วันเวลาปัจจุบัน 04 ต.ค. 2024, 22:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่


เจดีย์ บุญเขตต์อันเยี่ยม เชื่อมโยงใจพระพุทธเจ้า

พระจุฬามณีเจดีย์ ตั้งอยู่ ณ สวรรคชั้นที่ ๒ คือ ดาวดึงสเทวโลก เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุ พระจุฬาโมลี (มวยผม) ของเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อครั้งเสด็จออกบรรพชา ครั้งเสด็จข้ามแม่น้ำอโนมาแล้ว จะอธิษฐานเพศบรรชิต ทรงตัดมวยพระเกศาขว้างไปในอากาศ พระอินทร์นำผอบแก้วมารองรับนำไปประดิษฐานในพระจุฬามณี ดาวดึงสเทวโลก ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ในขณะแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ พระอินทร์ได้นำเอา พระทาฐธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนขวา ที่โทณพราหมณ์ซ่อนไว้ในผ้าโพกศีรษะ ใส่ผอบทองนำไปบรรจุในพระจุฬามณีด้วย นอกจากนั้น พระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) เบื้องขวา ก็ประดิษฐานอยู่ในพระจุฬามณีเจดีย์สถานเช่นกัน

-------------

เจดีย์เป็นพุทธสถานที่เชื่อมโยงจิตใจของเรากับพระพุทธเจ้า
:b8: :b8: :b8: เจดีย์ หรือ พุทธเจดีย์ มี ๔ ประเภท คือ
พระธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ พระธรรมเจดีย์ และอุทเทสิกเจดีย์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=43001

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
องค์พระปฐมเจดีย์ ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
ถ.ขวาพระ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
ที่มาของรูปภาพ : คุณเปรม นครปฐม


พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุ อินเดียเรียกเจดีย์ประเภทนี้ว่า “สรีริกสถูป” พระธาตุเจดีย์รวมถึงเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์สาวกด้วย ถ้าเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ ก็จะเรียกว่า “พระมหาธาตุ” “พระบรมธาตุ” หรือ “พระบรมสารีริกธาตุ” ถ้าเรียกพระธาตุส่วนหนึ่งส่วนใดของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ ก็จะเรียกชื่อตามนั้น เช่น

พระทันตธาตุ หรือพระทาฒธาตุ (ฟันหรือเขี้ยวของพระพุทธเจ้า)
พระเกศธาตุ (เส้นพระเกศาของพระพุทธเจ้า)
พระอุรังคธาตุ (พระธาตุส่วนที่เป็นกระดูกหน้าอกของพระพุทธเจ้า)


ตัวอย่างของพระธาตุเจดีย์
พระปฐมเจดีย์
พระบรมธาตุดอยสุเทพ
พระบรมธาตุดอยตุง
พระธาตุลำปางหลวง
พระธาตุหริภุญชัย
พระธาตุพนม
พระธาตุเชิงชุม
พระธาตุนารายณ์เจงเวง
พระบรมธาตุขามแก่น
พระธาตุบังพวน
พระธาตุแช่แห้ง
พระธาตุช่อแฮ
พระบรมธาตุเมืองนคร
พระธาตุไชยา

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
ธัมมเมกขสถูป ณ สารนาถ เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย
อนุสรณ์สถานแห่งการแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร


บริโภคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุของใช้ที่เกี่ยวกับเนื่องกับพระพุทธเจ้า ได้แก่ อัฐบริขาร มีบาตรและจีวร เป็นต้น นอกจากนั้นยังรวมไปถึงสถานที่อันเป็นสังเวชนียสถานทั้งสี่ คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน) ตรัสรู้ (พุทธคยา) แสดงปฐมเทศนา (ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน) และปรินิพพาน (เมืองกุสินารา) รวมพระแท่นที่บรรทมตอนปรินิพพาน อินเดียเรียกเจดีย์ประเภทนี้ว่า ปาริโภคสถูป


พุทธสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
: สถานที่อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=39377

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
หอไตร วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ


พระธรรมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุ หรือจารึกพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เช่น หอพระไตรปิฎก และส่วนที่เป็นพระไตรปิฎกเอง ไม่ว่าจะจารึกในรูปแบบใด เดิมได้เลือกเอาหัวใจพุทธศาสนาจารึกเป็นตัวอักษร ประดิษฐานไว้สำหรับบูชาสักการะ มีความว่า

“เย ธมฺมา เหตุปปฺภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต เตสญฺจ โย นีโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ”

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ “หลวงพ่อใหญ่”
ณ วัดพิกุลทอง (พระอารามหลวง) อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
ที่มาของรูปภาพ : คุณ Jk_Bigfoot M


อุทเทสิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่ทำเป็นพุทธบัลลังก์ พระแท่นพระพุทธเจ้า รวมถึงพระพุทธฉายด้วย อินเดียเรียกเจดีย์ ประเภทนี้ว่า อุทเทสิกสถูป สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา รวมความได้ว่า พระเจดีย์ เป็นที่ทำเป็นหรือบรรจุสิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้า อันเป็นสิ่งที่ควรแก่การบูชาสักการะ

อุทเทสิกเจดีย์ เป็นสถานที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งเคารพบูชา ได้แก่ พุทธบัลลังก์ ซึ่งเรียกว่าอาสนะบูชา เป็นสถานที่จัดเตรียมไว้ให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเสด็จไปโปรดเทศนาสั่งสอน ณ ที่นั้นๆ จึงได้สร้างพุทธบัลลังก์เป็นที่เคารพบูชา และในวัตถุนิทานในคัมภีร์อรรถกถาว่า มีพระปุสสเทวเถระอยู่กลันทวารวิหารกวาดลานเจดีย์ประจำ วันหนึ่งได้เห็นพระรูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปรากฏ ทำให้อารมณ์เป็นสุขแล้วเจริญวิปัสสนาจึงเกิดบรรลุเป็นพระอรหันต์ ทำให้คิดสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยวัสดุดังนี้ มีแก้ว มณี ศิลา โลหะ อัฐ ไม้ ประดิษฐ์ขึ้นเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นปูชนียวัตถุไว้เป็นอนุสรณ์ เครื่องระลึกเตือนใจสำหรับผู้พบเห็น จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ได้เกิดสิ่งเคารพขึ้นแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แก่ พระเจดีย์ พระเจดีย์ ๔ ประเภทนี้กลายเป็นสัญลักษณ์พระพุทธศาสนา ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ระลึกถึงพระพุทธองค์และเป็นวัตถุสำคัญ

อุทเทสิกเจดีย์ เป็นสิ่งของสร้างขึ้นด้วยเจตนาอุทิศแด่พระพุทธเจ้า มิได้กำหนดว่าเป็นอะไร ถ้ามิใช่พระธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ และพระธรรมเจดีย์แล้วก็ถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ทั้งสิ้น เช่น พุทธบัลลังก์ พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท พระธรรมจักรฯ พระเครื่อง ล้วนเป็นอุทเทสิกเจดีย์ทั้งสิ้น



พระประธาน-พระคู่บ้านคู่เมือง ๗๗ จังหวัด
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=73

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เจดีย์ชเวดากอง หรือพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๕ จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระเจ้าพินยาอู ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่ มีความสูง ๙ วา (๑๘ เมตร) และนับจากนั้นพระบรมธาตุก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ ตลอดจนการถวายเครื่องมหัคฆภัณฑ์อันได้แก่ ทองคำ รัตนชาติ และสิ่งมีค่าต่างๆ เพื่อเป็นพุทธบูชาอย่างต่อเนื่องยาวนาน หลายร้อยปี พันปีทีเดียว ระหว่างนั้นองค์พระเจดียก็มีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเทียบเท่ากับความสูงปัจจุบัน คือ ๔๙ วา (๙๘ เมตร)

ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ระหว่างระยะเวลาที่ผ่านมานั้นมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง แต่องค์พระบรมธาตุก็มิได้รับความเสียหายมาก กระทั่งถึงปี พ.ศ.๒๓๑๑ เกิดแผ่นดินไหวหนักมาก จนกระทั่งยอดพระบรมธาตุหักตกลงมา เรารู้ไหมครับว่า บนยอดพระบรมธาตุมีอะไรบ้าง เอาแค่รายการย่อยๆ เท่านั้นนะครับ บนยอดสุดของพระบรมธาตุนั้นมีเพชรลูกอยู่ ๕,๔๔๘ เม็ด ขนาดเท่าไข่นกพิราบบ้าง เท่าไข่นกกระทาบ้าง โดยเฉพาะที่ยอดฉัตรชั้นบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่เม็ดหนึ่งหนักประมาณ ๗๒ กระรัต และทับทิมลูกขนาดเท่าไข่ไก่บ้าง ไข่ห่านบ้าง ไข่นกพิราบบ้าง รวม ๒,๓๑๗ เม็ด ใหญ่กว่าเพชรที่ยอดพระมหาพิชัยมงกุฏซึ่งเราไปซื้อมาจากอินเดีย ตั้งไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ อีกอย่างของเราซื้อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แต่ของพม่าถวายไว้นานมาก นานจนไม่รู้ว่าถวายมาตั้งแต่สมัยไหนด้วยซ้ำครับ แล้วอีกอย่างถ้าจะว่าเพชรนั้นมาจากสยามประเทศก็ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ในพระราชพงศาวดารของเราไม่เคยพูดถึงเพชรในเครื่องราชูปโภคสมัยกรุงศรีอยุธยาเลย มีก็แค่ทับทิมสีแดงขนาดเท่าผลหมากสงทั้งเปลือกซึ่งห้อยคอม้าในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีแค่นั้นครับ อีกอย่างผลหมากสงทั้งเปลือกเล็กกว่าไข่ไก่ตั้งสองเท่าได้


พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เกี่ยวข้องกับ “พระพุทธเจ้า” อย่างไร?
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=43353

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2009, 00:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:11
โพสต์: 1044

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเรียนรู้ศาสนสถานที่สำคัญ และความหมายที่บรรพบุรุษสร้างไว้

เพื่อให้เราน้อมใจบูชาพระพุทธเจ้า

เพื่อน้อมใจให้ใฝ่ศึกษาพระธรรมคำสอน

เพื่อน้อมใจในการทำนุบำรุงพระศาสนาให้สืบต่อไป ดังพระอริยสงฆ์ และ สมมุติสงฆ์

:b8: :b8: :b8: :b8:

กราบบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันนี้เป็นวันพระ
๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒
............

.....................................................
ตักบาตรทุกวัน....ได้บุญทุกวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2009, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 20:12
โพสต์: 791

แนวปฏิบัติ: พุทโธและสัมมาอรหัง
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ใต้ร่มโพธิญาณ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จนิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายและพระบารมีขององค์พระสมณะโคดมบรมครู ขอได้ส่งพลังมายังตัวข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บและสรรพเคราะห์ทั้งหลายในกายของข้าพเจ้า จงหายไปสิ้นทั้งหมดขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
พระเจดีย์ ณ วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน


เจดีย์ บุญเขตต์อันเยี่ยม เชื่อมโยงใจพระพุทธเจ้า


เรียบเรียงสานต่อ ภาคที่ 2 โดย : น้อมเศียรเกล้า
ขอขอบพระคุณรูปภาพและข้อมูลจาก :

1. ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2. เว็บไซต์ http://krookong.net
3. คุณตักบาตรถามพระ แห่งลานธรรมจักร
4. ข้อมูลส่วนอื่นๆ จากอินเตอร์เน็ต


“เจดีย” ถือเป็นปูชนียสถานหรือวัตถุเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า หรืออาจจะหมายถึงตัวแทนของพระพุทธองค์ มีความมุ่งหมายให้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหรือบรรจุพระบรมธาตุ เจดีย์จึงเป็นประธานในวัด ต้นกำเนิดของเจดีย์มาจากอินเดียเรียกว่า “สถูป” ในภาษาบาลี หรือ “ถูป” ในภาษาสันสกฤต แต่เดิมก่อนมีพระพุทธศาสนาเป็นที่ฝังอัฐิ ในล้านนาเรียกเจดีย์ว่า กู่ เช่น กู่เต้า กู่กุด ต่างจากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมเรียกเจดีย์ว่า ธาตุ เช่น พระธาตุพนม ในทางพุทธศาสนาแบ่งเจดีย์ออกเป็น 4 ประเภท คือ พระธาตุเจดีย์ พระธรรมเจดีย์ บริโภคเจดีย์ และอุเทสิกเจดีย์ ต่อมาสามัญชนหรือบุคคลชั้นปกครองได้นิยมนำอัฐิเจดีย์ของผู้มีเกียรติสูงบรรจุไว้ในเจดีย์ด้วย แต่ต่างวัตถุประสงค์กัน (ผศ.โชติ กัลยาณมิตร)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Stupa02-SMP.jpg
Stupa02-SMP.jpg [ 114.9 KiB | เปิดดู 15418 ครั้ง ]
สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า เจดีย์ นั้น ไทยเราเรียกรวมถึงสถาปัตยกรรมในรูปอื่นที่สร้างขึ้นเพื่อความมุ่งหมายอย่างเดียวกันด้วย ดังเช่นพระปรางค์ ในงานวิทยานิพนธ์ เรื่องThe Origin and Developement of Stupa Architecture in India โดย Sushila Pant พิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 1976 กล่าวว่า “สิ่งที่ไทยนิยมเรียกว่าเจดีย์นั้น มิได้เรียกเหมือนกันไปหมดทุกภาค” ในสถาปัตยกรรมแบบล้านนานั้นชาวภาคเหนือเรียกว่า “กู่” แทนคำเรียกว่าเจดีย์ เช่น กู่เต้า กู่กุฏิ ฯลฯ แต่ถ้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ชาวภาคอีสานนิยมเรียกว่า “ธาตุ” เช่น ธาตุพนม ธาตุบัวบก ฯลฯ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




สถาปัตยกรรมของเจดีย์ไทย.jpg
สถาปัตยกรรมของเจดีย์ไทย.jpg [ 74.3 KiB | เปิดดู 15418 ครั้ง ]
ลักษณะและรูปแบบทางสถาปัตยกรรม

พระเจดีย์ในประเทศไทย จากหลักฐานที่ปรากฏที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่พบได้ในปัจจุบัน คือสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) ซึ่งส่วนใหญ่พังทลายเหลือแต่แนวฐาน จึงต้องสันนิษฐานรูปแบบจากพระสถูปจำลองขนาดเล็ก หรือจากภาพปูนปั้นเหนือผนังถ้ำบางแห่งหรือจากภาพสลักบนใบเสมาสมัยเดียวกัน ทำให้พอเห็นได้ว่า มีองค์ประกอบสำคัญ 4 อย่าง คือ ฐาน องค์ระฆัง บัลลังก์ และยอด
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




เจดีย์ระฆัง.jpg
เจดีย์ระฆัง.jpg [ 36.81 KiB | เปิดดู 15418 ครั้ง ]
รูปทรง
รูปทรงของเจดีย์อาจแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆดังนี้

เจดีย์ทรงระฆัง :

เจดีย์ที่มีองค์ระฆังเป็นลักษณะเด่นโดยมีฐานรองรับอยู่ส่วนล่างเหนือองค์ระฆังเป็นส่วนยอดมีบัลลังก์รูปสี่เหลี่ยม,ปล้องไฉนและปลีทรงกรวยแหลม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




เจดีย์ทรงปราสาท.jpg
เจดีย์ทรงปราสาท.jpg [ 30.56 KiB | เปิดดู 15418 ครั้ง ]
เจดีย์ทรงปราสาท :

ปราสาทหมายถึงเรือนที่ซ้อนหลายชั้นหรือมีหลังคาลาดหลายชั้นซ้อนกันเจดีย์ทรงปราสาทในประเทศไทยมีทั้งลักษณะเรือนธาตุซ้อนชั้นหรือหลังคาซ้อนชั้น


แก้ไขล่าสุดโดย น้อมเศียรเกล้า เมื่อ 18 ก.พ. 2012, 17:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




เจดีย์ทรงปรางค์2.jpg
เจดีย์ทรงปรางค์2.jpg [ 93.5 KiB | เปิดดู 15418 ครั้ง ]
เจดีย์ทรงปรางค์ :

เป็นเจดีย์ที่มีทรงคล้ายดอกข้าวโพดประกอบด้วยส่วนฐานรองรับเรือนธาตุส่วนยอดเป็นชั้นซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปซึ่งคลี่คลายมาจากรูปแบบของปราสาทขอมแต่เจดีย์ทรงปรางค์โปร่งเพรียวกว่าปราสาทแบบขอม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2012, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.พ. 2010, 11:04
โพสต์: 1147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




เจดีย์ยอดดอกบัวตูม.jpg
เจดีย์ยอดดอกบัวตูม.jpg [ 42.89 KiB | เปิดดู 14660 ครั้ง ]
เจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูม :

เจดีย์ทรงนี้เรียกชื่อตามลักษณะของยอดเจดีย์ที่คล้ายดอกบัวตูมบางองค์ทากลีบบัวประดับตรงดอบัวตูมด้วยบางครั้งเรียกว่า “เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์” เป็นความนิยมที่สร้างกันมากในสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร