บางคนอ้างว่าศรัทธาและเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา หลวงน้า หลวงอา(ไม่รู้ว่าท่านรับสมัครเป็นศิษย์หรือยัง) ท่านนั้นท่านนี้เพราะว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ แล้วก็แห่กันไปเช่าเหรียญ,เช่าตะกรุด,เช่าผ้ายันต์,เช่าชานหมาก เช่าผู้ว่าฯขลิก ไปเอาสติ๊กเกอร์มาติดรถและเช่าอื่นๆอีกมากมาย แห่กันไปจนแน่นวัด บ้างก็นำโฉนดที่ดินไปขอให้ท่านช่วยให้ขายที่ดินได้ ไปขอให้ท่านช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ไปขอให้ท่านสะเดาะเคราะห์(เคาะโป๊กๆ) หนักหน่อยก็ไปขอหวยและไปขออะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย อย่างนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกกันว่าศรัทธา?(หรือว่าคลั่งไคล้) ขอขอบคุณผู้เจริญในธรรม...ขออนุโมทนา

อาจจะมีจุดต่างกันนิดหน่อย ก็ย่อมขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่จะแยกแยะ คนที่มีจิตศัรทธาจะไม่มีความคลั่งไคล้แต่ผู้ที่คลั่งไคล้มักจะมีศรัทธาตามมาเสมอ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ ไม่ทราบว่าผิดหรือถูก

อย่างที่ จขกท. เสนอมา ไม่น่าจะเป็นศาสนาพุทธนะ เป็นศาสนาอะไรก็ไม่รู้ มาแอบแฝงปลอมปนอยู่

เขมาเขมสรณทีปิกคาถา

พะหุง เว สะระณัง ยันติ, ปัพพะตานิ วะนานิ จะ,
อารามะรุกขะเจตะยานิ มะนุสสา ภะยะตัชชิตา,

มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว, ก็ถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้บ้าง อารามและรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ,

เนตัง โข สะระณัง เขมัง, เนตัง สะระณะมุตตะมัง,
เนตัง สะระณะมาคัมมะ, สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ,

นั่น มิใช่สรณะอันเกษมเลย, นั่นมิใช่สรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว, ย่อมไม่พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้,

โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ, สังฆัญจะ สะระณัง คะโต,
จัตตาริ อะริยะสัจจานิ, สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ,

ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว, เห็นอริยสัจจ์ คือ ความจริงอันประเสริฐสี่, ด้วยปัญญาอันชอบ,

ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง, ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง,
อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง, ทุกขูปะสะมะคามินัง,

คือเห็นความทุกข์, เหตุให้เกิดทุกข์, ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้, และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐ, เครื่องถึงความระงับทุกข์,

เอตัง โข สะระณัง เขมัง, เอตัง สะระณะมุตตะมัง,
เอตัง สะระระมาคัมมะ, สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ.

นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม, นั่นเป็นสรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว, ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.

สมัยก่อนส่วนใหญ่แจกฟรี สมัยนี้ เสียตังค์
ปล หากมีฌาณสูงๆก็เสกได้

อ.เสถียรโพธินันทะ เสกตะกรุด ยันต์ๆลๆ ได้ จับพลังได้ด้วยว่าผู้ที่เสก วัตถุมงคลมี พลังจิตขนาดไหน? หลังๆแกเลิกหมดครับ


สำหรับชานหมาก ต้อง พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ในอดีตมีหลายท่านที่ดังเรื่องชานหมาก


ผ้ายันต์ ผ้าประเจียดสมัยก่อนยุคสงครามอินโดจีน สงครามเกาหลี ก็มีหลายท่านที่เก่ง เช่น หลวงพ่อ จาด จง คง อี๋ ๆลๆ หลวงพ่อโอภาสีเป็นต้น ท่านเหล่านั้น ตบะฌาณแก่กล้า ชัดเจน ไม่งั้นเสกของไม่มีพลัง หากท่านที่เอ่ยมานั้นจะ เข้าสู่โลกุตระภูมิก็อาจทำได้ไม่ยาก


ปล. คำว่าเสก มีได้2นัยยะ แบบหมอผีแกติ มนต์ดำเรียกว่าเสก หาก ธรรมขาว เรียกว่าอธิฐานจิต โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

การขอนั่นขอนี่มีมานานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็มีมาแล้ว
แต่เป็นการขอที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาที่อยากได้สิ่งของบางอย่างพึงเจริญในอนุสสติ และบูชาระลึกถึงอย่างแท้จริงเพื่อสุขทางใจ
แต่ทุกวันนี้....ก็อย่างที่ จขกท ว่านั่นแหละครับ
ผมก็ว่าเกินไปนะ..ช่างทำได้

หลวงพ่อยิดวัดหนองจอก

ปลัดขิก ดัง มากเหาะแข่งกับเครื่องบิน

. . . ^^ . . . ตื่น . ตื่น . ได้แล้วครับ

ถ้าประกอบด้วย..ปัญญา..

ศรัทธา..ก็เป็นทางเดินเข้าไปตัดสังโยชน์ได้..

ถ้าไม่ประกอบด้วย..ปัญญา..

ศรัทธา..ก็เป็นเพียงทางเดินที่ท่องเทียวในวัฏฏะสงสาร..ธรรมดา ๆ