วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 95 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เหตุการณ์ถัดมาคือ เมื่อครั้งที่ท่าเรือฮ่องกงเพิ่งเปิดทำการ หวงเฟยหงในวัย 21 ปี ไม่อาจทนเห็นผู้อ่อนแอโดนนักเลงท้องถิ่นจำนวนมากรุมรังแก จึงยื่นมือเข้าขัดขวาง ด้วยการใช้กระบองไม้ไผ่เป็นอาวุธบุกเดี่ยวเข้าสู้กับฝ่ายตรงข้ามจำนวนหลายสิบคน กลายเป็นศึกตะลุมบอนอันสะท้านสะเทือน (บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว ปัจจุบันคือสวนสาธารณะที่ถนนฮอลลีวูด ฝั่งเกาะฮ่องกง)

ผลการต่อสู้ หวงเฟยหงสามารถหลบหนีไปได้ และทำร้ายบรรดานักเลงอันธพาลบาดเจ็บไปหลายคน แต่การปะทะครั้งนั้น ก็ส่งผลให้หวงเฟยหงไม่อาจพำนักอยู่ในฮ่องกงได้อีกต่อไป และต้องเดินทางกลับไปยังกวางเจา

ช่วงชีวิตของหวงเฟยหง ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากสุด โดยผ่านการบอกเล่าของหนังมากมายหลายสิบเรื่อง คือ ช่วงวัยอายุประมาณ 30 ปี หวงเฟยหงกลายเป็นครูมวยผู้มีชื่อเสียง พร้อม ๆ กันนั้นเขาก็ได้เปิดร้านขายยา (จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นประมาณคลีนิค เนื่องจากรับรักษาบำบัดผู้ป่วยด้วย) ชื่อ “เป่าจือหลิน” (โปจี๋หลำ)

เป่าจือหลินกลายเป็นร้านขายยาที่โด่งดังเป็นตำนานเช่นเดียวกับหวงเฟยหง (บริเวณที่ตั้งของเป่าจือหลิน สันนิษฐานว่าอยู่ที่ตรอกหยั่นออน ถนนสายที่ 13 เขตกวางเจาตะวันตกในปัจจุบัน) ด้วยเหตุที่ให้การรักษาผู้เจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับผู้ยากไร้ บ่อยครั้งยังเป็นการเยียวยาพยาบาลโดยไม่คิดเงิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วิชาแพทย์ของหวงเฟยหง ได้รับการยกย่องไม่น้อยหน้าวิชาฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการต่อกระดูก ตำรับยาเฉพาะประจำตระล หรือการรักษาโดยวิธีฝังเข็ม



ในปี 1888 นายพลหลิวหยงฟู่ (เหลาหวิงฟก) ผู้บัญชาการกองธงดำประสบอุบัติเหตุขาหัก และได้รับการรักษาโดยหวงเฟยหงจนกระทั่งหายดี นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพระหว่างทั้งสอง หลิวหยงฟู่ชักชวนหวงเฟยหงให้เป็นหมอประจำกองทัพ และต่อมาทั้งคู่ก็ได้เข้าร่วมสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นที่รุกรานไต้หวัน

ภายในตัวคนคนเดียวหวงเฟยหง เป็นที่ยกย่องทั้งในด้านจอมยุทธผู้ผดุงคุณธรรม (ว่ากันว่า ส่วนใหญ่เป็นการช่วยเหลือผู้อ่อนแอที่โดนรังแกโดยไม่เป็นธรรม) เป็นครูมวยผู้ได้รับความเคารพนับถือ เป็นหมอผู้มีใจโออบอ้อมเมตตา เป็นนักเชิดสิงโตผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้รักชาติที่มีอุดมการณ์สูงส่ง

หวงเฟยหงผ่านการแต่งงานทั้งหมด 4 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 10 คน ภรรยาสามคนแรกล้วนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลให้เขานึกโทษตนเองว่าเป็นต้นเหตุแห่งเคราะห์ร้ายแก่คนที่ตนรัก และตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแต่งงานอีก แต่แล้วในปี 1903 เขาได้พบกับหญิงสาววัย 16 ปีชื่อ “มอกไกวหลาน” (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) และตกหลุมรักซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การแต่งงาน

มีเรื่องเล่า (ที่ไม่ยืนยันว่าเป็นความจริง) ขณะที่หวงเฟยหงกำลังเชิดสิงโต เขาสะบัดขาแรงเกิน จนรองเท้าปลิวกระเด็นไปโดนมอกไกวหลานในหมู่ผู้ชม ด้วยความรู้สึกผิด ต่อมาหวงเฟยหงจึงพยายามค้นหาตัวหญิงสาวเพื่อกล่าวคำขอขมา นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งการพบกับความรักครั้งสุดท้ายของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่

เดือนมีนาคมปี 1924 (บางข้อมูลระบุว่าเป็นวันที่ 15 ตุลาคม 1924) เกิดเหตุจราจลในย่านการค้าของกวางเจา ห้างร้านจำนวนมากถูกทำลายเสียหายยับเยิน รวมทั้งเป่าจือหลินของหวงเฟยหงที่ถูกเผาจนราบคาบ

ถัดจากนั้นไม่นาน หว่องฮอนซัม (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) ลูกชายคนโตของหวงเฟยหงก็เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาทกับแก๊งค้ายาเสพติด (ข้อมูลบางแหล่งแย้งต่างกันมาก แต่น่าจะถูกต้องกว่า ก็คือ เหตุดังกล่าวเกิดในปี 1890) การสูญเสียบุตรชาย ทำให้หวงเฟยหงประกาศไม่ถ่ายทอดวิชาฝีมือให้แก่ลูกหลาน และจะสอนเฉพาะบรรดาลูกศิษย์เท่านั้น 13 ม.ค.
19:53 น.

ตอบ โพสต์โดย หลับอยู่ รู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้ตัวกับไม่รู้อะไรเลย



ในปี 1888 นายพลหลิวหยงฟู่ (เหลาหวิงฟก) ผู้บัญชาการกองธงดำประสบอุบัติเหตุขาหัก และได้รับการรักษาโดยหวงเฟยหงจนกระทั่งหายดี นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพระหว่างทั้งสอง หลิวหยงฟู่ชักชวนหวงเฟยหงให้เป็นหมอประจำกองทัพ และต่อมาทั้งคู่ก็ได้เข้าร่วมสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นที่รุกรานไต้หวัน

ภายในตัวคนคนเดียวหวงเฟยหง เป็นที่ยกย่องทั้งในด้านจอมยุทธผู้ผดุงคุณธรรม (ว่ากันว่า ส่วนใหญ่เป็นการช่วยเหลือผู้อ่อนแอที่โดนรังแกโดยไม่เป็นธรรม) เป็นครูมวยผู้ได้รับความเคารพนับถือ เป็นหมอผู้มีใจโออบอ้อมเมตตา เป็นนักเชิดสิงโตผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้รักชาติที่มีอุดมการณ์สูงส่ง

หวงเฟยหงผ่านการแต่งงานทั้งหมด 4 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 10 คน ภรรยาสามคนแรกล้วนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลให้เขานึกโทษตนเองว่าเป็นต้นเหตุแห่งเคราะห์ร้ายแก่คนที่ตนรัก และตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแต่งงานอีก แต่แล้วในปี 1903 เขาได้พบกับหญิงสาววัย 16 ปีชื่อ “มอกไกวหลาน” (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) และตกหลุมรักซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การแต่งงาน

มีเรื่องเล่า (ที่ไม่ยืนยันว่าเป็นความจริง) ขณะที่หวงเฟยหงกำลังเชิดสิงโต เขาสะบัดขาแรงเกิน จนรองเท้าปลิวกระเด็นไปโดนมอกไกวหลานในหมู่ผู้ชม ด้วยความรู้สึกผิด ต่อมาหวงเฟยหงจึงพยายามค้นหาตัวหญิงสาวเพื่อกล่าวคำขอขมา นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งการพบกับความรักครั้งสุดท้ายของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่

เดือนมีนาคมปี 1924 (บางข้อมูลระบุว่าเป็นวันที่ 15 ตุลาคม 1924) เกิดเหตุจราจลในย่านการค้าของกวางเจา ห้างร้านจำนวนมากถูกทำลายเสียหายยับเยิน รวมทั้งเป่าจือหลินของหวงเฟยหงที่ถูกเผาจนราบคาบ

ถัดจากนั้นไม่นาน หว่องฮอนซัม (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) ลูกชายคนโตของหวงเฟยหงก็เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาทกับแก๊งค้ายาเสพติด (ข้อมูลบางแหล่งแย้งต่างกันมาก แต่น่าจะถูกต้องกว่า ก็คือ เหตุดังกล่าวเกิดในปี 1890) การสูญเสียบุตรชาย ทำให้หวงเฟยหงประกาศไม่ถ่ายทอดวิชาฝีมือให้แก่ลูกหลาน และจะสอนเฉพาะบรรดาลูกศิษย์เท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 15.23 KiB | เปิดดู 4006 ครั้ง ]
หวงเฟยหงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 เดือน 3 ปี 1924 (บางข้อมูลระบุว่า 25 มีนาคม ซึ่งไม่น่าจะใช่เพราะเป็นการนับตามปฏิทินจันทรคติ) หลังจากนั้นมอกไกวหลานพร้อมด้วยลูกศิษย์ 2 คนของหวงเฟยหง คือ หลินจี้หรง (หลำไซหวิ่ง) และตั่งเซาขิ่ง (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) ก็พากันอพยพโยกย้ายไปยังฮ่องกง

ตลอดชีวิตหวงเฟยหงมีลูกศิษย์ทั้งหมด 18 คน (ตั่งเซาขิ่งเป็นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง) ว่ากันว่าคนที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาในทุก ๆ ด้าน (ทั้งวิชาบู๊ วิชาแพทย์ และการเชิดสิงโต) คือ เหลิงฟุน (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) แต่โชคร้ายที่ศิษย์เอกรายนี้ เสียชีวิตตั้งแต่อายุประมาณ 20 กว่า

ในบรรดาศิษย์ทั้งหมดของหวงเฟยหง คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากสุดคือ หลินจี้หรง ซึ่งต่อมาได้เปิดสำนัก และเขียนตำราหมัดมวยที่สำคัญเอาไว้หลายต่อหลายเล่ม รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทในการถ่ายทอดเผยแพร่วีรกรรมของอาจารย์

หลังจากหวงเฟยหงเสียชีวิต เรื่องราวของเขาก็ได้รับการนำมาเขียนเป็นนิยาย ตีพิมพ์ตามหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ และเป็นที่นิยมในวงกว้าง มีการแต่งเติมสีสันเพิ่มจินตนาการต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งเรื่องราวของหวงเฟยหงกลายเป็นตำนานพิศดาร

จนกระทั่งถึงปี 1949 เรื่องราวเกี่ยวกับหวงเฟยหงก็ได้รับการนำมาสร้างหนังเป็นครั้งแรก โดยมีกวานตั๊กฮิง (ไม่ทราบชื่อจีนกลาง) ผูกขาดรับบทเป็นหวงเฟยหงถึง 77 เรื่อง (กินเนสส์บุ๊คบันทึกไว้ว่า เขาเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นตัวละครเดิมมากที่สุดในโลก) ถึงขั้นว่าในชีวิตจริง ยังมีผู้คนจำนวนมากยินดีเรียกขานกวานตั๊กฮิงว่า “อาจารย์หวง”

เรื่องน่าแปลกอย่างหนึ่งคือ ขณะที่วีรกรรมของหวงเฟยหงเป็นที่เล่าขานกันอย่างมากมายไม่รู้จบ ทั้งในหนังและนิยาย ทั้งส่วนที่เป็นความจริงและส่วนที่เป็นเรื่องแต่ง มีนักแสดงจำนวนมากสวมบทบาทเป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ แต่ภาพถ่ายหวงเฟยหงตัวจริง ตลอดทั้งชีวิตกลับค้นพบเพียงแค่ภาพเดียว


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 27 ม.ค. 2010, 19:07, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาพแรกคืออาจารย์หวงตัวจริง ภาพสุดท้ายไม่แน่!? :b10:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 14 ม.ค. 2010, 09:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เพลงหมัด Hung Gar ( หมัดสกุลหง )




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ประวัติ :

หมัดสกุลหงนั้นเป็นวิชาการต่อสู้ดั้งเดิมของชาวมณฑลฟุเจี้ยน ( ฟุโจว ) และวัดเส้าหลินสาขาฟุเจี้ยนมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน วัดเส้าหลินนั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการสอนศิลปะการต่อสู้ในวัดจนกระทั่งเมื่อ ค.ศ.500 พระภิกษุตะโมภิกขุ ( หรือตั๊กม้อในภาษาจีน ) พระภิกษุในศาสนาพุทธธุดงค์มาจากอินเดียและพำนักที่วัดเส้าหลินสาขาหลัก ที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน

หลังจากที่พระตั๊กม้อมาพำนักอยู่ ณ วัดเส้าหลิน มณฑลเหอหนาน ท่านได้สอนพระภิกษุที่นั่นว่า การพบแสงแห่งธรรมนั้นไม่ได้มาจากการอ่านพระไตรปิฎกอย่างเดียว หากแต่ต้องเกิดจากการฝึกสมาธิและการฝึกร่างกาย พระสงฆ์ในวัดเส้าหลินจึงได้รับการฝึกฝนการบริหารร่างกายจากพระอาจารย์ตั๊กม้อเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ในท่วงท่าเหล่านั้นแฝงด้วยเคล็ดลับศิลปะการต่อสู้เพื่อที่จะให้พระสงฆ์สามารถป้องกันตัวเองและป้องกันวัดได้หากมีความจำเป็น พระภิกษุเหล่านั้นต่างฝึกฝนอย่างขยันหมั่นเพียร และบรรจุวิธีการสอนของตั๊กม้อลงไปศิลปะการต่อสู้ของจีนด้วย ในศตวรรษที่ 15 เหล่าหลวงจีนวัดเส้าหลินได้ให้กำเนิด 108 วิธีป้องกันตัว ชื่อเสียงของวัดเส้าหลินจึงโด่งดังไปทั่วจนได้รับสมญาว่า " ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวิทยายุทธ์จีน "

วัดเส้าหลินสาขาฟุเจี้ยนนั้นแตกสาขาออกมาจากที่มณฑลเหอหนาน เมื่อวัดเส้าหลินที่เหอหนานถูกเผาในปี ค.ศ.1570 พระสงฆ์ผู้มีวิชากังฟูแก่กล้าจำนวนมากได้เดินทา
ลงใต้ มาพำนักที่ฟุเจี้ยน และได้นำวิชากังฟูมาเผยแพร่อีกด้วยจนกระทั่งวัดเส้าหลินที่เหอหนานได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ แต่ไม่อาจเรียกศรัทธากลับมาได้เหมือนเดิมอีก

เมื่อราชวงศ์ชิง ( แมนจู ) มีอำนาจในยุคคริสตศตวรรษที่ 17 บทบาทของวัดเส้าหลินถูกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ก่อนหน้านี้วัดเส้าหลินเคยมีบทบาทมากในหลายๆ เหตุการณ์ โดยหลักๆ ก็คือช่วยทางราชการหรือหมู่บ้านใกล้ๆ วัดในการต่อสู้กับพวกทหารข้าศึก หรือโจรที่กระทำการป่าเถื่อน ฆาตกรรมหมู่ชาวบ้าน วัดเส้าหลินนั้นจะไม่สอนวิชาให้คนนอกที่ไม่ได้มาบวชเป็นพระที่นี่ อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ร้ายแรงของพวกแมนจู ( ราชวงศ์ชิง ) ด้วยการที่พระหลายรูปหลบหนีไปได้ ซึ่งในนั้นก็มีพวกอดีตข้าราชการเก่าๆ ของราชวงศ์หมิงเช่นกัน นั่นเป็นยุคแรกที่วัดเส้าหลินเริ่มสอนวิชาให้คนภายนอก

หงซีกวน พ่อค้าขายชากลายมาเป็นศิษย์นอกคนแรกของวัดเส้าหลินที่ฟุเจี้ยน หลังจากทิ้งกิจการของตนเพราะไปมีเรื่องกับขุนนางของราชวงศ์ชิงในมณฑลกวางตุ้ง หลวงจีน Chi Zin เจ้าอาวาสวัดในเวลานั้น ได้ฝึกสอนหงซีกวนอย่างหนักจนเขากลายมาเป็นคนนอกที่มีชื่อเสียงของวัดในที่สุด

ทางการชิงนั้นจับตามองการเคลื่อนไหวของวัดเส้าหลินมาตลอดแต่ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่ง หวูฮุ่ยเฉียน ศิษย์นอกอีกคนของวัดได้ฝึกวิชาแล้วไปสังหารขุนนางชิงที่บ้านเกิดของตนเพื่อแก้แค้นให้พ่อ เมื่อทางราชสำนักทราบ จึงระดมกำลังทั้งปืน , ปืนใหญ่และธนูไปที่วัด และทำการถล่มวัดทันทีจนราบคาบ พระสงฆ์ต่างร่วมกันต่อสู้ปกป้องวัดอย่างกล้าหาญ แต่ในที่สุด เปลวเพลิงแห่งราชวงศ์ชิงก็ทำลายวัดไปจนไม่เหลืออะไร

30 ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นต่างพากันอพยพลงใต้ เช่นหงซีกวน หลวงจีน Sam Tak และเจ้าอาวาส Chi Zin เมื่อมาถึงกวางตุ้ง หงซีกวนได้เปิดโรงเรียนสอนกังฟูขึ้นที่วัดใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้สืบทอดวิชา 10 ปีต่อมา เขาเปิดโรงเรียนในเมือง Fa โดยให้ชื่อว่า " สำนักมวยสกุลหง " เพื่อปกปิดการสอนมวยเส้าหลิน ไม่ให้พวกราชวงศ์ชิงได้รู้ และเพื่อเป็นการระลึกถึงราชวงศ์หมิง ที่ถูกราชวงศ์ชิงทำลายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


สำนักของหงซีกวนกลายเป็นสำนักขนาดใหญ่และมีชื่อเสียง วิชาการต่อสู้นั้นแพร่กระจายไปทั่วภาคใต้ของจีนอย่างรวดเร็ว กลายเป็น 1 ใน 5 สำนักมวยที่ดังที่สุดในภาคใต้ของจีน ทางฝ่ายหลวงจีน Chi Zin อาจารย์ของหงซีกวน เมื่อได้ทราบว่าศิษย์ของตนเปิดสำนักขึ้นที่เมือง Fa จึงส่งผู้ติดตามชื่อ " ลู่อาไฉ่ " ไปเรียนที่นั่น ในเวลาต่อมา ลู่อาไฉ่กลายเป็นผู้ชำนาญในศิลปะการต่อสู้ และหงซีกวนส่งเขาไปเผยแพร่มวยทั่วกวางตุ้ง

Wong Tai เป็นผู้ติดตามฝีมือดีของลู่อาไฉ่ และลูกชายของเขา " หวงฉีอิง " ได้เรียนกังฟูจากลู่อาไฉ่และพ่อของเขา เขาพยายามหาผู้ที่จะเข้าใจวิชาการต่อสู้ แต่ก็ไม่พบ อย่างไรก็ตาม หวงฉีอิงก็กลายเป็น 1 ใน 10 ผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้ดีที่สุดแห่งกวางตุ้ง หรือ " สิบพยัคฆ์กวางตุ้ง "

หวงเฟยหง ลูกชายของหวงฉีอิง ได้เรียนวิชาจากบิดา ในเวลาต่อมาเขากลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาคใต้ของจีน เรื่องราวของหวงเฟยหงถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ และละครนับครั้งไม่ถ้วนในปัจจุบัน

ศิษย์ 10 คนที่ฝีมือดีที่สุดของหวงเฟยหง 1 ในนั้นคือ Lam Sai wing ก่อนหน้าที่เคยเรียนมวยจากที่อื่น แล้วละทิ้งวิชาเหล่านั้นมาเรียนกับหวงเฟยหง จนเขากลายเป็นอาจารย์ในเวลาต่อมา เขาเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับกังฟู และใช้เวลาส่วนใหญ่ทั้งชีวิตกับการฟื้นฟูมวยสกุลหงให้เป็นรูปแบบในช่วงเปลี่ยนยุคสมัย ด้วยการอุทิศตนเช่นนี้เอง มวยสกุลหงจึงยังคงแพร่หลายอยู่ในภาคใต้ของจีน และในฮ่องกงมาจนถึงทุกวันนี้


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 14 ม.ค. 2010, 09:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 13 ม.ค. 2010, 21:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b10:

ยังไม่ได้อ่านละเอียดเจ้าค่ะ

เพียงแต่กำลังตะลึง...หงะ...

บอกวัตถุประสงค์การนำเสนอ..สักนิดได้มั๊ยเจ้าคะ

:b1: :b12: :b1: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ชิวๆ อย่าไป ซีเรียส :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อด้วยมวยจีน พลังจิต :b14: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 13 ม.ค. 2010, 21:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้ซีเรียส กำลังมองหาคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ..อยู่ :b32: :b9: :b32: :b9:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 95 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร