วันเวลาปัจจุบัน 20 มิ.ย. 2025, 05:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 19:00
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b7: สวัสดีกัลยาณธรรมทุกท่าน :b10:
กระผมมีข้อสงสัยที่อยากจะถามผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านครับ คือผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 10 วัน สายของ มจร.อ่ะครับ คือท่านวิปัสสนาจารย์ก็จะสอนการนั่งสมาธิ นอนอนสมาธิ เดินจงกรมและอิริยาบถย่อย ผมก็ทำตามทุกอย่างครับ ขณะที่กำหนดไปนั้นมันก็รู้สึกสบายดีนะครับแต่เวลาที่เรามีอารมณ์อะไรเข้ามาแทรกเช่น โกรธ แล้วท่านวิปัสสนาจารย์บอกให้กำหนดว่าโกรธหนอ หนอ อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าความโกรธนั้นจะหายไปแต่ผมก็แอบสงสัยว่า ความโกรธก็คือโทสะในเมื่อมันเกิดมาแล้วเราจะไปสนใจหรือไปจี้ไปย้ำมันทำไมอย่างนี้จิตเราก็เศร้าหมองสิครับ ผมก็ได้แค่สงสัยก็เลยมาถามท่านผู้มีประสบการณ์พอที่จะชี้แนะข้าน้อยด้วย ขอรับ :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ขุนกระบี่ดาวตก เขียน:
:b7: สวัสดีกัลยาณธรรมทุกท่าน :b10:
กระผมมีข้อสงสัยที่อยากจะถามผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านครับ คือผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 10 วัน สายของ มจร.อ่ะครับ คือท่านวิปัสสนาจารย์ก็จะสอนการนั่งสมาธิ นอนอนสมาธิ เดินจงกรมและอิริยาบถย่อย ผมก็ทำตามทุกอย่างครับ ขณะที่กำหนดไปนั้นมันก็รู้สึกสบายดีนะครับแต่เวลาที่เรามีอารมณ์อะไรเข้ามาแทรกเช่น โกรธ แล้วท่านวิปัสสนาจารย์บอกให้กำหนดว่าโกรธหนอ หนอ อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าความโกรธนั้นจะหายไปแต่ผมก็แอบสงสัยว่า ความโกรธก็คือโทสะในเมื่อมันเกิดมาแล้วเราจะไปสนใจหรือไปจี้ไปย้ำมันทำไมอย่างนี้จิตเราก็เศร้าหมองสิครับ ผมก็ได้แค่สงสัยก็เลยมาถามท่านผู้มีประสบการณ์พอที่จะชี้แนะข้าน้อยด้วย ขอรับ :b48: :b48:


ที่พระท่านสอนนั้น เข้าใจว่า ท่านคงใช้หลักกสิณ คือการเอาใจจดจ่อในคำกำหนดเพื่อให้เกิดสมาธิ เพราะพระทั้งหลายเหล่านั้น ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่อง "ฌาน" อย่างถ่องแท้ เมื่อไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ ฌานอย่างถ่องแท้ ก็ย่อมไม่รู้วิธีการ ละ หรือขจัด หรือดับ วิตก วิจาร ปีติ สุข เมื่อไม่รู้ พระทั้งหลาย ก็ต้องดึงเอาหลักวิธีอย่างใดอย่างหนึ่ง จากพระไตรปิฎกมาใช้โดยความไม่รู้ แต่พระที่รู้ก็มีอยู่นะขอรับ ยกตัวอย่าง อาจารย์ผู้ให้คำแนะนำต่อข้าพเจ้า รูปหนึ่งแล้ว
ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะ พระที่เป็นอาจารย์ในรุ่นเก่าๆ ก็ได้ร่ำเรียนหรือเข้าใจกันมาอย่างนั้น ก้เลยทำต่อกันมาอย่างนั้น
ความจริงแล้ว ถ้าฝึกสมาธิ อย่างเดียว ก็ต้องทำความเข้าใจในเรื่อง ของ "ฌาน" ขออภัยในขณะนี้ยังไม่เขียนอธิบาย ต้องรอดูก่อนว่า ควรอธิบายควรสอนหรือไม่ เนื่องจากมีเหตุหลายประการที่ไม่อาจเขียนสอนได้ในขณะนี้ (ไม่บอกเหตุผลนะขอรับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขุนกระบี่ดาวตก เขียน:
:b7: สวัสดีกัลยาณธรรมทุกท่าน :b10:
กระผมมีข้อสงสัยที่อยากจะถามผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านครับ คือผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 10 วัน สายของ มจร.อ่ะครับ คือท่านวิปัสสนาจารย์ก็จะสอนการนั่งสมาธิ นอนอนสมาธิ เดินจงกรมและอิริยาบถย่อย ผมก็ทำตามทุกอย่างครับ ขณะที่กำหนดไปนั้นมันก็รู้สึกสบายดีนะครับแต่[color=#40BF00]เวลาที่เรามีอารมณ์อะไรเข้ามาแทรกช่น โกรธ แล้วท่านวิปัสสนาจารย์บอกให้กำหนดว่าโกรธหนอ หนอ อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าความโกรธนั้นจะหายไปแต่ผมก็แอบสงสัยว่า ความโกรธก็คือโทสะในเมื่อมันเกิดมาแล้วเราจะไปสนใจหรือไปจี้ไปย้ำมันทำไมอย่างนี้จิตเราก็เศร้าหมองสิครับ ผมก็ได้แค่สงสัยก็เลยมาถามท่านผู้มีประสบการณ์พอที่จะชี้แนะข้าน้อยด้วย ขอรับ[/color] :b48: :b48:


สวัสดีค่ะท่าน ขุนกระบี่ดาวตก....
( ถ้าเป็น " ขุนกระบี่ " เฉย ๆ ไม่มีดาวตก เนี้ยะ ... ทำให้นึกถึง หนุมาน และวงศ์วาน ขึ้นมาเลย หุ หุ )

:b9: :b9: :b9:

การกำหนดอารมณ์นั้น ๆ ว่า โกรธหนอ ปวดหนอ เมื่อยหนอ ...หนอ
หมายถึง เราออกมาจากอารมณ์นั้น ๆ ออกมาเป็นผู้ดู ดูว่าสิ่งที่เกิดอยู่นั้น หรือ
อารมณ์ที่เราจับได้ว่าเกิดขึ้นแล้วนั้น มันมีขึ้นในขณะนี้ แล้วมันจะดับไปตอนไหน(โดยมาก เมื่อเรารู้ว่ามันเกิด มันจะดับลงทันที จนเราแปลกใจ ว่าเมื่อกี้มันมีอยู่ รู้สึกอยู่ )

ไม่ใช่ การเน้นย้ำ หรือ อิน หรือกดข่ม กระตุ้นเตือน มัน กลายเป็นความรู้สึกอย่างที่คุณสงสัยอยู่

ลองกำหนดใหม่ สังเกตดูว่าขณะนี้ คุณรู้สึกงง ๆ หรือ ต่อต้าน หรือคัดค้าน คำตอบที่อ่านผ่านมานี้

พอคุณสรุปว่า คุณมีอารมณ์นี้ ๆ อยู่ จริง ๆมันได้ดับลงแล้วกลายเป็นอารมณ์อื่นไปอีก

อันนี้ เป็น ไตรลักษณะ ของสรรพอารมณ์ทั้งปวง มันเกิด มันตั้งอยู่ มันดับไป

เมื่อออกมาเป็นผู้ดู คุณก็จะเห็น อย่าเป็นผู้เล่นอยู่ในเวทีอารมณ์

ขอบคุณที่ทนอ่าน...

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ที่พระท่านสอนนั้น เข้าใจว่า ท่านคงใช้หลักกสิณ คือการเอาใจจดจ่อในคำกำหนดเพื่อให้เกิดสมาธิ เพราะพระทั้งหลายเหล่านั้น ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่อง "ฌาน" อย่างถ่องแท้ เมื่อไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ ฌานอย่างถ่องแท้ ก็ย่อมไม่รู้วิธีการ ละ หรือขจัด หรือดับ วิตก วิจาร ปีติ สุข เมื่อไม่รู้ พระทั้งหลาย ก็ต้องดึงเอาหลักวิธีอย่างใดอย่างหนึ่ง จากพระไตรปิฎกมาใช้โดยความไม่รู้ แต่พระที่รู้ก็มีอยู่นะขอรับ ยกตัวอย่าง อาจารย์ผู้ให้คำแนะนำต่อข้าพเจ้า รูปหนึ่งแล้ว
ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะ พระที่เป็นอาจารย์ในรุ่นเก่าๆ ก็ได้ร่ำเรียนหรือเข้าใจกันมาอย่างนั้น ก้เลยทำต่อกันมาอย่างนั้น
ความจริงแล้ว ถ้าฝึกสมาธิ อย่างเดียว ก็ต้องทำความเข้าใจในเรื่อง ของ "ฌาน" ขออภัยในขณะนี้ยังไม่เขียนอธิบาย ต้องรอดูก่อนว่า ควรอธิบายควรสอนหรือไม่ เนื่องจากมีเหตุหลายประการที่ไม่อาจเขียนสอนได้ในขณะนี้ (ไม่บอกเหตุผลนะขอรับ)




พระที่รู้ก็มีอยู่นะขอรับ ยกตัวอย่าง อาจารย์ผู้ให้คำแนะนำต่อข้าพเจ้า รูปหนึ่งแล้ว


ชื่ออาจารย์อะไร ยังมีชีวิตอยู่ไหมขอรับ

อาจารย์สอนแนวไหนยังไงขอรับ น่าสนใจ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังคนถามแล้วก็ชื่นใจ

มีสัญชาตญานจะนำพาตัวไปเองสู่ทางตรงได้เอง
มีทุนดีติดตัวมา
แม้ไม่ได้ฟังจากพระโอษฐ์ ก็ยังมีแววจะพาตัวเองรอดได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขุนกระบี่ดาวตก เขียน:
ผมก็แอบสงสัยว่า ความโกรธก็คือโทสะในเมื่อมันเกิดมาแล้วเราจะไปสนใจหรือไปจี้ไปย้ำมันทำไมอย่างนี้จิตเราก็เศร้าหมองสิครับ


ถูกแล้วครับ การไปย้ำคิดย้ำทำอย่างนั้น คือความฟุ้งโดยเจตนา จิตเศร้าหมองครับ
ไม่มีประโยชน์ ใดๆ ครับ

เรายังมองไม่เห็นความสวัสดี
จักมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
นอกจากปัญญาและความเพียร
นอกจากความสำรวมอินทรีย์
และความสละวางทุกสิ่งทุกอย่าง

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 23 ต.ค. 2009, 23:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อารมณ์พวกนี้มันอายเวลาไปจ้องครับ จ้องไปเด๋วมันก็หายหน้าเอง...

(หรืออีกนัยนึงก็ประมาณว่า ให้เราได้รู้ทันจิตใจ(กิเลส) ของเราเองด้วยครับ..

ว่าเราโกรธอยู่นะ โกรธแล้วดียังไงล่ะ?? ทำยังไงดี??

อนุโมทนาครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 12:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นการกำหนดให้รู้อารมณ์ครับ ไม่ใช่การกำหนดให้รับอารมณ์

รู้ ว่าโกรธ แต่อย่าไป รับ ว่าโกรธ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
เป็นการกำหนดให้รู้อารมณ์ครับ ไม่ใช่การกำหนดให้รับอารมณ์

รู้ ว่าโกรธ แต่อย่าไป รับ ว่าโกรธ


สงสัยค่ะ เวลาโกรธ

แล้ว โกรธหน๋อ โกรธหน๋อ แล้วเราจะเห็นโกรธมันเป็นยังไงคะ

คือขอถามแบบซื่อ ๆ เลย เพราะไม่ค่อยถนัดแนวนี้เลย

เพราะปกติที่เรา ไม่ได้ปฏิบัตินะ มันเป็นไปเอง

คืออาจจะเป็นพื้นฐานมาจากนิสัยช่างสังเกต

เวลาอะไรมากระทบ ประมาณว่าเมื่อเห็นคนเข้ามาแสดงท่าทีคุกคาม

คือตากระทบ กายกับจิตมันทำงานประสานกัน...แล้วนะ

จะรู้สึกหูผึ่ง ตาลุกวาว ตัวชา เลือดสูบฉีด

เราก็เฝ้าดูค่ะ เฝ้าดูสิ่งที่เกิด ทั้งสภาวะทางกาย
สภาวะทางเวทนา สภาวะทางจิตที่มีต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
เราสังเกตแต่ประมาณเทือก ๆ นี้ สังเกตสิ่งที่เกิด ไปตามสภาพ

คือไม่เคย.... กำหนดอะไรหน๋อเลย
คือ... สงสัยค่ะ เห็นกล่าวถึงเรื่องนี้กันเยอะ...
และดูเหมือนจะเป็นแนวปฏิบัติที่ขึ้นชื่อ

คือเราไม่ ...หน๋อ นี่เราปฏิบัติผิดรึเปล่าคะ

:b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กำหนดแบบนี้บ้างสิครับ


จิตที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวดั่งภูเขาศิลา
ไม่กำหนัดในอารมณ์
อันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด
ไม่โกรธในอารมณ์
อันเป็นที่ตั้งแห่งความโกรธ
จิตของบุคคลใด อบรมได้ดั่งนี้
ความทุกข์จะมีมาแต่ที่ใดเล่า ?




เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
สงสัยค่ะ เวลาโกรธ

แล้ว โกรธหน๋อ โกรธหน๋อ แล้วเราจะเห็นโกรธมันเป็นยังไงคะ

เป็นอนัตตา

เอรากอน เขียน:
คือขอถามแบบซื่อ ๆ เลย เพราะไม่ค่อยถนัดแนวนี้เลย...................................คือเราไม่ ...หน๋อ นี่เราปฏิบัติผิดรึเปล่าคะ

:b14:

ไม่..."หนอ"...งั้นใช้..."แหน"...แทนเป็นไง(เป็นคำตอบที่ท่าน กรัชกาย เคยใช้ตอบกระผม) :b32:

สาระมันอยู่ตรงที่ "รู้" ไม่ได้อยู่ที่ "หนอ"

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
กำหนดแบบนี้บ้างสิครับ


จิตที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวดั่งภูเขาศิลา
ไม่กำหนัดในอารมณ์
อันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด
ไม่โกรธในอารมณ์
อันเป็นที่ตั้งแห่งความโกรธ
จิตของบุคคลใด อบรมได้ดั่งนี้
ความทุกข์จะมีมาแต่ที่ใดเล่า ?


เจริญในธรรมครับ


คุณไม่เคยโกรธใครเลย มานานเท่าไรแล้วคะ ประมาณว่าแม้แต่ใจก็ไม่ระคายเคืองเมื่อมี
สิ่งเร้ามากระทบน่ะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
เอรากอน เขียน:
สงสัยค่ะ เวลาโกรธ

แล้ว โกรธหน๋อ โกรธหน๋อ แล้วเราจะเห็นโกรธมันเป็นยังไงคะ

เป็นอนัตตา


แค่เนี๊ย...ธ่อ ไม่ต้อง หน๋อ ก็เห็นเป็นอนัตตาได้ เหมือนกันแหละ... :b12:

อ้างคำพูด:
ไม่..."หนอ"...งั้นใช้..."แหน"...แทนเป็นไง(เป็นคำตอบที่ท่าน กรัชกาย เคยใช้ตอบกระผม) :b32:

สาระมันอยู่ตรงที่ "รู้" ไม่ได้อยู่ที่ "หนอ"


แล้วคุณเอาไปใช้รึเปล่าล่ะ... :b12:

ยังชอบนุ่งสั้นไม่เลิกเลยนะคุณ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ยังชอบนุ่งสั้นไม่เลิกเลยนะคุณ...


เทรนนี้จะยังฮิตอยู่อีกนานครับ... :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร