ขอบคุณทุกบทเพลงเลยครับ

ดีจริง ๆ

นี่แหละค่ะผีอำ แต่ขอเพิ่มเติมหน่อยค่ะ วิญญาณนั้นไม่ได้มาจากวิญญาณจริงๆของผู้ใดนะคะ แต่มาจากจิตที่ส่งถึงกันได้ค่ะ ซึ่งทั้งหมดจะมาจากจิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกันค่ะ

นี่ๆ จะสอนดูผี

ว่าผีที่เห้นนั้นจริงหรือไม่จริง

ฟังครูบาอาจารยืสอนมาว่า
ให้ดูที่ใจของเรา อย่ามัวดูผี
โอปนยิโก กลับเข้ามาที่กายที่ใจของเรา

ดูที่ใจที่เราตกใจ สงสัย กลัว ตัวสั่นก็ดูลงไป
ถ้าได้สติแล้ว ย้อนไปดูผีใหม่ ถ้าผีนี้มาจากจิตของเราสร้าง มันจะหายไป

ถ้าผีของจริง มันก็อยู่เหมือนเดิม
เจริญสติยังไงก็อยู่เหมือนเดิม แสดงว่าผีจริง

ท่านบอกแต่ว่าผีปลอมทำไง
แต่ท่านไม่บอกว่า กรณีผีจริง แล้วให้ทำไงนะ
ตัวใครตัวมัน

ข้าพเจ้ายังไม่เคยเจอผีหลอก
เจอแต่คนหลอก แล้วก้หลอกคน เสียเอง
คริกๆ

วิญญาณหรือวิญญาณธาตุ = เจตภูต, กายทิพย์, อาทิสมานกาย, เทวดา เปรต พรหม ผี ฯลฯ = จิต(สังขาร)
จิตที่ส่งถึงกันได้ค่ะ = ภวังค์จิต หรือจิตใต้สำนึก หรือ ประตูแห่ง 3 ภพ 31-33 ภูมิ

ภวังค์จิต เปรียบเสมือนระบบอินเตอร์เน็ต เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ละเอียดในอีกกระทู้นึง เรื่อง ภวังค์จิต คือประตูลับไปสู่โลกวิญญาณและทุกที่ในจักรวาล

1. วิธีของคุณเป็นวิธีปิดระบบอินเตอร์เน็ตในภวังค์จิต
2. ถ้าคุณมีสติอยู่ในภาวะภวังค์นั้น และไม่ยอมให้ร่างกายตื่น ยังอยู่ในภวังค์ต่อไป คุณก็กำลังถอดกายทิพย์ออกไปติดต่อกับผู้ที่อยู่ในโลกวิญญาณคนนั้น

อาการ "ผีอำ" อาจเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อย ผมเคยกลัวผีเคยโดนผีอำ
แต่หลังจากที่ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง กฎพระไตรลักษณ์ และเรื่องจริงของขันธ์5
ผมก็ไม่เคยกลัวผีอีกเลยและก็ไม่โดนผีอำอีกเลยด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนประจำ
ทานอาหารเช้าก่อน 9.00 น.เป็นประจำอาจช่วยให้ผีไม่มาอำคุณได้ครับ...

หลวงพี่คะ...
ได้คำตอบมาก็หลากหลาย
แล้วท่านมีคำตอบให้กับอาการ ผีอำ นี้หรือยัง
เมตตาอธิบายให้ดิฉันฟังทีค่ะ....
สาธุ จะรอฟัง

ปล. ดิฉันไม่เชื่อเรื่องทรงเจ้า เข้าผี
แต่ก็พอจะเข้าใจสภาวะ ผีอำ...
ชิวๆ ค่ะ เจอทีไร ท่องนะโมตัสสะไปเรื่อยๆ
หากไม่หลุดจากสภาวะนั้นออกมา ก็หลับโลด
อิอิ

นอนทับแขนตัวเองก็เป็นได้ อากาศไม่พอนอนละเมอ ก็เป็นไปได้ แต่ กรณีเห็นจริง ๆ จะให้ เอาคารมคำคมพระมาปลอบใจว่า สิ่งที่เห็นหน่ะจริง แต่ที่เห็น ไม่จริงอะไรประมาณนี้ คงคนละ มิติ กัน เพราะ มันเห็นจริงๆ

เจตภูติ สัมพเวสี ยักษ์ นาค ครุฑ ๆลๆ ในพระไตรปิฏก ก็มีบอกไว้แล้วนี่

ที่ถามมาเพราะไม่รู้จริง ๆ ครับ

มีความเห็นตรงกันค่ะ...คนละมิติกัน...

อาการไม่สมดุลทางร่างกาย...มิติหนึ่ง

นิมิตจากภาวนา ...มิติหนึ่ง

ผีอำ ...มิติหนึ่ง

ผมก็บอกความจริงให้แล้ว แต่จะบังคับให้ใครเชื่อคงไม่ได้ วันนึงเมื่อคุณถอดจิตออกจากร่างได้ คุณจะรู้ความจริง

โชคดีครับ!!!!

จะจริง..ไม่จริง..ไม่รู้

เกิดจากอะไร..เป็นอะไร..ก็ไม่รู้

แต่..โดนประจำ

โดนจน..รู้แกว..มันหมด

รู้ว่ามัน..กำลังมา..นะ

รู้ว่า..มันใกล้ไกลแค่ไหน..ที่เรายังควบคุมร่างกายนี้ได้อยู่

แต่ไอ้..ประเภท..ลืมตาขึ้นมาก็เห็น..นั่งที่ปลายเท้าแล้วนี้..ไม่รู้มาได้งัย..หมดสิทธิ์ขัดขื่น

เจอแล้ว..จะเสียว ๆ ร้อนๆ รอบคอ..ทุกที..เหมือนยังกะเคยถูกตัดคอมาแล้ว..งั้นแหละ

บางที..ขี้เกียจจะไปสู่กับมัน..ก็ปล่อยมันทับไป..เหนื่อย..ขอหลับลูกเดียว..ก็มี

เวทมนต์..คาถา..ท่องไปเถอะ..ไม่ระคายมันหรอก..ก็ผีมีที่ไหนละ..ที่มันหรือที่เรา??

หายไปพักใหญ่..หลายปี

เพิ่งจะโพล่มา..อีกที..ไม่นานนี้เอง..

ช่วงที่ธรรมะ..ธรรมโมนี้แหละ..งั้ยเป็นยังงี้ไปได้..

สรุป..จะเป็นอะไร..เพราะอะไร..ไม่รู้..ชั่งมัน

คุณ"กบนอกกะลา"ครับ


เมื่อ 30 ปีก่อน เป็นช่วงที่ผมเริ่มหัดทำสมาธิใหม่ๆ เจอผีอำประจำ ก่อนหน้านั้นผมแทบไม่เคยโดนผีอำ ผมก็เลยสงสัยว่า ผีอำเป็นผีจริงไหม? แล้วมันมาหาเราทำไมวะ มาทุกวันด้วยที่เราทำสมาธิ

ตอนหลังผมเลยลองแผ่เมตตาให้วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์ ที่ขับรถซิ่งมาตายหน้าหมู่บ้าน ชาวบ้านชาวช่อง ต่างด่าแช่งกันหมด แต่ผมสงสารเขา

คุณกบนอกกะลารู้ไหม ตกดึกผมนอนหลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น(อยู่ในภวังค์) วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์คนนั้นมาหาผม(ผีอำ) เขาจับไม้จับมือผมแบบแสดงความขอบคุณผม เขาดีใจมากๆเลยที่ผมแผ่เมตตาไปให้

ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยรู้ว่า การทำสมาธิจะเกิดพลังกุศล สามารถแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆได้ ผมเลยแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆในหมู่บ้านจนหมด(มีประมาณ 10 ดวง) และบอกให้พวกเขาแต่ละคนมาอำผม หรือมาเข้าฝันผมด้วย เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว พวกเขาก็มาจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมา...ไม่มีวิญญาณดวงไหนมาหาผมอีกเลย ผมเลยเหงา ตอนหลังไปไหนมาไหน นอนโรงแรมไหน นอนบ้านใครที่ไหน ผมก็ทำสมาธิที่นั่น แล้วแผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณที่อยู่ที่นั้นด้วย นอกจากนี้ ยังบอกให้ดวงวิญญาณเขามาอำหรือมาเข้าฝัน เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว ก็เช่นเคย พวกเขาก็มาจริงๆ

ตอนหลังพอผมเลยรู้ 100%ว่า เหล่าวิญญาณจะไปหาคนที่ชอบทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตร ชอบสวดมนต์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดกุศลผลบุญ ซึ่งเราสามารถโอนไปช่วยเหลือพวกวิญญาณได้โดยไม่ต้องกลัวหมด ยิ่งช่วยใจเรายิ่งสะอาด ยิ่งบรรลุธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ

คุณรู้ไหม...ในปรโลกอยู่ได้อย่างเป็นสุขจากผลบุญเท่านั้น เมื่อวิญญาณเหล่านี้ไม่ค่อยได้ทำบุญมา พอตายแล้ว เขาจึงลำบาก ต้องแสวงหาผลบุญจากคนทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตรอุทิศ แต่กฎสวรรค์ห้ามไม่ให้เขาไปพูดขอให้มนุษย์ช่วยทำบุญให้ตรงๆ เขาเลยต้องมาอำ หรือมาหลอก พอคนถูกอำถูกหลอกกลัว ก็จะแผ่เมตตาหรือทำบุญอุทิศกุศลให้พวกเขา

ผีพวกนี้เขาไม่ไปหาคนที่ชอบทำบาปหรอกถ้าไม่มีความแค้นต่อกัน....เสียเวลาเปล่า ผีส่วนใหญ่จะไปพึ่งคนทำสมาธิและคนที่ชอบทำบุญ คุณกบนอกกะลาต้องถามตัวเองสิ ว่า คุณกบนอกกะลาเป็นคนทำสมาธิหรือชอบทำบุญไหม..... ถ้าใช่ คุณกบนอกกะลาก็เป็นเป้าหมายของพวกวิญญาณ