วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 02:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




buddhas.jpg
buddhas.jpg [ 15.87 KiB | เปิดดู 3614 ครั้ง ]
ทำไมเราจึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์? โดยท่านพุทธทาสภิกขุ
ทำไมเราจึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์? โดยท่านพุทธทาสภิกขุ
Tagged with: พุทธทาสภิกขุ เนื้อสัตว์
ข้อคิดพิจารณาธรรม
ท่านพุทธทาสภิกขุแห่งสวนโมกข์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทำไมเราจึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์?
เพราะเป็นการปฏิบัติเพื่อยึดเอาประโยชน์ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายธรรม การไม่กินเนื้อสัตว์เป็นทางก้าวหน้าของสัมมาปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งได้ผลมาก โดยลงทุนทางวัตถุน้อยที่สุดแต่ให้ผลมากทางใจ
ประโยชน์ทางฝ่ายธรรม

ข้อที่ ๑ เป็นการเลี้ยงง่ายยิ่งขึ้น

เพราะพวกพืชผัก เป็นของหาง่ายในหมู่คนยากจนเข็ญใจ ซึ่งมีการปรุงอาหารด้วยผักเป็นพื้น นักกินผักย่อมไม่มีเวลาไปกระวนกระวายเพราะอาหารไม่ค่อยจะถูกปากถูกลิ้นนักเลย ในขณะที่นักกินเนื้อมักต้องเลียบๆ เคียงๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งภัตตาหารเนื้อบ่อยๆ ญาติโยมเสียไม่ได้ในท่าทีก็พยายามหามาถวายศรัทธาญาติโยมที่มีใจเป็นกลาง เคยปรารภกับข้าพเจ้าหลายต่อหลายครั้งว่า เขาสามารถจะเลี้ยงพระได้ถึง ๕๐ รูป โดยไม่รู้สึกลำบากอะไรเลย หากเป็นอาหารที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อกับปลา แต่ที่ผ่านมาต้องฝืนใจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างมากๆ ไม่ใช่ว่าจะคิดว่า เนื้อมีราคาแพงกว่าผักแต่เป็นเพราะรู้ว่าสัตว์ถูกฆ่าตาย เพื่อการทำบุญเลี้ยงพระของเรามีอีกหลายคน ที่ทีแรกค้านว่าการทำอาหารมังสวิรัติวุ่นวายลำบาก แต่เมื่อได้ทดลองทำไป ๒-๓ ครั้ง กลับสารภาพว่าเป็นการง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย เพราะบางคราวไม่ต้องไปติดไฟเลยก็มี ตัณหาของนักกินผักกับกินเนื้อมีความแตกต่างกันอย่างไร จะกล่าวในข้อหลังเฉพาะข้อนี้ขอจงทราบไว้ว่า
“คนกินเนื้อสัตว์ เพราะแพ้รสตัณหา
กินเพราะตัณหา ไม่ใช่เพราะเลี้ยงง่าย”

ข้อที่ ๒. เป็นการฝึกในส่วน “สัจธรรม”

คนเราห่างไกลจากความพ้นทุกข์ก็เพราะมีนิสัยเหลวไหลต่อตัวเอง สัจจะในการกินผักนั้นเป็นแบบฝึกหัดที่น่าเพลินบริสุทธิ์ ได้ผลสูงเกินกว่าที่คนไม่เคยทดลองจะคาดถึง พืชผักเป็นอาหารที่จะหล่อเลี้ยง “ดวงธรรมแห่งสัจจะ”ในใจของเราให้สมบูรณ์แข็งแรงดังนั้นการฝึกกินผัก อาหารพืชผักจึงเป็นแบบฝึกหัดสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ที่ยอดเยี่ยมกว่าแบบฝึกหัดอย่างอื่นๆ เพราะแบบฝึกหัดบางอย่างค่อนข้างง่าย แต่บางอย่างก็ยากเกินจะฝึกทำให้ไม่สามารถนำมาเป็นเกมฝึกหัดประจำทุกๆวัน แต่เราผู้ปฏิบัติธรรมต้องฝึกทุกวันจึงจะได้ผลเร็ว เหตุฉะนี้การฝึกใจด้วยเรื่องอาหารอันเป็นสิ่งที่เราต้องบริโภคอยู่ทุกวันจึงเหมาะมาก อย่าลืมพระพุทธภาษิตที่มีใจความว่า
“สัจจะเป็นคู่กับผ้ากาสาวพัสตร์”

ข้อที่ ๓.เป็นการฝึกในส่วน“ทมะ”ธรรม

“ทมะ” คือ การข่มใจให้อยู่ในอำนาจ คนเราเป็นทุกข์เพราะตัณหาอันได้แก่ ความอยากที่ข่มใจไว้ไม่อยู่ มีข้อพิสูจน์เฉพาะเรื่องผักกับเนื้อง่ายๆ เช่นข้าพเจ้าเคยเห็นชาวบ้านที่มาจากป่าดอนสูงๆ อุตสาห์หาบเอาพวกพืชผักลงมาแลกปลาแห้งๆ จากชาวบ้านแถบริมทะเลขึ้นไปกินทั้งๆ ที่ต้องเสียเวลาเป็นวันๆ ในขณะที่กลางบ้านของเขาก็มีอาหารพวกพืชผัก เผือก มัน ฟัก มะพร้าวฯลฯ อย่างอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งอาหารเหล่านี้ยังเป็นของสด สามารถบำรุงร่างกายได้มากกว่าปลาแห้งๆ และขึ้นราที่พวกเขาสู้อุตส่าห์ลงมาหามหิ้วขึ้นไปเก็บไว้กินเป็นไหนๆดังนั้น… ผู้ที่ไม่มีการข่มรสตัณหาจักต้องเป็นทาสของความทุกข์ และถอยหลังต่อการปฏิบัติธรรม เหตุนี้การข่มจิตด้วยเรื่องอาหารการกินจึงเหมาะมาก เพราะจะมีการข่มได้ทุกวันการข่มจิตอยู่เสมอเป็นของคู่กับผ้ากาสาวพัสตร์เช่นกัน

โปรดทราบ! ว่ามันเป็นการยากยิ่งที่คนแพ้ลิ้นจะข่มตัณหา โดยพยายามเลือกกินแต่ผักจากจานอาหารที่เขาปรุงด้วยเนื้อ และผักปนกันมาจงยึดเอาเกมกีฬาฝึกข่มจิต ที่เป็นเครื่องชนะตนอันนี้เถิดการเลี้ยงพระในงานต่างๆ ข้าพเจ้าเคยเห็นเคยได้ยินเสียงเอ็ดตะโร เรียกเอาแต่อาหารเนื้อส่วนอาหารผักล้วนดูเหมือนว่าเป็นการยากที่จะถูกเลือกกับเขา มิหนำซ้ำยังเหลือกลับไปอีก แมกระทั่งอาหารที่ปรุงระคนกันมาก็หายไปแต่ชิ้นเนื้อคงเหลือแต่ผักติดจานกลับไป และยิ่งไปกว่านั้น ก็คือควรรู้ไว้ด้วยว่าบรรดาพ่อครัวแม่ครัวและเจ้าภาพเขารู้ตัวก่อนด้วยซ้ำไป จึงปรุงอาหารเนื้อสัตว์เอาไว้ให้มากกว่าอาหารผักหลายเท่านัก ทั้งนี้ก็เพราะตัณหาทั้งของฝ่ายแขกเหรื่อชาวบ้าน และฝ่ายบรรพชิตทั้งหลายร่วมมือกัน “แบ่งอิทธิพล”


ข้อที่ ๔. เป็นการฝึกในส่วน “สันโดษ”

สันโดษ คือ ความพอใจเฉพาะสิ่งที่มีอยู่ตามฐานะของตน โดยทั่วไปชีวิตของผู้ออกบวชย่อมดำรงอยู่ด้วยอาหารชั้นเลว ทว่าข้าพเจ้าเคยเห็นบรรพชิตบางรูป เว้นไม่ยอมรับอาหารจากคนจนเพราะเห็นว่าเลวเกินไป คือเป็นเพียงผักหรือผลไม้ชั้นต่ำ และถึงแม้จะรับมาก็เพื่อทิ้ง นี่เป็นตัวอย่างของผู้ที่ไม่เคยมีความสันโดษหรือถ่อมตนดังนั้น… การฝึกเป็นนักกินผัก กินอาหารอย่างง่ายๆ จะแก้ได้หมด “สันโดษเป็นทรัพย์อย่างเอกของบรรพชิต”

ข้อที่ ๕. เป็นการฝึกในส่วน “จาคะ”

จาคะ คือ การสละสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อความสงบหรือความพ้นทุกข์ นักกินผักที่แท้จริงมีดวงจิตบริสุทธิ์ผ่องใส เกินกว่าที่จะมีใจนึกอยากในเรื่องจะบริโภคอาหารที่มีรสหลากหลาย เพราะผักไม่ยั่วในการบริโภคมากไปกว่ากินเพื่ออย่าให้ตาย ซึ่งต่างไปจากเนื้อสัตว์ที่ยั่วให้ติดรสและมัวเมาอยู่เสมอ

ความอยากในรสที่เกินจำเป็นของชีวิตความหลงใหลในรส ความหงุดหงิด เมื่อไม่มีเนื้อที่อร่อยมาเป็นอาหาร ฯลฯ เรื่องเหล่านี้ข้าพเจ้ารับรองได้ว่า ไม่มีดวงจิตของนักกินผักเลย ส่วนนักกินเนื้อนั้น ท่านจะทราบของท่านได้เองเป็นปัจจัตตัง เช่นเดียวกับธรรมะอย่างอื่นๆ
ข้อที่ ๖. เป็นการฝึกในส่วน “ปัญญา”

ปัญญา คือ ความรู้เท่าทันดวงจิตที่กลับกลอก การใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นโทษของการยึดมั่น และให้ใจละวางความยึดมั่นในการกินอาหาร แบบฝึกหัดที่ยากและเป็นก้าวที่ใหญ่ของการปฏิบัติธรรมเช่นนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการฝึกบริโภคอาหารผัก ที่จะเป็นอารมณ์อันบังคับให้ท่าน ต้องใช้พิจารณาตัวเองอยู่เสมอทุกมื้อเพราะเนื้อทำให้หลงในรส ส่วนผักทำให้ยกใจขึ้นไป ซึ่งเหมาะแก่สันดานของสัตว์ผู้มีกิเลสย้อมใจจนจับแน่นเป็นน้ำฝาดมาแต่เดิมปัญญาของท่านต้องรู้อยู่เสมอว่า ไม่ใช่จะไปนิพพานได้เพราะกินผัก เป็นแต่การกินผักจะช่วยขัดเกลากิเลสทุกๆ วัน

แท้จริงแล้วข้าพเจ้าไม่ได้มีความเห็นว่าฝ่ายที่จะช่วยขัดเกลาจิตใจต้องเป็นผักความจริงอาจจะถือว่า ผักเป็นอาหารชั้นเลวหรือไม่ประณีตก็พอแล้ว แต่เมื่อมาพิจารณาใคร่ครวญให้ดีแล้วมันมาตรงกับอาหารผัก เพราะจะทำอย่างไร เนื้อก็เป็นของชวนกินเพียงแต่ต้มเฉย ๆ พอได้กลิ่นมันก็ยั่วตัณหาอยู่ดี!เพราะฉะนั้นฝ่ายที่จะปราบตัณหา จึงกลายเป็นเกียรติยศของผักไป อาหารผักเป็นอาหารที่ข่มตัณหาได้และมีแต่ความบริสุทธิ์จึงเหมาะสม สำหรับผู้ที่ระแวงภัย และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ

ผลดีในฝ่ายโลก อาหารผักมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายยิ่งกว่าเนื้อสัตว์หรือไม่? เรื่องนี้วิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ก็บอกแก่เราชัดแจ้งอยู่แล้วว่าอาหารผัก จะทำให้ผู้บริโภคมีกำลังแข็งแรงโรคน้อย ดวงจิตสงบ ช่วยให้ความกระหาย ในความอยาก ความโกรธ ความมัวเมา บรรเทาลงเป็นอันมาก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 11:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




cx5.jpg
cx5.jpg [ 325.61 KiB | เปิดดู 3601 ครั้ง ]
ยังมีข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 100 บทความชี้มุลชัด
อันตรายจากเนื้อสัตว์ มีผลต่อสุขภาพ และ การเจ็บป่วยระยะยาว

ที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรีย
ถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสัตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์

วงการแพทย์ ที่หันหลังการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารปลอดเนื้อสัตว์

ที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรม
จากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ

โรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริงจากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์

จากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุษย์
โดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากหลายหลาย
มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งโลก (The World Cancer Research Fund (WCRF)

รายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมูลในเวป

http://www.dhammajak.net:80/board/viewtopic.php?t=14583

http://www.dhammajak.net/ board/viewtopic.php?t=17241




http://board.palungjit.com/showthread.php?t=145201
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2004, 08:57
โพสต์: 154


 ข้อมูลส่วนตัว




4-4.gif
4-4.gif [ 19.41 KiB | เปิดดู 3525 ครั้ง ]
Vanicha.gif
Vanicha.gif [ 15.47 KiB | เปิดดู 3524 ครั้ง ]
TrrmChina-04.gif
TrrmChina-04.gif [ 73.49 KiB | เปิดดู 3526 ครั้ง ]
............♥
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผักเคี้ยวง่ายกว่าเนอะ
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2009, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




chicken in feces & dirt.j.jpg
chicken in feces & dirt.j.jpg [ 26.74 KiB | เปิดดู 3487 ครั้ง ]
กลอนสะกิดใจ

สัพเพ สัตตา เสียงร้องขอ ชีวิตจิตหวั่นไหว

เสียงห่ำหั่น เข่นฆ่า น่าสยอง

เสียงซวบซาบ ดาบคมเชือด เลือดไหลนอง

เสียงกรีดร้อง สะท้านจิต สะกิดใจ

เสียงสัพเพ สัตตา พาให้คิดว่าชีวิตนี้ มีค่า กว่าสิ่งไหน

อเวรา อย่ามีเวร อย่ามีภัย
ชีวิตใคร ใครก็หวง อย่าล่วงเกิน

ท่องสัพเพ สัตตา มาแต่ไหน ยังเข้าใจ ในเนื้อแท้ ้แค่ผิวเผิน

ยังฆ่าบ้าง กินบ้าง อย่างเพลิดเพลิน ยังใช้เงิน ซื้อชีวิต อนิจจา

สัตว์เกิดกาย มาใช้กรรม ที่ทำไว้ เป็นเป็ดไก่ กุ้งปลา ูและหมูหมา

ตามเหตุต้น ผลกรรม ที่ทำมา มิใช่ฟ้า ประทานมา ให้คนกิน

มีปัญญา แต่ไฉน จึงไม่คิด
มองชีวิต กลับเห็น เป็นทรัพย์สิน

เสียงกรีดร้อง ก่อนตาย ใครได้ยิน น้ำตาริน เมื่อถูกเฉือด เลือดกระเซ็น

พูดว่าเขา เกิดมา เป็นอาหาร เขาลนลาน หนีตาย ใครมองเห็น

เขาจนใจ พูดไม่ได ้เถียงไม่เป็น ช่างเลือดเย็น เข่นฆ่า ไม่ปราณี

มีพืชผัก มากมาย นับไม่ถ้วน ทุกกลิ่นรส สดใส หลายหลากสี

ธรรมชาติ วางไว้ อย่างดิบดี สัตว์วิ่งหนี พืชเต็มใจ ให้กินมัน

เพราะเรากิน เขาจึงฆ่า เอามาขาย เราสบาย แต่สัตว์โลก ต้องโศกศัลย์

ท่องสัพเพ สัตตา มาทุกวัน
เมตตากัน โปรดอย่าฆ่า และอย่ากิน



ประพันธ์โดย
คุณประวิทย์ ชัยศิริสัมพันธ์

ใครๆ ก็ไม่รักผม

หนีกันเถอะ

ให้โลกเราสวยพวกเราต้องช่วยกันไม่เบียดเบียนกันแล้วโลกนี้จะสดใส

-----------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิงจากเวป

ชีวิตในวฎสงสาร ต่างเวียนว่าย วัฏฏะชาติ อนาถภพ " แด่ชีวิตเพื่อนร่วมโลก ต่างเวียนว่าย วัฏฏะชาติ อนาถภพ
บ้างประสบ ถูกเขาฆ่า บ้างฆ่าเขา
ยุติธรรม คือกรรม ที่ตามเรา
วิบากเก่า ไม่ลืมชาติ ไม่ขาดอายุความ

ชีวิต ในวฎสงสาร

ต่างเวียนว่าย วัฏฏะชาติ อนาถภพ
บ้างประสบ ถูกเขาฆ่า บ้างฆ่าเขา
ยุติธรรม คือกรรม ที่ตามเรา
วิบากเก่า ไม่ลืมชาติ ไม่ขาดอายุความ อ่านจากเวปข้างล่าง น่าสนใจ

http://www.watsai.net/webb/view.php?No=126&visitOK

-------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------

บทกลอนเพื่อชีวิตเรื่องไก่

พระเทพวิสุทธิเมธี ป.ธ.9 (เจ้าคุณเที่ยง) เจ้าคณะภาค 11
วัดระฆังโฆสิตาราม

๐ เอ๊กอิเอเอ้กเสียงนี้มีความหมาย เป็นจุดขายเงินตรามหาศาล

มันคือไก่ขุมทองของรัฐบาล ยอดอาหารคู่โลกโภคภัณฑ์

กะต๊ากกะต๊ากแซ่เสียงแม่ไก่ ยามออกไข่ถ่ายฟองเป็นของขวัญ

ให้เราท่านทั่วถิ่นได้กินกัน รสนิ่มมันทอดปรุงบำรุงพลัง

ไก่ธุรกิจทำเงินเกินคาดหมาย เรื่องซื้อขายกำไรสมใจหวัง

เสี่ยโกเฮงซีพีเศรษฐีดัง บ้านดุจวังเพราะขายไก่ได้ราคา

๐ เป็นเศรษฐีเพราะไก่สมใจนึก ทุกคนคึกอยากรวยด้วยตัณหา

ปลูกโรงไก่เล้าไก่เต็มไร่นา เป็นสินค้าขายออกทั้งนอกใน

ต่างคนต่างอยากรวยฉวยโอกาส จิตหมายมาดมุ่งรับทรัพย์ลื่นไหล

เงินทองสะดวกโดยโกยกำไร เศรษฐีไก่สมอยากบ่ยากเย็น

บางคนโง่ซื่อบื้อเรื่องซื้อขาย พบฉิบหายฉับพลันทันตาเห็น

จนเพราะการค้าน้ำตากระเด็น ช้ำลำเค็ญร้องว่าไก่ฆ่ากู

ไข้หวัดนกระบาดอนาถจิต ไก่เกิดติดโรคร้ายตายจมหู

ถูกฝังเผาเป็นล้านบานตะกู เป็ดห่านหมูเนื้ออร่อยพลอยล้มตาย

๐ โรคห่าล่าชีวิตให้ปลิดปลด ไก่กำสรดอยู่ไปไร้ความหมาย
โรคแลคนรุมล่าฆ่าวอดวาย ทารุณร้ายสุดอนาถชาติไก่เอย

ไก่กับคนผูกพันกันนานมา ครั้งปู่ย่าเราท่านขานเฉลย

เห็นไก่อยู่กับไก่ไม่ห่างเลย ทุกคนเคยเลี้ยงไก่กินไข่แดง

ไก่เป็นอาหารเป็นเพื่อนเตือนให้คิด ขันสะกิดรับสุรีย์ทอสีแสง

จ้องดูเราดุจแม่พ่อคอตะแคง คล้ายชี้แจงความเป็นมิตรนิจนิรันดร์

อรุณรุ่งเรืองรองท้องฟ้าใส นกกาไก่เกาะกลุ่มชุมนุมขัน

บ้านหรือวัดเซ็งแซ่แต่ละวัน สัตว์คู่ขวัญชีวิตจิตวิญญาณ

๐ มันมองเราเรามองมันด้วยหรรษา คนเมตตาหยิบโปรยโรยอาหาร

มีของกินผลไม้ให้เป็นทาน ร้องเรียกขานคุ้นปากจากดวงใจ

สัตว์บ่เคยเป็นญาติกันนั้นบ่มี พระชินสีห์ชี้แจงแถลงไข

ภพภูมิแห่งสงสารเนิ่นนานไกล สัตว์เล็กใหญ่ล้วนญาติชาติผ่านมา

สันนิวาสเป็นญาติแต่ชาติก่อน อดีตย้อนผูกใจใฝ่ปรารถนา

เกิดสำนึกมั่นหมายร่วมชายคา แรงตัณหาอยากหวังฝังรูปนาม

๐ ฆ่าเป็ดกินเป็ดตายเกิดเป็นเป็ด ผลชั่วเผล็ดร้องก๊าบบาปแห่หาม

เวรกรรมรุมประชิดรุกติดตาม คอยคุกคามเข่นฆ่าน้ำตานอง

คนฆ่าไก่กินไก่เกิดเป็นไก่ บาปล่าไล่สู่ปูมภูมิสยอง

เกิดตายเท่าขนไก่ไร้ต่อรอง ฆ่าหมูต้องเป็นหมูคู่เวรกัน

เกิดเป็นหมูหมากาไก่ให้ประโยชน์ แต่ทุกข์โทษคุกคามนามรูปขันธ์

ยิ่งเกิดยิ่งพอกโง่จมโลกันต์ บาปโมหันธ์มืดมิดปิดทางเดิน

สมองหมูหมากาไก่ไร้คุณภาพ แต่เอิบอาบด้วยคลื่เบาตื้นเขิน

ขาดสติยับยั้งพลังเกิน งมงายเพลินโลกแล่นแดนอบาย.......

๐ จุติสู่ภพภูมิปูมนรก ดุจดาวตกพุ่งลับแสงดับหาย

มืดมิดมหัศจรรย์สุดบรรยาย ยมทูตร้ายล้อมรุมอุ้มแห่ไป

ต้องทนทุกข์ทรมานเนิ่นนานช้า มิรู้ว่าสุดกู่อยู่หนไหน?

คุกนรกสุดสยองล้วนกองไฟ ร่างเผาไหม้เกิดใหม่ใช้โทษทัณฑ์

มรสุมเวรกรรมกระหน่ำหนัก ภูติผีทักหมาเห่าเขย่าขวัญ

วิญญาณไก่เป็ดห่านขานพร้อมกัน เซ็งแซ่ลั่นโจทก์จี้ทวงหนี้บุญ

ญาติปู่ย่าตายายที่ตายไป เกิดเป็นไก่หมาหมูอยู่ใต้ถุน

ผลวิบากกรรมโหดโทษทารุณ ลูกหลานขุ่นฆ่าขายหมายเงินทอง

๐ อันเวรกรรมทำไว้ในไตรจักร์ เบาหรือหนักพอกพูนคูณสนอง

ปราศจากมิตรศัตรูผู้ปกครอง คอยจับจ้องล้างผลาญสถานเดียว

กรรมที่สร้างไว้เสร็จสำเร็จผล ควบคุมคนผู้สร้างอย่างแน่นเหนียว

อยู่ทิศไหน?เคียงข้างไม่ห่างเชียว เกาะกุมเกี่ยวแสดงผลให้ยลยิน

พลังเวรพลังกรรมทรงอำนาจ ไม่คลาคลาดตามติดนิจสิน

ถึงเวลารุกถล่มร่างจมดิน ไม่สุดสิ้นชาติภพจบไม่เป็น

ยุติคำกลอนเรื่องไก่ไว้เท่านี้ ขอน้องพี่ทั้งหลายคลายทุกข์เข็ญ

พ้นจากความอดอยากยากลำเค็ญ ได้พบเห็นพวกไก่ให้เมตตา ฯ.......

(จาก นสพ.ธรรมะ สาส์นสวรรค์ ประจำวันที่ 1-30 เมษายน 2547)


ขอขอบคุณที่มา
http://www.o2blog.com/myblog/blog.ph...style=1&id=328
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร