ดิฉันกับคุณแฟนรู้จักกันมาประมาณ 10 กว่าปี คบหาเป็นแฟน ประมาณ 5 ปี (แฟนอายุ 43 ดิฉัน 39)
เราไม่ค่อยได้เจอกัน เนื่องจากคุณแฟนทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนมากจะติดต่อกันทางเมล์ และ โทรศัพท์
จนกระทั่ง 3 ปีที่แล้ว คุณแฟนกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้เกิดอุบัติเหตุทำให้คุณแฟนการเป็นคนพิการ (ขาขาด 1 ข้าง)
ดิฉันสงสารเขามาก ห่วงมาก รักมาก ได้แต่ปลอบใจ และดูแลเท่าที่จะทำได้ แต่คุณแฟนดูเขาเหมือนไม่วิตก ทุกข์ร้อนอะไร เพราะเขาฝึกปฏิบัติอยู่ตลอด เขาบอกดิฉันว่าที่เขาต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะว่าเป็นกรรมที่เขาต้องชดใช้ ซึ่งกรรมนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไว้ตั้งแต่ชาติไหน และเขาก็ยินดีที่จะชดใช้ค่ะ

หลังจากที่เขาต้องกลับมาฟักฟื้นอยู่ที่บ้าน และฝึกเดิน ช่วงวันหยุดงาน ดิฉันก็จะไปช่วยดูแลเขาที่บ้าน จนอยู่มาวันหนึ่ง เขาขอมีอะไรกับดินฉัน ดิฉันลังเลอยู่นาน และเขาบอกดิฉันว่า รังเกียจเขาที่เป็นคนพิการใช่มั๊ย ถึงไม่ยอมมีอะไรกับเขา ดิฉันฟังแล้วสงสารเขาจับใจ ก็เลยยอมเขาค่ะ จากนั้นไม่นานเขาได้งานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นงานที่มั่นคง ตอนแรกเขาไม่ยากไป แต่ดิฉันกับครอบครัวเขาบอกว่าให้ลองไปทำก่อน ถ้าไม่ไหวจริงค่อยว่ากัน เขาเลยตกลงไปทำงาน ตอนนี้ทำงานได้ประมาณ 3 เดือนแล้วคะ ช่วยนี้แหละที่เกิดปัญหา (สำหรับดิฉัน) เขาไม่โทร หาดิฉันเลย ดิฉันพยายามโทร หาเขาตลอด แต่เขาก็ไม่รับและไม่โทรกลับ จนวันหนึ่งเขาก็ยอมรับสาย ดิฉันถามเขาว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรา เขาตอบว่า ขอให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นเพื่อน หรือ พี่-น้อง กัน เถอะนะ เพราะเข้าได้ปฏิบัตธรรมก้าวหน้าไปมากแล้ว ไม่อยากมีห่วง อยากจะอยู่คนเดี่ยว ไม่อยากพาใครมาลำบาก ดิฉันถามเขาว่า แล้วมาขอมีอะไรกับดิฉันทำไม ในเมื่อตองการแบบนี้ เขาตอบว่า เขารักดิฉัน เพราะดิฉันดีกับเขาทุกอย่า แต่เขาก็ไม่รู้ว่าการที่เขามาอยู่คนเดี่ยว มันทำให้การฝึกของเขาก้าวหน้าไปมาก จนคิดว่าไม่สามารถจะกลับมาอยู่กับดิฉันได้อีก เขาสามารถตัด รัก โลภ หลง ได้หมดแล้ว ถ้ารักเขาก็ให้ปล่อยเขาไป ดิฉันว่าเขาว่าเห็นแก่ตัว และเขาก็ยอยมรับค่ะ

ดิฉันมีข้อข้องใจหลายอย่าง จึงอยากจะรบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ทุกท่านช่วยไขข้อข้องใจ ของดิฉันด้วยค่ะ
1. คุณแฟน เขาจะสามารถอยู่คนเดียวได้จริงๆ อย่างที่เขาบอกรึเปล่าค่ะ ตอนนี้เขายังไม่แก่ แต่ถ้าวันข้างหน้าเขาจะเป็นยังงัยค่ะ (เป็นห่วงถ้าแก่ชราอ่ะค่ะ)
2. ความหวังของดิฉัน ที่จะให้คุณแฟนกลับมาคบกันเหมือนเดิมพอจะมีบ้างไหมค่ะ (หลอกตัวเองอ่ะ)
3. ดิฉันคิดว่าคุณแฟนน่าจะบรรลลุโสดาบัน ไปแล้ว จริงรึเปล่าค่ะ เขาถึงได้ไม่ต้องการคบกับดิฉัน
4. การที่เขาเห็นแก่ตัว จะทำให้เขาบรรลุเป็นพระอริยเจ้าได้รึเปล่าค่ะ
5. ถ้าคุณแฟนบรรลุจริง การที่ดิฉันว่าเขาว่า “เห็นแก่ตัว” ก็เป็นการปรามาศพระอริยเจ้าใช่มั๊ยค่ะ
6. คุณแฟนเขาจะคิดถึงความรู้สึกของดิฉันบ้างรึเปล่าค่ะ
7. ดิฉันยังสมควรที่จะไปเยี่ยมครอบครัวของคุณแฟนได้รึเปล่าค่ะ (พ่อ-แม่) เขาไม่ได้อยู่บ้าน พ่อ-แก่ ก็แก่แล้วค่ะ

ขอข้องใจของดิฉันอาจจะดูไม่เข้าท่า แต่ดิฉันก็อยากรู้ค่ะ เผื่อว่าคำตอบของผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ทุกท่าน จะช่วยให้ดิฉันทำใจ และคลายความทุกข์ ลงไปได้บ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ

ศึกษาความหมายและคุณสมบัติ อริยบุคคล และพระอริยเจ้าลำดับต่าง ๆ
http://pasannopikku.wordpress.com/2009/ ... %E0%B9%89/

ศึกษาปฏิปทาพระอริยสงฆ์
viewforum.php?f=13

แนะนำให้อ่านเผื่อจะเข้าใจว่าสิ่งที่คุณ จขกท. เข้าใจนั้นเป็นอย่างไร
viewtopic.php?f=7&t=36356

ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมนะคะ

ดูก่อนท่านทั้งหลาย.......................
บุคคลใด............มี
ศีลต่างกัน ๑
ธรรมต่างกัน ๑
ใจต่างกัน ๑
การกระทำ๑
เจตนา ๑
เมื่อใดย่อมจะห่างกัน เสมือน น้ำกับน้ำมัน ถึงจะอยู่ในที่ๆเดียวกัน หรือ ภาชนะเดียวกัน ก็ยังต่างกัน
ท่านเอ๋ย...ทุกอย่างในโลก มีจาก มีพบ มีเจอ มีการพลักพรากเป็นธรรมดา เมื่อถึงเวลาทุกคนก็ต้องจากกัน.
ขอให้ทุกท่านพึงพิจารณาเทอญฯ..............

ตอบสั้นๆง่ายๆ คือ จขกท. ถูกหลอกขอมีอะไรด้วย สมใจเขาแล้ว จึงทิ้งไปแบบไม่ใยดีก็แค่นี้ แต่เขาเหลี่ยมจัดอ้างการบรรลุทำบังหน้า เพื่อให้ จขกท.เห็นใจปล่อยเขาไป
เขาจะเป็นอย่างไร จะอยู่กับใครปล่อยพะโซดาบรรณแบบนี้ไปตามทางเขาเถอะครับ เสียเวลาอาลัยอาวรณ์
ขออภัยนะครับที่พูดตรงไปหน่อย

อ่านแล้ว ค่อยๆพิจารณาดูนะคะ
แฟนของคุณเขาละเมิดศีลข้อ 3 แล้วค่ะ เท่าที่ดิฉันได้ศึกษามา นักปฏิบัติที่มุ่งหวังทางธรรมจริง จะรักษาศีล 5 ยิ่งชีพ นักปฏิบัติที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมจริงมีสิทธิ์เผลอไผลไปกับโลกได้บ้างค่ะ เป็นปรกติของชาวโลก แต่ควรจะมีความรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง

ในเมื่อทำให้หญิงมีมลทินแล้ว ยิ่งเป็นหญิงที่มีญาติรักษา เขาควรจะรักษาศีลต่อไป โดยจัดการแต่งงานตามประเพณีที่ถูกต้อง

การมุ่งหวังทางธรรม แม้เป็นผู้ครองเรือนก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ค่ะ ถ้าได้คู่ชีวิตที่เสมอกันทางธรรม อาจจะทำให้ช่วยตักเตือนแนะนำให้ก้าวหน้าทางธรรมยิ่งขึ้น


ประเด็นต่อมาคือ คุณกับแฟนเสมอกันทางธรรมหรือไม่
ปัญหานี้ไม่มีปุถุชนใดตอบได้ค่ะ การมีคู่ครองที่มีธรรมเสมอกัน ต้องทำบุญอธิษฐานร่วมกันมาหลายภพหลายชาติ
ในภพปัจจุบัน คุณและแฟนพบกัน และมีได้ละเมิดศีลแล้ว เรียกได้ว่า คุณและแฟน มีกรรมผูกพันกันอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม) ในเมื่อมีความผูกพันกัน นักปฏิบัติควรจะทำหน้าที่ใช้กรรมมีผูกพันกันให้หมดไป ทำหน้าที่ทางโลกให้ถูกต้อง
ใช้ชีวิตครอบครัวกับคู่ที่ตัวเองเลือก แนะนำคู่ชีวิตไปในทางธรรม และ เมื่อถึงเวลา คู่ชีวิตจะอนุโมทนาในการเข้าสู่ทางธรรม

สวัสดีค่ะ คุณชงโค

เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ....
เราก็ไม่ทราบว่าแฟนคุณบรรลุธรรมขั้นใดหรือไม่อย่างไร.....
แต่พระโสดาบัน นั้นมีครอบครัวได้เฉกเช่นปุถุชน ยกตัวอย่าง นางวิสาขา เป็นต้น
...แต่ถ้าแฟนคุณเป็นผู้ปฏิบัติธรรมจริง ดังกล่าว และหวังผลนิพพานแล้ว ก็อาจจะ
เป็นไปได้ที่ไม่ต้องการจะ "ครองเรือน" เพราะการบรรลุธรรม บางขั้นอาจจะไม่เหมาะกับผู้ครองเรือน

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม

ขอบคุณทุกท่านที่ไขข้อข้องใจให้ค่ะ ยังงัยจะไปพิจารณาดูนะคะ

เรื่องของคุณชงโค คล้ายๆ ของดิฉันเลยค่ะ แต่ระยะเวลาที่คบกันของดิฉันแค่ 1 ปีเองค่ะ
จะเอาคำแนะนำของทุกท่าน ไปพิจารณาดูนะคะ

แจ้งความคืบหน้า และมีคำถามเพิ่มเติมค่ะ วันหยุดที่ผ่านมา แวะไปเยี่ยม คุณพ่อ-คุณแม่ ของแฟนมาค่ะ (ตามที่คุณตะเกียงแก้วแนะนำ)ดูท่านดีใจมาที่ดิฉันไปหา ดิฉันไม่ได้พูดถึงแฟนเลย ท่านก็เลยเป็นคนพูดขึ้นมาก่อนค่ะ ว่าลูกชายของท่านได้โทร.มาหาท่าน และถามถึงดิฉันด้วย เขารู้สึกผิดเหมือนกันที่ทิ้งดิฉันไป ตอนนี้เขากังลังคิดอยู่ว่าจะเอางัยงัยต่อค่ะ
ถ้าถามดิฉันว่าดีใจมั๊ย ก็มีบ้างค่ะ แต่รู้สึกกลัวมากกว่าค่ะ กลัวว่าจะเริ่มต้นไปสักพัก พอเขาอยากเลิกขึ้นมาอีก ดิฉันก็ต้องเจ็บอีก ตอนนี้ก็เริ่มจะทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังรักและเป็นห่วงเขาเหมือนเดิมค่ะ
สมมุติว่าเขากลับมา และขอรับผิดชอบในเรื่องที่เคยเกิดขึ้น ดิฉันควรจะทำงัยดีค่ะ

ยินดีกับคุณชงโค อย่างน้อยก็ยังพอจะมีความหวัง แต่ก็ต้องเผื่อความผิดหวังไว้ด้วยนะคะ

มีเรื่องข้องใจอีกข้อค่ะ ถ้าท่านผู้รู้เข้ามาอ่านกะทู้นี้ รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ

คำถาม : การที่ผู้ปฏิบัติธรรมผิดศีลข้อ 3 (กรณีแฟนคุณชงโค) แล้วเขาจะคิดว่าแค่ศีลขาด แล้วก็ต่อศีลข้อที่ขาด
แล้วก็กลับมาเป็นผู้มีศีลเหมือนเดิม ปฏิบัติธรรมต่อไป โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบกับหญิงที่ตนเองทำให้มีมลทินรึเปล่าคะ ? (ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม เขาน่าจะคิดถึงความรู้สึกของผู้หญิง บ้างนะคะ)