วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 03:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


นิสรีนเป็นหญิงสาววัยแรกแย้ม
หากเปรียบไปแล้วก็เหมือนดั่งดอกไม้ตูมที่กำลังเริ่มผลิบาน
นิสรีนเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผิวของเธอขาวนุ่มดุจหิมะในฤดูหนาว
และผมยาวสลวยของเธอนั้นมีสีดำเงางามดั่งไม้มะเกลือ
นอกจากความงดงามในรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว
นิสรีนยังมีกริยามารยาทที่งดงามน่าเอ็นดูสมเป็นกุลสตรี
และมีจิตใจเมตตากรุณาแก่ทุกคน
ดังนั้นเธอจึงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่
และรวมไปถึงเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านเดียวกันอีกด้วย

อยู่มาวันหนึ่งขณะที่กำลังเก็บดอกไม้อยู่ในสวนตามลำพัง
นิสรีนเกิดความรู้สึกว่าตนเองหายใจขัดและเจ็บหน้าอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง
เด็กสาวเจ็บปวดทรมานมากจนแทบจะยันกายยืนไว้ไม่ไหว
แต่ด้วยความเข้มแข็งที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในใจ
และความคิดถึงที่มีต่อพ่อกับแม่มากในตอนนั้น
ทำให้นิสรีนแข็งใจพาร่างของตนเดินกลับไปถึงบ้านได้ในที่สุด

พ่อกับแม่ของนิสรีนรีบเชิญหมอประจำหมู่บ้าน
มาตรวจดูอาการของบุตรสาวทันที
หมอประจำหมู่บ้านใช้เวลาตรวจอยู่สักครู่ ก็ออกมารายงานผลการตรวจ
ซึ่งทำให้พ่อกับแม่ของเด็กสาวแทบจะล้มทั้งยืน

“ข้าเสียใจด้วย นิสรีนน้อยมีปัญหาที่หัวใจ
และเธอคงจะอยู่กับเราได้ไม่นาน”

“ไม่ มีวิธีใดรักษาลูกสาวข้าให้หายได้เลยหรือท่านหมอ
แม้จะต้องใช้เงินทองมากมายเพียงไรข้าก็จะหามาให้ท่าน
ขอเพียงท่านช่วยชีวิตลูกสาวของข้าให้ได้เท่านั้น”
พ่อของนิสรีนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“ข้าเสียใจด้วย จริงๆ ตอนนี้เรายังไม่มีวิธีรักษาโรคหัวใจให้หายขาดได้หรอก
โธ่..... นิสรีนน้อยผู้น่าสงสาร หากมีวิธีใด
ที่ข้าจะช่วยลูกสาวของท่านได้ข้าไม่รอช้าแน่” หมอประจำหมู่บ้านให้คำมั่น
แต่ทว่าเป็นคำมั่นที่แลดูเศร้าสร้อยมาก

พ่อกับแม่ไม่ได้ปิดบังความจริงแก่นิสรีน
เพราะคนในครอบครัวนี้ไม่เคยกล่าวเท็จแก่กัน
นิสรีนนั่งฟังเรื่องเกี่ยวกับโรคร้ายของเธออย่างสงบ
แล้วแย้มยิ้มกับพ่อและแม่เพื่อให้ทั้งสองคลายกังวลว่า

“อย่ากังวลไปเลยจ้ะ พ่อจ๋าแม่จ๋า ลูกไม่เป็นไรหรอก
ได้รู้ความจริงอย่างนี้ก็ดีแล้ว ลูกจะได้ใช้เวลาที่เหลือในแต่ละวันของลูก
ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด”

แม้จะไม่มีวิธีรักษาโรคหัวใจของนิสรีนให้ หายขาด
แต่นิสรีนก็ต้องไปพบหมอประจำหมู่บ้านที่โรงหมอ
เพื่อรับยาบรรเทาอาการปวดทรวงอกมากินทุกวัน
อันเป็นวิธีรักษาเพียงวิธีเดียวในตอนนี้
ที่หมอประจำหมู่บ้านจะช่วยเหลือเยียวยาเธอได้

อยู่มาวันหนึ่งขณะที่นิสรีนกำลังรอรับยาในโรงหมออยู่นั้น
ชายคนหนึ่งท่าทางยากจนได้อุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ
เข้ามาในโรงหมอเพื่อรอรับการรักษา
เมื่อเด็กหญิงคนนั้นเห็นนิสรีนก็ส่งยิ้มให้อย่างไรเดียงสา
นิสรีนยิ้มตอบอย่างใจดี แต่ก็แอบจับสังเกตได้ว่า
เด็กคนนี้ตัวเล็กและผอมเซียวผิดจากเด็กทั่วๆ ไป
และสีหน้าของพ่อเธอก็ดูอมทุกข์และเศร้าสร้อยมาก
นิสรีนจึงนึกสงสัยว่าเด็กน้อยคนนี้เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายอันใดหนอ

“ขอโทษนะคะ คุณน้า” นิสรีนกล่าวขึ้นกับพ่อของเด็กหญิง
หลังจากที่เขาปล่อยให้ลูกสาวไปวิ่งเล่นกับเด็กคนอื่นอยู่ในบริเวณนั้น
“ไม่ทราบว่าลูกสาวของคุณน้าป่วยด้วยโรคอะไรหรือคะ
จึงทำให้คุณน้าดูเศร้าสร้อยถึงเพียงนี้”

ชายผู้นั้นหันมามองนิสรีนด้วยแววตาเศร้าหมอง
ก่อนจะตอบว่าอย่างไร้กำลังว่า

“น้ามียาย่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว
เมื่อปีที่แล้ว แม่ของแกเพิ่งป่วยตายไป หลังจากนั้นอีกสามเดือน
น้าก็พบว่ายาย่าป่วยด้วยโรคเนื้อร้าย
ที่ยากจะรักษาได้และต้องรอความตายเพียงอย่างเดียว”

“แต่พอมีทางรักษาได้ไม่ใช่หรือคะ
ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แกต้องหายแน่”
นิสรีนให้กำลังใจ แต่ชายผู้นั้นกลับมีสีหน้าทุกข์ระทมยิ่งกว่าเก่า

“ไม่ หรอกหนู...ที่ประเทศของเรายังไม่มีหมอรักษาโรคนี้เลย
ดังนั้นยาย่าจะไม่มีวันหายหรอก
หากไม่ได้เดินทางไปรักษายังประเทศตรงโพ้นทะเลโน้น
และนั่นต้องใช้เงินมากทีเดียว ตัวน้าเองก็เป็นเพียงช่างทำรองเท้า
จะเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนเล่า”

นิสรีนรู้สึกสงสาร ช่างทำร้องเท้าและลูกสาวของเขาเป็นกำลัง
เธอเก็บเอาเรื่องนี้มานอนคิดที่บ้าน
และอยากหาทางช่วยเหลือให้เด็กคนนี้ได้รับการรักษา
แม้ครอบครัวของนิสรีนจะจัดได้ว่าเป็นครอบครัวผู้มีอันจะกินครอบครัวหนึ่ง
แต่ทรัพย์สมบัติในครอบครัวเธอก็คงไม่พอที่จะช่วยให้เด็กน้อยยาย่า
ได้รับการรักษายังโพ้นทะเลได้
อีกประการหนึ่ง เธอก็ไม่อยากรบกวนทรัพย์สมบัติของพ่อและแม่มากเกินไป
เพราะอยากให้ทั้งสองได้ใช้สมบัติที่มีเลี้ยงดูตนเองให้อยู่ดีกินดีจนชั่วชีวิต
แทนตัวเธอที่คงไม่มีโอกาสอยู่ดูแลพ่อแม่ไปจนแก่เฒ่า

นิสรีนหมกมุ่นครุ่นคิดถึงวิธีช่วยเด็กน้อยอยู่หลายคืน
จนกระทั่งคืนหนึ่งเธอก็คิดได้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเด็กคนนี้
โดยไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่นมากนัก เมื่อคิดได้ดังนั้น
นิสรีนจึงแจ้งความคิดนี้ต่อพ่อและแม่ของเธอในทันที


:b51: :b52: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 15:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


“ลูกตัดสินใจว่าจะวิ่งไปทั่วประเทศ ผ่านทุกเขตการปกครอง
ผ่านทุกหมู่บ้าน เพื่อขอรับเงินบริจาคมาช่วยยาย่าผู้น่าสงสาร
ให้ได้เดินทางไปรักษายังโพ้นทะเล”

พ่อกับแม่ของนิสรีนตกใจมาก ต่างพากันทัดทานเป็นการใหญ่

“ลูกกำลังเจ็บป่วยมากนะ ลืมไปแล้วหรือ...ลูกรัก
พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ลูกไปเสี่ยงชีวิตแบบนั้นหรอก”
พ่อของนิสรีนกล่าวกล่าวแก่บุตรสาว
แต่ตัวเธอนั้นมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนอื่นจนมองข้ามตัวเองไปนานแล้ว

“พ่อ จ๋า...ลูกไม่มีวันลืมหรอกว่าลูกกำลังป่วยหนัก และกำลังจะตาย
แต่เพราะเช่นนี้อย่างไรเล่า ลูกจึงอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ของลูก
ทำสิ่งที่ดีที่สุดก่อนที่ลูกจะตาย โรคร้ายของลูกนั้นไม่มีทางรักษา
แต่โรคร้ายของเด็กคนนั้นอาจหายได้ก็ได้หากเขาได้รับโอกาสนะจ้ะ”
นิสรีนกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...มันจะ ไม่เสียแรงเปล่าหรือลูก
ลองคิดดูสิว่าจะมีใครให้เงินลูกสักกี่มากน้อย
เขาจะเชื่อหรือว่าลูกทำไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
ไม่ใช่หลอกเอาเงินเขาไปใช้เอง
ในเมื่อเขาก็ไม่รู้จักลูกสักหน่อย” แม่ของนิสรีนว่า

ลูกไม่รู้หรอกจ้ะแม่ ว่าสิ่งที่ลูกทำจะประสบความสำเร็จแค่ไหน
ลูกอาจจะได้รับเงินบริจาคกลับมามากมาย
หรืออาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย
แต่ลูกก็เชื่อว่าความตั้งใจของลูกจะส่งผลดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หรืออย่างน้อยเมื่อลูกตายไปแล้ว
ดินแดนแห่งความสุขหลังความตาย
จะได้อ้าแขนรับลูกอย่างเต็มใจอย่างไรล่ะจ้ะ”

เมื่อไม่อาจเปลี่ยนจิตใจอันแน่วแน่ของบุตรสาวได้
พ่อกับแม่ของนิสรีนจึงเปลี่ยนทัศนคติ
แล้วหันมาสนับสนุนสิ่งที่เธอทำอย่างเต็มที่
พวกเขาทำแผนที่เส้นทางการเดินทางในประเทศให้แก่นิสรีน
จ้างม้าข่าวไปกระจายข่าวยังหมู่บ้าน และเขตการปกครองต่างๆ
ให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อให้การวิ่งรับเงินบริจาคของนิสรีนบรรลุผลมากที่สุด

นิสรีนเริ่มออกวิ่งตามลำพังไปยังที่ต่างๆ ตามแผนที่ที่พ่อกับแม่ทำไว้ให้
ระหว่างทางเธอได้พบเจอผู้คนมากมาย
และได้พูดคุยกับคนเหล่านั้นอย่างมีอัชฌาสัย
ถึงเหตุผลที่เธอต้องวิ่งรอบประเทศเพื่อหาเงินบริจาค
ทำให้ผู้คนที่ได้พูดคุยกับนิสรีนรู้สึกชื่นชมในน้ำใจของนิสรีนยิ่งนัก
จึงยินยอมมอบเงินบริจาคให้ด้วยความจริงใจ
อีกทั้งยังไปชักชวนเพื่อนๆ และคนรู้จักให้มาบริจาคกับเธออีกด้วย

การกระทำของนิสรีนเป็น เรื่องที่พูดกันปากต่อปาก
และแพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ทุกคนเฝ้ารอการมาถึงของเธอและบางคนก็ขอวิ่งไปเป็นเพื่อนเธอด้วย
ดังนั้นนิสรีนจึงได้รับเงินบริจาคเพิ่มมากขึ้นทุกที
และได้เพื่อนร่วมเดินทางเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ต่อมาเรื่องนี้ ก็ได้แพร่เข้าไปโจษจันถึงในมหาปราสาท
จนความทราบไปถึงเจ้าผู้ครองประเทศ
จ้าวผู้ครองประเทศจึงสั่งให้ทหารไปสืบสาวความจริงเกี่ยวกับนิสรีน
และการวิ่งขอเงินบริจาคของเธอ เมื่อรู้เรื่องทั้งหมด
จ้าวผู้ครองประเทศได้กล่าวชื่นชม นิสรีน
จากนั้นจึงมีคำสั่งให้กองทหารองครักษ์สามคนร่วมเดินทางไปด้วย
เพื่อคุ้มครอง นิสรีน และให้ความช่วยเหลือเธอตามความเหมาะสม
นอกจากนั้นยังสละเงินส่วนตัวจำนวนมาก
บริจาคให้แก่การเดินทางของนิสรีนอีกด้วย

หลายคนคิดว่าเงินที่นิสรีนหาได้ตอนนี้น่าจะมากพอแล้ว
สำหรับการรักษายาย่า จึงขอให้เธอหยุดวิ่งด้วยความเป็นห่วงว่า
โรคหัวใจของเธอจะกำเริบแต่นิสรีนยังคงวิ่งต่อไปตามความตั้งใจเดิม
เพราะเธอรู้ว่ายังมีคนอีกมากมาย กำลังรอคอยที่จะทำความดีร่วมไปกับเธอ
ซึ่งความช่วยเหลือจากจ้าวผู้ครองประเทศ
ก็ทำให้การเดินทางของเธอราบรื่นและ รวดเร็วขึ้นมาก
จนกระทั่งการวิ่งขอรับเงินบริจาคของเธอ
ก็สิ้นสุดลงเร็วกว่าเวลาที่คาดหมายไว้

เมื่อนิสรีนนำเงินไปให้พ่อของเด็กหญิงยาย่าซาบซึ้งใจ
จนถึงกับร้องไห้และลงไปนั่งคุกเข่าพร่ำกล่าวคำสรรเสริญเธอด้วยใจจริง
นิสรีนห้ามไม่ให้เขาทำเช่นนั้น และบอกว่า

“ความช่วยเหลือเหล่านี้ไม่ได้มาจากหนูคนเดียว
แต่มาจากทุกๆ คนที่ได้มอบเงินบริจาคมาให้
ด้วยความศรัทธาและความเชื่อมั่นของพวกเขา
พวกเขาอยากให้ยาย่าได้รับการรักษาและมีชีวิตที่สดใสต่อไปค่ะ”

เด็กน้อยยาย่าได้รับการรักษาโรคเนื้อร้ายของเธอยังโพ้นทะเล
พ่อของเธอส่งข่าวมาให้นิสรีนและผู้บริจาคเงินทั้งหลาย
ทราบเป็นระยะๆ ว่า เงินของพวกเขานั้นได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิต
ของยาย่าให้ได้ดีขึ้นมากมายเพียง ไร และหมอบอกว่า
ยาย่ากำลังจะหายจากโรคร้ายได้ในไม่ช้านี้

ส่วน นิสรีนหลังกลับมาจากการวิ่งรับเงินบริจาคช่วยเหลือยาย่าแล้ว
ก็เกิดเหตุการณ์ น่าอัศจรรย์ใจขึ้นเมื่อหมอประจำหมู่บ้าน
มาตรวจเธออีกครั้งแล้วพบว่าหัวใจของ เธอเป็นปกติดี
ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใดดังที่เคยตรวจพบก่อนหน้านี้
สร้างความยินดีให้แก่พ่อแม่และที่รู้จักนิสรีนเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้น นิสรีนสาวน้อยผู้มีหัวใจมุ่งมั่นก็ใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุข
และเมื่อถึงวัยออกเรือน เธอได้แต่งงานกับองครักษ์หนุ่ม
ผู้ที่เคยเข้าร่วมคุ้มครองเธอในการเดินทางครั้งนั้น
และมีลูกๆ ที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูถึงสามคน
............................................

เธอทั้งหลาย...

การมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นนั้นสำคัญมาก
เพราะสิ่งนี้จะสอนให้เธอรู้จักการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
ทำให้เธอไม่เห็นแก่ตัว หรือนึกถึงแต่ความสุขของตนเองเพียงผู้เดียว
คนที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อคนอื่นนั้น
สุดท้ายแล้วจะรู้สึกเป็นสุขยิ่งกว่าอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
แม้จะสูญเสียสิ่งที่เป็นของตนไปให้ผู้อื่นแล้วก็ตาม

จงอย่าตั้งคำถามเลยว่า ทำไปแล้วได้อะไร
เพราะความเสียสละนั้นเป็นสิ่งที่กระทำอยู่บนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ใจ
การเสียสละของเธออาจจะไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ
กระทั่งบางครั้งอาจแลดูสูญเปล่าไปด้วยซ้ำ
หรือเธออาจจะได้รับสิ่งที่ไม่คาดฝันอันแสนวิเศษจากการเสียสละนั้น

ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็ขอให้เธอดีใจไว้เถิดว่า
ในหนึ่งชีวิตที่เกิดมานี้ เธอเป็นคนดีคนหนึ่งที่ทำให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น

.................จบเรื่องหัวใจของนิสรีน.....................


คัดลอกจาก...mimin38
http://larndham.net/index.php?showtopic=24428

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

สาธุครับ
ความดี ไม่เคยทอดทิ้ง
ผู้กระทำความดี สักครั้งเดียวครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุค่ะ :b8:
คิดดี ทำดี มีเมตตา ไม่ปราถนาสิ่งตอบแทน
ได้รับแน่ๆรางวัลชีวิตไม่ช้าก็เร็ว
ด้วยความเคารพ
:b53: :b53: :b53:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร