วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 16:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




nt246.gif
nt246.gif [ 31.42 KiB | เปิดดู 10432 ครั้ง ]
บุญที่ให้ทานแก่ปลา

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภพ่อค้าโกงชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกชายของพ่อค้าตระกูลหนึ่งในเมืองพาราณสี มีน้องชายอยู่คนหนึ่ง
เมื่อบิดาเสียชีวิตแล้วสองพี่น้องได้ปรึกษาหารือกันเรื่องบริหารกิจการค้าขาย ตกลงกันเดินทางไปสะสางบัญชีการค้า
ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ได้เงินพันหนึ่งแล้วก็เดินทางกลับมานั่งกินข้าวห่อรอเรือข้ามฟากที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว พระโพธิสัตว์ได้ให้อาหารที่เหลือแก่ปลาในแม่น้ำแล้วอุทิศส่วนบุญกุศล
ให้สรรพสัตว์รวมถึงเทวดาที่แม่น้ำนั้นด้วย เทวดาพออนุโมทนารับส่วนบุญเท่านั้น ก็เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย
ลาภยศอันเป็นทิพย์ เมื่อให้อาหารปลาหมดแล้วเขาก็ลาดผ้าบนหาดทรายล้มตัวลงนอนหลับไป
ส่วนน้องชายของเขามีนิสัยเป็นหัวขโมยมาตั้งแต่เด็ก นั่งคิดวางแผนฉกเอาทรัพย์จึงห่อก้อนหิน
ขึ้นห่อหนึ่งขนาดเท่ากับถุงห่อเงินนั้น

เมื่อเรือข้ามฟากมาถึง เขาก็ปลุกพี่ชายแล้วถือถุงสองถุงขึ้นเรือไปก่อน เมื่อเรือไปถึงกลางแม่น้ำ
เขาก็ทำให้เรือโครงเครงทำทีเป็นเสียหลักโยนถุงหนึ่งลงน้ำไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า
" พี่ ถุงห่อเงินตกน้ำไปแล้ว เราจะทำอย่างไรละทีนี้ "
" เมื่อมันตกน้ำไปแล้วก็ช่างมันเถอะ อย่าคิดถึงมันเลยหาเอาใหม่ได้มากกว่านี้ " พี่ชายตอบ

เทวดาประจำแม่น้ำคงคาเห็นเหตุการณ์นั้นตลอดจึงบันดาลให้ปลาปากกว้างตัวหนึ่งมากลืนกินถุงเงินนั้นไป
ฝ่ายน้องชายเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็รีบแก้ถุงเงินอีกถุงหนึ่งออกดูด้วยความกระหยิ่มใจ
แต่พอแก้ห่อดูกลับเป็นถุงห่อก้อนหินจึงได้แต่นั่งคร่ำครวญเสียใจอยู่คนเดียวที่หลงทิ้งถุงห่อเงินลงน้ำไป
ฝ่ายพี่ชายก็กลับไปบ้านของตนโดยไม่คิดอะไร

หลายวันต่อมา พวกชาวประมงไปหาปลาจับได้ปลาปากกว้างตัวนั้น จึงเที่ยวเดินขายปลาอยู่ว่า
" ปลาสดๆ จ้า ตัวนี้ขายตัวละ ๑,๗๐๐ บาท สนไหมครับ "
ชาวบ้านพากันหัวเราะเยาะว่า " ปลาอะไรจะแพงขนาดนั้นละ "
จึงไม่มีใครซื้อไป พวกเขาเดินขายไปจนถึงประตูร้านบ้านของพระโพธิสัตว์ได้ร้องขายปลาอยู่หน้าร้านนั้น

พระโพธิสัตว์เดินออกมาดูปลา สนใจปลาปากกว้างตัวนั้นจึงถามราคาว่า
" ปลาตัวนี้ราคาเท่าไหร่จ้ะ "
" ผมขายให้ ๒๘ บาทละกันครับ " ชาวประมงตอบ

เขาจึงซื้อปลาตัวนั้นไปมอบให้ภรรยาปรุงอาหาร พอภรรยาผ่าท้องปลาเท่านั้นก็พบถุงเงินจึงมอบให้เขา
เขาเปิดดูเห็นตราประทับห่อของตนก็จำได้ จึงนั่งคิดแปลกใจอยู่คนเดียวว่า
" แปลกจัง ชาวประมงร้องขายปลาให้คนอื่น ๑,๗๐๐ บาท แต่ขายให้เราเพียง ๒๘ บาท เราได้เงินคืนมาเพราะอะไรหนอ "

ขณะนั้น เทวดาได้ปรากฏร่างยืนอยู่ในอากาศพูดว่า
" เราเป็นเทวดาประจำแม่น้ำคงคา ท่านให้อาหารปลาวันนั้นแล้วอุทิศส่วนบุญแก่เรา
เราจึงขอมอบทรัพย์แก่ท่านคืน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแผนการณ์ของน้องชายท่านเอง ชื่อว่าความเจริญย่อมไม่เกิดแก่คนผู้มีจิตคิดร้ายผู้อื่น "

แล้วได้กล่าวคาถาว่า
" ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์สมบัติของพี่น้องและของพ่อแม่
ผู้นั้นจัดว่าเป็นผู้มีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดาก็ไม่นับถือเขา "

กล่าวคาถาจบก็หายร่างไป




นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
ผลบุญกุศลช่วยให้ผู้มีจิตไม่ประทุษร้ายได้รับของคืน แม้เทวดาก็สรรเสริญยกย่อง

ที่มา :ที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๒ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย) : เว็บไซด์ธรรมะไทย dhammathai

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 04:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ ครับ :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ สาธุ สาธุ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 21:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




nt116.gif
nt116.gif [ 32.88 KiB | เปิดดู 9892 ครั้ง ]
ฆ่ายุง

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จจาริกไปในหมู่ชนชาวมคธ ทรงปรารภพวกชาวบ้าน

ที่เป็นคนพาลในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพ่อค้าชาวเมืองพาราณสีคนหนึ่ง ไปค้าขายที่แคว้นกาสี

ในระหว่างทำการค้าขายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ได้เห็นนายช่างไม้หัวล้านคนหนึ่งกำลังถากไม้อยู่

ในขณะนั้นยุงได้มาจับที่หัวของเขา

เขาจึงเรียกลูกชายที่นั่งเล่นอยู่ใกล้ๆว่า

" ไอ้หนู ยุงมันกัดหัวพ่อ เจ้าจงฆ่ามันเสีย "


ลูกบอกว่า

" พ่อ อยู่นิ่งๆนะ ผมจะฆ่ามัน ด้วยการตบครั้งเดียว "


พูดพลางก็เงื้อขวานเล่มใหญ่อันคมกริบ ยืนอยู่ข้างหลังพ่อ แล้วฟันลงบนหัวพ่ออย่างเต็มเหนี่ยว

ด้วยคิดว่าจะฆ่ายุง นายช่างไม้ได้ถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง

พ่อค้าเห็นเหตุการณ์นั้นแล้ว จึงกล่าวเป็นคาถาว่า

" ศัตรูผู้มีความรู้ประเสริฐกว่า ส่วนมิตรผู้ไร้ปัญญาไม่ประเสริฐเลย

เพราะลูกชายผู้โง่เขลา คิดว่า จักฆ่ายุง กลับผ่าหัวของพ่อเสีย "




นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
ผู้ไม่มีปัญญา มักนำความฉิบหายมาให้

ที่มา :หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๑ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย) : เว็บไซด์ธรรมะไทย dhammathai

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2009, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงแล้วลานธรรมจักรแห่งนี้ก็มี ครบทุกมุม ทุกรสเลยนะครับ

ในแต่ละมุมก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

ขออนุโมทนาด้วยครับ ผมปกติไม่ค่อยชอบนิทานไม่ค่อยชอบชาดก
แต่ก็พออ่านได้ นานๆอ่านทีก็ดูดีครับ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับนิทานชาดกครับ
ธรรมะสวัสดีครับ


:b8: :b1: :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้รับประโยชน์มากมาย :b20: :b20:
ขอบคุณมากกับเรื่องดีๆนะค่ะ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2009, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 20:12
โพสต์: 791

แนวปฏิบัติ: พุทโธและสัมมาอรหัง
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ใต้ร่มโพธิญาณ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพิ่งไปให้อาหารปลามา อิ่มบุญมาก

.....................................................
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จนิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายและพระบารมีขององค์พระสมณะโคดมบรมครู ขอได้ส่งพลังมายังตัวข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บและสรรพเคราะห์ทั้งหลายในกายของข้าพเจ้า จงหายไปสิ้นทั้งหมดขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 14:18
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับนิทานดี ๆ นะคะ
สาธุ สาธุ สาธุ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




1213591741.jpg
1213591741.jpg [ 20.87 KiB | เปิดดู 9509 ครั้ง ]
สายซ้อนสุดท้ายแห่งชีวิต

ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
'จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง'
'กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย'
'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง'
'ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ'

ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
'เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ

แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน' 'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'
'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย' 'วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง' 'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น 'ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'
'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ

'และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'

หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม

ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต

ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา

โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ

คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ

คนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหา ผม

'และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'

ในบางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม

หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลาย ๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น

หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเ ราเอง
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'

ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว



อ้างอิง :
จากเว็ปไซด์ Deedeejang


คุณครูสั่งให้เขียนเรียงความเรื่องแม่ฉัน
บอกให้ส่งให้ทันวันพรุ่งนี้
มันยากจังทำไม่ใหวหนูแม่ไม่มี
แล้วจะเขียนให้ดียังไง

เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแลก็ไม่คุ้น
กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม
พร้อมหน้ากันทานอาหารเคยมีแค่ฝันไป
ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี

ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอนไม่เคยอุ่นใจ
นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที
ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้
บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา

ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน
ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี

เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแลก็ไม่คุ้น
กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม
พร้อมหน้ากันทานอาหารเคยมีแค่ฝันไป
ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี

ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอนไม่เคยอุ่นใจ
นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที
ไม่มีอะไรจะเขียนให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้
บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำตา

ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน
ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี

ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน
ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี

ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน
ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี

ถ้าแม่ฟังอยู่ไม่ว่าแม่อยู่ไหน
ไม่ว่าแม่เป็นใครช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าแม่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ
หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นเด็กดี


http://www.tlcthai.com/webboard/music_p ... t_id=26992

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณน้ำ

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีดี
สำหรับผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก..เหมือนแม่ของเรา
ซาบซึ้งค่ะ

อย่าลืมทดแทนพระคุณท่าน...ก่อนที่จะสายเกินไป

ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




403px-Breastfeeding_infant.jpg
403px-Breastfeeding_infant.jpg [ 30.41 KiB | เปิดดู 9445 ครั้ง ]

อ่านเรื่องนี้เศร้าใจทุกครั้งเลยค่ะ ...

เรายังโชคดีที่ยังมีแม่อยู่ ... บางครั้งอาจมีบ้างที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับแม่ ..

แต่ก็อดทนค่ะ ไม่เคยต่อปากต่อคำกับแม่ นิดเดียวไม่เคยคิดจะต่อปากกับแม่ นั่งเงียบตลอด

แต่เด็กเหล่านี้ .. บ้านราชวิถี ... แม้แต่จะได้กอดแม่ เขาก็ไม่เคยได้กอด ...

ฟังเพลงนี้ทีไร .. น้ำตาซึมทุกทีค่ะ ... สงสารน้องๆ ...

แล้วแบบนี้ถ้าเราไม่ดีกับแม่ให้มากๆ น่าอายน้องๆเขามากๆเลยนะคะ ...

ทุกวันนี้พยายามทำความดีเพื่อแม่ค่ะ เผื่ออนิสงฆ์ผลบุญจากการตั้งใจกระทำความดีนี้

ส่งผลให้ชีวิตของแม่ในปัจจุบันและบั้นปลายของชีวิต พบแต่ความสุข

แค่นี้ก็ดีใจสุดๆแล้วค่ะ :b12:

รักแม่จัง

Love Mom

ซารางเฮโย

เฌอแตม

ดิอาโม

คิมมิโอะ ไอชิเตรุ


.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 15 ก.ค. 2009, 19:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2009, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled04.bmp
untitled04.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9269 ครั้ง ]
untitled03.bmp
untitled03.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9264 ครั้ง ]
untitled04.bmp
untitled04.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9255 ครั้ง ]
untitled03.bmp
untitled03.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9253 ครั้ง ]
untitled05.bmp
untitled05.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9247 ครั้ง ]
untitled03.bmp
untitled03.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9244 ครั้ง ]
untitled05.bmp
untitled05.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9234 ครั้ง ]
untitled03.bmp
untitled03.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9223 ครั้ง ]
untitled05.bmp
untitled05.bmp [ 225.05 KiB | เปิดดู 9216 ครั้ง ]

เมื่อหนูน้อยผู้น่ารักมี คุณแม่เป็นกราฟฟิกดีไซน์..

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2009, 10:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


น่ารักมากค่ะ...คุณวลัยพร

ขอบคุณนะคะ...สดชื่นจังตอนเช้า
สบายดีนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 14:30
โพสต์: 13

แนวปฏิบัติ: ดูจิต และ ดูลม
สิ่งที่ชื่นชอบ: เสียดาย..คนตายไม่ได้อ่าน ของ คุณดังตฤณ
ชื่อเล่น: แมงปอ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ สาธุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร