มีนิทานขำๆ มาให้อ่านเล่น ในสมัยก่อนพุทธกาลสัตว์ทั้งหลายก็พูดได้ นิ้วทั้ง 5 ก็พูดได้ สี่นิ้วก็รุมว่านิ้วก้อยไอ้ตัวเล็กเดินตามหลังระวังหมากัด นิ้วก้อยก็ไม่ค่อยยอม พวกเอ็งมาว่าฉันประจำเลยฉันน่ะมีความหมายนะ เวลาคนโกรธกันเกลียดกันอาศัยฉันน่ะ เกี่ยวก้อยดีกันนะ ดีกันนะตัวเอง นิ้ก้อยกระแทกนิ้วนางแล้วเอ็งมาว่าฉันน่ะเองมีความหมายอะไร โอ่!ฉันน่ะมีความหมายมากเลย เวลาคนรักกันชอบกันจะแต่งง่านกันก็อาศัยฉันนี่แหล่ะสวมแหวนหมั้นนะอิๆ นิ้วนางกระแทกนิ้วกลาง นิ้วกลางเอ็งสูงยาวเข่าดีไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย นิ้วกลางบอกว่าถึงฉันจะไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่พวกเอ็งก็เปรียบเหมือนลูกน้องฉันนะเฟ้ย! ไปไหนมาไหนก็ต้องคอยคุ้มครองฉัน นิ้วกลางกระแทกนิ้วชี้ดังตึ้ง นิ้วชี้เอ็งมีความหมายอะไรวะ? นิ้วชี้ตอบฉันมีความหมายมากเลยจะเอาอะไรก็ต้องใช้ฉันเนียแหละ ชี้หยิบไอ้นั้นที หยิบไอ้นี่ที่ ใช้นิ้วก้อยชี้จะไปรู้เรื่องอะไร นิ้วก้อยตาเขียวใช้ฉันก็งงตายสิ! ไอ้โป้งนี่นั้งเตี้ยเลย!สี่นิ้วก็ถามว่าทำมัยเองไม่พูดกับเขามั้งวะ? โป้งบอกว่าไม่อยากพูดโว้ย!พูดแล้วไม่ค่อยเข้าหูคน เวลาโกรธกันเกลียดกันอาศัยฉันเนี่ยแหละ โป้งแล้วล่ะ เขาโป้งตัวเองแล้วล่ะอิๆๆ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อยู่รวนกันย่อมมีการกระทบกันเป็นธรรมดา แต่เมื่อรวมกันสามัคคีกันย่อมมีพลังบีบหัวแมวได้

ขอทานชายนายหนึ่งเดินตรงเข้ามาขอเงินจากนายกลมกล่อ ซึ่งแต่งงานมาแล้วปีกว่า
"ถ้าให้เงินไปแล้ว จะเอาไปซื้อเหล้ากินหรือเปล่าเนี่ย" กลมกล่อมถามขึ้นหลังจากมองขอทานตั้งแต่หัวจรดเท้า
" ไม่ครับ" ขอทานตอบอย่างมั่นใจ" "แล้วจะเอาไปเล่นการพนันหรือเปล่า" กลมกล่อมถามต่อ
"ไม่ครับ รับรองได้" ขอทานปฏิเสธอีกครั้ง
"แล้วจะเอาไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ไหม" กลมกล่อมถามเป็นครั้งที่สาม ขอทานก็ปฏิเสธอย่างแข็งขันเช่นเดิม จากนั้นกลมกล่อมก็ชวนขอทานไปที่บ้าน เมื่อเจอภรรยา เขาแนะนำตัวขอทานกับภรรยาของเขา จากนั้นก็พูดกับภรรยาว่า " ผมอยากให้คุณเห็นกับตา ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน และไม่เที่ยวผับเที่ยวบาร์ ชีวิตบั้นปลายเป็นอย่างไร " จบจ๊ะ

อนุโมทนาสาทุครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆครับ