วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 04:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว




Kroo.jpg
Kroo.jpg [ 231.58 KiB | เปิดดู 8236 ครั้ง ]
Utis.jpg
Utis.jpg [ 155.73 KiB | เปิดดู 8236 ครั้ง ]
วันนี้มีโอกาสได้ไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาทางวิชามหากายวิภาคศาสตร์
ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ

ไปในฐานะญาติของอาจารย์ใหญ่ และเพื่อสังเกตการณ์เมื่อถึงคราวของตัวเองบ้างค่ะ
เพราะได้แสดงเจตนาอุทิศร่างกาย ดวงตา และอวัยวะไว้ทั้งหมด มาประมาณ 10 ปีแล้ว
ดิฉันเพิ่งทราบในวันนี้เองว่าอาจารย์ใหญ่นั้น
ในความหมายของศิษย์คือ...อาจารย์ (ผู้ยิ่ง) ใหญ่
เพราะท่านเหล่านั้นได้อุทิศสิ่งที่แม้แต่ัตัวท่านเมื่อครั้งยังมีชีวิตและบรรดาญาติพี่น้องทั้งหลาย
ที่อยู่ข้างหลังรักและหวงแหน คือ ร่างกาย
ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษาแพทย์เท่านั้นที่ได้รับความรู้จากร่างกายของท่าน
ยังมีนักศึกษาแขนงอื่นๆ ที่เรียนหมวดวิชากายวิภาคศาสตร์ได้รับความรู้จากร่างของท่านอีกด้วย
เช่น คณะวิทยาศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด
คณะเภสัชศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ และคณะทัศนศาสตร์ เป็นต้น

พิธีการในวันนี้เป็นไปด้วยความเีคารพและแสดงความคารวะอย่างสูงต่อร่างของอาจารย์ใหญ่
เพื่อตอบแทนพินัยกรรมที่ท่านได้ให้ไว้ว่า...

พินัยกรรมฉบับนี้มีความว่า เจตนายินดีมอบอุทิศร่าง
เป็นประโยชน์เป็นความดีบนเส้นทาง ของแบบอย่างชีวิตหลังหมดสิ้นลม
..............
วันที่ผ่านมาถึง วันสิ้นสุด ไฟลุกจุดโชติช่วงไม่นานที
โลงสีขาวดอกไม้จันทน์ในว้นนี้ สิ้นหน้าที่แห่งการเป็นอาจารย์ใหญ่
. :b8:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว




utis1.jpg
utis1.jpg [ 245.92 KiB | เปิดดู 8212 ครั้ง ]
http://www.md.chula.ac.th/anatomy/donatebody.html


ดิฉันและผู้ใหญ่ในครอบครัวทุกคนแสดงเจตนาอุทิศไว้เรียบร้อยแล้ว
ขอเชิญชวนทุกท่านที่ัยังไม่ตัดสินใจอุทิศร่างกายนะคะ


.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 23:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


บางครั้งก็อ่อนแอ
และท้อแท้กับการทำความดี ทำให้ศรัทธาถดถอย :b7:

แต่เรื่องราวและข้อความดีๆ
ก็เพิ่มกำลังใจ ทำให้ฮึกเหิม
ในการที่จะทำความดีต่อไปอีกได้ :b12:

อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 23:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


Bwitch เขียน:
ดิฉันและผู้ใหญ่ในครอบครัวทุกคนแสดงเจตนาอุทิศไว้เรียบร้อยแล้ว
ขอเชิญชวนทุกท่านที่ัยังไม่ตัดสินใจอุทิศร่างกายนะคะ


:b8: :b8: :b8: สาธุ สาธุ สาธุ กับ คุณแม่มดผู้ใจงาม เป็นอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าเองก็ตั้งใจไว้อย่างนี้...เช่นกัน :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




IMG.jpg
IMG.jpg [ 83.45 KiB | เปิดดู 8153 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

วรานนท์ก็เป็นพวกเดียวกันกับท่านครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 09:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนากับกุศลจิต
ของท่านทั้งสองค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 09:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: อนุโมทนาทุกท่านครับ:b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับหลักเกณฑ์การบริจาคร่างกายเพื่อให้นักศึกษาแพทย์นำไปศึกษา หรือที่เรียกว่าเป็น "อาจารย์ใหญ่" คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แบ่งประเภทการบริจาคร่างกายออกเป็น 3 แบบ คือ

1. บริจาคเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษา ระยะที่ใช้ในการเรียน 3 ปี

2. บริจาคเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัด

3. บริจาคเพื่อให้ภาควิชาฯ เก็บโครงกระดูกเพื่อการศึกษาตลอดไป

ซึ่งการบริจาคเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัดนั้น ร่างผู้บริจาคต้องไม่เคยผ่าตัดบริเวณข้อต่อต่างๆ เมื่อเสียชีวิต ญาติต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ให้มารับศพภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้ญาติตัดผม และเล็บของศพใส่โลงเพื่อสวดบำเพ็ญกุศล และห้ามฉีดยากันศพเน่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของภาควิชาฯ จะดำเนินการฉีดให้

ทั้งนี้ผู้สนใจบริจาคร่างกายเพื่ออุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่ สามารถติดต่อไปยังโรงเรียนแพทย์แต่ละแห่งได้ดังนี้

- โรงพยาบาลศิริราช : ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ตึกกายวิภาคศาสตร์ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช โทร.0-2419-7035 หรือ 0-2411-0241-9 ต่อ 7035

- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ติดต่อที่แผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ศาลาฑินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โทร.0-2256-4628 และ 0-2256-4281

- โรงพยาบาลรามาธิบดี ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โทร.0-2254-5198 หรือ 0-2246-1358-74 ต่อ 4101, 4102

- คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ โทร.0-2260-1532, 0-2260-2234-5 ต่อ 4501

- โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า โทร.0-2246-0066 ต่อ 93606 สำหรับต่างจังหวัดสามารถบริจาคได้ที่โรงเรียนแพทย์ในภูมิภาค
:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพรูปภาพรูปภาพรูปภาพ


อาจารย์ใหญ่กับนักศึกษาแพทย์


วิชามหกายวิภาคศาสตร์ (Gross Anatomy) เป็นวิชาที่ว่าด้วยตำแหน่งโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ ทั้งองค์ประกอบภายนอก และภายใน ถือเป็นวิชาพื้นฐานที่สำคัญมากที่สุดวิชาหนึ่งของการเรียนในสายวิชาชีพแพทย์ และการสาธารณสุข

ในการเรียนวิชามหกายวิภาคศาสตร์นั้น หากผู้เรียนจะเรียนให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง นอกจากจะเรียนรู้ในภาคทฤษฎีโดยการอ่านตำรา และเข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ในห้องเรียนแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ภาคปฏิบัติจากร่างกายมนุษย์จริงผ่านการชำแหละ และศึกษาโครงสร้างที่สลับซับซ้อนอย่างละเอียดละออทุกส่วน โดยอาศัยร่างของผู้ที่มีจิตกุศลอุทิศร่างกายเป็นทาน ซึ่งนักศึกษายกย่องให้ท่านเหล่านั้นเป็นเสมือนอาจารย์ผู้มีพระคุณอีกท่านหนึ่งในชีวิต

ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการเรียนการสอนวิชา มหกายวิภาคศาสตร์ (Gross Anatomy) ให้กับนักศึกษาแพทย์ศิริราชชั้นปีที่ 2

ปัจจุบัน รศ.สพ.ญ.วาสนา ผลากรกุล เป็นหัวหน้าสาขามหกายวิภาคศาสตร์ 1 และ รศ.ทพ.ญ.ยาดาฤดี วิรวุฒิ เป็นหัวหน้าสาขามหกายวิภาคศาสตร์ 2 การเรียนการสอนที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์นี้ จะเรียนจากร่างอาจารย์ใหญ่โดยตรง โดยการชำแหละ และรวมทั้งมีการศึกษาจากโครงกระดูก และชิ้นเนื้อที่อาจารย์ใหญ่บางท่านได้บริจาคไว้ ซึ่งนักศึกษาแพทย์ศิริราชในช่วงชั้นปีที่ 2 จะได้เรียน เป็นเวลา 1 ปีเต็ม

เนื่องจากการจะเป็นแพทย์ในทุกๆ ด้านนั้น จะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจรายละเอียดของร่างกายมนุษย์ในทุกโครงสร้าง รู้ทุกแง่มุม นักศึกษาแพทย์ทุกคนต้องเรียนรู้เรื่องนี้กับ “อาจารย์ใหญ่” โดยตรง

“อาจารย์ใหญ่” ที่ว่าก็คือร่างของผู้ที่ได้แสดงเจตนาจะบริจาคร่างไว้ก่อนที่จะหมดลมหายใจให้กับนักศึกษาแพทย์ได้ใช้ในการศึกษาหาความรู้ในเรื่องของระบบร่างกาย และนักศึกษาแพทย์ทุกคนให้ความเคารพ และเทิดทูน เพราะอาจารย์ใหญ่เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่เมตตา ให้ความรู้ด้วยร่างทั้ง

นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 จะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ที่นักศึกษาแพทย์ให้ความเคารพเปรียบดั่งญาติผู้ใหญ่ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ ให้ได้ก้าวไปเป็นแพทย์ต่อไปในอนาคต

การเรียนกับอาจารย์ใหญ่ จะเรียนกับร่างของท่านตลอดการเรียนในชั้นปีที่ 2 ในส่วนการเรียนจะแบ่งออกเป็นส่วนของร่างกาย เช่น ส่วนอก ส่วนท้อง ส่วนแขน เป็นต้น การเรียนการสอนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ทฤษฎี และปฏิบัติการ หลังจากเรียนทฤษฎีแล้ว จะมีช่วงเวลาในการแนะนำวิธีชำแหละในปฏิบัติการแต่ละครั้ง การชำแหละอาจารย์ใหญ่จะทำจากส่วนตื้นไปส่วนลึก ทำให้ไม่มีส่วนใดถูกตัดทำลายโดยไม่ได้ศึกษา จึงเป็นการใช้ร่างอาจารย์ใหญ่อย่างได้ประโยชน์สูงสุด

เรียนแพทย์นั้นไม่สามารถเรียนคนเดียวได้ นักศึกษาแพทย์ 4 คนจะเรียนกับอาจารย์ใหญ่หนึ่งร่าง มีอาจารย์ผู้ซึ่งมีประสบการณ์เกี่ยวกับมหกายวิภาคศาสตร์ คอยประจำอยู่โต๊ะของนักศึกษา ให้ความรู้ คำแนะนำ และปรึกษาตลอดเวลาขณะที่มีการชำแหละ
ส่วนคุณสมบัติอาจารย์ใหญ่ นั้นคือจะต้องไม่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง และต้องมีอวัยวะหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายครบถ้วน

อาจารย์ใหญ่ที่นำมาเรียนมหกายวิภาคศาสตร์ จะได้รับการฉีดน้ำยารักษาศพเข้าทางเส้นเลือดแดงใหญ่ที่ขา โดยใช้ความดันให้น้ำยาไหลไปตามเส้นเลือดต่างๆทั่วร่าง (ซึ่งมีฟอร์มาลินเป็นส่วนประกอบ) แล้วนำร่างอาจารย์ใหญ่ไปแช่ในน้ำยาแช่ศพ ให้น้ำยารักษาศพกำซาบเข้าสู่เนื้อเยื่อทุกอณูเป็นเวลา 1ปี จากนั้นจึงนำร่างอาจารย์ใหญ่มาให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียน ขณะที่นักศึกษาแพทย์เรียนนั้น เมื่อเสร็จสิ้นปฏิบัติการทุกครั้งจะใช้นำยารักษาศพพรมร่างอาจารย์ใหญ่ให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ร่างอาจารย์ใหญ่แห้ง และเกิดเป็นราได้ เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ร่วมกับ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ทุกคน เป็นเจ้าภาพจัดงานพระราชทางเพลิงศพ ให้กับอาจารย์ใหญ่ทุก ๆ ท่าน"

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานโอเพ่น เฮ้าส์ (Faculty of Science, Mahidol Univiresity) ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ สิงหาคม ของทุกๆ ปี
รศ.วันทนีย์ ตระกูลรังสี อาจารย์ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) ในวิชานี้เป็นการชำแหละอาจารย์ใหญ่ นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างดองของอาจารย์ใหญ่ ก่อนที่จะไปเจอคนไข้จริงๆ ซึ่งอาจารย์ใหญ่ที่ว่ามาจากผู้ที่บริจาคร่างกายเอาไว้กับคณะวิทยาศาสตร์ของ ม.มหิดล ตั้งแต่ท่านอาจารย์ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนอีกประเภทหนึ่งผู้ตายไม่ได้บริจาคร่างกายเอาไว้ แต่มีญาติยินดียกร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่
เมื่อร่างบริจาคถึงกำหนดที่จะนำขึ้นมาให้นักศึกษาเรียน ภาควิชาจะมีจดหมายแจ้งมายังญาติของผู้ตายตามที่อยู่ที่เคยแจ้งไว้ และแจ้งกำหนดพิธีทำบุญอาจารย์ใหญ่ ก่อนที่จะให้นักศึกษาเรียน พร้อมกับเชิญญาติมาร่วมทำบุญด้วย ส่วนใหญ่จะทำบุญประมาณเดือนกรกฎาคม
ในวันทำบุญนี้ ญาติอาจารย์ใหญ่ที่มาร่วมพิธีมักจะบริจาคเงินทำบุญสมทบค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ บางคนก็บริจาคเงินสมทบทุนกองทุน เพื่อการศึกษากายวิภาคศาสตร์อีกด้วย
"ในวันทำบุญอาจารย์ใหญ่ก่อนเปิดภาคเรียน ภาควิชาจะให้ญาติเข้าเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ ขณะเดียวกันนักศึกษาจะได้พบปะพูดคุยกับญาติของอาจารย์ใหญ่ท่านนั้น เพื่อทำความรู้จักกับญาติ และสอบถามถึงความเป็นอยู่และโรคภัยไข้เจ็บของอาจารย์ใหญ่ก่อนเสียชีวิต เพื่อนำมาประกอบการศึกษาวิชามหกายวิภาคศาสตร์ สำหรับร่างอาจารย์ใหญ่ที่นักศึกษาเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภาควิชาจะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพ และแจ้งกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพให้ญาติทราบด้วย" รศ.วันทนีย์ กล่าวพร้อมกับบอกด้วยว่า
ช่วงแรกๆ คณะแพทยศาสตร์ ม.มหิดล ขาดแคลนอาจารย์ใหญ่ เนื่องจากยังไม่ค่อยมีคนบริจาคร่างให้ เราจึงได้รับความอนุเคราะห์จาก ม.เชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลศิริราช พอมาถึงวันนี้ มีผู้มาบริจาคร่างกายเพิ่มมากขึ้น โดยจะดองร่างอาจารย์ใหญ่ไว้ประมาณ ๑ ปี เพื่อให้กล้ามเนื้อและส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะนำมาให้นักศึกษาเรียน ตลอดการเรียนแพทย์ของนิสิต ๑ ปีจะต้องใช้ร่างอาจารย์ใหญ่ประมาณ ๕๐ ร่าง และ ๑ ร่างจะมีนิสิตเรียนร่วมกัน ๖ คน
รศ.วันทนีย์ ยังบอกด้วยว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนพระรามที่ ๖ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทร.๐-๒๓๕๔-๗๓๔๖, ๐-๒๒๐๑-๕๔๐๐, ๐-๒๒๐๑-๕๔๐๒, ๐-๑๘๔๑-๘๖๓๒, ๐-๑๒๗๘-๕๐๒๑
------
อาจารย์ใหญ่คือครูผู้ยิ่งใหญ่
"คม ชัด ลึก" สอบถามถึงความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับจากอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ปี ๒ โดยแต่ละคนพูดถึงอาจารย์ใหญ่ไว้อย่างน่าคิด เช่น
นศพ.เศรษฐนันท์ เศรษฐการุณย์ บอกว่า ก่อนเรียนอาจารย์จะให้เราพบญาติของอาจารย์ใหญ่ ซึ่งจะทำให้เรามีความเคารพ มีความรู้สึกผูกพันว่าเราต้องดูแลอาจารย์ใหญ่ตลอดเวลาที่เราเรียนกับท่าน เพราะถือว่าท่านก็เป็นอาจารย์เราอีกคนหนึ่ง ทุกโต๊ะของนักศึกษาก่อนเรียนจะต้องสวัสดีอาจารย์ใหญ่ พอเรียนเสร็จแล้วก็จะต้องทำความสะอาดโต๊ะให้เรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นที่บ้านเมื่อมีการทำบุญ ก็จะเอ่ยชื่ออาจารย์ใหญ่ด้วยทุกครั้ง ถือเป็นการให้ความเคารพท่าน
ในขณะที่ นศพ.ปิยวุฒิ กรีฑาภิรมย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตอนที่เรียนแรกๆ อาจจะตื่นเต้นบ้างที่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ จริงๆ เป็นเรื่องที่ดีที่คณะวิทยาศาสตร์มีการจัดงานทำบุญให้อาจารย์ใหญ่ เชิญญาติๆ อาจารย์ใหญ่มาร่วมทำบุญด้วย อย่างน้อยนักศึกษาก็จะได้ใกล้ชิดกับญาติอาจารย์ใหญ่ด้วย เพราะญาติอาจารย์จะเล่าถึงอาจารย์ใหญ่ตอนมีชีวิตว่าเป็นคนยังไง ทำให้เราซึบซับว่าท่านเป็นคนใจดีที่เสียสละร่างให้เราเรียนรู้ แล้วเหมือนเรามีความผูกพันกัน ทุกครั้งจะไหว้ให้ความเคารพท่านและขอบคุณท่านมากๆ ที่เสียสละร่าง
ด้าน นศพ.มติ จงศิริภิญโญ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า จากที่ได้เรียนรู้ร่างของอาจารย์ใหญ่หลายๆ ครั้งแล้ว ก็รู้สึกว่าเวลาเดินไปตามโต๊ะต่างๆ อาจารย์ก็เหมือนกันหมด รู้สึกว่าเราควรรักเพื่อนมนุษย์เพิ่มมากขึ้น หรือช่วยเหลือกันให้มากกว่านี้ เมื่ออาจารย์ใหญ่อุทิศร่างกายให้ศึกษา เราก็ต้องกลับไปรักเพื่อนมนุษย์ กลับไปรักสัตว์ด้วย และเราจะได้เป็นหมอที่ดีมากขึ้น ที่สำคัญอยากจะบอกว่าคนเราตายแล้วก็เหมือนกัน ถือเป็นธรรมดาโลก


Ref. http://www.komchadluek.net/2006/09/0...?news_id=44133

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ



“อาจารย์ใหญ่” ชื่อนี้สำหรับนักศึกษาที่เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ ทราบดีว่า คือร่างที่ไร้วิญญาณ เป็นผู้ที่ได้แสดงความจำนงอุทิศร่างกายตนเองในยามที่หมดลมหายใจเพื่อให้นักศึกษาทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ กายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ รวมทั้ง ปริญญาโทกายวิภาคศาสตร์ ได้เรียนรู้โครงสร้างของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ด้วยหากไม่สามารถผ่านวิชานี้ ก็ไม่อาจก้าวไปเรียนในวิชาชีพขั้นสูงต่อไปได้ และด้วยธรรมชาติของวิชาที่ยากและมีความแตกต่างกับวิชาอื่น ๆ อย่างชัดเจนทำให้นักศึกษามีความตื่นตัวและให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

โดยทั่วไป เมื่อแรกเริ่มเรียนนักศึกษาจะรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้าง คณาจารย์ของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ก็ต้องค่อย ๆ ปรับความรู้สึกนี้ให้เปลี่ยนเป็นความตระหนักรู้ว่า ทุกร่างที่นอนอยู่นี้ ท่านมาด้วยความรัก ความเสียสละ และความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ นักศึกษาจึงภูมิใจที่มีเกียรติได้เป็นผู้รับในครั้งนี้ และเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้คุณธรรมจริยธรรมต่างๆ โดยมีอาจารย์ใหญ่ “ครูผู้ไร้เสียง” ที่ปฏิบัติจริงให้ดูอยู่ตรงหน้า ให้นักศึกษาได้จับต้อง ได้สัมผัส มีการสื่อสารด้วยจิตจากอาจารย์ใหญ่ถึงศิษย์ โดยมีคณาจารย์กายวิภาคศาสตร์เป็นสื่อกลาง และที่ผ่านมานักศึกษาให้ความเคารพรักและศรัทธาในความเสียสละของอาจารย์ใหญ่ของเขาด้วยดีเสมอมา ก่อนการเรียนแต่ละคาบนักศึกษาจะไหว้ทักทายและหลังเลิกเรียนนักศึกษาจะขอบคุณทุกครั้ง ในวันไหว้ครู นักศึกษาจะนำพวงมาลัยมาไหว้ ครูผู้ไร้เสียงของเขาด้วย

เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและระลึกถึงความดีของท่านอาจารย์ใหญ่ หลังจากได้ศึกษาร่างของท่านจนจบแล้ว นักศึกษาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ กายภาพบำบัด และนักศึกษาปริญญาโท กายวิภาคศาสตร์ ร่วมกับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ จึงได้ขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่อาจารย์ใหญ่และญาติเป็นประจำทุกปี

รูปภาพ

อาลัยจากศิษย์

อุทิศ กายเลือดเนื้อ นี้ให้
ร่าง ที่หมดไป ไร้ค่า
ด้วย ดวงใจนั้นไซร้ ยังอยาก ทำดี
ใจ จึงคิดอุทิศ ร่างให้เล่าเรียน
เพื่อ ให้เหล่าศิษย์ได้ ศึกษา
ให้ ร่างมีค่า ควรรู้
เกิด ก่อการพัฒนา ทักษา ฝีมือ
ปัญญา นั้นไซร้ เกิดได้ตามหวัง
ศิษย์ ขอน้อมกราบไหว้ คุณครู
สำนึก และพึงรู้ ทั่วหล้า
คุณ ท่านควรเชิดชู อย่างยิ่ง จริงนา
อาจารย์ พึงอยู่ในจิต ศิษย์นั้น ตลอดไป

ผู้ประสงค์จะบริจาคร่างกายติดต่อขอรับแบบพินัยกรรมบริจาค และผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเข้า “ทุนอาจารย์ใหญ่” เพื่อสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับอาจารย์ใหญ่ได้ที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา โทร. 074-288151, 074-288131

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


การบริจาคร่างกาย

ภาควิชากายวิภาคศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงพยาบาลศิริราช
บางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
.................................................
วัตถุประสงค์ของการบริจาคร่างกาย
เพื่อให้นักศึกษาแพทย์นำไปศึกษา หรือที่เรียกว่าเป็น “อาจารย์ใหญ่”
การบริจาคร่างกายแยกออกเป็น 3 แบบ
1. บริจาคเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษา ระยะที่ใช้ในการเรียน 3 ปี
2. บริจาคเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัด
3. บริจาคเพื่อให้ภาควิชาฯ เก็บโครงกระดูกเพื่อการศึกษาตลอดไป

เอกสารที่ใช้
รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ เขียนชื่อ-นามสกุลที่ด้านหลังรูปให้ชัดเจน
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ (รับรองสำเนาถูกต้อง)

ขั้นตอนการบริจาคร่างกาย
1. กรอกแบบฟอร์ม ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านด้วยตัวบรรจง
2. ระบุ ชื่อ-นามสกุล ผู้แจ้งการถึงแก่กรรม (ผู้แจ้งการถึงแก่กรรมหมายความถึง ผู้ที่เต็มใจจะรับเป็นธุระในการแจ้งให้ภาควิชาฯ ไปรับศพของผู้บริจาคร่างกายเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับมรดกอื่นใดของผู้บริจาคร่างกาย)
3. ส่งแบบฟอร์มที่กรอกแล้วพร้อมรูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ ทางไปรษณีย์มาที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 เขียนที่มุมซองว่า “บริจาคร่างกาย”
4. รับบัตรประจำตัวผู้บริจาคได้ภายใน 1 เดือน โดยให้ระบุว่าต้องการรับด้วยวิธีใด
4.1 รับทางไปรษณีย์เป็นจดหมายลงทะเบียน (ต้องมีคนอยู่บ้านเพื่อลงชื่อรับ)
4.2 มารับบัตรด้วยตัวเอง ติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-419-7036, 02-419-7588

5. หากทำบัตรหายกรุณาโทรศัพท์แจ้งภาควิชาฯ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-419-7036
6. หากผู้บริจาคเปลี่ยนแปลงที่อยู่กรุณาแจ้งภาควิชาฯ ทราบด้วย
7. ท่านที่ต้องการยกเลิกพินัยกรรมฉบับนี้ ไม่ต้องแจ้งให้ภาควิชาฯ ทราบ จะไม่ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายแต่ประการใด
****หมายเหตุ***สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มพินัยกรรมบริจาคร่างกายได้ โดยปริ้นท์ออกมาเป็นหน้า-หลัง จำนวน 2 ชุด เนื่องจากได้ทางภาควิชาจะได้เก็บไว้ 1 ชุด และส่งคืนผู้บริจาค 1 ชุด และเหตุที่ต้องปริ้นท์หน้า-หลัง จะได้ทราบได้ว่าเป็นพินัยกรรม เมื่อเวลาผ่านไป
***ผู้บริจาคควรปฏิบัติตามข้อกำหนดในการกรอกและส่งแบบฟอร์มอย่างเคร่งครัด และถูกต้อง มิฉะนั้น ถ้าไม่ได้ข้อมูลครบถ้วน จะถือว่าเป็นโมฆะ หรือเมื่อส่งใบบริจาคมาแล้วสามารถโทรมาติดตามได้ ตามเบอร์โทรที่ให้ไว้

แบบที่ 1 บริจาคเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษา

:b43: ข้อจำกัด (โปรดศึกษาข้อกำหนดให้ดีค่ะ)
- ขณะเสียชีวิตอายุต้องไม่เกิน 80 ปี น้ำหนักโดยประมาณไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม
- ไม่เป็นศพเกี่ยวกับคดี
- ไม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง, โรคไต, โรคเบาหวาน และอุบัติเหตุ
- ไม่เป็นศพที่มีสภาพไม่เหมาะสม เช่น ศพเน่าเปื่อย อวัยวะขาดหายไปไม่ครบสมบูรณ์ ยกเว้นกรณีบริจาคดวงตา
- ที่เก็บศพของภาควิชาฯ เต็ม

แบบที่ 2 บริจาคเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัด
ข้อจำกัด
- ไม่เคยผ่าตัดบริเวณข้อต่อต่าง ๆ
- เมื่อเสียชีวิต ญาติต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ภาควิชาฯ ให้มารับศพทันที
- ให้ญาติตัดผม และเล็บของศพใส่โลงเพื่อสวดทำบุญ
- ไม่ฉีดยารักษาศพ

แบบที่ 3 บริจาคเพื่อเก็บโครงกระดูกใช้ในการศึกษา
ข้อจำกัด
- ขณะเสียชีวิตอายุต้องไม่เกิน 55 ปี
- ญาติสามารถนำอวัยวะบางส่วนของศพดอง ไปทำพิธีทางศาสนาได้
- ไม่ฉีดยารักษาศพ เพราะจะทำให้ไม่สามารถเก็บเป็นโครงกระดูกได้

พื้นที่ที่รับบริจาคร่างกาย
รับเฉพาะเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี นครปฐม สุพรรณบุรี(ไม่รับ อ.ด่านช้าง, อ.หนองหญ้าไซ, อ.เดิมบางนางบวช,อ.สามชุก) พระนครศรีอยุธยา (ไม่รับ อ.ท่าเรือ) ราชบุรี (ไม่รับ อ.สวนผึ้ง, อ.จอมบึง) กาญจนบุรี (รับเฉพาะ อ.เมือง, อ.ท่าม่วง, อ.พนมทวน, อ.ท่ามะกา)

ข้อปฏิบัติเมื่อผู้บริจาคร่างกายเสียชีวิต
- ห้ามฉีดยากันศพเน่า เจ้าหน้าที่ของภาควิชาฯ จะไปฉีดให้
- โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ภาควิชาฯ ภายใน 24 ชั่วโมง ให้ไปตรวจสภาพศพ และฉีดยารักษาสภาพศพ ที่หมายเลข 02-419-7028, 02-419-7030, 02-411-2007
- ญาติเป็นผู้ดำเนินการเรื่องใบมรณบัตร และจัดหาหีบศพเอง

ข้อปฏิบัติเมื่อได้รับศพของผู้บริจาคร่างกาย
- บริการฉีดยา และรับศพหลังเสร็จพิธี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
- ให้ญาติสวดตามประเพณีนิยมได้ไม่เกิน 5 วัน
- ศพของผู้บริจาคร่างกายจะจัดเก็บที่อาคารกายวิทยาทาน ต.ศาลายา จ.นครปฐม
- ออกหนังสือรับรองการรับศพของผู้บริจาคร่างกายภายใน 2 วัน
- จัดส่งใบอนุโมทนาบัตร หลังจากรับศพของผู้บริจาคร่างกายภายใน 1 เดือน

ข้อแนะนำในการเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ
- จัดประมาณเดือนเมษายนของทุกปี
- ญาติเข้าร่วมพิธีได้ไม่เกิน 4 คน...(จากประสบการณ์เมื่อ 15 พย.52..ญาติเพียบ! จำกัดไม่ได้หรอกค่ะ)
- ภาควิชาฯ มีรถบริการให้ญาติที่เข้าร่วมพิธีจากโรงพยาบาลศิริราชไปที่อาคารกายวิทยาทาน ต.ศาลายา จ.นครปฐม
- ญาติสามารถนำศพของผู้บริจาคร่างกายที่ศึกษาเสร็จแล้วไปประกอบพิธีทางศาสนาเองได้
- จัดเก็บอัฐิของผู้บริจาคร่างกายไม่เกิน 5 ปี

เอกสารที่ใช้ประกอบการทำหนังสือที่ระลึกในพิธีพระราชทานเพลิงศพ
- รูปถ่ายของผู้บริจาคร่างกายขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ
- ประวัติส่วนตัวของผู้บริจาคร่างกาย
- คำไว้อาลัยของญาติ
.............................................
:b39: ข้อสังเกต หากอุทิศดวงตาแล้ว สามารถอุทิศร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ได้
แต่หากอุทิศอวัยวะบางส่วน หรือศพมีอวัยวะไม่ครบถ้วน เช่น สมองเสียหาย มีการผ่าตัดก่อนแล้ว
หรือเสียชีวิตแล้วมีคดีความ ทางภาควิชาฯ จะส่งศพคืนญาติค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร