25314.พุทธะองค์จริง

ningnong

พุทธะองค์จริง

พุทธะองค์จริงนั้น คือภาวะธรรมที่มีความสะอาด ความสว่าง ความสงบ นั่นคือพุทธะในความหมายสูงสุด

คนถามว่าพระพุทธเจ้าคือใคร ? ถ้ามองในฐานะของเด็ก ๆ พระพุทธเจ้าก็คือพระพุทธรูป ที่เคารพบูชา กราบไหว้ในโบสถ์ ในวิหารต่าง ๆ ถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่สร้างขึ้นหลังพุทธกาล ราวหกร้อยหรือเจ็ดร้อยปี พระพุทธเจ้าในความหมายที่ ๒ ก็คือพระพุทธเจ้าในประวัติศาสตร์ ซึ่งครูบาอาจารย์บอกกล่าวสั่งสอนกันว่า คือผู้ที่ทรงเสกสมรสเมื่ออายุ ๑๖ ปี อายุ ๒๙ ปี ออกบวช อายุ ๓๕ ปี ตรัสรู้ นั่นคือพุทธเจ้าความหมายที่ ๒ แต่พุทธเจ้าที่ไม่ตาย อยู่กับเราตลอดเวลาคืออะไร ? พุทธเจ้าในความหมายที่ ๓ นี้ คือ ภาวะธรรมที่มีความสะอาด ความสว่าง ความสงบ พุทธองค์ตรัสว่า ธรรมะคือภาวะธรรมนี้เอง “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดไม่เห็นธรรม แม้จับชายจีวรของเราอยู่ ผู้นั้นก็ไม่เรียกว่าเห็นเรา” นี้หมายความว่า พระพุทธเจ้าที่แท้จริง คือพระธรรม ธรรมที่ใครได้ปฏิบัติแล้ว ถ้าถึงภาวะที่มีความสะอาด ความสว่าง ความสงบ ผู้นั้นก็คือผู้ที่ถึงพุทธะ แม้เดี๋ยวนี้ พุทธะองค์จริงก็มีอยู่ คือ ธรรม

:b41:

ทีนี้ความสะอาดคืออะไร ? คือไม่มีกิเลสที่ทำให้จิตใจสกปรก เศร้าหมอง คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อสิ่งนั้นมีอยู่ในจิตใจพุทธะมีไม่ได้ ความสว่าง คือ ไม่มืดด้วยโมหะ ด้วยอวิชชา จิตใจที่สว่างไสว ไม่มีกิเลสมาทำให้มืดมัวได้ ความสงบ คือ ความไม่วุ่นวาย ฉะนั้น ผู้มีปัญญาหรือปัญญาชนทั้งหลาย จงใช้ปัญญาใคร่ครวญเถอะว่า เราจะถึงพุทธะ จะมีพุทธะองค์ไหนเป็นที่พึ่งแท้จริง อย่างหนึ่ง สำหรับคนระดับหนึ่งเพื่อกราบ เพื่อไหว้ จิตติดอยู่เพียงแค่ปูน แค่หิน แค่ดิน แค่ทราย แต่ให้เจาะทะลุถึงภาวะธรรมอย่างที่ ๒ บุคคลในประวัติศาสตร์ ก็จำเป็นเพื่อจะรู้ไว้ว่า เป็นบุคคลที่เราควรจะเอาเป็นแบบอย่าง ท่านเป็นถึงพระราชา มหากษัตริย์ แต่สละราชสมบัติออกไปเพื่อแสวงหาโมกขธรรม นั่นคือบุคคลในประวัติศาสตร์ ที่ควรเป็นตัวอย่าง พุทธะองค์จริงนั้นตายไม่ได้ หรือภาวะธรรมมีความสะอาด สว่าง สงบ พบได้ทุกเวลา นั่นเป็นที่พึ่งแท้จริง พุทธะองค์จริงเป็นที่พึ่งแท้จริง เพราะว่าปฏิบัติแล้ว ให้ความสงบสุขแก่ชีวิต ชีวิตมีความร่มเย็น จะพึ่งอะไรยิ่งกว่าธรรมะไม่มี เพราะธรรมะคือหน้าที่ที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติแล้ว ชีวิตของเรามีความสงบเย็นทุกเวลา นาที ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ...

:b41: