ขอเล่าเลยนะค่ะ
คือเมื่อสามสี่ปีก่อน เคยพาเพือนไปทำแท้ง แล้วก็ได้ให้เงินในการทำครั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้อยากให้เพื่อนทำ แต่ด้วยสาเหตุผู้ชายไม่รับผิดชอบ ตัวเราเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลย เลยตามเลย
แต่ผ่านมา หลายปีแล้ว ตัวเราเองก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบาย เคยทำบุญไปให้บ้าง แต่ไม่ได้บ่อย ก็เลยอยากจะทราบว่า มีวิธีอะไรบ้างค่ะ

ตอนนี้ตัวเราเอง ก็คิดว่า จะไปบวชชีพรามณ์ เพื่อให้เด็กอ่ะค่ะ เพื่อนๆๆคนไหนทราบวิธี ก็ช่วยด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

ขอตอบนะครับ

ค่อย ๆ คุยกันไป สำหรับผมถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ แก้มาให้หลายคน เจอมาทั้งคนที่หลุด และไม่หลุด
บางคนใช้เวลานับสิบปี กว่าจะพ้น เรื่องนี้ผมพยายามค้นหาวิธี คำตอบ คำแก้อยู่นาน หาผู้เชี่ยวชาญช่วย

พอจะมีวิธี เพราะพระอาจารย์ผม ท่านสั่งเป็นกรณีพิเศษ
"มีคนที่ทำแท้งเยอะมาก ทำเอง ใช้ให้ทำ สมรู้ร่วมคิด ชีวิตของเขาจะติดขัดมาก ทำมาหากินลำบาก
เสียมากกว่าได้ ช่วยหาวิธีแก้ไข บรรเทา"

ลองหาดูตามเน็ตนะครับ จะเยอะมาก กรณีศึกษา ผมรวบรวมไว้มาก ๆ คนที่ทำแท้ง สมรู้ร่วมคิด
มักประสบเคราะห์กรรม ในปัจจุบันพอสรุป ดังนี้

๑.โรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะเนื้อร้ายบริเวณช่องท้อง
๒.ทรัพย์สินเสียหาย (คนที่ผมรู้จัก บางคน เสียบ้าน รถ อาชีพ กว่าจะพ้น เกิน ๑๐ ปี)
๓.ทำมาหากินฝืดเคือง อุปสรรคมากมาย
๔.มีปัญหาขัดแย้งในหน้าที่การงานค่อนข้างมาก

ผลกรรมในโลกหน้าก็คือ กรรมจากการฆ่ามนุษย์ มีบาลีในไตรปิฎกเล่ม ๒๘ ว่า
ขุราธารมนุกฺกมฺม ติกฺขทุรภิสมฺภวํ ปตนฺติ คพฺภปาตินิโย ทุคฺคํ เวตฺตรณี นทึ.
อโยมยา สิมฺพลิโย โสฬงฺคุลิกณฺฏกา อุภโต อภิลมฺพนฺติ ทุคฺคํ เวตฺตรณึ นทึ.

แปลว่า หญิงที่ทำแท้งต้องตกนรก ย่างเหยียบบนคมมีดอันคมกริบที่ไม่น่ารื่นรมย์ แล้วตกไปในแม่น้ำชื่อว่าเวตตรณีซึ่งปีนขึ้นฝั่งได้ยาก เพราะมีต้นงิ้วที่มีหนามเป็นเหล็กห้อยย้อยปกครุมอยู่ทั้ง ๒ ฝั่ง

การทำแท้งนับตั้งแต่เริ่มเป็นมนุษย์ในสัปดาห์แรกถือว่าเป็นบาปกรรม

(พระพุทธเจ้าตรัสถึงวิวัฒนาการของชีวิตในครรภ์มารดาไว้ดังนี้
ปฐมํ กกลํ โหติ กกลา โหติ อพฺพุทา เป็นต้น

“รูปนี้เป็นกลละ(หยาดใส เหมือนน้ำมันงา)ก่อน จากกลละเป็นอัพพุทะ(สีเหมือนน้ำล้างเนื้อ) จากอัพพุทะเกิดเป็นเปสิ(ชิ้นเนื้อเล็กๆ) จากเปสิเป็นฆนะ (เป็นก้อน)จากฆนะเกิดเป็น ๕ ปุ่ม ต่อจากนั้นก็มีผม ขนและเล็บเกิดขึ้น มารดาของสัตว์ในครรภ์บริโภค ข้าว น้ำ โภชนาหารอย่างใด สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์ก็เลี้ยงอัตภาพอยู่ด้วยอาหารอย่างนั้น”
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ )

แต่ถ้าเด็กเริ่มโต มีความรู้สึก ขณะอยู่ในท้อง จิตเขาจะสัมผัสความคิดมารดาได้
แค่มารดาคิดว่าจะไปทำแท้ง เขาก็รู้ เขาจะเริ่มกลัว เกลียด หนักเข้าอาฆาตมาดร้าย แต่ตอบโต้ไม่ได้
ยิ่งอาฆาตหนัก

ในกรณีแค่มารดาคิดจะทำแท้ง แต่ไม่ทำ หรือพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ลูกออกมามักจะมีปัญหาไม่รักแม่อยู่ช่วงหนึ่ง หรือ อาจตลอดไป โปรดสังเกตุนะครับ

แต่ถ้าทำสำเร็จ จิตที่อาฆาตจะสาบแช่ง จองเวร บางตนติดตามคอยกลั่นแกล้งตลอด จนกว่าจะพอใจ

อย่าลืม แค่คิดเริ่มทำ พยายามขวานขวายทำ กว่าเด็กจะออก จิตเขาจะเสียใจ ร้องให้คร่ำครวญ แห้งผาก คนที่เป็นมารดาจะฆ่าเขา เขาจะเสียใจ อาฆาตนานขนาดไหน

เหมือนคนที่ถูกมารดาตัเอง มัดมือมัดเท้า แล้วพาเขาไปสอบถามวิธีประหารตัวเขาอย่างเลือดเย็น
ทั้ง ๆที่รู้ เขาจะคิดยังไง

ง่วง ๆ แต่อยากตอบครับ มึน ๆ

ต่อบอร์ดต่อไป ไปอาบน้ำก่อนครับ

..............

ทีนี้เข้าเรื่อง ซะที ขี่ม้าเลียบเมืองซะนาน

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า

๑. คนทำบาปกรรมไว้ ย่อมต้องได้รับผลบาปกรรมตัวเอง ตัดกรรมไม่ได้ ทำบุญหนีหลบหลีกพอได้
๒. วิธีนี้ไม่ยืนยันว่าดีที่สุดหรือถูกที่สุด เป็นเพียงที่ผมศึกษาวิเคราะห์จากหลายวิธีที่ได้รับรู้ มีการทดลองพอสมควร
๓. ลักษณะการแก้ไข จะเป็นการแก้ไขในกรณีถูกวิญญาณอาฆาตที่มองไม่เห็นให้โทษมากกว่า ไม่ใช่แก้กรรม
๔. ผู้ที่ไม่เชื่อ ทดลองทำดูได้ ได้กำไรทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ขาดทุน


มีหลายตำรา บางท่านให้มีการตั้งชื่อ ซื้อขวดนม เสื้อผ้า บริจาค ก็ว่าไป
บางตำราให้บริจาคอวัยวะ เลือด ร่างกาย อันนี้ ผมก็ชอบ แต่ไม่ได้ทดลอง

แต่ที่ผู้รู้แนะนำและใช้ได้ผลค่อนข้างมาก และตัวเองก็ไปแนะนำต่อ คือ

- ให้เข้าใจไว้ว่า เขาไม่ใช่ลูกเรา เป็นเจ้ากรรมนายเวรเราแล้ว อย่าไปเรียก “ลูก”
- ต้องตระหนักว่า เมื่อทำกรรมแล้ว ต้องรับผลกรรมในระดับหนึ่งมาพอประมาณ จนความโกรธอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรลดลงมาระดับหนึ่ง

ทีนี้เมื่อรับผลกรรมมาในระดับหนึ่งแล้วให้ท่านทำบุญใหญ่ ต้องใหญ่จริง ๆ ครับ
มีหลายอย่าง แต่ที่เห็นแล้วหลุดพ้นไว คือ
๑.สร้างพระพุทธรูปเท่าน้ำหนักตนเอง หรือมากกว่า
๒. ถือศีล เจริญวิปัสสนา ต่อเนื่องหลายวัน
๓. บุญใหญ่อย่างอื่น ที่ท่านพิจารณาว่ามีผลมาก ๆ

หลักง่าย ๆ คือว่า เมื่อท่านทำบุญ ท่านก็มีบุญที่จะอุทิศให้
ตอนอุทิศ สำคัญที่สุด เมื่อทำบุญเสร็จทุกครั้ง (ทำวิปัสสนา) หรือหลังถวายพระพุทธรูป ท่านต้องอุทิศบุญอย่างเจาะจง เน้น ๆ ชัดเจน ว่าดังนี้ (หรือทำนองนี้)

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมาทุกภพทุกชาติ บุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำในชาตินี้ ด้วยกาย วาจา ใจ บุญที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติบัติธรรม(หรืออย่างอื่น)ในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญเหล่านี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า (นาย...,นาง,........เอ่ยชื่อตัวเองคนเดียว) ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเหล่านั้น ได้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว ก็ขอให้อโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป ทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลาย ขอให้มลายหายสิ้นไป ตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไป ขอให้มีโชคลาภ จะทำการสิ่งใด ก็ขอให้สัมฤทธิ์ผลตามที่ตั้งใจทุกประการ

ทดลองดูนะครับ มีแก้ไขได้หลายท่าน
ยังไง ๆ ขอให้หลุดพ้นนะครับ เป็นกำลังใจให้

ต่อไปก็ทำบุญให้บ่อยๆขึ้นคับ....จนเป็นนิสัย จะดีกว่านานๆทำที อย่าลืมว่าทำบุญให้เด็กที่ถูกทำแท้ง
เขาไปเกิดต่อไม่ได้หรืออย่ในภพภูมิที่ลำบากอยู่ ถ้าบุญที่ทำไม่มากพอจะช่วยเด็กคนนี้ได้อย่างไรกัน

ก้ดีเหมือนกัน แต่ว่าต้องตั้งใจจริงๆ และพยายามไม่ฟุ้งซ่านจาก
เรื่องต่างๆ ต้องมีความอดทนได้+เคารพในวินัยต่อสถานที่ปฏิบัติ จะช่วยทำให้บุญที่เกิดจากปฏิบัติมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัว.....

ที่คิดไว้ดีแล้ว แต่ต้องสม่ำเสมอ และทำให้จริงจังเป็นรูปธรรมได้ก่อน

การแก้กรรมเป็นสิ่งที่ทำกันไม่ได้ ถึงชาตินี้จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ชาติหน้าก็ต้องชดใช้อยู่ดี
ฉะนั้นการทำบุญในชาตินี้ จึงไม่ควรทำเพราะต้องการหลุดพ้นจากบ่วงกรรม แต่ควรทำเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์

ชัดเจนค่ะ

ถูกแล้ว ดีแล้ว ไปบำเพ็ญเถอะ กรวดน้ำบ่อยๆ ตั้งตนในเรื่องศีลธรรมให้มาก ผ่อนหนัก เป็นเบา ดีกว่าใช้กรรมอย่างเดียว

แก้ไม่ได้ครับผม
แต่เราก็สามารถเพิ่มแรงบุญได้ครับผม
จุดเกิดเหตุ เกิดจากการทำลาย
ดังนั้น ลองทำบุญด้วยการให้ชีวิตดูครับผม
ให้ชีวิตในที่นี้ผมหมายถึงการให้ชีวิตมนุษย์ ด้วยการช่วยสงเคราะห์เด็กกำพร้า เป็นต้นครับ
เพราะเด็กพวกนี้ในอนาคตล้วนเป็นกำลังสำคัญของชาติ และศาสนา ครับผม
ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือ และสงเคราะห์ พวกเค้าเหล่านี้
ก็เปรียบเสมือนการให้ชีวิต กับ เค้า เช่นเดียวกันครับ

หรือที่ไหนมีการบวชเณรภาคฤดูร้อน หรือบวชอุปสมบถหมู่(บวชพระเฉลิมพระเกียรติ)
ให้ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ได้ครับ
เพราะถือว่าเป็นการปลูกหน่อเนื้อ และนาบุญให้บังเกิดขึ้นในพระศาสนาครับผม
สิ่งนี้เป็นการให้ชีวิตทางธรรมครับ
กุศลบุญจากผลบุญที่ทำย่อมพาจิตใจให้หายจากความเศร้าหมองได้ครับ
ซึ่งเราก็สามารถร่วมบุญไ้ด้ครับ
จะเป็นกำลังกาย หรือกำลังทรัพย์ก็ตาม ก็ล้วนเป็นบุญทั้งนั้นครับ
หรือให้ดังกล่าวไม่ได้ แต่ จิตเราอนุโมทนาบุญ ก็ได้บุญเช่นเดียวกันครับ

ต้องถวายสังฆทานชุดเด็กและก็ต้องสร้างพระปางชนะมาร1องค์ค่ะ(อันนี้คุณย่าบอกมาค่ะ)

วิธีการถ้าจะให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดโปรดศึกษาได้ที่ http://www.samyaek.com/board2/index.php ... 19#msg8819

ที่นี่มีคำตอบทุกวิธีการของการแก้กรรม...........ชั่วต่าง ๆ
กรรมแก้ได้......แต่ต้องถูกวิธี และความถูกต้อง
และการศึกษาธรรมะตามแนวคำสอนที่นำพระสูตรในพระไตรปิฎกมาเปรียบเทียบ

เปรียบเสมือน ถ้าพื้นโดนโคลนสาดใส่มาอย่างสกปรก เราหาน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ และด้วยความพยายามขยันมั่นเพียรของเรา ทำให้พื้นสะอาดย่อมสะอาดได้จริงหรือไม่ แต่การใช้เวลานั้น ไม่ต้องจำกัดว่าจะต้องใช้เท่าใด แสนกัปเป็นเอนก........จึงจะฟังธรรมของพระพุทธะ รู้เรื่อง...

ทำได้อย่างเดียวค่ะคือทำบุญแผ่เมตตาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้เขา อธิษฐานขอให้เขาได้มาเกิดเป็นคน ส่วนเราก็ต้องรอรับชะตากรรมของเราโดยดุษฎีค่ะเลี่ยงไม่ได้ วิบากที่เราต้องรับจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่มีมาด้วยกัน

คุณคิดถูกแล้วค่ะที่จะไปปฏิบัติธรรม(การไปนั่งสมาธิที่วัด)
จะเป็นผลดีกับคุณแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์เลย
1. ผลบุญของคุณที่ได้ คุณจะไม่ทุกข์และจะพ้นบาปได้
แต่คุณต้องหมั่นทำเสมอๆๆนะคะอย่าขาด
2. ใส่บาตรสมำเสมอ อุทิศส่วนกุศลให้กับเด็กที่คุณมี
ส่วนเกี่ยวข้องด้วย
3. ขออโหสิกรรมต่อเด็กคนนี้และแผ่เมตตาหลังจากที่
คุณสวดมนต์ทุกครั้งค่ะ

การใส่บาตรอย่างเดียวและกรวดน้ำช่วยไม่ได้หรอกค่ะ
ต้องปฏิบัติธรรมด้วย (นั่งสมาธิแล้วอุทิศผลบุญและแผ่เมตตา
เท่านั้น) คุณถึงจะพ้นทุกข์และบาปอันนี้..ลองทำดูนะคะ
จากผู้มีประสบการณ์มาแล้ว..แต่ตอนที่ไปนั้นไปปฏิบัติที่
วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ไป 7 วันค่ะ
เมื่อคุณไปปฏิบัติมาแล้วๆ นำมาปฏิบัติต่อเนื่องอย่างสมำเสมอ
คุณจะทราบด้วยตนเองเลยว่าชีวิตคุณมีแต่สิ่งที่ดี ทำอะไรไม่ติดขัด
มีคนช่วยเหลือเสมอ..เพราะคนที่พาคนไปทำแท้งน่ะบาปหนักมากกว่า
คนที่ทำอีกนะคะ... โปรดพิจารณา..ขอบคุณค่ะที่ให้ออกความเห็น..

การพาเพื่อนไปทำแท้งเท่ากับคุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าคนนะคะ
ชีวิตของคนที่ทำแท้งรวมไปถึงคนที่รู้เห็น อย่างเช่น พาไปทำ ให้เงินไปทำ รู้แล้วยุให้ไปทำ
จะหาความสุขสงบไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะิติดขัดมีแต่อุปสรรคตลอด
ทำอะไรก็ไม่สมปรารถนา ไม่เจริญ เจอแต่คนที่ไม่ดี


เราเคยรู้จักพี่ที่เราให้ความนับถือคนหนึ่ง ด้วยนิสัยใจคอแกเป็นคนใจดีมาก ๆ
แต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแกเคยทำแท้ง
ปัจจุบันพี่คนนี้อายุราว ๆ 36 - 37 ได้แล้วค่ะ
ตั้งแต่รู้จักแกมา แกจะมีเรื่องทุกข์ใจมาเล่าให้ฟังตลอด
มีแฟนก็โดนหลอก ผู้ชายที่เข้ามาคบหาดี ๆ แทบไม่ได้ ไม่มาหลอกเอาของ ก็เอาเงิน
การงานก็ไม่เจริญก้าวหน้า มีหนี้สินรุงรัง ทั้ง ๆ ที่แกเป็นคนทำงานเก่งมาก ๆ


ยังไงคุณก็ไปวัดนะคะ ไปปฏิบัติค่ะ เราว่าได้ผลดีที่สุด ในความคิดเรา
ไปอยู่วัดอย่างน้อยสัก 7 วัน ถ้าเป็นไปได้สวดมนต์แล้วอธิษฐานจิตเลยว่า
นับต่อจากนี้ทุก ๆ ปีจะไปอยู่วัด ตั้งใจปฏิบัติ อุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้เขา
ขอให้เขาอโหสิกรรมให้


เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ ^