--------------------------------------------------------------------------------
คำถามนี้กระผมถามมาหลายแห่งยังไม่ได้รับคำตอบและอยากรู้มากๆจึงขอถามที่นี่อีกครั้ง ท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ คือ

ทุกๆวันทั้งเช้าและเย็นผมต้องสวดมนต์ทุกวันไม่เคยขาด ผมทำตามขั้นตอนตามลำดับดังนี้
- บูชาพระรัตนตรัย ( อิมินาสักกาเรนะ.............)
- บทกราบพระรัตนตรัย (อรหังสัมมา...................)
- นมัสการพระรัตนตรัย (นะโมตัสสะ ภะคะวะโต............)
- ขอขมาพระรัตนตรัย (วันทามิ พุทธัง สัพพัง เมโทสัง............)
- ไตรสรณคมน์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.............)
- ถวายพรพระ (พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ )
- แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ (สัพเพ สัตตา................)

- แผ่ส่วนบุญ โดยเฉพราะการแผ่ส่วนบุญกระผมจะพูดว่า ดังนี้

"ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้จากการไหว้พระ การสวดมนต์ และการแผ่เมตตาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่นกุศลไปให้นาย ก.(สมมุติชื่อ) ขอให้นาย ก.มารับส่วนบุญส่วนกุศลในครั้งนี้ และขอจงได้อนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย และขอให้บุญที่ข้าพเจ้าที่ได้อุทิศในครั้งนี้จงสำเร็จแก่นาย ก. ด้วยเทอญ" (ไม่ได้กรวดน้ำแต่อย่างไร)

เป็นอันเสร็จพิธีการไหว้พระสวดมนต์ของกระผมทั้งเช้าและเย็น กระผมทำอย่างนี้ถูกหรือไม่ครับ เหตุผลที่กระผมต้องถามก็เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องของขั้นตอนการไหว้พระสวดมนต์ และกลัวว่าจะไม่ถูกขั้นตอนของการไหว้พระสวดมนต์แต่สนใจการไหว้พระสวดมนต์ครับ

ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

...ขออนุโมทนาบุญกับคุณamamด้วยเจ้าค่ะ...
...ที่คิดดี...พูดดี...ทำดี...จะสวดสั้น...สวดยาว...ไม่ใช่สาระสำคัญ...
...อยู่ที่ความตั้งใจ...มีเวลามากพอ...สิ่งสำคัญคือจิตยินดี...

...น้อมทั้งกาย...เอ่ยทั้งวาจา...จิตจดจ่อในคำสวดเหล่านั้น...
...แม้จะไม่ทราบความหมาย...หรือสวดแปลด้วยยิ่งดีเจ้าค่ะ...
...การแผ่เมตตาบางครั้งกำลังของจิตเราที่ส่งมันไม่ถึงผู้รับ...

...การกรวดน้ำเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้...ให้มีพยานยืนยันการส่งบุญ...
...บางคนเขาวางปั้นข้าวเหนียวไว้ด้วย...เป็นการฝากส่งบุญ...
...พระแม่โพสพ...พระแม่คงคา...พระแม่ธรณี...ส่งข่าวถึงผู้รับ...






...จิตที่ฝึกดีแล้ว...นำสุขมาให้...

ขออนุโมทนาครับคุณamam

จัดลำดับได้ดีแล้วครับ อย่ามัวกังวลใจอยู่เลย ความตั้งใจนั้นเป็นบุญกุศลอย่างยอดเยี่ยมแล้ว หากมัวลังเลสงสัยอยู่ จิตใจฟุ้งซ่านกลายเป็นบาปไปเปล่าๆ..

เรื่องกรวดน้ำนั้นจะทำหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรครับ บุญนั้นสำเร็จที่ใจ หากการน้อมใจไปให้ มีจิตคิดจะให้ ก็ชื่อว่า การแผ่บุญ อันเป็นปัตติทานกุศลก็เกิด
ทีนี้ หากใช้การกรวดน้ำ ก็จะเพิ่มกำลังจิตใจ เพิ่มความตั้งใจ เหมือนคนที่ขวนขวายมาก การรินน้ำไปก็ย่อมเป็นการงานกุศลทางกายหมายปรารภให้เกิดการให้เต็มที่ กำลังอาจจะมากกว่าด้วยเหตุนี้ แต่วัดกันที่สุดก็ ที่เจตนาที่เกิดขึ้นที่ใจนั่นเอง หากเอาน้ำมากรวดแต่ใจไหลไปอื่น ตรงนั่นก็ไม่เกิดประโยชน์..

การอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลดังกล่าว ถ้าต้องการกรวดน้ำเราจะกรวดน้ำตอนไหนครับ อย่างนี้ถูกหรือไม่ครับ คือ พอเริ่มขึ้นต้น "ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน.......................(ตามบทกรวดน้ำข้างล่างนี้) ก็เริ่มกรวดน้ำได้ทันทีใช่หรือไม่ครับ ในการกรวดน้ำที่ว่าตั้งแต่เริ่มกรวดน้ำให้เทน้ำจนหมดใช่ไหมครับ กราบขอบคุณทุกคำตอบครับ


"ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้จากการไหว้พระ การสวดมนต์ และการแผ่เมตตาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่นกุศลไปให้นาย ก.(สมมุติชื่อ) ขอให้นาย ก.มารับส่วนบุญส่วนกุศลในครั้งนี้ และขอจงได้อนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย และขอให้บุญที่ข้าพเจ้าที่ได้อุทิศในครั้งนี้จงสำเร็จแก่นาย ก. ด้วยเทอญ" (ไม่ได้กรวดน้ำแต่อย่างไร)

เลื่อนบท.....นมัสการพระรัตนตรัย (นะโมตัสสะ ภะคะวะโต) ไว้อันดับแรกสุดค่ะ
ท่านผู้รู้มักแนะนำ ไม่ว่าจะทำอะไรให้ระลึกถึงเป็นอันดับแรกเสมอ

ก่อนสวดมนต์บทสำคัญ
ขอให้เพิ่มบทสวดอัญเชิญเทวดา ด้วยค่ะ
ท่านจะมาฟังและอนุโมทนากับผู้สวด
เมื่อจบแล้วจะมีบทเชิญท่านกลับสวรรค์ด้วย (แล้วแต่พิจารณานะคะ)
ดิฉันก็ไม่ได้เชิญท่านกลับเช่นกัน

ส่วนการกรวดน้ำ ทราบว่ามีทั้งแบบแห้ง (ไม่ต้องใช้น้ำ) ก็ได้ อุทิศถึงเหมือนกันค่ะ
ส่วนต้นไม้ที่จะรดน้ำ หากบริเวณนั้นไม่มีก็ไม่เป็นไร

เรื่องรูปแบบไม่น่ายึดติด กังวลมากไปก็ทุกข์ สำคัญตรงน้อมนำใจไปยังสรณะค่ะ
ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป
ขออนุโมทนา

ขอ อนุโมทนาค่ะ

เห็นด้วยค่ะ ว่าก่อนสวด เราควรจะอันเชิญเทวดามาฟัง การสวดของเรานะคะ