วันเวลาปัจจุบัน 22 พ.ค. 2025, 19:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SANY0201.jpg
SANY0201.jpg [ 170.66 KiB | เปิดดู 5520 ครั้ง ]
“เธอจงบำเพ็ญ ศีลบารมีเถิด อันว่า... จามรีรักษาขนหาง แม้ติดอยู่ในที่ใด ก็ยอมตายอยู่ที่นั้น ไม่ยอมให้ขนหางเสียไปฉันใด เธอจงบำเพ็ญศีล รักษาศีลทั้ง *** ๔ ให้บริบูรณ์ในกาลทุกเมื่อ ดุจจามรีรักษาขนหางของตนฉันนั้น
***ศีล ๔ คือ ปาติโมกขสังวรศีล อินทรียสังวรศีล อาชีวปาริสุทธิศีล และปัจจัยสันนิสิตศีล

“ข้าพเจ้ายอมให้เขาทำร้าย ยอมให้เขาจับหามไป ทั้งที่รู้ว่าเขาจะเอาไปฆ่าเป็นอาหาร ข้าพเจ้ายอมสละได้แม้ชีวิต แต่จะไม่ยอมล่วงละเมิดศีล” (สังขปาลนาคราชโพธิสัตว์)


“เพื่อนเอ๋ย งาของเราใช่ว่าเราจะไม่รัก แต่พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสิ่งที่เรารักยิ่งกว่างานี้ ตั้งร้อยเท่า พันเท่า เราจึงไม่ประทุษร้ายท่าน” (พญาฉัททันต์โพธิสัตว์)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC10078.jpg
SDC10078.jpg [ 133.26 KiB | เปิดดู 5517 ครั้ง ]
ศีลคืออะไร?

ศีลอาจได้ความหมายมาจากคำที่ไพเราะและมีความหมายอันลึกซึ้งสูงส่งกว่าความคาดเดายิ่งนัก นั้นก็คือ มาจากคำว่า ศิระซึ่งแปลว่า ยอด หรือ ศีรษะ

ศีลอาจมาจากคำว่า สีละ ซึ่งแปลว่าปกติก็เป็นได้ เพราะการรักษาศีลจึงเป็นการนำไปสู่ความเป็นคนที่ปกติสมบูรณ์

นอกจากนี้คำว่าศีลอาจมาจากคำว่า สีละตะ อันหมายความว่า.. เย็น เพราะผู้มีศีลจะมีลักษณะที่เย็นคือ อิ่มเย็น ดุจดังผู้อาบน้ำชำระร่างกายจนหมดจดดีแล้วและนั่งพักอยู่ ณ ร่มไม่ใหญ่ ปานฉะนั้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC13213.jpg
SDC13213.jpg [ 148.04 KiB | เปิดดู 5514 ครั้ง ]
ศีลมีลักษณะ ดังต่อไปนี้คือ

๑) สีลนลกฺขณา
คือ ศีลนี้ มีการรักษากาย วาจา ให้ตั้งไว้ด้วยดี โดยไม่ให้กระจัดกระจายไป เป็นลักษณะ หรือ มีลักษณะเป็นพื้นฐานแห่งกุศลทั้งหลาย

๒) ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสา
ศีลนี้มีอันทำลายความเป็นผู้ไม่มีศีลเป็นรส หรือ อนวชฺชคุณรสา วา คือสมบูรณ์ด้วยคุณอันปราศจากโทษ เป็นสัมปัตติรส

๓) โสเจยฺยปจฺจุปฏฐานา
มีความสะอาดแห่งกายและวาจา เป็นอาการปรากฏ

๔) หิโรตฺตปฺปปทฏฺฐานา
มีความความละอายชั่วกลัวบาปเป็นเหตุใกล้
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC11236.jpg
SDC11236.jpg [ 162.85 KiB | เปิดดู 5513 ครั้ง ]
ศีลมีหลายประเภท เช่น ศีล ๕ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ เป็นต้น

แต่ศีลสำคัญที่เจตนา ผู้มีเจตนาในการักษาศีล จึงจะชื่อได้ว่าเป็นผู้รักษาศีล ความตั้งใจในการรักษาศีลนี้เรียกว่า "วิรัติ" หรือ "เวรมณี" คือตั้งใจงดเว้นจากความชั่ว หากมิได้ตั้งใจงดเว้น เพียงแต่ยังไม่ได้ทำชั่ว อย่างนี้ไม่เรียกว่าวิรัติ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC10028.jpg
SDC10028.jpg [ 176.28 KiB | เปิดดู 5511 ครั้ง ]
อานิสงค์ของศีลมีเป็นลำดับชั้นดังนี้

๑.ศีลมีความไม่เดือดร้อนเป็นอานิสงส์ เป็นประโยขน์
๒.เมื่อไม่เดือดร้อนก็มีความบันเทิงเป็นอานิสงส์ เป็นประโยชน์
๓.เมื่อมีความบันเทิง ก็มีปิติเป็นอานิสงส์ เป็นประโยชน์
๔.เมื่อมีปิติ ก็มีปัสสัทธิความสงบ เป็นอานิสงส์ เป็นประโยชน์
๕.เมื่อมีความสงบก็ มีความสุข

..(ต่อ)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC11369.jpg
SDC11369.jpg [ 124.61 KiB | เปิดดู 5507 ครั้ง ]
..(ต่อ)

๖.เมื่อมีความสุข ก็มีสมาธิเป็นอานิสงส์
๗.เมื่อมีสมาธิก็มีความ รู้เห็นตามความเป็นจริง
๘.เมื่อรู้เห็นตามความเป็นจริง ก็เกิดความเบื่อหน่าย ความคลายเป็นอานิสงส์
๙.เมื่อเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ย่อมมีความรู้เห็นในวิมุติเป็นอานิสงส์
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SANY0081.jpg
SANY0081.jpg [ 172.33 KiB | เปิดดู 5505 ครั้ง ]
การรักษาศีลต้องใช้สติเป็นตัวรักษา คือระลึกได้อยู่เสมอ ว่าจะไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่ดื่มสุราเป็นต้น นอกจากนี้ ผู้รักษาศีลยังต้องรู้จักละอายชั่วกลัวบาป จึงจะรักษาได้โดยไม่ต้องให้ใครมากำกับ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SANY0035.jpg
SANY0035.jpg [ 166.05 KiB | เปิดดู 5501 ครั้ง ]
การรักษาศีลไม่จำเป็นว่าต้องสมาทานกับพระสงฆ์เสมอไป รักษาได้ทุกเวลา หากตั้งใจรักษาตอนไหนก็เป็นศีลเวลานั้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC11317.jpg
SDC11317.jpg [ 153.57 KiB | เปิดดู 5499 ครั้ง ]
ศีลเป็นการบำเพ็ญบุญอย่างหนึ่ง เมื่อบำเพ็ญให้เข้มข้นมากขึ้นจะกลั่นเป็น บารมี ซึ่งมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทาน เพราะการถวายทานนั้นทำง่าย ส่วนการรักษาศีล นั้นทำยาก ต้องทำด้วยตนเอง อาศัยความเพียร และอาศัยความมีสติเป็นต้น จึงจะทำได้ และการรักษาศีลยังเป็นการทวนกระแสกิเลส กระแสโลก

คนที่ต้องมีปัญญาและความศรัทธาระดับหนึ่งเท่านั้น จึงจะตั้งใจรักษาศีล ปฏิบัติธรรม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SANY0556.jpg
SANY0556.jpg [ 195.14 KiB | เปิดดู 5497 ครั้ง ]
บุคคลทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด เพศใด ฐานะใดก็พึงรักษาศีล ระมัดระวังทะนุถนอมศีลตนประดุจดังจามรีรักและหวงแหนขน

เพราะศีลของตนที่บริสุทธิ์ดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ศีลยังเป็นเขตแดน เป็นเครื่องกั้นความทุจริต ทำจิตให้ร่าเริงแจ่มใส และเป็นท่าหยั่งลงมหาสมุทรคือ พระนิพพาน ของพระพุทธเจ้าทั้งปวง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




SDC13393.jpg
SDC13393.jpg [ 194.35 KiB | เปิดดู 5495 ครั้ง ]
ศีลเปรียบประดุจดั่งดวงแก้วสารพัดนึก ที่จะบันดาลให้สมความปรารถนา และติดตามหล่อเลี้ยงรักษาผู้ที่รักษาศีลไปตราบกาลนาน


ดังที่พระท่านให้ศีลว่า..


"สีเลน สุคตึ ยนฺติ บุคคลเข้าถึงสุคคติได้ก็ ด้วยศีล

สีเลน โภคสมฺปทา บุคคลได้โภคสมบัติก็ด้วยศีล

สีเลน นิพพุตึ ยนฺติ บุคคลบรรลุพระนิพพานได้ก็ด้วยศีล"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2010, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Picture5.jpg
Picture5.jpg [ 34.4 KiB | เปิดดู 5420 ครั้ง ]
รักษาศีล ดุจจามรี รักษาขน
ยอมอดทน ทำให้เห็น เป็นศักดิ์ศรี
เสียเลือดเนื้อ เสียลาภยศ เสียชีวี
ศีลจักมี คู่อยู่ ไม่รู้คลาย


สาธุ ขออนุโมทนาด้วยครับ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2010, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แต่งกลอนเองใข่ไหมคะ เพราะมากค่ะ อนุโมทนาบุญค่ะ tongue


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร