ปางประสูติ

ความเป็นมาของปางประสูติ
พระบรมโพธิสัตว์จุติจากดุสิตเทวโลกเสด็จปฎิสนธิในครรภ์พระนางสิริมหามายา อัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ เมื่อพระนางทรงพระครรภ์แก่ได้เสด็จกลับไปคลอดที่กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดตามธรรมเนียม ครั้นเสด็จถึงลุมพินีวัน ซึ่งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และกรุงเทวทหะ ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (วันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) ในเวลาใกล้เที่ยง พระนางก็ประสูติพระราชโอรส ณ โคนต้นสาละ ในพระอริยบทยืน พระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งสาละ เมื่อประสูติพระราชกุมารก็อยู่ในพระอริยบทยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป ๗ ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ๗ ดอก แล้วทรงกล่าววาจาอันองอาจว่า " เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี "

ขอบพระคุณมากมายเลยค่ะ
สำหรับความรู้ดีๆ



ขออนุโมนาบุญด้วยนะค่ะ

เมื่อเราหลับ มีคนปลุก รีบลุกเถิด
เมื่อเราเปิด มีคนปิด อย่าคิดหยาม
เมื่อเราหลง มีคนบอก รีบเดินตาม
เมื่อเราทราม มีคนสอน อย่านอนใจ

ขอแจมด้วยครับ ปางพระปฐมเทศนาครับ

แบบนี้ก็ใช่ครับ

.....ช่วยเสริมค่ะ.....
ปางปฐมเทศนาหรือปางแสดงธรรมจักร

ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ หรือวันเพ็ญอาสาฬหปุณมี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร อันเป็นปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ มีใจความสำคัญดังนี้ คือ ทรงให้งดเว้นทางสุดโต่ง ๒ สาย คือ กามสุขัลลิกานุโยค ได้แก่การประกอบตนให้หมกมุ่นในกาม และอัตตกิลมถานุโยค คือ ทำตนเองให้ลำบาก ทรงแสดงมัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง ได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ อันเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ และอริยสัจ ๔ หรือความจริงอันประเสริฐ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค โกณฑัญญพราหมณ์ได้ดวงตาเห็นธรรมในวันนั้น

ปางประสูติ

ปางมหาภิเนษกรมณ์

ประติมากรรมพุทธประวัติปางมหาภิเนษกรมณ์ เจ้าชายสิทธัตถะทรงม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะเกาะหลังม้าตามเสด็จ ขาม้าทั้ง ๔ ขา มีนายจตุโลกบาลทั้ง ๔ ประจำอยู่ นำพระองค์เหาะข้ามกำแพงพระนครออกไปด้วยปาฏิหาริย์

ความเป็นมาของปางมหาภิเนษกรมณ์
พระราชกุมารทรงพระนามว่าเจ้าชายสิทธัตถะ พระองค์ทรงได้รับคำทำนายจากดาบสและพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในพระเวทว่าจะเสด็จออกบรรพชา และตรัสรู้ธรรมเป็นศาสดาเอกของโลก เมื่อทรงเจริญวัย ทรงศึกษาศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการจนสำเร็จ ทรงอภิเษกกับพระนางพิมพา และมีพระโอรสพระนามว่า ราหุล เจ้าชายสิทธัตถะทรงตระหนักถึงทุกข์จากความแก่ ความเจ็บ ความตาย ซึ่งย่ำยีสรรพสัตว์โดยไม่เว้น จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จหนีออกบรรพชา โดยเสด็จขึ้นหลังม้ากัณฐกะ และมีนายฉันนะตามเสด็จ

อนุโมทนาบุญครับได้ความรู้มากเลยครับ

ขอบพระคุณมากค่ะ คุณไหว้พระปล่อยปลา
ภาพที่คุณนำมาลงก็สวยงามมากเลยค่ะ
อนุโมทนาเช่นกันค่ะ
ใจอิ่มบุญนะคะ

ปางสมาธิ ครับ

ปางสมาธิเพชร

พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร อยู่ในอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ (แข้ง) หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง ฝ่าพระหัตถ์วางหงายซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับบนพระหัตถ์ซ้าย

ความเป็นมาของปางสมาธิเพชร

หลังจากที่พระบรมโพธิสัตว์รับหญ้าคาจากโสตถิยพราหมณ์แล้ว ทรงนำไปปูต่างบัลลังก์ ณ ควงไม้อัสสัตถโพธิพฤกษ์ แล้วประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ อธิษฐานว่า "เนื้อและเลือดในสรีระนี้ แม้จะเหือดแห้งไปหมดสิ้น จะเหลือแต่หนังเอ็นและกระดูกก็ตามที ถ้าเรายังไม่บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณก็จักไม่ทำลายบัลลังก์นี้"

ปางตัดพระเมาลี

ประติมากรรมพุทธประวัติปางตัดพระเมาลี (มวยผม) เจ้าชายสิทธัตถะอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) บนพระแท่น พระหัตถ์ซ้ายทรงรวบพระเมาลีไว้ พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ ทำอาการทรงตัดพระเมาลี มีนายฉันนะและม้ากัณฐกะอยู่ด้านหนึ่ง

ความเป็นมาของปางตัดพระเมาลี

เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นว่าพระเมาลีไม่สมควรแก่เพศบรรพชิต จึงทรงตัดออกด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นพระเกศาก็ปรากฎยาวประมาณสององคุลี ม้วนกลมเป็นทักขิณาวัฎ (เวียนขวา) ทุกๆ เส้น และคงอยู่อย่างนั้นตราบถึงดับขันธปรินิพาน แล้วทรงจับพระเมาลีขว้างขึ้นไปในอากาศ อธิษฐานว่า "ถ้าจะได้ตรัสรู้ ขอให้พระเมาลีตั้งอยู่ในอากาศอย่าได้ตกลงมา แม้มิได้ตรัสรู้สมความประสงค์ ขอให้พระเมาลีตกลงสู่พื้นพสุธา" พระเมาลีนั้นได้ประดิษฐานลอยอยู่บนอากาศสูงหนึ่งโยชน์ ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) อัญเชิญพระเมาลีไปบรรจุไว้ในจุฬามณีเจดีย์ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ฆฎิการพรหมได้นำเครื่องอัฐบริขาร คือ สิ่งจำเป็นสำหรับเพศบรรพชิตมาน้อมถวาย แล้วอัญเชิญพระภูษาเมื่อครั้งเป็นคฤหัสถ์ไปบรรจุไว้ ณ ทุสเจดีย์ในพรหมโลก

ปางปฐมเทศนา เพิ่มเติมครับ

ขอกราบบูชาทุกปางครับสาธุ