วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2009, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เวลาเราไปให้คนที่เข้าทรงหรือคนที่ทรงเจ้าเพื่อเรียกวิญญาณของผู้ตายพูดคุยกับเรานั้น หากวิญญาณนั้นจะไปอยู่แห่งใดก็ตาม เช่น สมมุติว่าเขาไปดีแล้วไปอยู่สวรรค์แล้ว แต่เราให้คนทรงเจ้าเรียกลงมาพูดคุยกับเราด้วยความคิดถึง อยากถามว่าหากเขาลงมาจริงๆ เขาอะไรจะผิดไหม เขาจะถูกเบื้องบนลงโทษไหม ที่เรียนถามเพราะจะไปให้คนทรงเจ้าทำพิธีเรียกคนที่จากไปลงมาพูดคุยเพื่อจะไถ่ถามหลายๆ เรื่อง เช่นการที่ทำบุญอุทิศไปให้ได้รับไหม ตอนนี้อยู่ที่ไหนเป็นต้อนเพราะคิดถึงเขามากๆ เลย ท่านผู้รู้ช่วยตอบให้ด่วนๆ ด้วยยิ่งดี ขอขอบคุณมากๆ


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 08:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าเขาทรงจริง
ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าที่มาเป็นผู้ที่ท่านอยากพบ
แล้วท่านพิสูจน์ยังไงครับ... :b10: :b10:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องคนทรงเจ้าเข้าทรงนั้น แม้ในสมัยพุทธกาลก็ปรากฏมากมาย เพราะความเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจเป็นพวกจิตวิญญาณ เป็นต้น สามารถมาเข้าสิงสู่ในร่างของคน ๆ นั้นได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าลัทธิ และมักกระทำกันด้วยความเห็นผิด บ้างก็เกิดจากความหวาดกลัว บ้างก็ปรารถนาลาภ สักการะจึงตั้งตัวกันเป็นคนทรง อย่างนี้มีมาก

พวกทรงเจ้านี้จัดได้๒กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ ๑. เป็นพวกปรารถนาในลาภ ก็แสร้งทำขึ้นมา เพื่อให้ดูเป็นผู้มีฤทธิ์ มีอะไรพิเศษ เรียกร้องความสนใจ ทำไปเพื่อปรารถนาในลาภสักการะ เป็นต้น

กลุ่ม่ ๒. เป็นผู้ที่ถูกอมนุษย์เบียดเบียนอยู่
อมนุษย์ได้แก่ ใครบ้าง? ได้แก่พวกรุกขเทวดาที่เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา อันอยู่ใกล้ๆกับภูมิของมนุษย์ และพวกเปรตที่อยู่ใกล้ๆกับภูมิของมนุษย์เช่นกัน

ถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นใคร?
พึงทำความเห็นให้ประกอบเหตุผลอย่างนี้ว่า คำว่าเทวดา นั้นได้แก่ ผู้ที่อยู่ในภูมิที่มีความสุขเป็นอันมาก แม้จะเป็นเทวดาชั้นต่ำ ก็ปรากฏว่า มีความสุขมากมายกว่ามนุษย์นัก กายของท่านก็เป็นกายทิพย์ที่สวยงาม อาหารก็เป็นทิพย์ทั้งหมด


ถามว่า หากเป็นเรา ผู้เจริญความสุขอยู่อย่างนั้น เมื่อมองเห็นกายอันเน่าเหม็นของมนุษย์ เราจะพึงอยากเข้ามาอยู่ใกล้ เข้ามาทรงคือ ประทับในกายอันประดุจของโสโครกหรือหนอ?


คำตอบมีอย่างเดียว คือ ไม่อยากเข้ามา แม้แต่การได้กลิ่น ก็ไม่พึงเป็นที่ปรารถนาเลย ดุจบุคคลผู้กายและชาติกำเนิดอันละเอียดอ่อน ละเมียดละไม ย่อมไม่ปรารถนาเข้ามาคลุกเปื้อนโคลนตม ฉะนั้น
แต่ทีนี้ ถามว่า หากเป็นคนชั้นต่ำ มีกายเน่าเหม็นมาก เพราะความขัดสน หากมีใครเชื้อเชิญหรือมีช่องทางให้เขาเข้าไปอยู่ในเรือนของคฤหบดี อันอุดมด้วยข้าวปลาอาหาร เขาจะพึงปรารถนาหรือไม่หนอ?
ตอบว่า ย่อมปรารถนา...


ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้ที่มากระทำการอย่างนี้ โดยมากก็เป็นพวกอมุษย์ที่เป็นพวกเปรตที่ต้องการเสพอาหาร หรือมาทำบุญอย่างชนิดที่ตนเข้าใจว่าเป็นบุญ เป็นพวกที่เคยเล่นฤทธิ์มาก่อนในอดีตชาติ เช่นเคยได้สมาธิมาก่อน ได้ฌาณมาในชาติใดชาติหนึ่ง แล้วอาจจะมีอภิญญา ติดอยู่ก็เป็นได้ ของพวกนี้ เป็นไปด้วยความชำนาญที่สั่งสมมา ดังนั้น แม้เปรตเองก็มักปรากกกายให้ผู้คนเห็น เป็นผีบ้าง บางทีก็แปลงกายเป็นพระ เป็นเณร ก็มี เขาก็มีฤทธิ์ได้ และพอใจในการทำการงานอย่างนั้น เพราะคุ้นเคย เพราะพอใจ ....ในเวลาเป็นมนุษย์ ก็ทำอาการดุจเดียวกันนั่นแหละ

ดังนั้น ของอะไรที่เสพคุ้น ย่อมเป็นไปโดยง่าย ด้วยมีความพอใจหนุนหลัง เป็นต้น
ทั้งสองกลุ่มนี้ ดูแล้วก็มองไม่เห็นความสวัสดีเกิดเลย แก่ผู้ทรง และผู้ถูกทรง เป็นไปเพื่อความมืดมนโดยแท้ ที่แอบอ้างเป็นนั่นเป็นนี่ ก็เพราะอยากให้คนนับถือ แล้วแต่ว่า กิเลสอะไรจะใช้ให้ทำ
ถามว่า คนที่ถูกทรงเล่า มีความเกี่ยวพันกันอย่างไร?
ก็เพราะเคยทำเหตุมา ก็เป็นปัจจัยให้ต้องมากระทำอีก และประกอบกับยังไม่เจอกัลยาณมิตร ไม่ได้ฟังธรรมอย่างถูกต้อง ใจก็น้อมไปในความเชื่อ ตรงนี้แหละเปิดช่องรับเขาเข้ามาแล้ว
ทำแล้วก็จะตกนรกนั่นแหละ เพราะอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะดูเหมือนจะไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกบังคับขับเคลื่อนทางใดทางหนึ่งเสมอ หวาดกลัวในใจเสมอๆ หรือไม่ก็พอใจในลาภสักการะ ตรงนี้ก็ไม่ใช่สรณะเอาเสียเลย ยังทำให้คนทั้งหลายพากันลุ่มหลง เชื่อในผี อันเป็นลัทธิมีมาแต่ไหนแล้ว แม้ในยุคโลกว่างจากพระศาสนา เรื่องอย่างนี้ก็ปรากฏอย่างต่อเนื่อง ก็เหตุใด บัดนี้จะไม่ปรากฏเล่า? เพราะเหตุนั้นมีมาแล้ว ผลอย่างไรๆก็ต้องเกิด

จะบอกว่าทำบุญมาด้วยกัน ก็ขอฟันธงว่า ไม่ใช่ลักษณะบุญแน่นอน บุญในโลกนี้มี ๑๐ อย่าง ไม่มีน้อยหรือมากกว่านี้แล้ว และที่เขาเป็นไปกันอยู่จะสงเคราะห์เป็นบุญก็ลำบากใจแท้ๆเพราะคนทำไม่ได้ ประโยชน์เกิดแต่โทษ
ที่แน่ๆก็คือ ทำให้ผู้คนไม่เกิดทิฏฐุชุกรรมคือความเห็นถูกเลย แต่เป็นไปกับความเชื่อ ที่เรียกว่า หลงเชื่อในฤทธิ์ ในอภินิหารย์ เป็นอันมาก อย่างนี้จะหาความเป็นบุญที่ถูกต้องได้อย่างไร? เพราะช่างขัดแย้งกับความเป็นจริงเสียจริงๆว่า กรรมนั้นย่อมมีผล แต่นี่เขากระทำให้เกิดความเชื่อว่า เขาเป็นผู้กระทำให้ ใช้ฤทธิ์ทำให้ได้อะไรๆอย่างนี้เป็นต้นจนคนพากันนับถือ เพราะอยากได้ผลที่ต้องการโดยไม่สนใจในเหตุที่ทำแม้แต่น้อย
พึงเลิกสนใจในเรื่องเหล่านี้ กระทำความรู้ตัวอยู่กับเรื่องที่เป็นปัจจุบันดีกว่า แล้วเจริญบุญ ๑๐ ประการนั้นนั่นแหละ ชื่อว่า เป็นไปเพื่อความสวัสดีโดยแท้

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าเขาทรงจริง
ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าที่มาเป็นผู้ที่ท่านอยากพบ
แล้วท่านพิสูจน์ยังไงครับ... :b10: :b10:


อื้อ...ถามนะเจ้าคะ ช่วยออกความเห็นหน่อยค่ะ
แบบว่า เห็นผู้ปฏิบัติที่เขาเกิด ๆ สิ่งนี้เอาเรื่องนี้มาคุยกัน แล้วสงสัย

ในเวลาที่เรากำลัง ปฏิบัติ
เกิดสภาวะที่จิตมันพูดจาเป็นธรรมมะ...ง่ะ
มันผุดขึ้นมาเอง เหมือนพรายกระซิบ บ้างอะไรประมาณนี้
มันของปลอม หรือ ของจริง
ที่บางครั้งมันเป็นคำสอนครูบาอาจารย์ ที่มันผุดออกมาเป็นท่อน ๆ
ซึ่งมีบ้างก็มีคนบอกว่า บางครั้งมันก็เป็นปัญญา
และบางครั้งมันก็เป็น สัญญา... หง่ะ
สัญญา ที่เนื่องจากเราเคยอ่าน เคยได้ยิน มาก่อนนั่นเอง
ก็คือ เอาสัญญามาเป็น ปัญญา
หรือ ฝีมือมารมากระซิบ คะ :b14: :b14:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 14 พ.ย. 2009, 20:19, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2009, 12:55
โพสต์: 36

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
natdanai เขียน:
ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าเขาทรงจริง
ท่านเชื่อหรือครับ...ว่าที่มาเป็นผู้ที่ท่านอยากพบ
แล้วท่านพิสูจน์ยังไงครับ... :b10: :b10:


อื้อ...ถามนะเจ้าคะ ช่วยออกความเห็นหน่อยค่ะ

ในเวลาที่เรากำลัง ปฏิบัติ
เกิดสภาวะที่จิตมันพูดจาเป็นธรรมมะ...ง่ะ
มันผุดขึ้นมาเอง เหมือนพรายกระซิบ บ้างอะไรประมาณนี้
มันของปลอม หรือ ของจริง
ที่บางครั้งมันเป็นคำสอนครูบาอาจารย์ ที่มันผุดออกมาเป็นท่อน ๆ
ซึ่งมีบ้างก็มีคนบอกว่า บางครั้งมันก็เป็นปัญญา
และบางครั้งมันก็เป็น สัญญา... หง่ะ
สัญญา ที่เนื่องจากเราเคยอ่าน เคยได้ยิน มาก่อนนั่นเอง
ก็คือ เอาสัญญามาเป็น ปัญญา
หรือ ฝีมือมารมากระซิบ คะ :b14: :b14:

:b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ข้าฯ รู้.. ข้าฯ..เห็น
แต่ข้าฯ..ไม่บอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2009, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าทรง 99% ปลอม 1% หลงผิดไปเอง

ทุกเรื่องที่ได้เห็น ที่ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัส ได้รับรู้ ล้วนเกิดจาก มโนมยอัตตาทั้งสิ้น

ไม่มีวิญญาณไดๆ มาเข้าร่างใครๆ มาปรากฏ หรือมาแสดง มาติดต่อเราได้เพราะ

วิญญาณ มีลักษณะดังนี้ พตปฎ ๙/๓๕๐ และ ๒๕/๑๓
. อนิทัสสนัง ไม่อาจมองเห็นได้
. อนันตัง ไม่มีขอบเขต
. สัพพโต ปภัง แจ่มใสโดยประการทั้งปวง
. ทูรังคมัง ไปได้ไกล
. เอกจรัง ไปแต่เพียงผู้เดียว
. อสรีรัง ไม่มีรูปร่าง หน้าตา หรือรูปทรง
. คูหาสยัง อาศัยกายเป็นคูหา

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เขาไปแล้ว จะไปรบกวนเขาทำไมค่ะ
ถ้าคนทรงเจ้าบอกว่าเขาอยูดีแล้ว คุณก็จะสบายใจ ทั้งๆที่ไม่รู้
ว่าจริงหรือเปล่า? ใช่ไหม? แต่ถ้าเขาบอกว่าลำบากอยู่ คุณก็ต้อง
ยิ่งไม่สบายใจ สรุปก็คือ รู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย

ตั้งมั่นอยู่ในความดี ทำบุญ สวดมนต์ บำเพ็ญเพียรภาวนา
แล้วแผ่บุญกุศลไปให้เขาดีกว่า ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าเขาได้รับ
หรือไม่? ที่แน่นอนที่สุดก็คือตัวคุณเองนั่นแหละได้ อย่ามัวแต่เป็นห่วง
คนที่จากไปเลยค่ะ เป็นห่วงตัวเราเองดีกว่า ว่าทำอย่างไรถ้า
ถึงวันที่ต้องจากไป จะได้ไปอยู่ในที่ดีๆ โดยที่ไม่ต้องหวังว่าลูก
หลานที่อยู่ข้างหลังจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ :b41: :b48: :b41:

เจริญในธรรมค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
อื้อ...ถามนะเจ้าคะ ช่วยออกความเห็นหน่อยค่ะ
แบบว่า เห็นผู้ปฏิบัติที่เขาเกิด ๆ สิ่งนี้เอาเรื่องนี้มาคุยกัน แล้วสงสัย

ในเวลาที่เรากำลัง ปฏิบัติ
เกิดสภาวะที่จิตมันพูดจาเป็นธรรมมะ...ง่ะ
มันผุดขึ้นมาเอง เหมือนพรายกระซิบ บ้างอะไรประมาณนี้
มันของปลอม หรือ ของจริง
ที่บางครั้งมันเป็นคำสอนครูบาอาจารย์ ที่มันผุดออกมาเป็นท่อน ๆ
ซึ่งมีบ้างก็มีคนบอกว่า บางครั้งมันก็เป็นปัญญา
และบางครั้งมันก็เป็น สัญญา... หง่ะ
สัญญา ที่เนื่องจากเราเคยอ่าน เคยได้ยิน มาก่อนนั่นเอง
ก็คือ เอาสัญญามาเป็น ปัญญา
หรือ ฝีมือมารมากระซิบ คะ :b14: :b14:


ท่านก็โยนิโสมนสิการซิครับ.... :b9: :b9:
ใช้ปัญญาที่ท่านเองอบรมมาดีแล้วพิจารณา.... :b32: :b32:

ถ้าเราเองยังมีเถียง...ก็ยังไม่ใช่ปัญญา.... :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ย. 2009, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


Buddha เขียน:
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ข้าฯ รู้.. ข้าฯ..เห็น
แต่ข้าฯ..ไม่บอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า



อ่านแล้วกร๊ากกกกกกกกกกได้ใจจริงๆ :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 15 พ.ย. 2009, 11:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:

ท่านก็โยนิโสมนสิการซิครับ.... :b9: :b9:
ใช้ปัญญาที่ท่านเองอบรมมาดีแล้วพิจารณา.... :b32: :b32:

ถ้าเราเองยังมีเถียง...ก็ยังไม่ใช่ปัญญา.... :b13: :b13:


อิ อิ ว่าจะแอบเอาเสียงหัวเราะอันทรงพลังถล่มปฐพี
ของท่าน Bud มาใช้ข่มท่าน Nat สักหน่อย... :b32:
แต่เกรงใจ เดี๋ยวท่าน Bud ผูกใจเอ็นดู :b32: :b32:

ไอ้ที่ไม่เถียง เพราะยังไม่มีปัญญาจะเถียงก็มี...นี่เจ้าคะ...
เพราะปัญญาข้าเจ้ายังตามไม่ทันสิ่งที่รู้...หง่ะ...
ท่าน Nat นี่...ก้อ ไอ้ที่มาถามเพื่อจะมาหยั่งปัญญาจากท่านไปเถียงมันนี่ล่ะ...เจ้าค่ะ
ท่านก็ช่าง ตอบได้งาม น่าให้รางวัล ซะจัง... :b13: :b13:

:b41: :b41: :b41: :b41:


ท่าน Bud เจ้าข๋าา.... ถ้าท่านรู้ ท่านก็แย้มพรายมาเถอะ...เจ้าค่ะ...
การปกปิดความรู้ มิใช่วิสัยท่านนี่..เจ้าคะ

:b55: :b55: :b55: :b55:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 16 พ.ย. 2009, 07:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
amam...เขียน

เวลาเราไปให้คนที่เข้าทรงหรือคนที่ทรงเจ้าเพื่อเรียกวิญญาณของผู้ตายพูดคุยกับเรานั้น หากวิญญาณนั้นจะไปอยู่แห่งใดก็ตาม เช่น สมมุติว่าเขาไปดีแล้วไปอยู่สวรรค์แล้ว แต่เราให้คนทรงเจ้าเรียกลงมาพูดคุยกับเราด้วยความคิดถึง อยากถามว่าหากเขาลงมาจริงๆ เขาอะไรจะผิดไหม เขาจะถูกเบื้องบนลงโทษไหม ที่เรียนถามเพราะจะไปให้คนทรงเจ้าทำพิธีเรียกคนที่จากไปลงมาพูดคุยเพื่อจะไถ่ถามหลายๆ เรื่อง เช่นการที่ทำบุญอุทิศไปให้ได้รับไหม ตอนนี้อยู่ที่ไหนเป็นต้อนเพราะคิดถึงเขามากๆ เลย ท่านผู้รู้ช่วยตอบให้ด่วนๆ ด้วยยิ่งดี ขอขอบคุณมากๆ


:b1:

...ข้าพเจ้ารู้จักการเข้าทรงเพื่อโปรดมนุษย์...ร่างทรงเป็นผู้ทรงศีลและไม่หลอกลวงมีจริงๆ...
...จะเรียกมาจากที่ไหนก็ได้...เพราะเป็นการเรียกดวงจิตมาถาม...ใช้ร่างทรงเป็นสังขารแทน...
...ไม่เกี่ยวกับกับจะมีผู้อนุญาตหรือไม่...ถ้าผู้ที่เข้าทรงสามารถสื่อสารได้ก็เรียกมาได้จริง...
...แต่ต้องพิจารณาว่าแหล่งที่เราไปขอความช่วยเหลือนั้นสื่อได้จริง?...ไม่ใช่หลอกลวง...


:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue

อ้างคำพูด:
เอรากอน...เขียน

อื้อ...ถามนะเจ้าคะ ช่วยออกความเห็นหน่อยค่ะ
แบบว่า เห็นผู้ปฏิบัติที่เขาเกิด ๆ สิ่งนี้เอาเรื่องนี้มาคุยกัน แล้วสงสัย

ในเวลาที่เรากำลัง ปฏิบัติ
เกิดสภาวะที่จิตมันพูดจาเป็นธรรมมะ...ง่ะ
มันผุดขึ้นมาเอง เหมือนพรายกระซิบ บ้างอะไรประมาณนี้
มันของปลอม หรือ ของจริง
ที่บางครั้งมันเป็นคำสอนครูบาอาจารย์ ที่มันผุดออกมาเป็นท่อน ๆ
ซึ่งมีบ้างก็มีคนบอกว่า บางครั้งมันก็เป็นปัญญา
และบางครั้งมันก็เป็น สัญญา... หง่ะ
สัญญา ที่เนื่องจากเราเคยอ่าน เคยได้ยิน มาก่อนนั่นเอง
ก็คือ เอาสัญญามาเป็น ปัญญา
หรือ ฝีมือมารมากระซิบ คะ


:b6: :b12: :b1:

...คิดว่าน่าจะเป็นสภาวะธรรมเตือนตัวเอง...ครูอาจารย์ท่านเรียกว่าธรรมเตือน...จิตคือนักรู้
...พอเรารู้จักการปฏิบัติต่อจิตในทางธรรม...จิตผู้รู้ก็จะเตือนเราขึ้นมาอัตโนมัติ...เหมือนเรียกความจำ...
...ข้าพเจ้าก็เคยมาก่อน...อย่างฟังธรรมะประจำ...ทั้งๆที่ไม่คิด...แต่เมื่อเจอสถานการณ์ก็ผุดเตือนขึ้นมา


:b3: :b13: :b9:
...ถูกหรือผิด...ขอผู้รู้ท่านอื่นชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ

:b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยหลงไปกับเพื่อน ไปดูคนทรงเจ้าค่ะ

พอเจ้าประทับร่าง คนทรงก็สั่นไหวไปทั้งตัว

เวลาก้มกราบไหว้ คงไม่ทันระวัง เห็นกุงเกงใน :b15: :b19:

:b34: :b34: สุดท้ายสติเรากลับมาเลยค่ะ เฮ้ย! มาได้ยังงั๊ยเนี้ย

กลับบ้านเถอะเพื่อน :b23: :b23:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 07:25
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีทั้งจริงทั้งปลอมครับผมเคยพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร