วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 01:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 00:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 00:53
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีว่าสนใจในเรื่องสมาธิมากๆ เพราะตัวเองเป็นคนสมาธิสั้น ตื่นเต้นง่าย คิดมาก นอนไม่หลับอะไรประมาณนี้

จึงอยากมาปรึกษาเพื่อแก้ไขนิสัยพวกนี้ด้วยอ่ะครับ รวมถึงจะถามอะไรหลายๆอย่างอยู่เหมือน

เริ่มเลยละกันนะครับ
1.ส่วนตัวพยายามปฏิบัติศีล 5 อยู่ให้ได้ดีที่สุด แต่มีอยู่ข้อนึงยากมากๆ คือข้อ 1 ของศีล 5 ครับ ที่บ้านยุงเยอะมากๆ แล้วก็เป็นพวกมีกรรม ยุงชอบกัดผมคนเดียว ซึ่งก็จะตบให้ตายเป็นประจำทุกๆวัน คือก็คิดอยู่เสมอว่าบาป แต่ถ้าไม่ทำอะไรจะกลายเป็นไข้เลือดออกแน่ๆ ก็เลยอยากถามว่าแบบนี้ผิดศีลมั้ยครับ แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี

2.เคยได้ยินมาว่าการดูหนังลามก 1 ครั้งจะทำให้ อายุสั้นลง 7 วัน ถ้าขาย ก็จะอายุสั้นลดลง 7 ปี ในส่วนนี้มีความจริงอย่างไรบ้างครับ ตัวผมเองก็ไม่ได้ขายหรือยุ่งเกี่ยวไรกับตรงนี้ แต่เสียอย่างเดียวคือ มักดูอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่อยากแต่ มันเหมือนติดสิ่งเสพติดฉันนั้น อยากถามว่าการดูพวกนี้เป็นบาปอย่างไร แล้วผมจะต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดดูสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆ เพราะบังคับใจอยู่นาน แต่ยากมากๆครับ สังคมอินเตอร์เน็ตมันล้วนแต่มีสิ่งเร้าพวกนี้มากมาย แนะนำหน่อยนะครับ

3.จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั่งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ

4.เป็นสมาชิกใหม่สนใจปฏิบัติธรรมมากๆ แต่ก็เพิ่งจะเริ่มโดยการสวดมนต์ทุกวันให้ได้ แต่ยังติดเรื่องการนั่งสมาธินี่ล่ะครับ ควรจะนั่งอย่างไรดี ทั้งลักษณะในการเริ่มปฏิบัติไปจนถึงเวลาในการทำแต่ละวัน ช่วงเวลาใดๆเป็นต้น

5.การใส่บาตรที่กระทำกันทั่วๆไป ถ้าผมไม่สามารถตื่นเช้าใส่ได้ ผมไปทำบุญที่วัดแทนได้มั้ยครับ แบบว่าตื่นเช้าไม่ไหวจริงๆ แล้วถ้าไม่ใส่เลย ใช้การนั่งสมาธิ สวดมนต์ แทน สามารถทดแทนกันได้มั้ยครับ

6.เรื่องการผูกมิตรกับคนรอบข้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาจึงมีมิตรน้อยมากๆ เพราะจะคิดเสมอว่าถ้าเข้าไปคุยกะเค้า คนๆนั้นจะคิดอย่างไรบ้าง จึงไม่กล้าเข้าไปทักทายเสมอ หรือไม่อยากจะคิดว่าคนๆนั้นเค้าคิดอะไรกับเรา อยากแก้ไขส่วนนี้มากๆ แต่ก็ไร้ที่ปรึกษาจริงๆ ก็อยากจะหาจิตแพทย์ปรึกษาเหมือนกันนะครับ แต่เมืองไทย คนที่พบจิตแพทย์มันดูเหมือนคนบ้าแหะ ขอคำแนะนำอีกเรื่องนะครับ


ทั้งหมดก็เคยถามไว้ในห้องแนะนำตัวแล้วน่ะครับ แต่รู้สึกเหมือนตั้งผิดหมวดไป เลยย้ายมาที่นี่เพื่อที่จะได้คำแนะนำของสมาชิกที่นี่ครับ


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 24 พ.ย. 2009, 01:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อ3-6 ควรนำไปทำให้เยอะๆ จะถือว่าเป็น "บทเรียนที่มีค่าในชีวิตประจำวันได้"
สำหรับข้อ3 เป็นข้อสำคัญที่สุด พึงรู้ไว้ว่า การทำสมาธิ ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเสมอไป
เพื่อให้มีสติ สมาธิ มีปัญญา ทำในอริยาบท อื่นก็ได้ เช่น เล่นเนตอ่านเวปที่มีสาระ หรือนั่งอ่านหนังสือ
เขียนหนังสือ ทำงานส่งอาจารย์ ก็สามารถใช้สมาธิขณะที่ทำก็ได้คือตั้งใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยใช้สติพินิจพิจารณาไปด้วย ด้วยปัญญาของเรา ณ ตอนนั้น นี่ก้คือได้ทำสมาธิไปแล้ว ขอแต่ให้ตั้งใจเถอะเรื่องไหนก็ได้ ก้ถือว่า ทำสมาธิ ทั้งนั้น เช่นจะทำความสะอาดห้อง กวาดบ้าน ล้างห้องน้ำ ก็สามารถกำหนดเป็นสมาธิได้

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธินั้น มีความไม่ฟุ้งซ่านเป็นลักษณะ
มีความกำจัดความฟุ้งซ่านเป็นรส
มีความไม่หวั่นไหวเป็นเครื่องปรากฏ
มีความสุขความเจริญเป็นปทัฏฐาน




มารดาก็ทำให้ ไม่ได้
บิดาก็ทำให้ ไม่ได้
ญาติพี่น้องก็ทำให้ ไม่ได้
แต่จิตที่ฝึกฝนไว้ชอบ ย่อมทำสิ่งนั้นให้ได้
และทำให้ได้ อย่างประเสริฐด้วย ..



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อ 1 การฆ่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถือว่า เขาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว (อันนี้คิดเอานะว่าบาปไม่บาป)
ข้อ 2 ไม่รู้ว่าอายุสั้นจริง ๆ หรือเปล่านะ เพราะไม่เคยได้ยิน (เคยได้ยินแต่แบบว่า เกิดมาชาติหน้าตาบอดประมาณนี้ )
ข้อ 3 คนเราจะทำการใดสำเร็จได้ ต้องอาศัย สติ สมาธิ และปัญญา การนั่งสมาธิมีผลดีอย่างแน่นอน
การนั่งสมาธิก็เหมือนการกรั่นกรองความคิดให้อยู่ในสมองน้อยลง เพราะวันนึงๆ เราคิดเรื่องอะไรต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย สมองคงรกมาก
ข้อ 4 การนั่งสมาธิ อยู่ในท่าที่เราสบายที่สุด อาจไม่ต้องสำรวมมาก เพราะทำอยู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องหาฤกษ์ยามในการนั่งหรอกนะ เวลาไหนเราสะดวก นั่งไปเลย แต่ที่แนะนำคือ ก่อนตื่นนอน และก่อนนอน เพราะก่อนตื่นนอน เป็นการเริ่มต้นของวัน ทำให้เราจะได้มีสติในการใช้ชีวิตในวันนั้น ๆ ส่วนก่อนนอน เพราะก่อนที่เราจะเอนตัวลงนอน ควรทำใจให้สบายที่สุด (อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพ)
ข้อ 5 ควรจะเริ่มหัดพูดจา หัดซักถาม ถ้าคุณพูดน้อยได้ แต่ขอให้พูดแต่สิ่งดี ๆ จริงใจ คงจะพอแล้ว
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b35: :b35: :b35: แค่คุณคิดที่จะเริ่มทำให้สิ่งที่ดี...นั่นก็ถือว่าดีแล้วค่ะที่คุณยังคิดได้ ยังคิดที่จะเริ่มต้น...ยังไงก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ...ขอให้มีสิ่งดี ดี เกิดขึ้นกับตัวคุณ และที่แน่ ๆ ความสุขใจจะมาเยือนคุณอย่างแน่นอน... ขอเอาใจช่วยค่ะ :b4: :b4: :b4:

:b55: :b55: :b55: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พึงกำจัดความรำพัน
ความทะยานอยากและความโทมนัสของตน
พึงถอนลูกศร คือกิเลสของตนเสีย
เป็นผู้มีลูกศร คือ กิเลสอันถอนขึ้นแล้ว
อันตัณหาและทิฐิ ไม่อาศัยแล้ว
ถึงความสงบใจ ก้าวล่วงความเศร้าโศกได้ทั้งหมด
เป็นผู้ไม่มีความเศร้าโศกย่อมจักเยือกเย็น ฉะนี้แลฯ ”


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


1.ฆ่ายุงยังไงก็บาปแน่ๆครับ แต่จะบาปน้อยกว่าฆ่าสัตว์ใหญ่ แต่บาปน้อยสะสมมากๆ ก็กลายเป็นบาปใหญ่ เลิกได้ก็เลิก

2.เป็นความเชื่อที่ผิดครับ ไม่ตรงกับความเป็นจริง อยากเลิกดูก็ต้องพิจารณาความไม่งามของกาย

3. สมาธิมีข้อเสียเหรอ คุณเอามาจากไหน สมาธินั้นคุณประโยชน์มหาศาล ทำให้มีภูมิคุ้มกันโรคทางจิตเป็นต้น

4........

5.ทำที่วัดก็ทำได้ครับ ถ้าไม่ทำ ทำอย่างอื่นได้มั้ย ได้ครับ แต่ ทานนั้นเอาไว้กำจัดความโลภความตระหนี่ ศีล เอาไว้กำจัดความโกรธ ภาวนา เอาไว้กำจัดความหลง กิเลส3กอง ก็มีคู่ปรับกันคนละอย่าง

6. ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้
อันมิตรดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าเพื่อนร้อยคอยคิดริษยา เหมือนดั่งมีเกลือน้อยด้อยราคา ดีกว่ามีน้ำเค็มเต็มทะเลย

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 11:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


kamigazie เขียน:
3.จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั้งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ




คุณ suparuek

ด้วยความโง่แต่ขยันของคุณ ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น
รับผิดชอบเขาด้วยนะ

โง่เฉยๆไม่เป้นไร ใครๆก็โง่
แต่คุณน่ะ โง่แล้วขยัน
มันเสียหายอย่างนี้แหละ

ได้เวลายอมรับความจริงกับตัวเอง
ว่าไม่รู้จริงได้แล้ว จะดันทุรังไปถึงไหน
ชาวบ้านต้องมาตามเช็ดตามล้างสิ่งที่คุณทำไว้นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


1. ในโลกนี้ ไม่มีใครที่ไม่ตบยุง ถ้ามีช่วยบอกหน่อย จะไปเบิร์ดกะบาล อิอิ
ยังไม่แน่ใจว่า ยุงมีชีวิตหรือไม่ (ในความหมายว่า มีจิตและเจตสิก เข้าใจว่า ต้องระดับเจโตปริยญาณ จึงจะรู้ได้) ถ้ายุงมีชีวิตก็บาป แต่การปล่อยให้ยุงกัดจนเป็นโรค ก็บาปต่อตนเองเช่นกัน และบาปหนักกว่าด้วย
การใช้ชีวิตในโลก ต้องชั่งน้ำหนัก เดินทางสายกลาง...

2. การดูหนังลามก ไม่ผิดศีล แต่มันเป็นอบาย เป็นอกุศล กระตุ้นกำหนัดทำให้จิตขุ่นมัว
การจะลดดีกรีลง ก็ให้ปลงว่า หนังโป๊นั้น แสดงยังไงก็มีท่าซ้ำๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ อิอิ (อันนี้เขียนเล่นๆ) ในทางปฏิบัติให้นั่งสมาธิ ลดความฟุ้งซ่านและกามราคะชนิดหยาบ (หื่น)

3. สมาธิไม่มีข้อเสีย นอกจากจะเครียดกับสมาธิจนเกินไป ซึ่งหากพิจารณาดีๆ ความเครียดนั้นไม่ได้เกิดจากสมาธิ แต่เกิดจาก ความอยากที่จะมีสมาธิ
บางคนอาจจะยกกรณีหลงในนิมิต (หลงในภวังค์) ซึ่งก็ขอให้หลงก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน... แต่ถ้าสติดี บางคนก็อาจไม่พบนิมิตเลย
และถ้าจะพิจารณาให้ดี การหลงในนิมิต ก็ไม่ได้เกิดจากสมาธิ อาการหลงนั้น เกิดจากอัตตาที่คิดว่าตนเหนือกว่าใคร ซึ่งเกิดได้กับทุกเรื่อง...

4. สมาธิ หากจะทำจริงก็ทำได้เลย แต่ที่เราเห็นนุ่งขาว นั่งหลังตรงที่สถานปฏิบัติธรรม นั่นเป็นสัญลักษณ์ว่า เราจะนั่งสมาธิแล้วนะ เป็นเครื่องแสดงความตั้งใจ

5. ตักบาตรไม่ทัน ก็ทำบุญได้ สมาธิเป็นการสร้างความสงบให้แก่จิต ถ้าจิตนิ่งดี ก็สามารถทำบุญได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป (จิตมีพลังมาก ย่อมแผ่บารมีได้มาก)

6. เป็นบุคลิกภาพ ไม่ขอตอบ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
kamigazie : เขียน
พอดีว่าสนใจในเรื่องสมาธิมากๆ เพราะตัวเองเป้นคนสมาธิสั้น ตื่นเต้นง่าย คิดมาก นอนไม่หลับอะไรประมาณนี้

จากอยากมาปรึกาาเพื่อแก้ไขนิสัยพวกนี้ด้วยอ่ะครับ รวมถึงจะถามอะไรหลายๆอย่างอยุ่เหมือน

เริ่มเลยละกันนะครับ
1.ส่วนตัวพยายามปฏิบัติศีล 5 อยู่ให้ได้ดีที่สุด แต่มีอยู่ข้อนึงยากมากๆ คือข้อ 1 ของศีล 5 ครับ ที่บ้านยุงเยอะมากๆ แล้วก็เป็นพวกมีกรรม ยุงชอบกัดผมคนเดียว ซึ่งก็จะตบให้ตายเป็นประจำทุกๆวัน คือก็คิดอยู่เสมอว่าบาป แต่ถ้าไม่ทำอะไรจะกลายเป็นไข้เลือดออกแน่ๆ ก็เลยอยากถามว่าแบบนี้ผิดศีลมั้ยครับ แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี

2.เคยได้ยินมาว่าการดูหนังลามก 1 ครั้งจะทำให้ อายุสั้นลง 7 วัน ถ้าขาย ก็จะอายุสั้นลดลง 7 ปี ในส่วนนี้มีความจริงอย่างไรบ้างครับ ตัวผมเองก็ไม่ได้ขายหรือยุ่งเกี่ยวไรกับตรงนี้ แต่เสียอย่างเดียวคือ มักดูอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่อยากแต่ มันเหมือนติดสิ่งเสพติดฉันนั้น อยากถามว่าการดูพวกนี้เป็นบาปอย่างไร แล้วผมจะต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดดูสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆ เพราะบังคับใจอยู่นาน แต่ยากมากๆครับ สังคมอินเตอร์เน็ตมันล้วนแต่มีสิ่งเร้าพวกนี้มากมาย แนะนำหน่อยนะครับ

3.จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั้งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ

4.เป็นสมาชิกใหม่สนใจปฏิบัติธรรมมากๆ แต่ก็เพิ่งจะเริ่มโดยการสวดมนต์ทุกวันให้ได้ แต่ยังติดเรื่องการนั้งสมาธินี่ล่ะครับ ควรจะนั้งอย่างไรดี ทั้งลักษณะในการเริ่มปฏิบัติไปจนถึงเวลาในการทำแต่ละวัน ช่วงเวลาใดๆเป็นต้น

5.การใส่บาตรที่กระทำกันทั่วๆไป ถ้าผมไม่สามารถตื่นเช้าใส่ได้ ผมไปทำบุญที่วัดแทนได้มั้ยครับ แบบว่าตื่นเช้าไม่ไหวจริงๆ แล้วถ้าไม่ใส่เลย ใช้การนั้งสมาธิ สวดมนต์ แทน สามารถทดแทนกันได้มั้ยครับ

6.เรื่องการผูกมิตรกับคนรอบข้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาจึงมีมิตรน้อยมากๆ เพราะจะคิดเสมอว่าถ้าเข้าไปคุยกะเค้า คนๆนั้นจะคิดอย่างไรบ้าง จึงไม่กล้าเข้าไปทักทายเสมอ หรือไม่อยากจะคิดว่าคนๆนั้นเค้าคิดอะไรกับเรา อยากแก้ไขส่วนนี้มากๆ แต่ก็ไร้ที่ปรึกษาจริงๆ ก็อยากจะหาจิตแพทย์ปรึกษาเหมือนกันนะครับ แต่เมืองไทย คนที่พบจิตแพทย์มันดูเหมือนคนบ้าแหะ ขอคำแนะนำอีกเรื่องนะครับ


ทั้งหมดก็เคยถามไว้ในห้องแนะนำตัวแล้วน่ะครับ แต่รู้สึกเหมือนตั้งผิดหมวดไป เลยย้ายมาที่นี่เพื่อที่จะได้คำแนะนำของสมาชิกที่นี่ครับ


:b1: ไม่ทราบว่าปฏิบัติไปถึงไหนแล้วเจ้าคะ :b4:
:b12:
ตอบข้อ1...มีวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ฆ่ายุงล่วงศีลข้อ1ได้เวลานั่งสมาธิจะได้ไม่มีสิ่งรบกวน...ให้กางมุ้ง...
:b16:
ตอบข้อ2...ปิดอย่าเปิดดู...การดูบ่อยยิ่งเพิ่มความอยาก...พฤติกรรมที่ทำซ้ำๆจิตจะเคยชินจนเป็นนิสัย... :b32:
..การดูหนังดูละคร...ฟังเพลง...เที่ยวเทค-บาร์ยามราตรี...ล้วนส่งเสริมให้จิตเพลินในกิเลส...จิตสำนึกในกามกิเลส...ถูกกระตุ้น+ส่งเสริมบ่อย...ทำให้สะสมราคะมากขึ้น...เวลามีสติอาจไม่เป็นผลร้ายผู้อื่น
...แต่เมื่อไรที่ขาดสติอาจถึงขั้นลงมือข่มขืนได้เลย...การพยายามละให้ได้เริ่มที่ตัวเราก่อน...
:b19:
...การทำให้จิตไม่เพลิดเพลินทำได้ที่เราตั้งใจ...เช่น...การสวดมนต์ให้จิตมีสมาธิในบทสวดนั้น...
...นั่งสมาธิถ้าจิตคิดฟุ้งจนไม่สงบระงับ...ให้บริกรรมพุทโธ+ดูลมหายใจเข้าบริกรรมพุท-ออกบริกรรมโธ
...เมื่อนั่งสมาธิแล้วไม่สงบให้เปลี่ยนฝึกการวิปัสสนา(ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ)...กำหนดสติได้ทุกอิริยาบท

:b20:
...(ยืน-เดิน-นั่ง-นอน)อยู่นี่คือกาย...ความรู้สึกสุข-ทุกข์คือเวทนา...ความรู้สึกนึกคิดคือจิต...
...สิ่งที่กำหนดรู้คือสติ...(ถ้าเกิดกิเลสขึ้นให้บอกจิตว่ากิเลสที่เกิดคืออกุศลธรรมและนิวรณ์ธรรม)...
...สิ่งที่พิจารณาเห็นอยู่คือปัญญา...ตัวเราของเราไม่มี...จนจิตเคยชินเป็นนิสัย...แล้วค่อยฝึกนั่งสมาธิ
...แนะนำให้เปิดฟังธรรมไปด้วยเวลานั่งสมาธิ...ให้จิตอยูกับตัวคิดว่าท่านสอนเราไม่ต้องไปที่ผู้เทศน์...

:b8:
ตอบข้อ3...ทุกครั้งก่อนนั่งให้ตั้งใจก่อนว่าจะนั่งนานแค่ไหน...จากนั้นตั้งนะโม 3 จบ อธิษฐานดังนี้...
...ข้าพเจ้าขอสมาทานเอาซึ่งสัมมาทิฐิที่เป็นความเห็นถูกต้อง...ให้เห็นธรรมชาติล้วนๆไหลไป...
...เกิดดับตามเหตุปัจจัย...ขอให้พบดวงแก้วขอให้แคล้วบ่วงมาร...ขอให้พบธรรมะอันผ่องใส...
...ด้วยการเจริญสติกรรมฐาน...สาธุ...สาธุ...สาธุ...แล้วค่อยทำตามข้อสองนั่งสมาธิหรือวิปัสสนา...

:b12:
...ปัญญาจะเกิดได้เราต้องสอนจิตตัวเองบ่อยๆ...การที่เราสอนเรายังไม่ได้...เพราะเราไม่รู้...
...ขอเสนอให้ฟังธรรมะครูอาจารย์สายกรรมฐานเป็นทางที่สะดวกในการสอนจิตเราให้รู้ขึ้นมาได้...
...เพราะข้าพเจ้าไม่เคยเรียนธรรมจากพระไตรปิฎก...เริ่มมาจากฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัว...
...จนเกิดสุตมยปัญญา...ได้ปัญญาจากการฟัง...จากนั้นเวลาได้ยินได้ฟังบ่อยๆแรกมันเข้าซ้ายทะลุขวา
:b4:
...การฟังครั้งแรกกิเลสไม่สะเทือน...พอมันเริ่มเข้าสู่จิต...การฟังก็เริ่มมีการคิดพิจารณาไตร่ตรอง...
...เมื่อน้อมเข้าสู่จิตได้เมื่อไรจะเกิดจินตามยปัญญาตามมา...ต่อเมื่อเรานั่งสมาธิแล้วได้รู้ธรรมของจริง
...เกิดเป็นภาวนามยปัญญา...อันนี้แต่ละคนมีไม่เท่ากัน...การออกไปรู้เห็นภายนอกไม่เกิดประโยชน์...
:b13:
...การที่เราไปพะวงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น...เป็นการทำให้จิตขุ่นมัวไปก่อน...กลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง...
...จิตออกนอกกายให้ดึงจิตกลับ...อาจดึงด้วยพุทโธ...เข้าพิจารณาร่างกายตนเองเป็นของไม่สะอาด...
...(หลังสวดมนต์ไหว้พระให้สวดบทกายคะตาสติทุกวัน...สอนจิตให้เคยชินกับร่างกายไม่สะอาด)
...ข้าพเจ้าฟังธรรมจนธรรมดึงดูดจิตเข้าสู่สัมมาสมาธิ...รู้แล้วหายสงสัยพระธรรมคำสอน...

:b8:
ตอบข้อ4...เริ่มจากวันละ 5นาทีแล้วคอยๆเพิ่มเวลาให้มากขึ้น...
...ทำประจำทุกวัน...เวลาใกล้เคียงกัน...ดูความทนของร่างกาย...จำไว้ว่าทำให้จิตเคยชินเป็นนิสัย...
...อย่าลืมสมาทานกรรมฐานก่อนทุกครั้ง...ร่างกายทนได้มากขึ้นก็เพิ่มเวลามากขึ้น...ความรู้เห็นธรรม...
...ของผู้ปฏิบัตินั้นไม่ใช่ของยากมันเกิดได้แค่ชั่วฟ้าแลบ...งูแลบลิ้น...รู้แล้วหายสงสัย...ผู้ปฏิบัตรู้เอง
...ยังไม่ต้องไปพะวง...สงสัยว่าเคยได้ยินคนอื่นเล่าประสบการณ์ว่าเห็นนั้นนี้...ดีไม่ดี...ให้ลงมือทำ

:b3:
ตอบข้อ5...การใส่บาตรตอนเช้ามันได้อานิสงส์มาก...เพราะที่วัดท่านเคาะระฆังเป็นการเตือนพระเณร...
...ให้ทำความเพียรก่อนออกบิณฑบาตรโปรดเวไนย...ถ้าออกจากสมาบัติใหม่...ทานนั้นๆมีผลมาก...
...กิเลสปกปิดจิตให้เคยชิน...เพราะทำดีมันทำได้ไม่ง่ายนัก...แต่ไม่ยากต้องฝึกฝืนในระยะแรกๆ...
...การทำให้จิตเคยชินต่อกิเลสก็จะเป็นกิเลสไปตลอด...การฝึกให้เคยชินการทำดีก็จะกลายเป็นนิสัย...

:b31:
ตอบข้อ6...การยิ้มทักทายเป็นการผูกมิตรเบื้องต้น...วันนี้คุณยิ้มหรือยัง...
...สอนตนว่าทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา...การพูดคุยเป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจกัน...การเงียบก็เป็นสิ่งดี...
...เราต้องรู้จักเลือกใช้ให้เป็น...การพูดคุยคบหาเป็นเพื่อนต้องศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้...ลดทิฐิลง...
...อ่อนน้อมถ่อมตนถ้าผู้ที่เราอยากรู้จักสูงวัยกว่าก็ยกมือไหว้...ผู้อ่อนวัยกว่าก็กล่าวคำสวัสดีสบายดีไหม
...เราอยากผูกมิตรแต่ไม่แสดงออก...คิดมากไปก่อนว่าเขาคิดยังไงไม่ถูก...เก็บมาคิดให้เสียสุขภาพจิต?

...ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเราก่อน...ถ้านำไปใช้เกิดประโยชน์...ก็ขออนุโมทนาด้วยเจ้าค่ะ...เจ๋งจริง:b11:
:b27: :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นต้องเข้าใจปัญญาในทางธรรมก่อนค่ะ ปัญญาธรรม สุดยอดกว่าสมองเยอะเลย เอาชนิที่ว่า คิดคำนวณชนะวิษศกรนาซ่าก็ได้ ใช้เวลาแป๊บเดียว เพราะไม่ต้องคิด ปัญญามาเอง มาเฉยๆน่ะค่ะ แต่สมองจะเข้าใจไปเองด้วย

สุดยอดของความมหัศจรรย์ที่มนุษย์จะพึงได้ค่ะ ปัญญาธรรม ได้มาด้วยการปฏิบัติอย่างเีดียวค่ะ ศีล สมาธิ ค่ะ

อ้างคำพูด:
1.ส่วนตัวพยายามปฏิบัติศีล 5 อยู่ให้ได้ดีที่สุด แต่มีอยู่ข้อนึงยากมากๆ คือข้อ 1 ของศีล 5 ครับ ที่บ้านยุงเยอะมากๆ แล้วก็เป็นพวกมีกรรม ยุงชอบกัดผมคนเดียว ซึ่งก็จะตบให้ตายเป็นประจำทุกๆวัน คือก็คิดอยู่เสมอว่าบาป แต่ถ้าไม่ทำอะไรจะกลายเป็นไข้เลือดออกแน่ๆ ก็เลยอยากถามว่าแบบนี้ผิดศีลมั้ยครับ แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี


ทำสมาธิต้องมีศีลห้าเป็นอย่างน้อยค่ะ อย่าฆ่าสัตว์ใดๆ ถ้ามันกัด ก็ปัดมันไป แล้วแผ่เมตตาให้มันซะ ฆ่ายุงด้วยเจตนาให้ตัวเองไม่ป่วย ผิดศีลค่ะ

อ้างคำพูด:
2.เคยได้ ยินมาว่าการดูหนังลามก 1 ครั้งจะทำให้ อายุสั้นลง 7 วัน ถ้าขาย ก็จะอายุสั้นลดลง 7 ปี ในส่วนนี้มีความจริงอย่างไรบ้างครับ ตัวผมเองก็ไม่ได้ขายหรือยุ่งเกี่ยวไรกับตรงนี้ แต่เสียอย่างเดียวคือ มักดูอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่อยากแต่ มันเหมือนติดสิ่งเสพติดฉันนั้น อยากถามว่าการดูพวกนี้เป็นบาปอย่างไร แล้วผมจะต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดดูสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆ เพราะบังคับใจอยู่นาน แต่ยากมากๆครับ สังคมอินเตอร์เน็ตมันล้วนแต่มีสิ่งเร้าพวกนี้มากมาย แนะนำหน่อยนะครับ


ไม่ใช่ค่ะ เป็นนัยมากกว่า การดูหนังลามกคงทำให้เกิดอารมณ์ และเมื่อมีอารมณ์ ถ้าไม่มีสติ ก็นำไปสู่การทำบาปค่ะ

การทำบาปก็เป็นการผ่อนให้ชีวิตสั้นลงค่ะ เพราะโดนคนแก้แค้น อะไรประมาณนั้นค่ะ

อ้างคำพูด:
3. จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั้งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ


การนั่งสมาธิมีข้อเสียเรื่องเดียค่ะ คือ เจ็บขาเพราะขาเป็นเหน็บ และจะไม่มีผลเสียใดๆเลย ถ้าเป็นเหน็บแล้วหยุดนั่งสมาธิ เพราะสมาธิแตกด้วยความเจ็บ

การมีสมาธิไม่ได้ทำให้ไม่มีสติ ไม่ได้ทำให้จำแม่นค่ะ แต่มีสมาธิทำให้ใจนิ่ง แล้วปัญญาจะมาได้ง่ายขึ้นค่ะ เพราะสมาธิเป็นการเพิ่มพลังให้จิต

ผู้มีปัญญาจะรู้เห็นธรรมที่เป็นจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ

ทำเถอะค่ะ ดีสุดๆ ไม่มีเสียนอกจากเจ็บขาตอนเป็นเหน็บ

อ้างคำพูด:
4. เป็นสมาชิกใหม่สนใจปฏิบัติธรรมมากๆ แต่ก็เพิ่งจะเริ่มโดยการสวดมนต์ทุกวันให้ได้ แต่ยังติดเรื่องการนั้งสมาธินี่ล่ะครับ ควรจะนั้งอย่างไรดี ทั้งลักษณะในการเริ่มปฏิบัติไปจนถึงเวลาในการทำแต่ละวัน ช่วงเวลาใดๆเป็นต้น


ดีค่ะ สวดมนต์เป็นการทำสมาธิ พี่ก็เริ่มด้วยสวดมนต์ค่ะ พี่เลือกชินบัญชร และ พาหุง สวดแบบใส่ความเพียร สวดไปเรื่อยๆทุกวัน จนเดี๋ยวนี้ท่องได้ค่ะ

ทำแบบพี่ก็ได้ค่ะ สวดมนต์ยาวๆ แล้วก็นั่งสมาธิ โดยการเปิดเพลงชินบัญชรฟัง ตอนฟังก็พยายามร้องตามในใจ ให้สติเรา ความคิดเรา อยู่กับสิ่งที่ทำค่ะ นั่นเป็นการเรียกสมาธิค่ะ


อ้างคำพูด:
5. การใส่บาตรที่กระทำกันทั่วๆไป ถ้าผมไม่สามารถตื่นเช้าใส่ได้ ผมไปทำบุญที่วัดแทนได้มั้ยครับ แบบว่าตื่นเช้าไม่ไหวจริงๆ แล้วถ้าไม่ใส่เลย ใช้การนั้งสมาธิ สวดมนต์ แทน สามารถทดแทนกันได้มั้ยครับ


ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ เพราะคนใส่เยอะแล้ว แต่แนะให้ใส่ในวันเกิด อะไรแบบนั้น ทำบุญที่วัดแทนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องหวังอะไร ยังไงก็ได้บุญ แต่ถ้าหวังบุญ บุญที่ได้ก็น้อยลง สวดมนต์ นั่งสมาธิ ได้บุญเยอะสุดค่ะ

อ้างคำพูด:
6. เรื่องการผูกมิตรกับคนรอบข้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาจึงมีมิตรน้อยมากๆ เพราะจะคิดเสมอว่าถ้าเข้าไปคุยกะเค้า คนๆนั้นจะคิดอย่างไรบ้าง จึงไม่กล้าเข้าไปทักทายเสมอ หรือไม่อยากจะคิดว่าคนๆนั้นเค้าคิดอะไรกับเรา อยากแก้ไขส่วนนี้มากๆ แต่ก็ไร้ที่ปรึกษาจริงๆ ก็อยากจะหาจิตแพทย์ปรึกษาเหมือนกันนะครับ แต่เมืองไทย คนที่พบจิตแพทย์มันดูเหมือนคนบ้าแหะ ขอคำแนะนำอีกเรื่องนะครับ


พิจารณาเป็นคนๆค่ะ สาวไหนหยิ่ง ก็อย่าเพิ่งเข้าหา หาแผนทำตีสนิทดีกว่าค่ะ แล้วพอได้คุยกัน ก็แสดงความจริงใจจากใจที่บริสุทธิ์ค่ะ ถ้าบริสุทธิ์ใจ สาวคนไหนก็รู้สึกได้ค่ะ

คนหาจิตแพทย์เยอะค่ะ ไม่บ้าหรอก ส่วนใหญ่คือคิดมาก หรือซึมเศร้า แค่นั้นเอง โรคทางจิตเวชมีสองโรคเอง คนไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย natdanai เมื่อ 26 พ.ย. 2009, 08:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 01:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 00:53
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณอีกครั้งมีประโยชน์ต่อชีวิตผมอยย่างมากเลย
จะได้เริ่มปฎิบัติได้ถูกต้องซะที

แต่ก็ยังเกิดคำถามอยู่นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ในวันนี้เพื่อนๆพากันไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่้รานหมูกระทะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแบบซีฟู๊ด ระหว่างนั้นเพื่อนคนนึงก็ไปตักกุ้งมาเพื่อที่จะปิ้ง กุ้งยังไม่ตาย มาจากน้ำสดๆ แล้วนำมาปิ้งต่อหน้าเรา รวมถึงให้เราทาน แต่เราก็ไม่กล้าทาน แล้วก็ไม่กล้าช่วยปิ้งด้วย แต่ส่งจานที่มีกุ้งให้เพื่อนปิ้งกินกัน โดยในขณะนั้นเราก็เป็นคนๆนึงในกิจกรรมนั้น ซึ่งกุ้งหลายสิบตัวนอนดิ้น อยู่บนเตาปิ้ง แล้วเราก็นั้งดูมันค่อยๆตาย เรามีส่วนในการทำบาปนี้หรือไม่ แล้วจะแผ่เมตตาอย่างไร หรือว่าตามในหนังสือพระที่มี โดยแผ่ให้หลังเสร็จกิจจากการกินแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


kamigazie เขียน:
ขอบคุณอีกครั้งมีประโยชน์ต่อชีวิตผมอยย่างมากเลย
จะได้เริ่มปฎิบัติได้ถูกต้องซะที

แต่ก็ยังเกิดคำถามอยู่นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ในวันนี้เพื่อนๆพากันไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่้รานหมูกระทะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแบบซีฟู๊ด ระหว่างนั้นเพื่อนคนนึงก็ไปตักกุ้งมาเพื่อที่จะปิ้ง กุ้งยังไม่ตาย มาจากน้ำสดๆ แล้วนำมาปิ้งต่อหน้าเรา รวมถึงให้เราทาน แต่เราก็ไม่กล้าทาน แล้วก็ไม่กล้าช่วยปิ้งด้วย แต่ส่งจานที่มีกุ้งให้เพื่อนปิ้งกินกัน โดยในขณะนั้นเราก็เป็นคนๆนึงในกิจกรรมนั้น ซึ่งกุ้งหลายสิบตัวนอนดิ้น อยู่บนเตาปิ้ง แล้วเราก็นั้งดูมันค่อยๆตาย เรามีส่วนในการทำบาปนี้หรือไม่ แล้วจะแผ่เมตตาอย่างไร หรือว่าตามในหนังสือพระที่มี โดยแผ่ให้หลังเสร็จกิจจากการกินแล้ว


คำถามคือ "เรามีส่วนในการทำบาปนี้หรือไม่?"

...ไม่ครับ เพราะท่านไม่ได้ทำ และก็ไม่ได้กิน ที่สำคัญคือไม่มีความกำหนัดยินดี เจตนาในการฆ่าท่านไม่มีจึงไม่นับเป็นบาป :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การนั่งสมาธินั้น ผมนั่งเพื่อตรวจดูว่าวันนี้เราได้ทำอะไรบ้าง ที่ดีๆควรอนุโมทนา หรือยังบกพร่องควรแก้ไข
และเราควรปรับปรุงอย่างไรให้ดีขึ้น หรือแก้ใขอย่างไรไม่ให้บกพร่องอีก ก็ไม่ได้นั่งนาน เอาพอรู้เรื่องชัดเจน
แล้วก็นั่งต่อเล็กน้อยพอให้สงบแล้วก็นอนครับ

การปฏิบัตินั้นก็ตามนี้ครับ
viewtopic.php?f=1&t=27231&view=unread#unread

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 02:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ขอบคุณทุกท่านที่เสนอแนะขั้นตอนการปฏิบัติและคำแนะนำที่ดี ๆ...และก็จะขอ
เริ่มทำในสิ่งที่ดีเหมือนกันค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron