล้ว ความโกรธต่างๆ ก็คงมลายหายไป

สมัยมหาวิทยาลัยดิฉันก็เคยทะเลาะกับเพื่อน แต่ดิฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จึงเข้าไปขอโทษ และคุยกันอย่างเปิดอก แต่ก็ถนอมคำพูดไว้ (ไม่ให้บัวซ้ำ) นะคะ สุดท้ายเรากับเพื่อนก็มาจับคู่ทำวิทยานิพนธ์ร่วมกันคะ

ขอให้คุณลองเปิดใจ คิด ไตร่ตรอง พิจารณาตัวเองก่อน ว่าได้ทำอะไรกับเพื่อนคนนั้นหรือไม่ หากไม่ ลองเปิดใจไปนั่งคุยกับเขาให้รู้เรื่องจะดีกว่าไหมคะ ว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมคุยกับเรา แต่ถ้าเพื่อนยังไม่ยอมคุย และเดินหนีห่างเรา ก็ขอให้ตัดใจและปล่อยวางกับเรื่องนั้นเถอะคะ เราจะได้รู้สึกสบายใจขึ้น ใครจะคิดกับเราก็ช่าง แต่ขอให้เรามีความศรัทธาและกระทำในความดีต่อไปค่ะ :b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร