การบวชบวชเณรต้องเตรียมตัวเช่นไรครับ

ต้องท่องบทสวดอะไรไหมครับ พอดีผมจะบวชปิดเทอมภาคฤดูร้อนครับ

ขอผู้รู้ ช่วยตอบด้วยนะครับ

ขอเสริมครับ การเป็นสามเณร ก็ต้องรักษาศีล 10 และเสขิยวัตร 75 (เกี่ยวกับมารยาทลองหาดูในหนังสือวินัยต่างๆ)
และปฏิบัติกิจวัตรรวมซึ่งแต่ละวัดก็แตกต่างกันไปมี สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น ปัดกวาดอาวาสวิหารลานเจดีย์ ปฏิบัติอุปัฎฐากพระภิกษุสงฆ์(กัปปิยกรรม) เป็นต้น

ส่วนบทสวดคำขอบวชก็มีแบบอุกาสะ และแบบเอสาหัง (ถ้าวัดที่บวชเป็นธรรมยุตินิกายท่านใช้แบบเอสาหัง) ลองหาดูในหนังสือสวดมนต์ต่างๆ หนังสือสวดมนต์พิธีก็มีครับ

ขออนุโมทนาในกุศลผลบุญด้วยครับ ผมก็กำลังคิดว่าจะบวชเหมือนกัน

ผู้ศึกษาธรรมควรรู้จุดประสงค์ของการบวชเป็นบรรพชิต

ในพระไตรปิฎกมีข้อความว่า ผู้ที่บวชเป็นบรรพชิตนั้น

เพราะเห็นว่าชีวิตของฆราวาสคับแคบ ไม่ สามารถเจริญกุศลได้เต็มที่ตลอดเวลา

ชีวิตบรรพชิต ไม่มีกิจธุระที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง หรือวิตกกังวลมากอย่างชีวิตฆราวาส

บรรพชิตนั้นตั้งแต่เช้าก็มีแต่เรื่องของกุศลจิต มีการสวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณ

การออกบิณฑบาตร ซึ่งเป็นการเจริญกุศลทั้งผู้ให้และผู้รับ

มีการศึกษาธรรม สนทนาธรรม ปฏิบัติธรรม

ซึ่งเป็นชีวิตที่บำเพ็ญประโยชน์ตั้งแต่ตื่นจนหลับ เป็นชีวิตที่ประเสริฐ

ฉะนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของการบรรพชา อุปสมบทนั้น

ก็เพื่ออบรมเจริญกุศลยิ่งขึ้น จนกระทั่ง ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์

จากหนังสือ ถามตอบปัญหาธรรม

เห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาฝากครับ

ขอขอบคุณทุกท่านครับ ...

เนื้อหาการบวช นอกจากการบวชกาย แล้วยังมีบวชใจ บวชกายสละผม โกนคิ้ว หนวด สละการเป็นอยู่แบบเดิมไปสู่รูปของสมณะพระหรือเหล่ากอของสมณะที่เรียกว่าเณร ส่วนเรื่องบวชใจคือปลง สละความวิตกกังวลใจทั้งหลาย ความห่วงทั้งหลาย เช่นตอนนี้กลัวที่จะไม่รู้นั้นรู้นี้ หากมันมากไปก็สละเสีย ให้มันเกิดเองเป็นเอง รู้เองถึงเวลาก็รู้เอง ถึงเวลาพระอุปัชฌาย์จะบอกเอง หรือพระพี่เลี้ยงเขาจะชี้แจงเอง เมื่อถึงเวลา ที่น้องเขียนถามก็เป็นนิมิตหมายที่ดีแต่ให้น้อยๆลงบ้าง ไม่ได้ห้ามแต่ให้บวชใจ ดูใจเราไปพร้อมมันดิ้นรน วุ่นวายเกินเหตุไปไหมเรื่องนั้นเรื่องนี้ กังวลมากไปไหม เรียกว่าวัดใจ บวชใจไปได้ตลอด ถ้ามันมากไปก็ผ่อนลง ช่างมันบ้าง แล้วๆไปบ้าง ไม่ใช่จะมุ่งดู มุ่งรู้ จนเกินไป

ผมก็อยากบวชอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ก็เตรียมฝึกลดการทานอาหารลงและเข้าฝึกกรรมฐานอยู่