วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 18:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2009, 21:23
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากทราบว่า พระพุทธเจ้า ได้ทรงตรัส เกียวกับศาสนาอื่นๆ ไว้อย่างไรบ้างคับ

ผมไม่ได้มีความคิด จะเปรียบเทียบนะคับ เพราะทุกศาสนาย่อมมีหลักคำสอนแตกต่างกัน

แต่ที่อยากรู้ก้อคือ เนื่องจากความเชื่อ และหลักปฏิบัติ แตกต่างกัน แล้วคนศาสนาอื่น

จะมีการเวียนวาย ตายเกิด หรือ รับผลกรรม แบบเราไหม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านไม่เคยเจอนะครับว่าพระองค์ตรัสอย่างไร

มีแต่ตรัสเรื่อง อนุปุพพิกถา และอริยสัจ 4

คือเกี่ยวกับทางดำเนินไปสู่การพ้นทุกข์ทั้งสิ้นครับ

และ
เพียงแต่ก่อนปรินิพพาน ได้กล่าวถึงการบรรลุธรรม หรือการ ตรัสรู้ได้ต้องเดินตามทาง

อริยมรรคมีองค์ 8 ถ้า ที่ใดเดินตามมรรค ที่นั้นย่อมไม่ขาดจาก อริยะ 1-2-3-4

ฤาท่านใดอ่านเจอก็ช่วยสงเคราะห์เป็นความรู้หน่อยครับ

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 01:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปีติ เป็นไฉน

ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง ความบันเทิง ความร่าเริง
ความรื่นเริง ความปลื้มใจ ความปีติอย่างโลดโผน ความที่จิตชื่นชมยินดี อันใด

นี้เรียกว่า ปีติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อยากทราบว่า พระพุทธเจ้า ได้ทรงตรัส เกียวกับศาสนาอื่นๆ ไว้อย่างไรบ้างคับ


ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ปฐมเทศนา
[๑๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะพระปัญจวัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่สุด
สองอย่างนี้อันบรรพชิตไม่ควรเสพ
คือ
การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย เป็นธรรมอันเลว เป็นของชาวบ้าน
เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
การประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตน เป็นความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบ
ด้วยประโยชน์ ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทาสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดสองอย่างนั้น นั่นตถาคตได้
ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ
เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อยากทราบว่า พระพุทธเจ้า ได้ทรงตรัส เกียวกับศาสนาอื่นๆ ไว้อย่างไรบ้างคับ


ทรงตรัสถึงศาสนาอื่นโดยประมวลว่าเป็นคำสอนที่ตกอยู่ในทางแห่ง"มิจฉาทิฏฐิ๖๒ชนิด อ่านรายละเอียดได้ที่..

1. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=13898&Z=13903&pagebreak=0

2. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑
ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=9&item=26&items=25&preline=1

3. ผู้ไม่มีโชคได้พบพระพุทธศาสนา
http://www.84000.org/true/258.html

อ้างคำพูด:
แต่ที่อยากรู้ก้อคือ เนื่องจากความเชื่อ และหลักปฏิบัติ แตกต่างกัน แล้วคนศาสนาอื่น

จะมีการเวียนวาย ตายเกิด หรือ รับผลกรรม แบบเราไหม


กฏเกณฑ์ตามหลักความจริงสากล ไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือความคิดของใครๆครับ ...คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นคำสอนที่แสดงปรากฏการณ์ที่เป็นความจริงสากลเป็นหลักเกณฑ์ของธรรมชาติที่แท้จริง เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้...ท่านจะสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน หากมีใครคนใดคนหนึ่งมากล่าวเช่นนี้ว่า "ดูกร ท่านผู้ผู้เจริญ ดวงอาทิตย์ย่อมมีปรกติขึ้นทางทิศเหนือ ตกทางทิศใต้"..ท่านจะสำคัญว่าคำกล่าวนั้น"เป็นความจริงและถูกต้อง"ได้ละหรือ ในเมื่อท่านทราบว่าความจริงคืออะไร?...ฉันใด ใครๆจะบอกว่ากรรมไม่มี พระผู้สร้างเท่านั้นทำเหตุต่างๆให้ปรากฏ..สิ่งนี้เท่านั้นจริงสิ่งอื่นผิด.จึงเป็นเพียงการกล่าวอ้างที่ไม่มีเหตุผลขาดหลักฐาน...ข้อนี้ท่านพึงพิจารณาว่าแม้ในยุคจรวดปัจจุบันก็ยังมีผู้ที่ได้พิสูจน์คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วด้วยตนเองจำนวนมิใช่น้อย ท่านยืนยันว่านี่คือความจริง(สัจจธรรม) และท่านเหล่านั้นยังมีความกระตือรือร้นเรียกร้องเราท่านทั้งหลายให้พากันมาพิสูจน์จะได้ไม่ต้องมานั่งถามและตอบปัญหาที่ท่านกำลังอ่านกันอยู่นี่ละครับ..

คำถามนี้ ท่านก็คงได้เคยถามมาแล้วในอดีตชาติอันนับไม่ถ้วนในสังสารวัฏแล้ว และตราบเท่าที่ยังไม่สามารถบรรลุโสดาบัน ท่านก็จะต้องถามต่อไปในอนาคตหรือภพต่อๆไป..เพราะวิจิกิจฉาคือความลังเลสงสัยนั้น พระโสดาบันละได้แล้ว ส่วนปุถุชน ยิ่งสงสัยก็เพิ่มพูนอนุสัยความสงสัยต่อไปไม่สิ้นสุด

ขอชี้ชวนให้ท่านทราบว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สามารถอธิบายเรื่องราวของชีวิตได้ตั้งแต่เกิดจนตายในทุกแง่มุมทุกปรากฏการณ์ และเพราะความสุุขุมลุ่มลึกอันมีลักษณะเฉพาะนี้ของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตามจึงสามารถพาตนล่วงพ้นทุกข์ได้จริง..ท่านอย่าเพิ่งเชื่อข้าพเจ้า จงทดลองทดสอบด้วยตนเอง ขอท้าให้มาพิสูจน์ ..บางทีท่านจะได้คำตอบที่ถูกต้องแก่คำถามที่ท่านสงสัยได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องถามใครๆให้เมื่อยมือ

ขอความมีบุญของท่านเป็นปัจจัยต่อเนื่องไปสู่ความเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิเทอญ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 08 ก.ย. 2009, 17:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 04:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: :b9: :b9: เป็นอีกคนที่นับถือทั้งศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู เวลาสวดมนต์ก็สวดทั้งพุทธ และฮินดู ก็เลยทำให้ทราบว่าศาสนาทั้ง 2 ศาสนานี้ อาจมีรายละเอียดหรือพิธีกรรมที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อ แต่ที่สุดแล้วก็มีเป้าหมายที่เหมือนกันคือการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และความหลุดพ้น หลุดพ้นที่นี้คือ พ้นจากความทุกข์ อย่างบทแผ่เมตตาก็จะมีบทสวดที่แปลความหมายแล้วใกล้เคียงกันมาก ส่วนศาสนาอื่นไม่ทราบค่ะ...แต่คิดว่าน่าจะมีเป้าหมายไม่แตกต่างกัน และทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี (อันนี้คุณครูสอนมาตั้งแต่เด็กง่ะ)

:b9: :b22: :b22: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sasikarn เขียน:
ศาสนาทั้ง 2 ศาสนานี้ อาจมีรายละเอียดหรือพิธีกรรมที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อ แต่ที่สุดแล้วก็มีเป้าหมายที่เหมือนกันคือการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และความหลุดพ้น หลุดพ้นที่นี้คือ พ้นจากความทุกข์ อย่างบทแผ่เมตตาก็จะมีบทสวดที่แปลความหมายแล้วใกล้เคียงกันมากส่วนศาสนาอื่นไม่ทราบค่ะ...แต่คิดว่าน่าจะมีเป้าหมายไม่แตกต่างกัน และทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี (อันนี้คุณครูสอนมาตั้งแต่เด็กง่ะ)


สวัสดีครับ คุณsasikan ยินดีได้สนทนากันครับ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนน๊ะครับ ว่า มิจฉาทิฏฐิ ไม่ได้แปลว่า คนนั้นเป็นคนคิดไม่ดี เป็นคนคิดชั่วแต่ประการเดียว มิจฉาทิฏฐิ เป็นทิฏฐิ ที่ขวาง นิพพาน ขวางนิโรธ นะครับ

ดังนั้น คนบางคน ยึดบุญ ยึดกุศล แต่ก็ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนแก่ใคร เค้าผู้นั้นก็ยังมีมิจฉาทิฏฐิ อยู่ครับ

ธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่เพียงสอนให้มี กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต แล้ว ยังสอนให้ดับทุกข์ เพื่อไม่ก่อภพ ต่อไปด้วยครับ เป้าหมายจึงต่างกับคำสอนในศาสนาอื่นครับ


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 09 ก.ย. 2009, 12:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


แม้ว่าอนันตริยกรรมที่หนักที่สุด เช่น ฆ่าพ่อ หรือ ฆ่าแม่ เป็นต้น อนันตริยกรรมจะนำไปเกิดในนรกแล้ว กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเป็นต้น ก็คงจะไม่ได้ทำอนันตริยกรรมซ้ำๆอีก แต่ความเห็นผิดนั้นยากนักที่จะเปลี่ยนความคิดให้เป็นเห็นถูกได้ แม้จะเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา ความเห็นผิดก็ยังติดตามตัวไป ดังนั้น จึงขึ้นๆลงๆ นรก ครั้งแล้วครั้งเล่าจึงน่ากลัวอย่างจะสุดพรรณา

สมัยหนึ่ง พราหมณ์ผู้หนึ่งได้เข้ามาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วถามปัญหาเรื่องกรรม เรื่องการตายการเกิดเป็นสัตว์ในภพภูมิต่างๆ เช่น เป็นผีสางเทวดาได้ เป็นต้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหลับพระเนตรเสียไม่ตอบ พราหมณ์ถามอยู่หลายครั้งไม่ได้รับคำตอบ จึงได้หลีกไป พระอานนท์จึงได้ถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คำถามก็ดีๆทั้งสิ้น เหตุใดพระองค์จึงไม่ตอบเขา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสว่า อานนท์เธอยังไม่รู้ว่าพราหมณ์ผู้นี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ที่มีกำลังความเห็นผิดเหนียวแน่นมาก ผ่านนรกมาหลายชาติแล้ว ที่เข้ามาถามวันนี้ ก็มิได้ปรารถนาจะมาหาความรู้ หากแต่ต้องการจะมาโต้คารมแสดงความคิดเห็น จะได้ไปโอ้อวดกับคนทั้งหลายว่า ได้มาโต้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ต้องการสร้างพยานหลักฐานเพื่อจะให้คนทั้งหลายเชื่อในความคิดเห็นผิดๆ ของตน..


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์---๑๐. เทวทูตสูตร (๑๓๐)


[๕๐๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียก
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสแล้ว ฯ
[๕๐๕] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบ
เหมือนเรือน ๒ หลังมีประตูตรงกัน บุรุษผู้มีตาดียืนอยู่ระหว่างกลางเรือน ๒ หลัง
นั้น พึงเห็นมนุษย์กำลังเข้าเรือนบ้าง กำลังออกจากเรือนบ้าง กำลังเดินมาบ้าง
กำลังเดินไปบ้าง ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล เราย่อมมองเห็น
หมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี
ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมทราบชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้
เป็นไปตามกรรมได้ว่า สัตว์ผู้กำลังเป็นอยู่เหล่านี้ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต
มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยะ เป็นสัมมาทิฐิ เชื่อมั่นกรรมด้วยอำนาจสัมมาทิฐิ
เมื่อตายไปแล้ว เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ก็มี สัตว์ผู้กำลังเป็นอยู่เหล่านี้ประกอบ
ด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยะ เป็นสัมมาทิฐิ เชื่อ
มั่นกรรมด้วยอำนาจสัมมาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว บังเกิดในหมู่มนุษย์ก็มี
สัตว์ผู้
กำลังเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียน
พระอริยะ เป็นมิจฉาทิฐิ เชื่อมั่นกรรมด้วยอำนาจมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว
เข้าถึงปิตติวิสัยก็มี สัตว์ผู้กำลังเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วย กายทุจริต
วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียนพระอริยะ เป็นมิจฉาทิฐิ เชื่อมั่นกรรมด้วย
อำนาจมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว เข้าถึงกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานก็มี สัตว์ผู้
กำลังเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียน
พระอริยะ เป็นมิจฉาทิฐิ เชื่อมั่นกรรมด้วยอำนาจมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว
เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกก็มี ฯ


http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=14&A=6750&Z=7030

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: อื้มมมม!!!ขอบคุณคุณเช่นนั้น กะคุณdd ค่ะ ที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมเนื่องจากไม่เคยมีความรู้ในเรื่องของมิจฉาทิฐิอ่ะคะ

:b8: :b8: :b8: นู๋เอค่ะ :b9: :b9: :b9:

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


แก้ไขล่าสุดโดย คนไร้สาระ เมื่อ 14 ก.ย. 2009, 07:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2009, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกับคุณ -dd- จิตที่ตั้งไว้ผิดนั้น ไม่ให้ผลในชาติเดียว แต่จะทำให้เห็นผิดในหลายชาติ ตามพระบาลีในพระธรรมบท

ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา เวรี วา ปน เวรินํ
มิจฺฐาาปณิหิตํ จิตฺตํ ปาปิโย นํ ตโต กเร.

จิตซึ่งตั้งไว้ผิดแล้ว พึงทำเขานั้นให้เลวทรามยิ่งกว่าความพินาศฉิบหาย ที่โจรเห็นโจรหรือคนจองเวรเห็นคนจองเวรทำนั้น. :b1:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร