วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 03:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2025, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7872

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

เจาคัณฑีสถูป หรือ เจาคันธีสถูป
สถานที่พระพุทธเจ้าทรงพบปัญจวัคคีย์เป็นครั้งแรก
หลังจากตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

ก่อนที่จะทรงแสดงพระปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรกของโลก)
ชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ใน “วันอาสาฬหบูชา”

:b40: :b47: :b40:

ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันแล้ว
ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ
ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกล จึงทำสัญญากันว่า
จะไม่ลุกรับ จะไม่ต้อนรับ แต่เมื่อพระองค์เสด็จมาถึง ต่างก็ลืมสัญญานั้นเสียหมด

สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงพบปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
เป็นครั้งแรกหลังจากตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เมื่อเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (ปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ)

ได้มีการสร้างพระสถูปเรียกว่า
“เจาคัณฑีสถูป” (Chaukhandi Stupa)
เพื่อเป็นเครื่องระลึกว่า นี่เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงพบกับปัญจวัคคีย์
ในวันจาตุทสีขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘
(คำว่า จาตุทสี อ่านว่า จา-ตุด-ทะ-สี)
ก่อนที่พระองค์จะทรงแสดงพระปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรกของโลก)
ชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ในวันอาสาฬหบูชา
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวๆ พุทธศักราช ๑๐๐๐ ในช่วงราชวงศ์คุปตะ


เนื่องจากปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้หนีพระองค์มาจากพุทธคยา
ครั้งที่พระองค์ทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกิริยาใหม่ๆ
ตามพุทธประวัติทรงจาริกจากพุทธคยามาถึงสารนาถเป็นเวลา ๒ เดือน


เดิมพระสถูปนี้มีความสูง ๓๐๐ ฟุต แต่ผุพังไปตามกาลเวลาเหลือเพียง ๗๐ ฟุต
ลักษณะส่วนบนของพระสถูปได้เบี่ยงเบนไปจากพุทธศิลป์ดั้งเดิมมาก
ด้วยว่าบิดาของ
พระเจ้าอักบาร์มหาราช กษัตริย์มุสลิมวงศ์โมกุล
พระนามว่า
หุมายุน ได้เสด็จลี้ภัยทางการเมือง
แล้วมาหลบซ่อนข้าศึกที่พระสถูปแห่งนี้ เมื่อพ้นจากข้าศึกแล้ว
พระเจ้าอักบาร์มหาราชทรงสำนึกบุญคุณของพระสถูป
ที่ทำให้พระบิดามาหลบซ่อนและรอดพ้นจากข้าศึกได้
จึงทรงให้มีการก่อสร้างต่อเติมพระสถูปขึ้นไปอีก แต่เพราะพระองค์เป็นมุสลิม
ทำให้ศิลปะของพระสถูปที่ถูกต่อเติมนี้ ออกมาในแนวศิลปแบบมุสลิม
และเพราะเป็นที่ระลึกต่อพระบิดาของพระเจ้าอักบาร์มหาราช
พระสถูปนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า
สถูปหุมายุน

ปัจจุบันเจาคัณฑีสถูป พระสถูป ๘ เหลี่ยม ถือว่าเป็นหน้าด่านของสารนาถ
ตั้งอยู่บนเนินดินพูนสูงพิเศษ สามารถขึ้นไปชมภายในและเดินขึ้นไปชมถึงยอดได้
จากบนยอดพระสถูปสามารถมองเห็น “ธัมมเมกขสถูป”
สถานที่ทรงแสดงพระปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรกของโลก)
ตั้งอยู่ไม่ไกลมากนักประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ

ถ้าเดินทางบนถนนจากพาราณสี เมื่อมาถึงสารนาถ จะพบเจาคัณฑีสถูปเป็นอันดับแรก
ก่อนถึงอุทยานประวัติศาสตร์ (ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน) เพียงกิโลเมตรเศษ

ใกล้กันกับเจาคัณฑีสถูปเป็น วัดไทยสารนาถ หรือ วัดมฤคทายวันมหาวิหาร
และฝั่งตรงกันข้ามกับวัดไทยสารนาถนั้น เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สารนาถ
พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของกรมสำรวจโบราณคดีแห่งอินเดีย
ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆ ประจำเมืองพาราณสี

เช่น เสาหัวสิงห์ ๔ ทิศ ซึ่งเดิมอยู่บนยอดเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช,
และพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่ถูกขุดพบ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ฯลฯ


รูปภาพ

รูปภาพ
“เจาคัณฑีสถูป” สถานที่พระพุทธเจ้าทรงพบปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
เป็นครั้งแรกหลังจากตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ในวันจาตุทสีขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘
(คำว่า จาตุทสี อ่านว่า จา-ตุด-ทะ-สี)
ก่อนที่จะทรงแสดงพระปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรกของโลก)
ชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ใน “วันอาสาฬหบูชา”


รูปภาพ
หมู่มหาสังฆวิหาร ซากพุทธสถานโบราณ
ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (ปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ)


รูปภาพ
พิพิธภัณฑ์สารนาถ (Sarnath Archaeological Museum)
เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของกรมสำรวจโบราณคดีแห่งอินเดีย
(Archaeological Survey of India)
เป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆ ประจำเมืองพาราณสี


⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱

ที่มา >>> :b39: พุทธสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2025, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7872

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ เรื่องพระปัญจวัคคีย์

[๑๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกโดยลำดับ ถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี เสด็จเข้าไปทางสำนักพระปัญจวัคคีย์ พระปัญจวัคคีย์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกล แล้วได้นัดหมายกันและกันว่า ท่านทั้งหลาย พระสมณะโคดมนี้เป็นผู้มักมาก คลายความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก กำลังเสด็จมา พวกเราไม่พึงอภิวาท ไม่พึงลุกขึ้นต้อนรับพระองค์ ไม่พึงรับบาตรจีวรของพระองค์ แต่พึงวางอาสนะไว้ ถ้าพระองค์ปรารถนาก็จักประทับนั่ง ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปถึงพระปัญจวัคคีย์ พระปัญจวัคคีย์นั้นไม่ตั้งอยู่ในกติกาของตน ต่างลุกขึ้นต้อนรับพระผู้มีพระภาค รูปหนึ่งรับบาตรจีวรของพระผู้มีพระภาค รูปหนึ่งปูอาสนะ รูปหนึ่งจัดหาน้ำล้างพระบาท รูปหนึ่งจัดตั้งตั่งรองพระบาท รูปหนึ่งนำกระเบื้องเช็ดพระบาทเข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคประทับนั่งบนอาสนะ ที่พระปัญจวัคคีย์จัดถวาย แล้วทรงล้างพระบาท ฝ่ายพระปัญจวัคคีย์เรียกพระผู้มีพระภาคโดยระบุพระนาม และใช้คำว่า “อาวุโส” เมื่อพระปัญจวัคคีย์กล่าวอย่างนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสห้ามพระปัญจวัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าเรียกตถาคตโดยระบุชื่อ และอย่าใช้คำว่า “อาวุโส” ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พวกเธอจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จะแสดงธรรม พวกเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าสักเท่าไร จักทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พระปัญจวัคคีย์ได้ทูลค้านพระผู้มีพระภาคว่า อาวุโสโคดม แม้ด้วยจริยานั้น แม้ด้วยปฏิปทานั้น แม้ด้วยทุกกรกิริยานั้น พระองค์ก็ยังไม่ได้บรรลุอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ความเห็นพิเศษอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ ก็บัดนี้พระองค์เป็นผู้มักมาก คลายความเพียรเวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก ไฉนจักบรรลุอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ความเห็นพิเศษอย่างประเสริฐ อย่างสามารถได้เล่า

เมื่อพระปัญจวัคคีย์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตไม่ใช่เป็นคนมักมาก ไม่ได้เป็นคนคลายความเพียร ไม่ได้เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พวกเธอจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จะแสดงธรรม พวกเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าสักเท่าไร จักทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

แม้ครั้งที่สอง พระปัญจวัคคีย์ได้ทูลค้านพระผู้มีพระภาคว่า...

แม้ครั้งที่สอง พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสว่า...

แม้ครั้งที่สาม พระปัญจวัคคีย์ได้ทูลค้านพระผู้มีพระภาคว่า อาวุโสโคดม แม้ด้วยจริยานั้น แม้ด้วยปฏิปทานั้น แม้ด้วยทุกกรกิริยานั้น พระองค์ก็ยังไม่ได้บรรลุอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ความเห็นพิเศษอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ ก็บัดนี้พระองค์เป็นผู้มักมาก คลายความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก ไฉนจักบรรลุอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ความเห็นพิเศษอย่างประเสริฐ อย่างสามารถได้เล่า

เมื่อพระปัญจวัคคีย์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอยังจำได้หรือว่า ถ้อยคำเช่นนี้เราได้เคยพูดแล้วในปางก่อน แต่กาลนี้

พระปัญจวัคคีย์กราบทูลว่า คำนี้ไม่เคยได้ฟังเลย พระพุทธเจ้าข้า

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พวกเธอจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จักแสดงธรรม พวกเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าสักเท่าไร จักทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ พระผู้มีพระภาคทรงสามารถให้พระปัญจวัคคีย์ยินยอมได้แล้ว ลำดับนั้นพระปัญจวัคคีย์ได้ยอมเชื่อฟังพระผู้มีพระภาค เงี่ยโสตสดับ ตั้งจิตเพื่อรู้ยิ่ง

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2025, 13:22 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron