วันเวลาปัจจุบัน 16 มิ.ย. 2025, 04:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 102 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sabye เขียน:
กระผมจึงอธิฐานกับตัวเองด้วยความตั้งมั่นว่า สองเท้าที่ยิ่งใหญ่นี้ เหยียบย่ำอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความไร้สาระมานานพอแล้วด้วยความต้องการของกระผมเอง ต่อแต่นี้ไปกระผมจะไม่เอาสองเท้านี้ไปเหยียบย่ำอยู่ในเส้นทางนั้นอีก สองเท้านี้แหละที่พากระผมได้ไปรู้ไปเห็นในทุกๆที่ที่ผมต้องการจะไป

สองเท้าของกระผมนั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใครๆ หากสามารถทำให้กระผมดำเนินอยู่ได้ ในกระแสของพระพุทธรรม


ขออนุโมทนาด้วยค่ะ เป็นคำพูดที่ดิฉันได้เป็นแรงบันดาลใจมากๆ เลยค่ะ

คุณtonoarja ค่ะ เรื่องที่ญาติๆ สามีและสามีที่พูดจาดูถูกเราเรื่องการเลี้ยงดู
เรารับฟัง แต่ไม่ต้องเก็บมาเป็นอารมณ์โกรธหรือน้อยใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ยิน เราเก็บมาเป็นสิ่งที่เราต้องปรับปรุง
ถือว่าทุกเสียงที่ตำหนิเราเป็นแรงกระตุ้น อย่างน้อยๆ ลูกของคุณ
ได้รับรู้ รับฟัง เค้าก็จะได้รู้ถึงความเจ็บปวดของบุคคลที่เป็นแม่

อย่างที่คุณ dd แนะนำเรื่องการขยับขยายที่อยู่ก็ดีนะค่ะ
อย่างน้อยๆ คุณก็ได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่กดดัน ไปอยู่ในที่ ที่ดีกว่าเดิม
ลดปัญหาความกดดันทั้งคุณและลูก มันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดสินใจ นะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าท้อแท้นะค่ะ

เจริญในธรรมค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้สุ้ ๆ ไว้นะครับ
ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่ออุทิศชัยชนะให้กับยาเสพติดนะครับ

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ย. 2009, 11:47
โพสต์: 11

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool สวัสดีค่ะทุกท่านดิฉันไม่มีไครเลยและไม่มีไครให้พึงพาอาศัยได้ด้วยเนื่องจากพ่อแม่ญาติพี่น้องของดิฉันเขาเกียจสามีดิฉันมากเพราะสามีดิฉันเขาเป็นคนเจ้าชู้และทำล้ายจิตใจดิฉันมานานมากพวกเขาบอกให้ดิฉันเลิกตั้งนานแล้วแต่ดิฉันเห็นแก่ลูกๆๆพวกท่านทั้งหลายเลยตัดขาดจากดิฉันพวกท่านบอกว่าเขารับว่าสามีฉันเป็นคนเก่งที่ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวไม่เคยให้ครอบครัวลำบากกายแต่พวกท่านย่อมรับไม่ได้กับความเจ้าชู้และเอาแต่ใจตัวเองที่มาทำร้ายดิฉันกับลูกและสามีดิฉันก็เอ่ยวาจาไว้ว่าถ้าใครยุ่งกับลูกเมียเขาเขาจะเผาบ้านเลยดิฉันคิดผิดเองดิฉันมันไม่รักดีพ่อแม่ส่งให้เรียนดีๆๆไม่เรียนหนีตามผู้ชายคนนี้มาตั้งแต่อายุ14ปีหน้าอายไหม่ค่ะยังไม่รู้จักใช้ชีวิตเลยและฉันก็อยู่กับเขามาจนทุกวันนี้ประมาณ28ปีแล้วเขาไมเคยให้ดิฉันออกไปไหนเลยดิฉันไม่มีเพื่อนไม่มีสังคมทุกวันนี้ก็อยูแต่กับบ้านไม่เคยออกไปไหนเพราะไปไม่ถูกและก็ไม่กล้าไปด้วยดิฉันบอกตรงๆๆว่าดิฉันกลัวโลกภายนอกมากค่ะสามีดิฉันจะบอกกับดิฉันเสมอว่าเธอเป็นคนหัวอ่อนหลอกง่ายถ้าออกไปไหนคนเดียวเธอจะโดนเขาหลอกเอาและลูกชายเขาก็ไม่ให้ออกไปไหนไปเทียวกับเพื่อนๆก็ไม่ได้ถ้าเขาโทรมาถามหรือกลับมาไม่เจอะลูกชายเขาก็จะด่าและโทรตามให้กลับบ้านเดียวนี้เลยเวลาสามีดิฉันถามลูกชายว่าเคยคิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรลูกชายก็ตอบว่าเขาไม่เคยคิดและไม่กล้าคิดเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นตัวของเขาเพราะว่าพ่อเป็นคนที่ลิขิตชีวิตเขามาตลอดตั้งแต่เล็กจนโตต้องทำอย่านี้ต้องเรียนอย่างนี้ต้องกินอย่างนี้ต้องเล่นอย่างนี้ต้องอยู่อย่างนี้ตามที่เขาต้องการสามีดิฉันเขาบอกว่าที่เขาสร้างอนาคตทุกวันนี้เพื่อไครก็เพื่อพวกลูกๆๆทำไม่ไม่ดูแลของเขาต้องอยู่ดูของเขาห้ามออกไปไหนสว่นลูกสาวดิฉันอายุ26ปีแล้วเขาแต่งงานและมีลูกแล้วและเขาก็ทนไม่ได้เลยย้ายออกไปอยูกับแม่สามีและทุกวันนี้ถ้าลูกสาวคิดถึงดิฉันก็จะต้องแอบมาเพราะถ้าพ่อเขาอยูพ่อเขาจะไม่คุยด้วยคือเขาไม่ต้อนรับลูกเลยเขาบอกว่าถ้าลูกออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบบ้านเขาอีกเลยแต่ลูกสองคนจะรักดิฉันทุกวันนี้ลูกสาวเขาทำงานเขาก็จะออนmคุยกับดิฉันทุวันถ้าวันไหนพ่อเขากลับเขามาบ้านดิฉันก็ต้องรีบปิดทันที่ดิฉันไม่อยากให้ลูกๆๆเดือดร้อนเพราะดิฉันค่ะเวลาเขาด่าลูกๆดิฉันจะเจ็บปวดทุกที่เลยดิฉันเป็นคนที่แย่มากเลยใช้ไหม่คะไม่มีที่ยืนไม่มีอนาคตไม่กล้าตัดสินใจอะไรจะกลัวไปหมดและอีกอย่างญาติพี่น้องพ่อแม่สามีดิฉันก็ไม่ได้อยู่กับดิฉันนะค่ะเขาอยู่ที่พิษณุโลกแต่เขาจะโทรมาเป่าหูสามีดิฉันทุกวันเลยไม่ว่าเรื่องลูกเรื่องอะไรสารพัดที่ไม่ดีเกียวกับลูกดิฉันเมื่อก่อนและเขาก็จะบอกสามีดิฉันว่าดิฉันเขาข้างลูกคอยให้ท้ายลูกถึงเป็นแบบนี้ไม่เคารพปู่ย่าอาๆๆเขาโกรธที่ลูกสาวดิฉันไม่พาหลานมาให้เขาดูกันลูกสาวบอกดิฉันว่าญาติพ่ออย่าหวังจะได้เห็นหนูไม่สนใจหรอกพวกต่อหน้าอย่างรับหลังอย่างพวกนี้ชอบดูละครน้ำเน่ามากเลยทำตัวกันแบบนี้แม่อย่าไปสนใจเลยมันจะทำให้แม่บ้าเปล่าๆๆทุกวันนี้ที่แม่เป็นแบบนี้ก็เพราะคนพวกนี้นะดิฉันก็อยู่ตามประสาดิฉันนะไม่เคยไปให้ร้ายพวกเขาเลยแต่ไม่รู้ทำไม่คนพวกนี้จึงจ้องให้ร้ายดิฉันตลอดเวลาหรือเขาคงต้องการให้สามีเลิกกับดิฉันเพราะเมียน้อยคนใหม่ของสามีดิฉันอายุ22ปีและเป็นอิสรามมีเงินมีที่มีทางเยอะเพราะแม่กับน้องสามีดิฉันเขาติดต่อกันอยู่กับเมียน้อยคนนี้ของสามี


แก้ไขล่าสุดโดย tonoarja เมื่อ 23 พ.ย. 2009, 13:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านกระทู้ของคุณแล้ว บอกตรงๆ ว่าดิฉันเองก็หนักใจแทนคุณเหมือนกัน
เพราะตั้งแต่คุณอายุ 14 คุณก็ใช้ชีวิตอยู่กับสามีตลอดเวลา
พูดง่ายๆ คือ เกือบครึ่งชีวิตแล้ว มันก็เลยทำให้การขยับขยายเป็นเรื่องยาก

การที่สามีคุณเป็นแบบนี้ เป็นเพราะเค้าเป็นคนเก่งด้วย
ความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะเค้าต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย
ความมั่นใจก็เลยทำให้เค้าข่มคุณและลูกได้ ประกอบกับ
เค้าเป็นผู้ชายสมัยเก่า คือ ผู้ชายเป็นผู้นำทุกเรื่อง ส่วน
ผู้หญิงต้องเป็นผู้ตามเท่านั้น

แต่ในความทุกข์ร้อนของคุณ ลองมองดีๆ คุณอาจจะเห็น
ข้อดีของสามีคุณบ้าง เช่น อย่างน้อยๆ เค้าก็ห่วงคุณ
ไม่อยากให้คุณไปไหน เพราะกลัวคุณถูกหลอก

หากตอนนี้ปัญหาระหว่างคุณกับสามียังแก้ไม่ได้
ก็อยากให้คุณคิดถึงสิ่งที่ดีระหว่างคุณกับสามีที่เคยมีมา
และถ้าคุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับร่วมอยู่กับเค้า ก็อยากให้คุณอดทน
อดกลั้น ทำความดีต่อไป ดิฉันเชื่อว่า ความดีเท่านั้นที่จะชนะใจคน

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

เจริญในธรรมค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ดิฉันคิดผิดเองดิฉันมันไม่รักดีพ่อแม่ส่งให้เรียนดีๆๆไม่เรียนหนีตามผู้ชาย คนนี้มาตั้งแต่อายุ14ปีหน้าอายไหม่ค่ะยังไม่รู้จักใช้ชีวิตเลยและฉันก็อยู่ กับเขามาจนทุกวันนี้ประมาณ28ปีแล้วเขาไมเคยให้ดิฉันออกไปไหนเลยดิฉันไม่มี เพื่อนไม่มีสังคมทุกวันนี้ก็อยูแต่กับบ้านไม่เคยออกไปไหนเพราะไปไม่ถูกและก็ ไม่กล้าไปด้วยดิฉันบอกตรงๆๆว่าดิฉันกลัว


เอานะครับ เรื่องที่แล้วไปแล้วก็จบแล้ว เลิกโทษตนเองเสียเถิดเพราะไม่มีประโยชน์มีแต่โทษด้วยว่าใจจะหดหู่เศร้าหมองเป็นบาป ..คนเราทุกคนต่างเคยทำผิดกันมาหลายๆอย่างมากบ้างน้อยบ้างนะครับ คนที่ไม่ทำผิดเลยคงมีแต่คนตายที่มีแต่ร่างไม่มีจิต..เรื่องที่เกิดอยู่นี้ จะว่าไปก็มีเหตุจากการทำให้พ่อแม่เสียใจเช่นกัน แต่เมื่อคุณสำนึกได้แล้วก็พึงหาทางขอขมาท่านเสีย พ่อแม่นั้นน้อยรายที่สามารถตัดลูกขาดได้ แม้ลูกเป็นคนชั่วอย่างสุดๆท่านก็พร้อมให้อภัยลูกได้ จึงว่าพ่อแม่เปรียบเหมือนพรหมของลูก แม้คุณเอง ก็ทราบว่าลูกติดยาแต่ก็ไม่เคยคิดตัดเขาออกไปจากชีวิต จริงใหมครับ?

เรื่องที่คุณว่าสามีห้ามไม่ให้ไปไหนจนเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกนั้นถ้าเป็นจริง คุณคงมีชีวิตเหมือนติดคุก... แต่เวลานี้คุณไม่เคยออกไปซื้อของหรือทำบุญบ้างเลยหรือครับ?..ถ้ามีโอกาสเช่นว่านี้ ลองหาทางโทรไปหาพ่อแม่ดูนะครับ ขอขมาท่านด้วยวิธีนี้ก่อน ลองดูครับ

อย่าเพิ่งปิดกั้นตนเองตามการข่มขู่ของสามี ให้บอกตนเองว่าสิ่งที่น่ากลัวที่ยิ่งกว่าการอยู่กับคนไม่มีศีลเช่นสามีและหมู่กลุ่มไม่มีอีกแล้ว อย่าดูถูกตนเองเป็นอันขาดว่าไม่มีทางไปหรือทำอะไรไม่ได้เลย ดูเถิด ไม่เพราะการอยู่กับคนเช่นนี้หรือจึงเป็นโรคประสาท ทั้งลูกก็ติดยา!!? ให้บอกตนเองว่า ไม่มีสิ่งใดที่เราจะทำไม่ได้เพื่อให้ตนเองและลูกๆมีชีวิตที่ดีกว่า หากใจยอมอ่อนแอแล้ว ก็ทำให้เรากลายเป็นเหยื่อแห่งเคราะห์ร้ายสารพัดไม่มีที่สุด เพิกความกลัวออกไปทุกๆวัน คนเรานั้นหากไม่คิดดิ้นรนอะไรเลยก็จะต่างอะไรจากสวะที่ลอยไปมาตามแต่ลมและน้ำจะพาไป

ขอยกเรื่องจริงจากคนสู้ชีวิตมาให้อ่าน เทียบดูกับเราสิว่าใครแย่กว่ากัน..

น้านอม สู้ชีวิต


คน เราเมื่อเกิดมา หากมีครบ 32 ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว แต่สำหรับคนบางคน หากเขาคนนั้นเกิดมามีไม่ครบ ที่ใช้ภาษาทั่วไปว่า "พิการ" ซึ่งคนอื่นอาจคิดว่า เขาเป็นภาระต่อครอบครัว แต่สำหรับคนที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ เค้าไม่เคยทำตัวให้เป็นภาระต่อคนอื่นเลยสักครั้ง

"น้านอม" หญิงสาวผู้พิการทางขา และยังเป็นโรคหอบหืดอีก แถมน้านอมนั้นยังมีลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอีกด้วย แต่ว่าน้านอมก็ยังไม่ท้อ ยังสู้ชีวิต เพื่อส่งให้ลูกสาวเรียนให้สูงที่สุด แม้ว่าความพิการนั้น จะเป็นอุปสรรคต่อชีวิตตัวเองมากแค่ไหน น้านอมก็ยังไม่เคยคิดที่จะทิ้งลูกตัวเองไปสักครั้ง หากทว่าเรื่องนี้มันเกิดกับคนอื่นล่ะ เค้าจะทนได้มากมายเท่าไร เค้าจะยังอยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกไหม หากถูกคนล้อ หากถูกคนด่าว่า ว่าเป็นตัวถ่วงของครอบครัว ซึ่งน้านอมไม่เคยยอมแพ้ น้านอมส่งลูกเรียนโดยการร้อยมาลัย เพราะมันอาจเป็นงานชนิดเดียวที่น้านอมทำได้ เวลาไปไหนมาไหน น้านอมใช้วิธีเดินคล้ายกับคลานไป หากบ้านใดมีงานก็จะเห็นน้านอมตลอด น้านอมจะช่วยคนอื่นทุกครั้งหากช่วยได้

น้า นอมเป็นคนสนุกสนาน อารมณ์ดี ผู้คนที่นี่รู้จักน้านอมทั้งนั้น และทุกคนก็พยายามช่วยน้านอมในฐานะที่ทำได้ ซึ่งน้านอมก็ไม่ได้แต่รอ และขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่น้านอมพยายามหาทางทำมาหากินทุกอย่างหากทำได้ น้านอมไม่เคยปล่อยให้ตัวเองว่างสักครั้ง เช้ามาน้านอมก็ร้อยมาลัยเป็นพวง หากวันไหนที่ไม่มีมาลัย น้านอมก็จะช่วยลูกสาวไปหาร้อยมาลัยตามที่ต่างๆ ซึ่งมันก็เป็นงานสุจริตที่น้านอมตั้งหน้ายึดอาชีพนี้ เพื่อเลี้ยงคนในครอบครัวและลูกสาวของน้านอม

หาก แต่ให้ข้าพเจ้าบรรยาย ข้าพเจ้าคิดว่า... คงอธิบายให้ใครเข้าใจได้ยาก หากเพียงคุณลองคิดถึงผู้หญิงคนนึงที่พิการทางขา แต่ต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงลูกและครอบครัวของเธอ ซึ่งหากทุกคนลองคิดว่า คุณเป็นเธอ คุณก็จะรู้ว่า เธอเป็นคนที่น่าภูมิใจมากแค่ไหน อย่างที่ข้าพเจ้าคิด

ความพิการไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้มีชีวิตอยู่ในสังคมนี้ไม่ได้

มีแต่คนที่พิการทางจิตใจเท่านั้น

ที่ไม่คิดจะต่อสู้ หรือมีน้ำใจให้ใครต่างหาก

ที่ไม่ควรอยู่ในสังคม


แนะนำโดย.. นส.พิมพ์นัดดา เดือนทอง อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์
สามารถส่งเรื่องราวความดีมาได้ที่ ตู้ปณ.๗๗ ปณฝ.รัฐสภา กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๕
หรือ thaiyouthnews@gmail.com

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2009, 17:12
โพสต์: 246

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้คุณแม่เจ้าของกระทู้ หาทางแก้ไขปัญหาได้ไว ๆ นะค่ะ :b10:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :b4:


คนเราเกิดมามีกรรมเป็นของตนเองค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ tonoarja
คำแนะนำของทุก ๆ ท่านดีมากค่ะ ขอให้ค่อยๆ อ่านและค่อย ๆ แก้ปัญหาไปนะค่ะ
ตอนนี้ที่อยากให้คุณมีมากที่สุด คือกำลังใจที่ดี
ดูแล้วคุณต้องใช้พลังเยอะมาก
ขอแนะนำนะค่ะ
ขอให้คุณกอดลูก บอกเขาว่าคุณรักเขามากแค่ไหน
มีความหวังดีให้ลูกเพียงใด สิ่งดี ๆ เกี่ยวกับตัวเขาคุณพูดและย้ำ ย้ำ ทุกวันนะ
และก็กอด กอด กอด การกอดเป็นยารักษาที่ดีมาก

ขอแค่อย่าดุ ด่า ว่า หรือขุดพฤติกรรมอันไม่ดีของเขาออกมา
จะยิ่งตอกย้ำปัญหา เพราะเด็กที่ติดยามีสาเหตุจากหลาย ๆ อย่าง แต่หนึ่งในนั้นก็คือ
จิตใจเขาไม่เข็มแข็ง แล้วก็พาเขาไปเลิกทฃในสถานบำบัดนะค่ะ

สิ่งหนึ่งที่คุณละเลยไม่ได้ คือสิ่งแวดล้อมที่รอบตัวเขาอยู่
เพราะนี่คือตัวที่ทำให้ เขาจะกลับไปติดยาได้อีก
ลองเปลี่ยนแปลงสภาพครอบครัว สภาพแวดล้อม "ล้อมรั้วด้วยรัก"
ข้างต้นแนะนำตามคนที่มีความรู้ด้านการดูแลเด็กนะ
ต่อไปจะแนะนำด้านกรรมเวร

ลูกติดยา แก้กรรม
1.ถวายสังฆทาน วันเกิดตนเอง อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
2.ไปบนพระประจำวันเกิดลูก หรือรัชกาลที่ 5 (บนวันเกิดลูก ข้างขึ้น 7-15 ค่ำ) ขอบารมีท่านช่วยให้ลูกดีขึ้น
3.พาลูกไปหาหลวงพ่อ ช่วยสอน
4.หาผู้หญิงที่เขานับถือมาช่วยอีกแรง
5.รักลูกมากขึ้น ให้ความอบอุ่นมากขึ้น เข้าใจเขามากขึ้น
ก่อนใส่บาตร จุดธูป 16 ดอก กลางแจ้ง บอก 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินให้ช่วยและขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรมเพื่อทุกอย่างจะดีขึ้น และกรวดน้ำทุกครั้งที่สวดมนต์ ทำบุญ กรวดลงดิน 100 ครั้ง เจ้ากรรมนายเวรจะได้อโหสิกรรม
ถ้ากรรมหนัก ๆ ควรบวชชีพราหมณ์ หรือตักบาตรด้วยพระเงิน พระทอง สะเดาะเคราะห์กรรมไป ให้อโหสิกรรม (สุดแต่กรรม)
กรรมนั้น ๆ มาก น้อย ให้ดูที่กายสังขาร และชีวิตที่เป็นไป รีบแก้ก่อนที่จะติดภพกรรม อาจารย์เอาใจช่วย

ลองดูนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 00:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 04:04
โพสต์: 356

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณtonoarja วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นไหมค่ะ.....คุณแม่ค่ะ ช่วงที่คุณแม่จะเข้ามาที่ลานแห่งนี้
คุณแม่ลองชวนลูกชายมานั่งอ่านข้อความที่คุณแม่จะระบายในกระทู้ของคุณแม่ดีไหมค่ะ....ให้ลูกชาย
ได้รับรู้เรื่องราวความทุกข์ของคุณแม่ไปพร้อมกับเขาด้วย....หรือจะให้ลูกชายระบายความอัดอั้น สาเหตุ
ของการติดยา ความไม่พอใจพ่อของเขาพร้อมไปกับคุณแม่ก็ได้ คือถ้าลูกชายได้ระบายกับพี่ ๆ น้อง ๆ
ในลานแห่งนี้ การที่ลูกชายไม่ได้เห็นหน้าพวกเรา เขาอาจจะกล้าพูดอะไร ๆ ที่ติดค้างคาใจมานาน
มากกว่าการนั่งจ้องตากันก็ได้นะค่ะ

หรือไม่คุณแม่ก็ให้เวลาลูกชายเข้ามานั่งอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในลานแห่งนี้ตามลำพังก็ได้ค่ะ....การเข้า
มานั่งพิมพ์ นั่งอ่าน ก็เป็นการฆ่าเวลาของการคิดจะไปเสพยาบ้างก็ได้นะ.....คุณแม่ค่ะ พี่ ๆ น้อง ๆ
เพื่อน ๆ ในลานแห่งนี้ก็พยายามจะช่วยคุณแม่อย่างเต็มที่ .....คุณแม่ก็ต้องช่วยตัวเองด้วยนะค่ะ... จุด
สำคัญอยู่ที่ใจค่ะ ใจต้องพร้อมที่จะสู้กับปัญหาอย่ายอมแพ้ อย่าหมดอาลัยกับชีวิต...ดูอย่างต้นมะพร้าวสิ
ถูกลมแรงล้มครืนลงนอนราบกับพื้น...รากลอยหลุดจากผิวดิน ...คิดว่ามันคงต้องรอวันเหี่ยวแห้งตาย
แต่เปล่าเลยเพียงไม่นาน ก็จะเห็นช่วงปลายต้น พยายามที่จะยืนขึ้นมาอีกครั้ง แม้มันจะไม่สามารถยืน
ตั้งได้ทั้งต้นเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่ยอมที่จะหยุดตัวเอง มือก็ไม่มี ขาก็ไม่มี แต่ยังคงพยายามยืนขึ้นอยู่
ทุกวัน ทุกวัน ถึงแม้วันข้างหน้ามันจะไม่สามารถสูงได้เท่าเก่าก่อน แต่มันก็ไม่โดดเดี่ยว เพราะข้างต้น
มันมีเพื่อน ๆ ร่วมพรรณไม้ยืนอยู่แนบข้าง ดีกว่าสูงชะลูดกว่าใครเขา แต่ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเลย.....
.....คุณแม่เห็นด้วยไหมค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 06:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีค่ะคุณแม่ วันนี้คงไม่มีความเห็นใดใด
เพราะเพื่อนๆกัลยาณมิตรทุกท่าน ได้ระดมคำแนะนำที่ดีที่สุดให้คุณแม่
กันแบบไม่ยั้ง วันนี้แวะมาเติมเต็มกำลังใจให้คุณแม่ ขอเพียงคุณแม่
ต้องไม่ท้อนะค่ะ วันไหนอยากร้องไห้ก็ร้องไป แล้วก็เช็ดน้ำตาให้แห้ง
คุยกับลูกให้มากๆ ใครไม่รักเราก็ไม่เป็นไร เรารักกันสองแม่ลูกก็พอ
ถามความสมัครใจเขาดูซิค่ะ ว่าเขาเต็มใจที่จะเลิกใช้ชีวิตแบบนี้ไหม?
ถ้าเขายอมก็พาเขาไปสถานที่บำบัด มีเยอะแยะที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทุกคนบนโลกใบนี้ มีทุกข์ทุกคน ไม่มีใครสุขอย่างเดียวหรอกค่ะ
คุณแม่ทนอยู่ในสภาพแบบนี้มาได้ตั้งยี่สิบแปดปี คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ที่จะสู้ทนต่อไป แต่การทนครั้งนี้ต้องมีความหมาย อย่าทนอย่างเดียว
ต้องรู้จักต่อสู้บ้างเพื่อลูก :b4:

เลิกสนใจ เลิกเก็บเอาคำพูดไร้สาระ ของคนรอบข้างมาบั่นทอนจิตใจ
ตัวเอง คุยกับลูก ปรับทุกข์กันสองแม่ลูก เขาจะได้รู้ว่าคุณแม่พร้อมที่จะอยู่ข้างๆ
เขาเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไร? เขาสำคัญต่อคุณแม่มากกว่าใครๆ :b4:

เข้ามาคุยทุกวันนะค่ะ อย่างน้อยๆก็เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
แล้วสักวันเราต้องหาทางออกกันได้ ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดก็คือฟื้นฟู กำลังกาย กำลังใจ
ของคุณแม่ให้เข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือเปลี่ยนแปลง
ในอนาคต ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้นะค่ะ คุณแม่ต้องทำได้สู้สู้ค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 06:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ติดยาต้องให้ลูกคุณ เลิกใจที่ใจก่อนครับ ผมเคยติดตอนวัยรุ่น เลิกใจได้แล้ว ค่อยไปบำบัดทางกาย แต่ สถานที่บำบัด ต้องเลือกให้ดี ถ้ำกระบอกห้ามไปเด็ดขาด เลิกทางใจต้องหมั่นพาเขาไปหาบัณฑิตนักปราชญ์บ่อยๆ ให้ลูกคุณเชื่อฟัง และทำยังไงก็ได้ ให้ลูกคุณโดยสำนึกในธรรมะ สงสารคุณ(แต่คุณอย่าทำประชด)อาจหดหู่ใจทั้งคู่มันไม่ดี เชื่อว่า เจ้ากรรมของเขามีครับ มั่นใจมากๆ ไม่รุ่ว่ายาอะไรที่เขาติด น่าจะยาบัาหรือเปล่า

คุณหลับอยู่ครับ ผมอยากรบกวนถามว่าทำไม คุณถึงบอกว่า
ถ้ำกระบอกห้ามไปเด็ดขาดผมอยาก
ทราบเหตุผลครับ ไม่ทราบว่าทางถ้ำกระบอกมีอะไรไม่ดีหรือครับ
ถึงบอกว่าอย่าไป หวังว่าคุณคงมีความรับผิดชอบพอที่จะตอบนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 08:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


PENYA เขียน:
สวัสดีค่ะ คุณtonoarja วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นไหมค่ะ.....คุณแม่ค่ะ ช่วงที่คุณแม่จะเข้ามาที่ลานแห่งนี้
คุณแม่ลองชวนลูกชายมานั่งอ่านข้อความที่คุณแม่จะระบายในกระทู้ของคุณแม่ดีไหมค่ะ....ให้ลูกชาย
ได้รับรู้เรื่องราวความทุกข์ของคุณแม่ไปพร้อมกับเขาด้วย....หรือจะให้ลูกชายระบายความอัดอั้น สาเหตุ
ของการติดยา ความไม่พอใจพ่อของเขาพร้อมไปกับคุณแม่ก็ได้ คือถ้าลูกชายได้ระบายกับพี่ ๆ น้อง ๆ
ในลานแห่งนี้ การที่ลูกชายไม่ได้เห็นหน้าพวกเรา เขาอาจจะกล้าพูดอะไร ๆ ที่ติดค้างคาใจมานาน
มากกว่าการนั่งจ้องตากันก็ได้นะค่ะ


อยากจะบอกคุณ Penya ว่า เราใจตรงกันมากๆ เลยค่ะ เพราะดิฉันคิดว่า
ถ้าคุณ Tonoarja ชวนลูกชายเข้ามาอ่านในลานธรรมนี้ได้จริงๆ
ปัญหาที่อัดอันของลูกชายคุณ อาจจะเบาบางลงได้บ้าง
และถ้าเปิดกระทู้ของคุณ ให้ลูกชายคุณอ่าน เค้าอาจจะเข้าใจ
ถึงปัญหาของคุณ และความปรารถนาดีของคุณได้มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาดูครับ แสดงว่าลูกคุณก้รักคุณนี่ครับ คุณหาโอกาสให้เขาศึกษาธรรมะนะครับ กุสโลบายมีเยอะค่อยๆนึกเอา เช่น วางหนังสือธรรมะ เพื่อให้เขาอ่าน ก็ต้องดูอะไรๆหลายอย่างล่ะครับ ยังไม่รู้เลยว่าลูกคุณ เล่นเนื้อหรือเปล่า หรือว่า ยาบ้า แต่ที่สำคัญต้องให้เขาหานักปราชญ์ บัณฑิตเช่นพระอาจารย์ต่างๆ ให้เลิกใจก่อน สำคัญมากๆครับ เมื่อใจอยากเลิกหน่ายแหนงจากยา ต่อไปก้พาไป เลิกกาย ตอนเลิกกาย นี่เลือกที่ให้ดีๆล่ะกันนะครับ ขอให้หลุดพ้นจากสภาวะนี้โดยเร้วพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


TAKSA เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
ติดยาต้องให้ลูกคุณ เลิกใจที่ใจก่อนครับ ผมเคยติดตอนวัยรุ่น เลิกใจได้แล้ว ค่อยไปบำบัดทางกาย แต่ สถานที่บำบัด ต้องเลือกให้ดี ถ้ำกระบอกห้ามไปเด็ดขาด เลิกทางใจต้องหมั่นพาเขาไปหาบัณฑิตนักปราชญ์บ่อยๆ ให้ลูกคุณเชื่อฟัง และทำยังไงก็ได้ ให้ลูกคุณโดยสำนึกในธรรมะ สงสารคุณ(แต่คุณอย่าทำประชด)อาจหดหู่ใจทั้งคู่มันไม่ดี เชื่อว่า เจ้ากรรมของเขามีครับ มั่นใจมากๆ ไม่รุ่ว่ายาอะไรที่เขาติด น่าจะยาบัาหรือเปล่า

คุณหลับอยู่ครับ ผมอยากรบกวนถามว่าทำไม คุณถึงบอกว่า
ถ้ำกระบอกห้ามไปเด็ดขาดผมอยาก
ทราบเหตุผลครับ ไม่ทราบว่าทางถ้ำกระบอกมีอะไรไม่ดีหรือครับ
ถึงบอกว่าอย่าไป หวังว่าคุณคงมีความรับผิดชอบพอที่จะตอบนะครับ

สมัยผมเล่น เพื่อนที่เล่นด้วย ไปแล้วไปรู้จักพวกเล่นเพิ่มอีกครับ ก้ยิ่งเละครับ ผมไม่ได้ว่าวัดนะครับ สิ่งแวดล้อมครับ ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย รับผิดชอบอยุ่แล้วครับ จากประสบการณ์ไปแล้ว ไม่เวิคร์ครับ ถ้ำกระบอกตัวยาดีอยู่แล้วครับ คนที่แวดล้อมต่างหาก น้อยครับ ที่เลิกขาด ส่วนที่ผมเจอกลับ มาเล่นอีก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 09:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


วงการนักเสพรุ่นเดอะย่อมรู้ในคำที่ผมพูด ชัดเจนดีแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมถามซิว่า ที่ถ้ำ มีขายยาไหมครับ มีคนคอยขวางไม่ให้ผู้เสพ คบหากันไหมครับ แก้2อันนี้ให้ได้ก่อนครับ ส่วนคนเลิกได้มีครับ แต่เลิกขาดน้อยมาก ตัวยาดีครับอ้วกเหมือนไส้ขาด แต่พวกไปหลายรอบนี่ซิครับ ที่ร้ายคือการคบหากันระหว่างผู้ติด ปัญหานี้ จะแก้ยังไง?? หากลูกของคุณติดแค่กัญชา แต่พาไปบำบัด ดันไปเจอคบหากับพวกที่ติดยาประเภทอื่นเข้า พอเลิกกัญชาแต่ไปติดอย่างอื่นละครับ ??? แล้วถ้าไปเจอพวกค้ายาแฝงมาคุณรับประกันได้ไหมครับ สมมติคุณติดแล้วเลิกได้ที่นั่นก็ดีไปแต่อีกหลายๆคนละครับ เช่นคุณที่สูบกัญชาปัญญาบารมีเขามีครับ ผมจึงต้องกล่าวประโยคขั้นต้นซึ่งส่วนตัว รอบคอบแล้ว ผมจึงต้องถามว่า ติดอะไร เลิกกัญชาไม่จำเป้นต้องไปถ้ำกระบอกหรอกครับ หรืออาจจะแค่เสพแบบแฟชั่น ปริมาณไม่มาก แต่บ่อยๆ ซึ่งผมคาดว่า ลูกของคุณคนนี้ ไม่น่าจะเล่น มานาน เหตุปัจจัยเยอะมากครับถ้าจะมาเสียเวลาเถียงเรื่องนี้ จะปฏิบัติธรรม จริงอยู่ปฏิบัติได้ทุกที่ถ้ามีลมหายใจ แต่สำหรับหลายๆคน สถานที่มีส่วน ยกมาแค่นี้พออนุมานเอาได้นะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 102 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron