เป็นไงบ้างงับบบบ ญาติโยมที่ท่านขงเบ้ง ฯ สอน อายุมากน้อยแค่ไหน พอจะรับมือพยานาคได้สักสองเพลง

ไหมงับบบๆ

อ้าว...ที่เมืองไทย ยังปราปไม่ได้ จะไปหิมาลัยอีกแล้วหรอพระเจ้า

พักนี้กรัชกายไม่ค่อยว่างงับบบบ ไม่ค่อยสะบายยยยย

คือญาติโยมที่ผมสอนมีหลายวัยงับ

ตั้งแต่ ขวบครึ่ง ไปจนถึง เกือบเก้าสิบปีงับ

และ เรื่องพญานาคกำลังรอผู้มีญาณวิถีสูง และ อิทธิวิธีแก่กล้า ต้องเป็นพระอนาคามีขึ้นไปด้วยงับ

พระธาตุซ่อนอยู่สองที่งับ

ที่มีพญานาครักษา มันไม่ใช่ของง่ายงับ

อิอิ

ยังเปิดเผยมากไม่ได้งับ

แต่ ถ้าท่านกรัชกายสนใจ ผมเชิญเลยนะงับ

เต็มใจมาก

ท่านขงเบ้งฯงับ ท่านลองแบๆไต๋หน่อยสิว่า กรัชกายต้องเตรียมตัวอย่างไง เอาอะไรไปบ้าง เพื่อไปค้นหาพระ

ธาตุ และทำการสู้กับพระยานาคราช

แล้วท่านทราบแต่ใดมาว่า พระธาตุอยู่แถวๆจังหวัดดังกล่าว

อ้อ อีกอย่าง เด็กขวบกว่า ท่านสอนให้เขาทำอะไรอ่ะงับ

อิอิ

มาเผ่ยวิธีสำหรับท่านกรัชกายนะงับ

1 ท่านกรัชกายต้องได้อนาคามีเป็นอย่างน้อย และ ได้ ปฏิสัมภิธา วิชชา 8 อภิญญา 5-6

และ ญาณวิถี ที่กล้ามาก สมาธิโลกุตร สามารถรู้จักกำลังของธรรมธาตุได้


ที่ทราบข่าวอันยิ่งใหญ่นี้เนื่องจากการตรัสรู้ของพระอรหันต์องค์หนึ่ง

พอท่านตรัสรู้ ผมพอรับรู้ได้ด้วยธรรมธาตุ

เวลาท่านตรัสรู้ พระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุพระปักเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันตธาตุ เปล่งอานุภาพรับกำลังธรรมธาตุที่มหาศาลมาก ผมเลยทราบที่อยู่ทั้งหมด

เลยนำมาเปิดเผย และ เตรียมการงานครั้งนี้

และ เด็กขวบกว่า ผมสอนให้พ่อ-แม่เด็กเลี้ยงเด็กยังไง และ แก้นิสัยของเด็กยังไง

และ ผมได้สอนน้องคนนั้นให้หัดดูลมเป็นต้น แล้ว แก้นิสัยที่ไม่ดีให้


อิอิ


ผมยังด้อยอยู่มากต้องรอท่านกรัชกายชี้แนะงับ

ท่านขงเบ้ง ฯ งับบ เด็กขวบครึ่ง น่าจะเริ่มสอนให้หัดนุ่งกางเกงก่อนดูลมน่ะ

ท่านข้งเบ้ง ฯ งับ พระอรหันต์บ้านเราก็มีนี่งับบ

ท่านขงเบ้ง ฯ งับบบ ทำไมกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะไปเอาพระธาตุสูงนักเล่าครับ

กรัชกายเพิ่งจะได้อนาคอนด้าเอง

ส่วนญาณวิถี ใกล้แล้วงับบ ตอนนี้ถึงยานวิถีขั้นสูงสุดแล้วงับบ อีกขั้นเดียวก็เข้าญาณวิถี

อืมม...แล้วกำลังธรรมธาตุที่ท่านขงเบ้ง ฯ นี่ประมาณไหนล่ะ คือ ว่จะรู้อะไรเป็นเบื้องต้นงับบบ

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

ธรรมะนี้ พรหมจรรย์นี้ เป็นเพื่อความสิ้นทุกข์ ไม่เป็นไปเพื่อการไม่ยึดติด ไม่เป็นเพื่อความต้องให้มีมากๆแตอย่างใด จะสิ้นทุกข์ ก็ต่อเมื่อไม่เอาบ้าง ไม่ยึดบ้าง ไม่ถือบ้าง ปลงบ้าง ละ วาง ไม่คอยที่อะไรกับอะไร ที่มีแต่จะไร้ตัวตนคอยเอะอะถือสา หากไม่ต่อพรหมจรรย์ คือความสิ้นทุกข์ หรือความเป็นไปเพื่อสิ้นทุกข์ ก็เป็นว่า เราต้องให้มันมีมาก มีนี้ก่อนแล้วมีนั้น ความที่อยากให้ อยากให้มี ให้เป็น นี้ละ จะไม่ตรงต่อการสิ้นทุกข์เป็นการค่อยเกิด คอยเริ่ม เพราะเนื้อพรหมจรรย์จริงๆของเขาคือพรหมจรรย์อยู่เองแล้ว ยิ่งไม่ตรงเนื้อยิ่งหลงตัวตน ก่อเกิดมานะทิฐิ แบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แบบนั้น แบบนี้ สุดท้ายเข้าใครไม่ได้ เพราะมีแต่ตัวตนว่าเราดีกว่าเขา เขาด้วยกว่าเรา เราใช่ เขาไม่ใช่ มันไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ใช่สิ่งที่จะไปหลงให้ความแตกต่าง ระหว่างสิ่งไหนกับสิ่งไหน สัตว์มีกรรมที่หลากหลาย และประมวลไม่ยึดติดทั้งหมด ไม่แตกต่างทั้งหมด เพราะสรรพสิ่งไม่ยึดอยู่แล้วในตัวของมันเอง อนิจจังในตัวมันเอง จึงไม่ใครดีด้อยกว่ากันอนิจจังเหมือนกัน

ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

คุณ yodchaw หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต มีคุณสมบัติตามที่ท่านขงเบ้ง ฯ ระบุไหมครับ จะได้ร่วมกันไป

นำพระธาตุนิธานมาให้ประชาชนกราบไหว้กัน

อิอิ

กำลังรอท่านกรัชกานะงับ

เร่งความเพียร

อิอิ

ทางเกวียน เวียนลงนรก

ทางรก วกขึ้นสวรรค์

อิอิ


ท่านหมายถึงใครละงับ

หากท่านขงเบ้ง ฯ ว่าทางนั้นเป็นทางสวรรค์ กรัชกายไปนรกดีฝ่างับบ

คือว่างานนี้ งานใหญ่มากงับ

เลยต้องหาผู้ที่มีความสามารถมากงับ

ญาณวิถี คือ อนาคตังญาณ + อตีตังสญาณ + จุตตูปปาทญาณ + เจโตปริยญาณ + ฌานโลกุตร อิอิ ประมาณนี้งับ

กำลังธรรมธาตุคือ คนที่เป็นพระโสดาบัน สกทาคามี ขึ้นไปงับ และ มีเจโตปริยญาณ สมาธิโลกุตร จุตตูปปาทญาณ ด้วยงับ

รู้เบื้องต้น คือ เจริญวิปัสสนา เข้าสู่ มรรคญาณ ผลญาณ 2 ครั้ง งับ

แล้วที่สำคัญ ขอที่ได้อิทธิวิธี ด้วยนะงับ

ถึงจะรับมือไฟไหว

นรกร้อนนะงับ

เย็นก็เย็นสุด

อิอิ

ทางง่ายไปลำบากทีหลัง

ทางยากแรกไปสบายเมื่อปลายมือ

ได้ยินว่า ธรรมบทบอกมางับ

ท่านขงเบ้ง ฯ งับบบๆ นั่นน่าหรอคุณสมบัติของผู้ที่จะไปสู้กับพยานาคราช เพื่อช่วงชิงพระธาตุ
แบบนั้น กรัชกายไม่เอาแล้วงับบบ

"ถอยดีกว่า"

http://www.charyen.com/jukebox/play.php?id=9082

ท่านคงรู้หลักกาลามสูตรดีแล้ว ไม่ปลงใจเชื่อง่ายๆต้องได้ยินกับหู ดูกับตา รู้เห็นด้วยใจ ไม่ใช้แค่ได้ยินมาก็เชื่อเลย หรือว่าปฏิเสธเสียงแข็งเอาทิฐิตัวเองเข้าว่าทันที ว่ามันไม่ใช่ มันบ่แม้น หรือ แม้นแล้ว ใช่เลย ยังไม่ได้พิสูจน์เลย ถ้าของจริงต้องพิสูจน์ได้ รู้เห็น สัมผัสได้ ไม่ใช่จะมาเชื่อแค่เขียนบอกแล้วจะเชื่อกันเลย ไม่ยิ่งเด็กน้อย ให้ใครจูงเอาได้อย่างนั้น เพราะเราเชื่อแต่เขา เราเลยมีเขา ไม่ได้ว่าให้ใครนะ แต่ว่าตามเนื้อของกาลามสูตร ที่เขียนไปเชิญไปศึกษาก็แล้วแต่ใครที่สนใจ ไม่สนใจดูศึกษายึดรูปแบบการเบ็ญอยู่ไม่น้อมดูในรู้แบบอื่นๆก็ไม่มีใครจะไปบังคับใครได้ ครูบาอาจารย์ท่านมีหลากหลายแล้วทางการสอน ไปพบองค์นี้ท่านมาได้คติสอนใจมาแบบนี้ องค์ได้แบบนั้นได้แบบนั้น เรียกว่าเป็นผู้อ่อนน้อมใฝ่ ศึกษาหากพบกัลยาณมิตรก็ถามไถ่ ปฏิปทาครูบาจารย์กัน ก็ดีแลกเปลื่ยนแนวทางการบำเพ็ญ ไม่ใช่ว่าของกูดีแล้ว อยู่นี้ในใจตลอดหากเป็นแบบนี้ท่านเป็นมานะแล้ว