รัฐสภาเชิญตักบาตรพระสงฆ์

วันพฤหัสบดี ที่ 09 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:22 น
เนื้อหาข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ที่รัฐสภา นางสุกัญญา สุดบรรทัด ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภาแถลงว่า
รัฐสภาจัดมหาสังฆทานประวัติศาสตร์ครั้งแรกของรัฐสภา ในการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 2,553 รูป น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ในวาระ “วันแม่แห่งชาติ” และช่วยเหลือคณะสงฆ์ 266 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันเสาร์ที่ 8 ส.ค.นี้ เวลา 06.00-08.30 น.ที่พระลานพระบรมรูปทรงม้า

เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเกิดความตึงเครียด ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ และสังคม สถานการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนนับวันจะยิ่งห่างไกลจากศีลธรรม ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูประเพณีอันดีงามของไทย จึงขอเชิญชวนภาครัฐ เอกชน ส.ส. ส.ว.และภาคประชาชนต่าง ๆ ร่วมกันทำกุศลด้วยการตักบาตรครั้งนี้ด้วย.


คนที่บอกตัวเองว่าเป็นผู้รู้ใน เว็ปนี้ ลองพิจารณาสิว่ามันสมควรแล้วหรือ

จะสนใจแต่ยอดไม้โดยไม่ใส่ใจรากเหง้าเลย แล้วใยต้นไม้จะเจริญงอกงามไปได้

จั่วหัวแบบนี้ใครจะกล้าคุยด้วยล่ะคับนี่
แต่เอาล่ะ "ผมกล้า"คับ แต่ไม่ใช่"ผู้รู้"หรอกนะ เป็น"ผ้รู้มาบ้าง" น่ะคับ


ผมว่าเรื่องอย่างนี้ดีออกครับ ได้ชักชวนคนให้นึกถึงศีล นึกถึงธรรม นึกถึงบุญ
เป็นอนุสติทั้งนั้นเลย ไม่มีอะไรเสียหาย
ยังดีกว่าปล่อยตัวไปล่อยใจลอยไปเรื่อยเปื่อย

น่าอนุโมทนาดีออกครับ
คิดมากเยี่ยวเหลืองนะคุณขวาง

น่าจะถาม สว. ลากตั้ง ซึ่งเป็นผลิตผลเผด็จการ และผู้ที่เกี่ยวข้องว่า เหตุการณ์ที่วุ่นวายทั้งหมดนั่น
เพราะพระพุทธศาสนา หรือ ดูสิเขาจะตอบว่าอย่างไร หรือ จขกท.พอตอบได้

คนเรามีดีมีชั่วปะปนกันไป เขาทำหน้าที่แล้ว จึงนับว่าเขาเป็นคนดีในระดับหนึ่ง เลือกมองและจดจำในส่วนดี ก็มีความสุขค่ะ สาธุ

ท่าน ชาติสยาม

ช่วงนี้งานผมเยอะไปหน่อยเลยไม่ได้มากวน แต่ยังไงก็จะพยายามมากวนเป็นระยะนะครับท่านชาติสยาม



นักปกครองบ้านเมือง เรียนตำราจากฝรั่ง ไม่ได้เรียนตำราพระพุทธเจ้า
แต่ นักปกครองนับถือพระพุทธเจ้า คิดจะทำบุญกับพระสงฆ์ เพื่อบูชาคุณพระพุทธเจ้า และกราบไหว้ ห้อยไว้ที่คอ ซึ่งรูปที่ทำขึ้นหมายแทนพระพุทธเจ้าเมื่อไม่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงกลายเป็นทำบาป โดยไม่รู้ตัว และเข้าไม่ถึง พระพุทธเจ้าสักที

แม้การปกครองบ้านเมืองในเวลานี้ นักการเมือง นักปกครอง ก็รู้เรื่องการปกครองแบบ งง งง...ด้วยเช่นกัน คือ ไม่ได้รู้จริงอะไรสักอย่างรู้ตามๆกันมา รู้ตามฝรั่ง รู้ตามตำรา รู้แต่ว่า ต้องเป็นประชาธิปไตย ต้องเลือกตั้ง ต้องปกครองกันเอง ต้องมีสิทธิเสรีภาพ ...ฯลฯ
แล้วผลจะออกมาดี หรือ ร้าย ก็ไม่อาจรับรองผลใดๆได้ แต่ก็มั่วๆยอมรับกันเองว่า เป็นการปกครองที่เลวน้อยที่สุด ...ก็ได้เท่านั้นเอง

เมื่อ นักปกครองบริหารประเทศไปด้วยความไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เอาแค่รู้แต่ว่า...อยากบริหารประเทศ เพราะจะได้มีอำนาจ มีผลประโยชน์จากการปกครองจึงขวนขวายเข้าบริหารบ้านเมือง เพื่อให้ได้โอกาสแสวงหาความสะดวกสบาย ร่ำรวย ได้ง่ายๆ เป็นทางลัดสู่ความสบายทั้งของตนเอง ครอบครัว และบริวารแต่ไม่ได้คำนวณ ถึงบาปกรรม ไม่รู้ว่ายังมีภพชาติเป็นที่ไปอยู่อีก ไม่รู้ว่าอะไรเป็นบาป อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นคำสั่งสอนที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้า....

เมื่อนักปกครอง ไม่ได้มีพระพุทธเจ้าอยู่ในหัวใจ เขาจึงไม่ระมัดระวัง สะทกสะท้าน กับบาปกรรม ที่หากได้ทำผิดคำสอน ผิดธรรม ผิดวินัย เขาย่อมทำผิด ทำถูก ไปตามอำเภอใจ ไม่คำนึงคำนวณเทียบกับคำสั่งสอนของพระศาสดา มิวายเราจะพูด จะบอก เท่าใดก็ตาม เขาย่อมใช้อำนาจที่มีอยู่ สถาปนาความถูกต้อง ไปตามความเชื่อของเขา ดั่งที่เห็นเป็นอยู่เช่นนี้แหละ...... ครับ

เพิ่มเติมนะครับท่านชาติสยาม
พระไตรปิฎกฯ เล่ม ๑๑ หน้า ๓๑๑ ในเรื่องจุลศีล
ข้อ ๑๔. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ.


การตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ทำให้พระภิกษุผิดศีล คิดว่าทำบุญให้ประเทศ
แต่เป็นการทำบาปอีกแล้ว ทำผิดร่วมกัน ผู้ให้ผิด ผู้รับก็ผิด

แบบว่าคิดดี แต่ ทำผิด Undecided

หรือท่านชาติสยาม จะว่าไงต่อครับ

555 เรียกผมว่าท่านๆแล้วจั๊กจี้ดีคับ รู้สึกเหมือนใส่สูตรผูกไท้นั่งในสภา


คุณขวางรู้ตัวช้าไปนิดนะครับ
ครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือท่านว่า ที่ปกครองกันอยู่นี่ก็ "คนบ้าปกครองคนบ้า"
มันจะไม่วุ่นได้ยัง

ทำไมถึงเรียกว่าบ้า?
ก็สัญญาวิปลาสไงครับ ถึงเรียกว่าบ้า
สัญญาวิปลาสคือผู้ยังไม่เข้าถึงกระแสพระนิพพาน ย่อมเห้นผิด มิจฉาทิฐิ มีตัวตนเยอะแยะ
ปกครองกันด้วยทิฐิ

ท่านบอกว่าต้องพระเจ้าอยู่หัวโน่น ท่านเป็น "ธรรมราชา" "จริงๆ" "ไม่ใช่สมมุติ"
(ผมถอดรหัสคำเทศน์ว่า พระเจ้าอยู่หัวของเราไม่ใช่ "ปุถุชน" ธรรมดาๆ
ไม่ใช่เรพาะท่านเป้นพระราชา เลยไม่ธรรมดานะ ผมแปลว่าท่านไม่น้อยกว่าพระโสดาบันแล้ว)

คนบ้าปกครองคนบ้า ด้วยวิธีบ้าๆ
จะไปเอาอะไรมากกับคนบ้าล่ะคับท่านขวาง

เรื่องศีลนี่มันของแน่นอน
ถ้าเรามาดูจริยาวัตรครุบาร์อาจารย์ ท่านไม่สะสมอาหารหรอก ไม่มีกินคือไม่มีกิน
3 วัน 7 วันไมไ่ด้กินอะไรนี่ก็เป้นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เรื่องกลัวอดตายนี่ไม่ใช่ปัญหา
ครุบาอาจารย์ท่านก็ปฏิบัติให้ดูแล้วว่าทำได้
แต่คนรุ่นหลังนี่ก็อินทรีย์ไม่แกร่ง อีกอย่างโลกมันก็เปลี่ยนไป

ถ้าจะเอา original กันจริงๆนี่นะ ต้องไม่มีวัด แล้วไปอยู่โคนต้นไม้ใช่ไหมล่ะท่าน

ผมเห็นประจำแหละ บรรทุกถังเปล่ามาเต็มรถตุ๊กๆ มารับบิณฑบาตรแถวตลาด
แล้วแบกกลับไม่ไหวก็ต้องนั่งตุ๊กๆกลับ ผมเห็นแรกๆผมก็หมดอารมณ์เลยนะ เศร้าหมองเลย

ก็พยามคิดไปทางดีว่า คงจะเอาไปเผื่อแผ่เด็กวัด หมาแมวในวัด คนยากคนจนก็ยังไปขอมากินได้
เพราะเห็นลุงแก่ๆแถวๆนั้น แกจนๆนะ ตกบ่ายแกก็ไปขอขนมเอย ขอกับข้าวเอยมาให้หลานกิน
แกยังแจกของหวานให้ผมเลย

ข้าวสารอาหารแห้งนี่ก็ต้องอนุโลมล่ะ
เพราะไปบิณฑบาตรไม่ได้ จะโดนโจรมันฟันคอเอา
ก้ต้องพึ่งฆราวาสไปหุงหามาบิณฑบาตรกันในวัด

ปล่อยๆมั่งเถอะท่าน ท่านก็เป็นพุทธบริษัทที่ดี ที่ท้วงติงแล้ว ทำหน้าที่แล้ว
แต่ในเมื่อกระแสโลกมันเป้นอย่างนี้ ทำเต้มที่แล้วก็ต้องปล่อย

ท่านห้ามความเสื่อมไม่ได้หรอก แม่นบ่

วีนมากๆ เด๋วลมจะจับนะ

คุณขวาง มองภาพลักษณ์ พุทธศาสนา ในระดับแก่น
ในระดับความเป็นจริง ที่ควรจะเป็น ตามกรอบ ตามจารีตเดิมที่ควรจะตรง

แต่ความเป็นจริง ในสภาพจริง ของสังคมพุทธศาสนาในปัจจุบัน
เขาใช้บรรทัดฐานจากส่วนเปลือก และส่วนกลายพันธุ์ มาเป็นเคื่องวัดความถูกต้อง

หากมองลึกถึงแก่น การกระทำแทบทุกอย่างของคณะสงฆ์ยุคนี้แทบไม่เหลืออะไรถูก
แต่ถ้าพอใจมองเอาแค่เปลือก และแค่ความพอใจของคนในสังคมที่อยู่เพียงเปลือกศาสนา
การกระทำอย่างนี้ก็เป็นสิ่ง ที่แสนดี สุดวิเศษ น่าสรรเสริญ จนเกินธรรมดา

โลกของความเป็นจริงทุกวันนี้ คนมักไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เป็นของจริง
จนกว่าจะได้เรียนรู้พุทธศาสนา ให้ลึกกว่าสามัญบุคคลปกติ
การแยกแยะถูกผิด จริงแท้ จึงค่อยๆชัดขึ้น

และคนทั่วไปต่างก็ไม่ค่อยได้มีโอกาส ให้ตัวเองได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศของตัวศาสนา
ในชั้นลึก สังคมพุทธบริษัทธิ์ จึงนิยมอะไรง่ายๆ และทำตามกันไป
ตามแต่ผู้นำที่แสดงตนว่าเป็นผู้รู้ จะลากพาไปอย่างไร

หากจะมองการกระทำอย่างนี้ว่าดี ก็มองเห็นในส่วนดี
หากจะมองการกระทำแบบนี้ว่าไม่ดี ก็จะมองเห็นในส่วนไม่ดี

รัฐสภาเชิญตักบาตรพระสงฆ์

วันพฤหัสบดี ที่ 09 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:22 น
เนื้อหาข่าว


ทำร้ายศาสนาตรงไหน ตรรกะแบบขวางโลกจริงจริง
อนุโมทนากับคนตักบาตรทุกคนครับทุกที่

สาธุ ดิฉันก็ว่างั้น..ปล่อยวางค่ะ
สวดมนต์ดีกว่า สงบใจให้มีสมาธิ


ดิฉันกำลัง G' morning คนอีกซีกโลกนึงนะคะ เฮ้อ....คิดถึงกันอีกแล้ว

เชียงใหม่วัดร้างอื้อ ชาว พุทธตกใจ ไปทำบุญวัน อาสาฬหบูชาวันเข้าพรรษา บางวัดไม่เห็นพระ-เณรแม้แต่รูปเดียว โดยเฉพาะตามอำเภอรอบนอกเมือง ผอ.สำนักฯพระพุทธศาสนาเชียงใหม่ยอมรับหลายวัดไม่มีพระ-เณรจำพรรษาจริง จากการสำรวจพบว่า 32 วัดไม่มีพระ-เณร 336 วัดมีพระเพียง 1 รูป 226 วัด มีพระ-เณรแค่ 2 รูป บางวัดต้องให้ชาวบ้านดูแล

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 ก.ค. หลังวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2552 ผ่านมาได้เพียงวันเดียว มีข้อสังเกตจากพุทธศาสนิกชนชาวเชียงใหม่ที่ไปตระเวนทำบุญถวายเทียนพรรษา และผ้าอาบน้ำฝนตามวัดอำเภอรอบนอก แจ้งผู้สื่อข่าวว่า จากการพาครอบครัวไปทำบุญตามวัดต่างๆ และสำนักสงฆ์อำเภอรอบนอกของจ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค.ผ่านมา พบว่าบางวัดปิดเงียบไม่มีพระหรือเณรจำพรรษาแม้แต่รูปเดียว จึงเข้าใจว่าจะจำวัดหรือมีกิจนิมนต์ บางวัดสอบถามชาวบ้านทราบว่า ไม่มีพระอยู่หลายเดือนแล้ว กลายเป็นวัดร้างไป และคณะสงฆ์สังฆาธิการก็ไม่ได้จัดส่งพระมาจำพรรษา เป็นที่พึ่งพิงให้ชาวบ้านได้ทำบุญและปฏิบัติธรรมในระหว่างพรรษา

นายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีพุทธศาสนิกชนตั้งข้อสังเกตว่า วัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่อำเภอรอบนอกของจ.เชียงใหม่หลายแห่งไม่มีพระจำพรรษา ว่า เป็นความจริง บางวัดไม่มีพระอยู่จำพรรษาในปีนี้ เพราะจำนวนพระภิกษุสามเณรลดลง ซึ่งมีแนวโน้มลดลงติดต่อกันหลายปีแล้ว เนื่องจากผู้บวชใหม่ลดลงมาก เยาวชนที่จะเข้าบวชลดลงแม้จะมีการรณรงค์อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

"จากการสำรวจของสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ ไม่มีพระจำวัดอยู่เลยถึง 32 วัด และมีพระดูแลอยู่เพียง 1 รูป จำนวน 336 วัด มีพระและเณรอยู่ 2 รูป และจำนวน 226 วัดมีพระและเณรอยู่แค่ 2 รูป ขณะนี้หลายๆ วัดต้องให้ชาวบ้านดูแลแทน เนื่องจากไม่มีพระ" นายจำลอง กล่าว

ด้านพระพุทธสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดล้านนาญาณสังวราราม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะจ.เชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) กล่าวว่า จำนวนพระภิกษุสามเณรในปกครองทั้ง 3 จังหวัดลดลงจริง บางวัดมีพระอยู่รูปเดียว บางวัดไม่มีพระอยู่เลย ทั้งนี้ในปี 2552 สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ ระบุว่า มีวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา 738 วัด มีสำนักสงฆ์ 521 แห่ง รวม 1,259 แห่ง และยังมีที่พักสงฆ์ ตามหมู่บ้านในชนบทห่างไกลอีก 469 แห่ง ทั้งหมดเป็นวัดและสำนักสงฆ์คณะมหานิกาย 1,222 แห่ง ธรรมยุต 37 แห่ง ที่พักสงฆ์ของมหานิกาย 374 แห่ง และธรรมยุต 95 แห่ง ส่วนใหญ่พบว่าที่ร้างมากที่สุดเป็นที่พักสงฆ์

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_ ... eTB4TVE9PQ

คคิกลิงค์ดูข้อความที่เขาวิจารณ์เกี่ยวกับกรณีนี้ด้วย จะเห็นความแตกต่างทางความคิด
แล้วกระซิบถามใจตนเองซิว่า จะออกบวชเพื่อไปดูแลวัดร้างเหล่านั้นไหม
หรือบวชแล้วจะไปอยู่วัดทางภาคใต้

มันจะยากอะไร ก็เพียงแค่ให้เงินเดือนพระมากๆ ตั้งเงินเดือนให้เหมาะสมหรือจัดตั้งเป็นซีเหมือนข้าราชการก็ได้นี่นา หรือจับสอบบรรจุภิกษุเพื่อเข้ารับราชการสงฆ์ของไทยไง(เหมือนที่กำลังทำๆ กันอยู่ทุกวันนี้ไง)

คนยิ่งตกงานเยอะช่วงนี้

บวชเข้าไปก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ท่องบทสวดที่จำเป็นต้องใช้ตามงาน เพื่อจะได้ซองเยอะๆ

ถ้าฉลาดหน่อยก็เรียนต่อไปเลย จบโท จบเอกกันไป จากนั้นก็ออกหนังสือ ออกซีดีขาย เงินดีๆ ทั้งนั้น

เข้าปลาอาหารถ้าอยู่แบบพอเพียงหน่อยก็สบายเพราะเที่ยวหิ้วบาตรขอ ก็อยู่สบายแล้ว(พวกคนจนๆ หาเช้ากินค่ำ บางคนแทบไม่มีจะกินก็มีอยู่เยอะแยะ บ้านเรือนไม่มีจะอยู่) ที่พักเหรออยากอยู่สบายก็เรี่ยไรจัดสร้างอ้างบุญกุศล จะเอากี่ชั้นก็ได้นี่ รถประจำตำแหน่งเอย กุฎิประจำตำแหน่งติดแอร์ มีทีวี วีดีโอ ตู้เย็น ฯลฯ ตู้เซฟก็มีอีกนะเนี่ย

หรือจะให้ง่ายกว่านั้นก็จ้างคนมาบวชซะเลย เอาเป็นพรรษาละ 30,000 บาท แจ่มดีนะผมว่าคนจะแห่บวชเพียบเลยแหละเพราะคิดกันแค่ว่า บวชห่มผ้าเหลือง(พวกบวชเปลืองข้าวสาร บวชผลาญข้าวสุก บวชสนุกตามเพื่อน บวชเบื้อนศาสนา บวชหาลาภยศ ฯลฯ) แล้วคอยมารับของที่ชาวบ้านจะทำบุญเพื่อชาวบ้านจะได้บุญจากการให้ทานแก่ภิกษุ คิดได้แค่นี้ก็คงจะแค่นี้แหละนะ พี่น้อง

ถ้าบวชแล้วตั้งใจจริง อุทิศชีวิตเพื่อศาสนาจริงๆ อย่างที่กล่าวไว้ตอนจะบวชหนะ ชาวบ้านพร้อมจะอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่แล้ว แต่นี่กลับไม่ทำ ชาวบ้านก็เบื่อหน่าย ไม่สนใจ ไม่นับถือ ไม่ใส่บาตรให้กิน ในที่สุด
ก็ไม่มีใครอยากบวช เพราะการบวชตามพระพุทธเจ้านั้นมันเป็นของยาก ทำได้ยาก ถ้าพลาดทำไม่ดีมันก็บาปมากกว่าผู้ไม่บวชแน่นอนแล้วใครหละจะเสี่ยง วัดมันก็ร้างแน่นอน(นั่นแสดงว่าคนแถวนั้นเขาพอมีปัญญาอยู่บ้างถึงไม่บวชแบบผิดๆ)

พระอรหันต์ก็อยู่ที่บ้านอยู่แล้วจะไปวิ่งหาที่ไหนอีก อย่างดีก็แค่สมมติสงฆ์ ได้แค่สมมติไม่ใช่ของจริง
ของจริงหนะอยู่ที่บ้าน

เอาแค่นี้ก่อนละกัน

สบายยังงั้นวัดยังร้าง หรือคนไม่ชอบสบาย

เมื่อพูดในแง่สมมุติพระอรหันต์ที่บ้านก็สมมุติ

ทำร้ายงับ ไม่เข้าใจนัยยะแอบแฝงเลยว่า

ส.ว. หมายถึงสมาชิกวุฒิสภา แล้วยังเป็นด้านศาสนา กับมีปัญญาทางธรรมไม่มาก

คนที่เค้าเห็นภัยที่จะเกิดกับพระศาสนาเค้าก็ออกมาบอกด้วยความหวังดีละงับ

งง ครับ ยังไม่เข้าใจ จขกท ครับ