วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 12:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมยังปล่อยให้เปรี้ยวอยู่ล่ะครับ :b34:

ที่ ban นี้คือ ban "ฉายา"
หรือว่าแบน "ตัวบุคคล" กันละครับ

ความจิงผมไม่เดือดร้อนหรอกนะครับ
แค่โปรดคิดถึงคนที่เขากำลังร้อนใจ วิ่งมาหาธรรมะ

ผมคิดว่า กระทู้อะไรก็ตามที่พูดถึงนิพพาน
พูดว่าตัวเองรู้จักนิพพานอะไรทำนองนี้
ลบทิ้งให้หมด ไม่ให้พูด พูดทำซากอะไร


ไม่ว่าจะประเภทยกพระไตรปิฏก หรือยกอะไรมาก็ตาม
ถ้าพูดถึงนิพพานก็ลบไปเลย ประสาทหรือเปล่า เที่ยวมาอธิบายนิพพาน
คนที่เขารู้เขาไม่พูดหรอก ของอย่างนี้มาพูดแล้วคนฟังได้อะไร?
คนฟังไม่ได้อะไรหรอก แต่คนพูดได้ เพราะได้สนองตันหาตังเอง
สนองตัวกูของกูว่ากูรู้กูแน่ไปวันๆ หาประโยชน์อะไรกับใครไม่ได้เลย

ตาพลศักดิ์นี่ก็เหลือเกิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


มารเอ๋ย!!!


เจ้ายุยงส่งเสริมให้คนดีทำชั่วในทุกเว็บเลยนะ เว็บพลังจิตเจ้าก็เข้าไปครองอำนาจแล้ว

คนวิ่งหาธรรม ผมก็ให้ธรรม คนวิ่งหาเรื่อง เจ้าก็เอาเรื่องมาให้เขา

ศาสนาพุทธไม่พูดถึงนิพพาน ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราชาวพุทธทั้งหมด จะพูดถึงเรื่องอะไร เรื่องกินเหล้า เคล้านารี ใช่ไหมจ๊ะท่านเสี่ยวอีสาน ที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าในเว็บไซเบอร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 18:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมใดถ้าออกมาจากผู้ที่มีกิเลสในหัวใจธรรมนั้นย่อมเอนเอียงทั้งรักและชัง ชอบเป็นตาสว่าง ไม่ชอบเป็นมาร นี่ละจะไปมีธรรมสูงสุดได้อย่างไร คุณบอกว่าคุณยังไม่ถึง แล้วจะมาพูดภูมิธรรมพระอรหันต์ได้อย่างไร มันจะมีแต่ทำให้คนหลงไปซะเปล่า

เพราะว่าทะเลมีรสเดียวคือเค็มฉันใด ธรรมก็มีรสเดียวคือวิมุตติฉันนั้น

ธรรมที่ผิด ผู้ที่ปฎิบัติถึงย่อมรู้ ภูมิจิตที่ไม่ถึงก็จะพูดให้ถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้

ผู้รู้ตัดสิ้นเข้าสู่นิพพาน


:b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42:

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


:b21: :b21: :b21:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 19:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




166-20060208133037.jpg
166-20060208133037.jpg [ 80.74 KiB | เปิดดู 6439 ครั้ง ]
นิพพงนิพพานอะไรนั่น มันเป็นผลของการปฏิบัติ พูดถึงเหตุคือการปฏิบัติให้ถูกต้องก่อน แล้วก็ปฏิบัติ
ให้ถูกต้องตามหลัก แล้วจุดประสงค์ของการปฏิบัติก็เพื่อกำจัดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ๆ ก็มิใช่ง่าย เหมือนขึ้น
ธรรมาสน์เทศน์ นั่นมันเทศน์หรือพูดให้คนฟัง... ฯลฯ

มีเรื่องเล่าว่า มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง เป็นนักเทศน์ ๆ ได้ไพเราะจับใจ ท่วงทำนองเป็นวรรคเป็นตอน
น้ำเสียงรึก็เพราะกังวานปานนักร้องเสียงอมตะนิรันดร์กาล คนงี้ติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะท่านยกเอา มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ซึ่งเรียกว่าโลกุตรธรรม ๙ มาร้อยเรียงได้กระชับจับใจผู้ฟัง

วันนั้น ท่านก็ขึ้นเทศน์ ผู้ฟังล้นหลามหลากหลาย นั่งพนมมือฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจ ฟังๆแล้วก็ลุกขึ้นไปติดกัณฑ์เทศน์ๆ หนึ่งในจำนวนนั้น คงจะตึงๆ ด้วย ลุกขึ้นไปติดกัณฑ์เทศน์เหมือนกัน แต่ไม่ใช่กะตัง เป็นขวาน
หลังจากเทศน์จบแล้ว ญาติโยมผู้ฟังพาคนสาธุๆๆ เสียงสนั่นไปทั้งศาลา

หลังจากนั้นหลวงพ่อ จึงถามคนที่ติดกัณฑ์เทศน์ด้วยขวานว่า เพราะอะไร หมายความว่ายังไง คืนอื่นใช้ปัจจัย แต่แกใช้ขวาน ชายคนนั้นจึงตอบว่า ...คุณสมบัติของขวาน ถากด้ามคนอื่นได้
แต่ถากด้ามตัวเองไม่ได้ :b32:



อยากรู้ว่า เสียงอมตะนิรันตร์กาลเป็นงัยฟัง

http://www.imeem.com/thaioldies/music/FPBZ0Qdp//

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 มิ.ย. 2009, 21:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
นิพพงนิพพานอะไรนั่น มันเป็นผลของการปฏิบัติ พูดถึงเหตุคือการปฏิบัติให้ถูกต้องก่อน แล้วก็ปฏิบัติ
ให้ถูกต้องตามหลัก แล้วจุดประสงค์ของการปฏิบัติก็เพื่อกำจัดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ๆ ก็มิใช่ง่าย เหมือนขึ้น
ธรรมาสน์เทศน์ นั่นมันเทศน์หรือพูดให้คนฟัง... ฯลฯ

มีเรื่องเล่าว่า มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง เป็นนักเทศน์ ๆ ได้ไพเราะจับใจ ท่วงทำนองเป็นวรรคเป็นตอน
น้ำเสียงรึก็เพราะกังวานปานนักร้องเสียงอมตะนิรันดร์กาล คนงี้ติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะท่านยกเอา มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ซึ่งเรียกว่าโลกุตรธรรม ๙ มาร้อยเรียงได้กระชับจับใจผู้ฟัง

วันนั้น ท่านก็ขึ้นเทศน์ ผู้ฟังล้นหลามหลากหลาย นั่งพนมมือฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจ ฟังๆแล้วก็ลุกขึ้นไปติดกัณฑ์เทศน์ๆ หนึ่งในจำนวนนั้น คงจะตึงๆ ด้วย ลุกขึ้นไปติดกัณฑ์เทศน์เหมือนกัน แต่ไม่ใช่กะตัง เป็นขวาน
หลังจากเทศน์จบแล้ว ญาติโยมผู้ฟังพาคนสาธุๆๆ เสียงสนั่นไปทั้งศาลา

หลังจากนั้นหลวงพ่อ จึงถามคนที่ติดกัณฑ์เทศน์ด้วยขวานว่า เพราะอะไร หมายความว่ายังไง คืนอื่นใช้ปัจจัย แต่แกใช้ขวาน ชายคนนั้นจึงตอบว่า ...คุณสมบัติของขวาน ถากด้ามคนอื่นได้
แต่ถากด้ามตัวเองไม่ได้ :b32:



อยากรู้ว่า เสียงอมตะนิรันตร์กาลเป็นงัยฟัง

http://www.imeem.com/thaioldies/music/FPBZ0Qdp//




สาธุ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรอีกล่ะคุณพลศักดิ์
จะมาอภิญญาตาทิพย์ ตับทิพย์ ไตทิพย์อะไรให้ขายหน้าอีก

บอกกี่ร้อยรอบแล้วว่าผมคือคามินธรรม
ไม่เคยจำแลงแปลงร่างเป็นชื่อไหนอีก เว็บไหนก็ไม่ได้ไปทั้งนั้น


อ้อ..อุ๊ย ลืมไป
ผมลืมไปว่าคุณเป็นคนที่ไม่เคยสนใจว่าใครจะพูดอะไรอยู่แล้ว
เต็มจนกระฉอกอย่างเดียว
ขาออกอย่างเดียว ขาเข้าไม่มี พูดอะไรกับคุณก็เหมือนพูดกับกับก้อนหิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 123


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายครับ


ผมตรงกันข้ามเลยครับ ผมพูดแต่ความจริง และรู้ความลับของฟ้า แต่สิ่งที่ผมพูดออกไป ผู้คนมักไม่ชอบใจ มีแต่สาบส่ง เพราะพวกมารคุมจิตเขาเหล่านั้น

ผมเทศน์ไม่จับใจผู้ฟัง เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับที่ทุกคนเข้าใจ ญาติโยมผู้ฟังพากันสาบส่ง เสียงต่อว่าสนั่นไปในเว็บศาสนา ชื่อ แสงธรรม ใบไม้นอกกำมือ ฯลฯ เป็นชื่อที่มีคนด่าว่ามากที่สุดในเว็บพุทธศาสนา ติดต่อกันตลอดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

แต่ขอให้รู้ไว้ ส่งที่ผมพูดและเขียน เทพพรหมเปรตสัตว์นรกล้วนรู้ว่า เป็นเสียงอมตะนิรันตร์กาล ประกาศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เป็นพระธรรม นาม "สมณะโคดมพระพุทธเจ้า"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




001.gif
001.gif [ 59.26 KiB | เปิดดู 6407 ครั้ง ]
:b23: :b23: :b23:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 22:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
คุณกรัชกายครับ


ผมตรงกันข้ามเลยครับ ผมพูดแต่ความจริง และรู้ความลับของฟ้า แต่สิ่งที่ผมพูดออกไป ผู้คนมักไม่ชอบใจ มีแต่สาบส่ง เพราะพวกมารคุมจิตเขาเหล่านั้น

ผมเทศน์ไม่จับใจผู้ฟัง เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับที่ทุกคนเข้าใจ ญาติโยมผู้ฟังพากันสาบส่ง เสียงต่อว่าสนั่นไปในเว็บศาสนา ชื่อ แสงธรรม ใบไม้นอกกำมือ ฯลฯ เป็นชื่อที่มีคนด่าว่ามากที่สุดในเว็บพุทธศาสนา ติดต่อกันตลอดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

แต่ขอให้รู้ไว้ ส่งที่ผมพูดและเขียน เทพพรหมเปรตสัตว์นรกล้วนรู้ว่า เป็นเสียงอมตะนิรันตร์กาล ประกาศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เป็นพระธรรม นาม "สมณะโคดมพระพุทธเจ้า"



อ่านสำนวนเขียนคุณพลศักดิ์แล้วช่างแหลมคมและลึกล้ำจริงๆ แสดงว่าเข้าถึง แต่เผอิญทีแรกเข้าผิดที่ เลยลึก
ผิดช่องทางที่ควรจะเป็น จึงเป็นอย่างนี้ น่าเสียดายๆ งับ
ตามบายนะครับ คุณมีกระทู้เล่นอีกอันหนึ่งแล้ว ก๊ากกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




001.gif
001.gif [ 59.26 KiB | เปิดดู 6392 ครั้ง ]
แมวขาว ฯ ให้เณรน้อยทำไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 23:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b30: :b30: :b30:

:b32:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


แก้ไขล่าสุดโดย แมวขาวมณี เมื่อ 26 ส.ค. 2009, 16:02, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 00:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


suwichai เขียน:
คุณกรัชกายครับ


ผมตรงกันข้ามเลยครับ ผมพูดแต่ความจริง และรู้ความลับของฟ้า แต่สิ่งที่ผมพูดออกไป ผู้คนมักไม่ชอบใจ มีแต่สาบส่ง เพราะพวกมารคุมจิตเขาเหล่านั้น

ผมเทศน์ไม่จับใจผู้ฟัง เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับที่ทุกคนเข้าใจ ญาติโยมผู้ฟังพากันสาบส่ง เสียงต่อว่าสนั่นไปในเว็บศาสนา ชื่อ แสงธรรม ใบไม้นอกกำมือ ฯลฯ เป็นชื่อที่มีคนด่าว่ามากที่สุดในเว็บพุทธศาสนา ติดต่อกันตลอดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

แต่ขอให้รู้ไว้ ส่งที่ผมพูดและเขียน เทพพรหมเปรตสัตว์นรกล้วนรู้ว่า เป็นเสียงอมตะนิรันตร์กาล ประกาศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เป็นพระธรรม นาม "สมณะโคดมพระพุทธเจ้า"


คุณครับ การกล่าวอ้างธรรมะของพระพุทธเจ้าให้ระวังด้วยนะครับ
แทนที่คุณจะได้บุญ คุณอาจจะตกนรกเสียปล่าวๆ

เท่าที่อ่านผลงานของคุณ พบว่าธรรมะของคุณ มีการใส่ความคิดเห็นของคุณหรือใครก็ตาม ผสมกับหลักธรรมะ มันอาจจะทำคนไขว้เขว ว่ามันคือธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งหมด

ถ้าผมจะแนะนำเรื่องการโพสต์ของคุณนะครับ
ให้คุณโพสเฉพาะส่วนที่เป็นธรรมะล้วนๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ให้อ้างในพระไตรปิฎกด้วยยิ่งดี

สำหรับความเห็นของคุณหรือของใครก็ตามก็ให้ ให้แยกออกมาว่าเป็นความคิดเห็นของคุณหรือคำอธิบายเพิ่มเติม ในตอบกระทู้

อีกเรื่องหนึ่ง ผมเข้าใจว่าคุณก็สนใจในพระพุทธศาสนา
ถ้าคนอื่นเขาสอนเขาเตือนก็หัดฟังไว้บ้างนะครับ
อย่าไปเที่ยวกล่าวหาเขามากเลย

ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนานิพพาน ก็ขอให้เป็นคนที่สอนง่าย รู้จักเหตุ รู้จักผล
รู้จักให้อภัย อย่าไปตอบโต้คนอื่นเลย
แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมารนะครับ

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


........... :b6: :b6: :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีใครที่ไหนจะแก้มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ เป็นต้น ของท่าน...ได้หรอกครับ เสียเวลาเปล่า
เพราะเดิมทีเดียว ท่านภาวนาแล้วเห็นสิ่งนั้นๆ สัมผัสสิ่งนั้นๆ เหมือนจริง จะพูดว่าเห็นนิมิตก็ได้ตามที่เข้าใจกัน (เว็บบอร์ดหนึ่งเห็นเป็นกันไม่ใช่น้อย) เมื่อเขาเห็นสิ่งนั้นๆ ตอนแรกๆ ไม่มีใครแนะนำ...เสียตั้งแต่ต้น เขาจึงหลงยึดสิ่งที่เห็น เสียงได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ ความรู้สึกนึกคิด ว่าเป็นตัวเป็นตน ว่าเป็นความจริง นี่คือผลเสียของผู้ที่ทำการภาวนาในเบื้องต้น
ท่านจึงว่า จะต้องมีผู้รู้แนะนำว่าสิ่งใดแท้ สิ่งใดเทียม สิ่งใดเกิดจากกิเลสหลอนหลอกเอาจนหลง
จนความคิดเห็นผิดนั้นๆ ซึมซาบจนทั่วร่างทั่วจิตใจเขาหมดเหมือนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว
ดังนั้นอย่าไปเสียเวลาว่า ...เลย ไม่มีประโยชน์ เสียเวลาเปล่า
ถึงได้บอกว่าอย่าทำป็นเล่นไป พูดตรงๆ ก็กระทบคนนั้นคนนี้ พูดอ้อมๆ ก็ไม่เข้าใจ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร