วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ย. 2024, 07:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 80 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ FLAME: โพธิสัตว์ คือ พวกบำเพ็ญบุญ ทำความดี เพื่อจะได้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดุสิต ซึ่งก็คือพวกพราหมณ์ ผมไม่ได้บอกว่า เป็นพราหมณ์ไม่ดี พราหมณ์แท้ ถูกสอนให้ทำความดี มีเมตตากรุณา แต่เป็นคนดีที่จมอยู่กับของทกุข์ เพราะดับทุกข์ด้วยตนเองไม่ได้

พวกที่สอนให้บำเพ็ญเป็นโพธิสัติว์ ก็คือ พวกเห็นพระพุทธเจ้าแล้วอยากเป็นพระพุทธเจ้า เลยตั้งหน้าตั้งตาบำเพ็ญเพื่อที่จะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พราหมณ์แท้ ถ้ามีความเพียรเพ่งอยู่ บุญญาบารมีครบ ก็จะได้เห็นความจริงว่า ธรรมทั้งปวงไม่เที่ยงได้ด้วยตนเอง ... แล้วท่านจะเป็นสาวก หรือ จะเป็นพระพุทธเจ้าล่ะครับ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมปรารถนา พระสัมมาสัมโพธิญาณครับ

แม้จะต้องบำเพ็ญบารมี อีกนับชาติไม่ถ้วนก็จะทำ
เพื่อประโยชน์สุขของคนเป็นอันมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ อ่านแล้วมีประโยชน์ดี ทำให้เกิดความรู้สึกคิดในเรื่องที่ดี

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ FLAME ถ้างั้นคุณก็ประกาศเลยว่า คุณเป็นมหายาน เป็นฤาษีพราหมณ์ ไม่ได้เป็นพุทธสาวก และกำลังฝึกตนเพื่อให้เป็นพุทธเจ้า คือ จะรู้เองเห็นเองไม่ให้ใครมาสอน

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุขมีทุกข์

ข้าพเจ้าศึกษาธรรมจากพระตถาคต พระตถาคตเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี

จำเป็นด้วยหรือที่มหายานต้องมีแต่โพธิสัตว์ จำเป็นด้วยหรือที่เถรวาทต้องมีแต่สาวก

ข้าพเจ้าอยู่ในพระศาสนาของพระศาสดา ไม่แบ่งแยกนิกายใด
มีแต่นิกายพระพุทธเจ้า

พระอชิตะบรมโพธิสัตว์ในสมัยพุทธกาล ก็ได้บวชเป็นพระภิกษุ ศึกษาสมณะธรรมในพระศาสนาของพระบรมศาสดา
พระโพธิสัตว์ทั้งหลายย่อมมีความนอบน้อมต่อพระบรมศาสดาเป็นล้นพ้น ถึงขนาดยอมสละชีวิตเป็นพุทธบูชา

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระชินะเจ้าผู้เจริญ พระองค์ผู้ไม่กลับพ่ายแพ้อีกต่อไป หยั่งลงสู่อมตะ อันไม่แก่ ไม่ตาย พระองค์เป็นบรมครูที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย พระองค์ผู้เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ แสดงธรรมเพื่อประโยชน์สุขของคนเป็นอันมาก ข้าพเจ้าจะดำเนินรอยตามพระศาสดาตราบถึงที่สุดแห่งธรรม :b42:

ขอแสงสว่างแห่งธรรมจงมีแด่ใจทั้งปวง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 20:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
กล่าวได้ดี..กล่าวได้ดี..

และ..นี้ก็น่าสนใจ...

FLAME เขียน:
ผมปรารถนา พระสัมมาสัมโพธิญาณครับ

แม้จะต้องบำเพ็ญบารมี อีกนับชาติไม่ถ้วนก็จะทำ
เพื่อประโยชน์สุขของคนเป็นอันมาก

:b8: :b8: :b8:

น่าสนใจ..น่าสนใจ.. :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


เถระวาท หรือ เถระวาทะ คือ คำพูดของพระผู้ใหญ่ ที่เป็นอรหันตสาวก หรือ ผู้ที่รู้ตามผู้ที่ตรัสรู้ ปฏิบัติตรงไปที่การดับทุกข์ดับชาติดับภพในชาตินี้

ส่วนพวกมหายาน ก็คือ พวกฤาษีพราหมณ์ที่ปฏิบัติเพื่อจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า สะสมบารมีให้ได้ ๓๐ ทัศ เพื่อสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ และกลับมาเกิดเป็นฤาษี เพื่อจะได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติใดชาติหนึ่ง

คำสอน การปฏิบัติ ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน พระพุทธเจ้าโคตมะ สะสมบารมีใช้เวลา ๔ อสงไขย์แสนกัป กว่าจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใข้เวลา ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ก็บรรลุมรรคผลนิพพาน

พุทธไม่มีนิกาย การแบ่งแยกสงฆ์เป็นอนันตริยกรรม ... และที่คุณยกย่องพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคุณอยากจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นแหละ คุณถึงไม่ได้สนใจคำสอนเรื่องทุกข์กับการดับทุกข์ และไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ให้ได้ในชาตินี้ ... บาปมหนัต์ที่จะเกิดกับคุณในชาตินี้ คือ เอาคำสอนของฤาษีพราหมณ์ที่อยากสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้ามาสอนว่า นี่เป็นคำสอนเพื่อดับทุกข์ดับชาติดับภพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น คุณต้องเลือก และตั้งสัจจะอธิฐานกับตัวเองให้มั่นสักอย่าง ไม่เช่นนั้น ชาตินี้คุณเกิดมาก็เสียเปล่า ... ผมแสดงธรรมตามธรรมนะครับ ไม่มีความเห็นปะปน

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 22:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คำสอน การปฏิบัติ ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน พระพุทธเจ้าโคตมะ สะสมบารมีใช้เวลา ๔ อสงไขย์แสนกัป กว่าจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใข้เวลา ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ก็บรรลุมรรคผลนิพพาน


สาวก..ที่บรรลุในชาติปัจจุบัน...ก็สะสมบารมีมาเหมือนกัน...ดูอย่างพระโมคัลลา..พระสารีบุตร..ได้..เป็นแสนกัป..ก็นานเหมือนกัน...

ที่เขาใช้เวลา..7 วันบ้าง..7 เดือนบ้าง..7 ปีบ้าง...นั้น..เขาเว้นที่จะกล่าวึงเวลาที่เคยบำเพ็ญบารมีมานะครับ...อย่าได้เข้าใจผิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


สาวกบำเพ็ญมาก็เพื่อจะได้เป็นสาวก ไม่ได้บำเพ็ญมาเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกที่สะสมบุญมามาก ส่วนมากก็จะได้เกิดมาร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นก็เกิดในช่วงศาสนายังตั้งอยู่ในโลก พวกที่เกิดมาในระยะนี้ มีบารมีพอที่จะเป็นสาวก แต่ไม่พอที่จะได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเอกบุคคลในโลก คือ โลกหนึ่งใบจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดมาได้เพียงพระองค์เดียว ส่วนปัญเจกพุทธเจ้า ก็คือ พวกฤาษี จะเกิดมาในชวงที่ไม่มีศาสนาพุทธตั้งอยู่ในโลก

พุทธ-เจ้า คือ เจ้าผู้รู้

สัมมา-สัม-พุทธ-เจ้า คือ เจ้าผู้รู้ชอบด้วยตนเอง

แปลว่า พวกเราที่เกิดมาในชาตินี้ มีบุญญาบารมีที่สะสมมานับชาตินับภพไม่ถ้วน เพียงพอที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่ม ขาดแต่เพียงปัญญาบารมีที่จะต้องหาเพิ่มในชาตินี้เท่านั้น ก็จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แปลว่า พวกเราที่เกิดมาในชาตินี้ มีบุญญาบารมีที่สะสมมานับชาตินับภพไม่ถ้วน เพียงพอที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่ม ขาดแต่เพียงปัญญาบารมีที่จะต้องหาเพิ่มในชาตินี้เท่านั้น ก็จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้


บรรลุได้..ก็แสดงว่า..บารมีพอ
ที่ไม่สามารถทำได้..ก็ต้องยอมรับว่า..บารมียังไม่พอ..เพราะแม้จะมีโอกาสให้แล้วก็ฉวยเอาใว้ไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ยังไม่บรรลุ เพราะขาดปัญญาเท่านั้น นอกจากนั้น เหตุปัจจัยครบหมดแล้ว ... ถ้าไม่ครบ ไม่ได้เกิดมาที่นี่ตอนนี้ เพราะธรรมชาิตไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวแล้วแตกสลาย ไม่มีคำว่าบังเอิญจริงๆ ในธรรมชาติ

ปัญญาของสาวกในธรรมวินัยนี้ ได้มาจากการสดับรับฟังแต่บุคคลอื่น แปลว่า รอเจอสัตตบุรุษ ได้ฟังธรรมของสัตตบุรุษ เข้าใจธรรม มีดวงตาเห็นธรรม ประกอบกับธรรมของสัตตบุรุษ เท่านั้น ชาิตินี้ได้มรรคผลนิพพานแน่นอน

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2011, 00:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้ว..ปัญญา..จะเกิดได้มีอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย..??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2011, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญามาจากการได้ฟังความจริงจากผู้รู้ การที่จะเจอผู้รู้ได้ ก็เป็นเรื่องของบุญกับบาป ถึงเวลาก็ได้เจอ ถ้าได้เจอแล้วไม่เกิดมีดวงตาเห็นธรรม ก็เป็นเรื่องของทิฐิ

พันกว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีสัตตบุรุษเกิดขึ้นมาเลย เพิ่งจะเริ่มมีมาไม่นานนี้ หรือ มรรค ขาดหายไปในช่วง ๑๔๐๐ ปีที่ผ่านมานี้

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2011, 03:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวบ้าน ปุถุชนที่มาถือศีล ด้วยการควบคุมกายและวาจา ก็ยังดีเพราะอะไร เพราะความไม่เบียดเบียนกันและกัน
เป็นทางนำมาแห่งความสุข

ส่วนพระอริยะเจ้าทั้งหลาย มีศีลที่เกิดจากมีปัญญาเห็นธรรมแล้ว นั่นก็ยิ่งประเสริฐ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2011, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธวจนะในธรรมบท

อาจารย์เสถียรพงษ์ วรรณปก : แปล

(เฉพาะที่เกี่ยวกับศีล)

กลิ่นศีล หอมยิ่งกว่า ของหอมเหล่านี้ คือ
จันทน์ กฤษณา ดอกอุบล และกะลำพัก

จนฺทนํ ตครํ วาปิ อุปฺปลํ อถ วสฺสิกี
เอเตสํ คนฺธชาตานํ สีลคนฺโธ อนุตฺตโร
...

ผู้หมดกิเลสแล้ว มั่นคงในศีล รู้จักบังคับตนเอง และมีสัจจะ
นั่นแหละควรนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์

โย จ วนฺตกสาวสฺส สีเลสุ สุสมาหิโต
อุเปโต ทมสจฺเจน ส เว กาสาวมรหติ
...

ศีลให้เกิดความสุข ตราบเท่าชรา
ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว ให้เกิดความสุข
ปัญญาได้มาแล้ว ให้เกิดความสุข
การไม่ทำบาปทั้งหลาย ให้เกิดความสุข

สุขํ ยาว ชรา สีลํ สุขา สทฺธาปติฏฐิตา
สุโข ปญฺญาปฏิลาโภ ปาปานํ อกรณํ สุขํ
...

คนทุศีล ไม่สำรวม กลืนก้อนเหล็กแดง
ที่ร้อน ลุกเป็นไฟ ยังดีเสียกว่าบริโภคบิณฑบาตของชาวบ้าน

เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม
ยญฺเจ ภุญฺเชยฺย ทุสฺสีโล รฏฺฐปิณฺฑํ อสญฺญโต
...

ผู้มีศรัทธา สมบูรณ์ด้วยศีล เพียบพร้อมด้วยยศและโภคทรัพย์
ไปประเทศใดๆ ย่อมได้รับความนับถือในประเทศนั้นๆ

สทฺโธ สีเลย สมฺปนฺโน ยโสโภคสมปฺปิโต
ยํ ยํ ปเทสํ ภชติ ตตฺถ ตตฺเถว ปูชิโต
...

ไม่ควรทำชั่ว เพราะเห็นแก่ตัว หรือเห็นแก่คนอื่น
ไม่ควรปรารถนาบุตร ทรัพย์ รัฐ หรือความสำเร็จแก่ตนโดยทางที่ไม่ชอบธรรม
ควรมีศีล มีปัญญา มั่นอยู่ในธรรม

น อตฺตเหตุ น ปรสฺส เหตุ
น ปุตฺตมิจฺเฉ น ธนํ น รฏฺฐํ
น อิจฺเฉยฺย อธมฺเมน สมิทฺธิมตฺตโน
ส สีลวา ปญฺญวา ธมฺมิโก สิยา
...

ผู้มีศีล มีสมาธิ มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปีของคนทุศีล ไร้สมาธิ

โย จ วสฺสสตํ ชีเว ทุสฺสีโล อสมาหิโต
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย สีลวนฺตสฺส ฌายิโน
...

คนทุศีล ก็เหมือนกับต้นไม้ ที่เถาวัลย์ขึ้นจนรก
เขาทำตัวให้วอดวายเอง มิจำต้องรอให้ศัตรูมาคอยกระทำให้

ยสฺส อจฺจนฺตทุสฺสีลยํ มาลุวา สาวมิโวตฺถตํ
กโรติ โส ตถตฺตานํ ยถา นํ อิจฺฉตี ทิโส
...

เมื่อรู้ความจริงข้อนี้แล้ว คนฉลาดผู้สำรวมในศีลไม่ควรชักช้า
ในการตระเตรียมทางไปสู่พระนิพพาน

เอตมตฺถวสํ ญตฺวา ปณฺฑิโต สีลสํวุโต
นิพฺพานคมนํ มคฺคํ ขิปฺปเมว วิโสธเย
...

คนย่อมรักผู้สมบูรณ์ด้วยศีลและทรรศนะ
ตั้งอยู่ในธรรม พูดสัตย์จริง ทำหน้าที่ของตนสมบูรณ์

สีลทสฺสนสมฺปนฺนํ ธมฺมฏฐํ สจฺจวาทินํ
อตฺตโน กมฺมกุพฺพานํ ตํ ชโน กุรุเต ปิยํ
...

กฤษณาหรือจันทน์ มีกลิ่นหอมน้อยนัก
แต่กลิ่นหอมของท่านผู้ทรงศีลสิประเสริฐนัก หอมฟุ้งกระทั้งถึงทวยเทพยดา

อปฺปมตฺโต อยํ คนฺโธ ยายํ ตครจนฺทนี
โย จ สีลวตํ คนฺโธ วาติ เทเวสุ อุตฺตโม
...

มารย่อมค้นไม่พบวิถีทางของท่านผู้ทรงศีล
ผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท ผู้หลุดพ้นจากอาสวกิเลสเพราะรู้ชอบ

เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ อปฺปมาทวิหารินํ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ มาโร มคฺคํ น วินฺทติ
...

ธรรมดาม้าดี เมื่อถูกลงแส้ครั้งหนึ่งก็ย่อมสำนึก (ความผิดครั้งแรก)
และพยายาม (วิ่งให้เร็ว)พวกเธอก็จงทำตนเช่นนั้น อาศัยศรัทธา, ศีล, ความเพียร, สมาธิ, การวินิจฉัยธรรม,ความสมบูรณ์ด้วยความรู้และการปฏิบัติ,
มีสติสมบูรณ์ พวกเธอจักละทุกข์ได้ไม่น้อยเลย

อสฺโส ยถา ภทฺโร กสานิวิฏโฐ
อาตาปิโน สํเวคิโน ภวาถ
สทฺธาย สีเลน จ วีริเยน จ
สมาธินา ธมฺมวินิจฺฉเยน จ
สมฺปนฺนวิชฺชาจรณา ปฏิสฺสตา
ปหิสฺสถ ทุกฺขมิทํ อนปฺปกํ
...

นักปราชญ์พิจารณารอบคอบแล้วจึงสรรเสริญผู้ใด
ผู้ดำเนินชีวิตหาที่ติมิได้ ฉลาด สมบูรณ์ด้วยปัญญาและศีล
ผู้นั้นเปรียบเสมือนแท่งทองบริสุทธิ์ ใครเล่าจะตำหนิเขาได้
คนเช่นนี้แม้เทวดาก็ชม ถึงพรหมก็สรรเสริญ

ยญฺเจ วิญฺญู ปสํสนฺติ อนุวิจฺจ สุเว สุเว
อจฺฉิทฺทวุตฺตึ เมธาวึ ปัญฺญาสีลสมาหิตํ
นิกฺขํ ซมฺโพนทสฺเสว โก ตํ นินฺทิตุมรหติ
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต
...

เพราะฉะนั้นจึงควรประพฤติตามผู้เป็นปราชญ์
ผู้เฉียบแหลม ศึกษาเล่าเรียนมาก มี ศีลาจารวัตร
เรียบร้อย เป็นพระอริยะ เป็นสัตบุรุษ มีปัญญาดี
เหมือนพระจันทร์ไปตามทางของกลุ่มนักขัตฤกษ์ทั้งหลาย

ตสฺมา หิ ธีรญฺจ ปญฺญญฺจ พหุสฺสุตญฺจ
โธรยฺหสีลํ วตวนฺตมริยํ
ตํ ตาทิสํ สปฺปุริสํ สุเมธํ
ภเชถ นกฺขตฺตปถํ ว จนฺทิมา

ที่มา http://www.dhammajak.net/book-dhammaraksa/-18.html
http://www.kaewjamfa.org/article-43.php


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 80 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร