น้ำพริกหนุ่ม

ส่วนผสม

งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกหนุ่ม ( หรือจะใช้พริกชี้ฟ้าสดแทนก็ได้ค่ะ ) 5 เม็ด มะเขือยาว 1 ลูก ( หรือจะใช้มะเขือลูกเล็ก มะเขือเปรี้ยว ) กระปิเจ 1 ช้อนชา

เครื่องปรุง

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ย่างพริกหนุ่ม มะเขือ กระปิเจปั้นเป็นลูกกลมๆเผาด้วย

2. ลอกเปลือกพริก มะเขือออก ถ้าไม่ต้องการเผ็ดมาก ก็ดึงเอาไส้พริกออก

3.โขลกกระปิเจ งาขาวคั่ว เกลือป่น กับพริกและมะเขือจนแหลก เติมซีอิ๊วขาว น้ำตาลตามใจชอบ ทานกับผักต่างๆ

คุณเต้คะ

เจ้าแม่กวนอิม เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งน้ำก็เคยเจอกับตัวเองมา ความศรัทธา หากเรามีความศรัทธาในตัวของท่าน ท่านจะมาโปรดกับคนๆนั้นค่ะ

น้ำเองก็เคยมีประสพการณ์กับตัวเองเหมือนกัน สมัยนั้น ยังไม่ได้ปฏิบัติแบบจริงจัง ยังเป็นกรรมฐานจ้ำจิ้มอยู่ เจ้าแม่กวนอิมนี่น้ำก็เคยนิมิตเห็นท่าน ท่านเสด็จมาที่บ่าซ้ายของน้ำ แล้วก็เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่บ่าขว่าของน้ำ อันนี้คือนิมิตนะคะ เพียงเล่าให้ฟังเฉยๆ

เมื่อก่อนน้ำยังทานเนื้อวัวอยู่ เพราะแถวๆบ้านเป็นอิสลาม น้ำอยู่ในหมู่คนอิสลามมาตั้งแต่เกิด ... ช่วงนั้นก่อนปีใหม่ ได้ปักภาพคอสติสให้เถ้าแก่ เป็นภาพที่คุณอมิตาพุทธนำมาโพสน่ะค่ะ

ก่อนที่จะปักก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่า จะปักให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้เถ้าแก่เท่านั้นเอง วันนั้น ไปทำงานอีกที่บริษัทหนึ่ง เขามีอาหารตามสั่ง ก็สั่งผัดกระเพราเนื้อสับราดข้าวใส่กล่อง มาทานที่ห้องทำงาน ก็ไม่ได้คิดอะไร ทานข้าวไป ปักภาพไปด้วย ทานได้แค่หน่อยเดียว มีอาการปวดท้อง ตอนแรกปวดน้อยๆ ก็คิดแค่ว่า สงสัยเพราะผิดเกินไปเลยทำให้ปวดท้อง ก็ยังทานต่อ พร้อมๆกับปักภาพ แป๊บเดียว ปวดท้องมากๆเลยทีนี้ ปวดเหมือนมีอะไรมาบิดไส้เราข้างใน เหงื่อแตกไปหมด จะเป็นลม รู้ตัวเลยว่าจะเป็นลม เพราะเกิดอาการหน้ามืด ตอนนั้นยังไม่เอะใจ ก็พยายามหายใจยาวๆ ตั้งสติไว้ วางภาพปักลง หันไปคว้ายาธาตุน้ำขาวมาทาน ก็ยังปวดไม่หาย หยุดทานข้าวไม่ได้ทานต่อ ก็ยังไม่เอะใจ อาการปวดท้องค่อยยังชั่ว ก็คว้าข้าวมาทนต่อพร้อมๆกับปักภาพไปด้วย คำแรกที่ตักข้าวเข้าปาก พอกลืนข้าวลงท้องปวดท้องมากๆ ปวดแบบบรรยายไม่ถูก เริ่มเอะใจแล้ว ว่าต้องเกี่ยวข้องกับภาพที่กำลังปักอยู่ เลยตั้งจิตอธิษฐานถึงเจ้าแม่กวนอิม ว่าถ้าเป็นเพราะเจ้าแม่จริงๆ จะไม่ทานเนื้อในระหว่างปักภาพ อาการปวดท้องหายเป็นปลิดทิ้งเดี๋ยวนั้นเลย ก็ลองอีก คือ ยังไม่ปักใจเชื่อ พอข้าวเข้าปาก ยังไม่ทันจะกลืนเลย ปวดท้องมากๆ ต้องคายข้าวในปากทิ้ง แล้วยกมือไหว้ บอกว่า เชื่อแล้วค่ะ ช่วงระหว่างปักภาพ เนื้อวัวนี่ไม่แตะเลย ก็คิดว่าคงจบไปแล้ว เพราะไม่ได้ปักภาพแล้วนี่ วันนั้น เดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก็สั่งมาทานปกติ ทานได้เหมือนกัน ทานได้คำเดียว ก็ปวดท้องเหมือนที่เคยปวด แล้วก็ถ่ายท้องเหมือนคนท้องเสีย เอาเป็นว่า แรกๆที่ทำงานไม่เชื่อ ก็แอบเอาเนื้อวัวที่มีสีคล้ายๆเนื้อหมูผัดกับข้าวมาให้ทาน น้ำไม่รู้หรอกว่าหมูหรือเนื้อ เพราะสีเหมือนๆกัน พอทานเข้าไปก็ไม่มีอาการอะไร ทานได้จนหมด พอหมดเท่านั้นแหละ ปวดท้องสุดๆ วิ่งเข้าห้องน้ำ ถ่ายท้องซะเกลี้ยง ก็ต่อว่าเขาว่าทำไมทำอย่างนี้ เขาบอกว่า เขาไม่เชื่อ เพราะเขาไม่เคยเห็น คนไม่กินเนื้อ แต่ดันไม่เหม็นกลิ่นเนื้อ แถมยังบอกว่าหอมเนื้อย่างอีกต่างหาก เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ ทุกวันนี้ ผ่านร้านเนื้อย่าง ก็ยังได้กลิ่นหอม ใหม่ๆอยากทานมากๆ แต่รู้ว่าทานไม่ได้ ได้แต่กลืนน้ำลาย กลัวปวดท้องมากกว่า เดี๋ยวนี้เริ่มชินๆกับกลิ่น แต่ก็ยังได้กลิ่นหอมของเนื้อย่างอยู่ ไม่เหม็นเหมือนคนอื่นๆเขา เชื่อไหมคะว่า เป็นคนไม่ทานเนื้อ แต่ไม่เหม็นกลิ่นเนื้อวัว

ก็เหมือนที่เคยเล่าให้ฟัง ตอนที่ว่าไปรับธรรมะ เขาจะมีพิธีเปิดฟ้าดิน อะไรประมาณนี้ คนตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมเขาถึงมาเลือกน้ำเป็นหนึ่งใน 3 คน ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ให้เป็นคนอัญเชิญเทพลงมา ซึ่งทางนั้นเขาบอกว่า เบื้องบนเขาเลือกน้ำ ก็เป็นเรื่องที่แปลกดี มีแต่คนอยากเป็นคนเชิญเทพ ทั้งๆที่เป็นคนแถวนั้นแท้ๆกลับไม่ได้ ..

ก็เล่าสู่กันฟังค่ะ .. แล้วแต่ความศรัทธาและความเชื่อของแต่ละคน สำหรับตัวน้ำเอง เจอเรื่องแปลกๆจนเริ่มจะชินแล้วค่ะ

เย็นนี้ทำ น้ำพริกหนุ่ม ทานดีกว่า

ลองถามอาวุโส ที่สถานธรรมแล้วน่ะครับ ท่านบอกยังไม่เคยเห็นภาพที่ คุณเต้เล่าให้ฟัง
บางทีอาจจะมีการแจกจ่ายเฉพาะที่มาเลเซีย น่ะครับ

คุณอมิตาพุทธพูดถึงน้ำพริกหนุ่ม
ทำเอาผมน้ำลายสอเลยครับ
อย่าลืมทานเพื่อชาวลานด้วยนะครับ

ทานเผื่อเรียบร้อยแล้วละครับ ท่าน วรานนท์
ทานไป น้ำตาไหลไป เพราะมันเผ็ด

น้ำพริกตาแดง

ส่วนผสม

พริกแห้งเม็ดใหญ่ 20 เม็ด กะปิเจ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ( ใส่ทีละน้อยก่อนนะคะ อย่าใส่ทีเดียว เดี๋ยวจะเค็มเกินไป เสียของค่ะ ) น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1.ย่างพริกแห้งพอหอม อย่ให้ไหม้ ถ้าไม่ต้องการให้เผ็ดควรเอาเม็ดออก กะปิเจปั้นเป็นลูกกลมๆเสียบไม้ย่าง

2.โขลกพริก กะปิ เกลือป่น ให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายและน้ำต้มสุก จะได้น้ำพริกตาแดงซึ่งเก็บไว้รับประทานได้หลายสัปดาห์

หมายเหตุ

ถ้าไม่มีกะปิเจ ให้ใช้เต้าหู้ยี้แทนได้ สำหรับทางภาคเหนือนิยมใช้ถั่วเหลืองหมักที่ทำเป็นแผ่นคล้ายข้าวเกรียบ เวลาจะนำมาตำน้ำพริก ต้องย่างไฟให้หอมเสียก่อน ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า ถั่วเน่าแค๋บ

คุณเต้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 12 เมษายน เป็นต้นมา ได้ส่ง อีเมลมาหาผมหรือเปล่าครับ
คือ ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน อีเมลผมมีปัญหา ไม่สามารถเข้าใช้งานได้เลย
เพราะไปเปลี่ยนประเทศที่ตั้งใหม่

คือมีช่วงหนึ่ง นานมากแล้วที่ทาง ไมโครซอฟท์ เขาจะให้พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ ถ้าหากผู้ใช้
อยู่แถบอเมริกา ด้วยความที่อยากได้พื้นที่เยอะ ก็เลยไปเปลี่ยนที่อยู่เป็นอเมริกา
เมื่อวันที่ 12 ก็อยากจะเปลี่ยนที่อยู่ให้มาอยู่ ประเทศไทย พอเปลี่ยนได้แค่ 2 วัน
มันก็มีปัญหาเลย แย่มากๆ

ตอนนี้ก็เลยต้องกลับมาใช้อีเมลตัวนี้ namo.amitabha@hotmail.com เหมือนเดิม

มีค่ะ....มีให้คุณสอนเราเรื่องจะส่งVCDให้คุณดูจะทำยังไง
แล้วก็เรื่องเพลงที่เราMailให้คุณ....เราให้คุณช่วยทำเพลงนั้น
ลงที่อาหารเจเป็นทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายร้องทั้ง2เพลงน่ะค่ะ
เพราะเพลงนั้นจะเป็นเพลงเกี่ยวกับการทานเจ
ถ้าเป็นเพลงบรรเลง....ก็ใช้เวลานั่งสมาธิ....จะมีความรู้สึกว่าจิตจะนิ่งได้ดี
จริงๆแล้วเพลงนี้....เราเคยมีเป็นแผ่นVCD....แต่เพื่อนยืมไปดู
แล้วไม่เห็นส่งคืนให้เรา.....เราก็เลยไม่กล้าถาม
ถ้าดูมิวสิคของเค้าแล้ว......ถ้าเป็นผู้หญิงดูต้องร้องให้แน่ๆ
ขนาดเพลงคนแก่ๆฟังยังต้องนั่งเช็ดน้ำตาเลย
คุณอมิตาพุทธฟังแล้วรู้สึกยังไงบ้างค่ะ
เรามี VCDเกี่ยวกับเรื่องการสวดมนต์เยอะค่ะ
ดีๆทั้งนั้นเลยเราก็เลยอยากจะให้ทุกๆท่านได้ดูบ้าง

ีนาซีลูม่าเจ(ข้าวมุสลิม)

วิธีทำ
นำข้าวสารมาล้างให้สะอาดใส่ตะแกลงพักไว้
นำกะทะตั้งไฟใส่น้ำมันเล็กน้อย
ใส่ตะไคร้ที่ทุบแล้ว2ต้น.....แล้วก็ขิงหั่นเป็นแว่นๆประมาน5ชิ้น
นำไปผัดกับน้ำมัน....พอหอมแล้วใส่ข้าวที่ล้างไว้ไปผัดใส่เกลือนิดหน่อย
ผัดไฟอ่อนๆจนรู้สึกว่าข้าวแห้งๆไม่เกาะกัน
นำข้าวใส่หม้อหุงข้าวนำน้ำกะทิ(ไม่ต้องใช้หัวกะทิเพราะข้าวจะมันเกินไป)
ใส่ตามพอสมควรเหมือนเราหุงข้าวน่ะค่ะ
พอข้าวสุกแล้วก็ตักข้าวใส่จาน
แล้วก็ใส่น้ำพริกตาแดงเจ...หรือน้ำพริกเผาเจ
ข้างๆจานใส่ถั่วลิสงทอดใส่เนื้อแดดเดียวเจ
ใส่แตงกวาก็ทานได้เลยค่ะ
ถ้าอยากจะดูให้สวยต้องแต่งเองค่ะ

ถ้ายังงั้นรบกวนส่งอีเมลมาใหม่ได้ไหมครับ เพราะผมเข้าไปอ่านอีเมลไม่ได้เลย
ส่งมาตามเมลตัวข้างบนน่ะครับ

น้ำพริกมะขามสด

มะขามสดล้างสะอาด ผ่าสองตามยาว แกะเอาเม็ดทิ้ง ( ยิ่งได้มะขามอ่อนๆยิ่งดีค่ะ ) 1/2 ถ้วย โปรตีนเกษตรทอด 1/2 ถ้วย กะปิเจ 1 ช้อนโต๊ะ งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด พริกชี้ฟ้าเขียว 3 เม็ด พริกขี้หนู 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย เห็ดฟางสับ 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนชา

วิธีทำ

โขลกมะขาม กะปิ และงาขาวคั่วเข้าด้วยกัน พริกชี้ฟ้าตัดเป็นเม็ดๆละ 3-4 ท่อน ใส่ลงครกโขลกเข้าด้วยกัน แล้วใส่โปรตีนเกษตรตำจนป่นเข้ากันดี น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟพอร้อนจัด ใส่เห็ดฟางผัดให้สุกแล้ว จึงใส่น้ำพริกที่โขลกไว้แล้ว ผัดต่อไปประมาณ 5 นาที ใส่ซีอิ๊ว น้ำตาล พริกขี้หนู รับประทานกับผักสด

ขอให้มีความสุขกับการรับประทานน้ำพริกนะคะ

เอ่อ...คุณผู้หญิงครับ...ที่บ้านผมยังขาดแม่บ้านครับ...

คุณคิดให้ลึกๆหน่อยนะครับคุณ โพธิ์ใบเดี่ยว ก่อนจะวู่วามหลวมตัว
เผลอใจอะไรลงไป

คิดดูเถอะครับ หากสาวแฉล้มคนหนึ่ง เธอเลิกกินเนื้อวัว
ต่อมาเธอก็คงต้องหันมาเพิ่มส่วนอันเป็นเนื้อหมู เข้ามาทดแทน
เนื้อวัวที่หายไป

และหนำซ้ำเธอแสนจะสารพัดรู้ในเรื่องอาหาร ชนิดที่ผู้หญิงคนหนึ่ง
ยากที่จะเกิดมาแล้วรู้มากเช่นเธอได้

หากชีวิตเธอนี้ผูกพันธ์กับน้องหมู และใส่ใจในเรื่องอาหารแบบเป็นพิเศษ
ก็เป็นที่เชื่อได้ว่า รูปลักษณ์ของเธอต้องเดินตามรอยของน้องหมูเป็นแน่แท้


ท่านจงอย่าเอาชีวิตมาเสี่ยง ด้วยการยั่วตบะของเธออีกเลย
หากเธอตบะแตกมาวันไหน ก็คงเป็นวันที่อาจสายเกินไปที่ท่านจะถอนตัว


สุดแสนจะหวังดี..........ครับกระผม

คุณบัวแสนกล ... ท่าทางจะเจอแบบนั้นมากระมังคะ


ขออภัยด้วยค่ะ ถ้าข้อความไปละเมิดถึงคนที่บ้าน

คุณน้ำค่ะ...ตอนนี้ใกล้จะทำบ่ะจ่าง(เปาจ้งจื่อ)แล้วค่ะ
ที่เมืองไทยใส่ใส้อะไรบ้างค่ะ....ที่แทนเนื้อสัตว์น่ะค่ะ
อ้อ!แ้ล้วอีกเรื่องค่ะฟองเต้าหู้
นี่นอกจากจะทำเป็ดย่างเจแล้วยังนำมาทำอะไรได้อีกค่ะ