วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 20:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




13-2.gif
13-2.gif [ 250.69 KiB | เปิดดู 3577 ครั้ง ]
..:b8: :b44: :b44: :b44: :b8:..


กราบขออนุญาตคัดลอกมาเพื่อเป็นกรณีศึกษา
และเรียนถามบัณฑิตค่ะ




อ้างคำพูด:
นิมิตเกิดจากจิตปรุงแต่งหรือ ?

คิดว่าไม่ได้สนใจว่าจะเกิดจากความทรงจำ
หรือจิตปรุงแต่ง หรือที่หลายท่านก็บอกว่าเป็นสิ่งที่
ทำให้เกิดความเนิ่นช้า เพราะไม่ว่าจะเกิดจากอะไร
ก็ตาม ก็เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ถูกรู้เท่านั้น
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้คิดว่านั่นคือสิ่งพิเศษ
สิ่งที่ทำให้เราหลงติดอยากเห็นแล้วเห็นอีก

ระยะหลังเวลาจิตว่างแล้วก็มักจะเห็นตัวเอง
ขับรถออกนอกเมืองบนถนนหลวง
ขับไปเรื่อยๆด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
ไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด รู้สึกเหมือนสองแขนยื่น
ออกไป แต่ไม่รู้ว่า มือจับพวงมาลัยหรือขี่มอเตอร์ไซค์
วันนั้นรู้สึกจิตสงบมาก ขับไปก็รู้สึกเกิดปีติและสุข
พุ่งขึ้นมาเต็มที่ จนจิตใกล้จะรวมอยู่แล้ว
เพราะเห็นจิตหยุดนิ่งแล้ว

แต่บังเอิญเสียงมือถือดังขึ้น บ่อยครั้งที่ถูกมือถือรบกวน
จะปิดเครื่องก็ไม่กล้า เพราะเกรงว่าจะมีธุระสำคัญ

สังเกตตัวเองนานแล้วว่า นิมิตที่เห็นมักจะเป็นภาพธรรมชาติ
บางทีเห็นเป็นภาพคนบ้าง

ฟังจากหลายคนมักจะเห็นเป็นเทวดา
หรือพระหรือภาพที่น่ากลัว

สติและความรู้ทันยิ่งแก่กล้าและไวมากขึ้นเท่าไหร่
จะยิ่งเห็นภาพและเหตุการณ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
และเก็บรายละเอียดของสิ่งต่างๆได้มากขึ้นเท่านั้น

เห็นในหนังสือบอกว่า ภาพจากความฝันเป็นภาพขาวดำ
แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ใช่ เพราะ เมื่อไม่นานมานี้
ฝันเห็นคนรู้จักคนหนึ่งถืออะไรมาอย่างหนึ่ง
ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร แต่จำได้แม่นยำว่า
เป็นสีฟ้าขาว แต่ภาพจากนิมิตกล้ายืนยันว่าเป็นภาพสี
เพราะนิมิตที่เห็น เห็นในขณะรู้สึกตัว
ภาพที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ หรือดับไปก็รู้เห็นได้

คิดว่ากสิณก็คือนิมิตอย่างหนึ่ง
แต่ก็แปลกอย่างหนึ่ง คนที่ไม่เคยรู้จักคำว่ากสิณมาก่อน
แต่พอเห็นเป็นภาพ จิตรู้จักเข้าไปเพ่งทันที
แล้วภาพที่เป็นกสิณสำหรับเรามักจะเป็นรูปในแนวเดียวกัน

หลังๆมานี้เวลาจิตฟุ้งมากๆใช้วิธีเรียกภาพ แล้วเพ่ง
แปลกเหมือนกัน พอจะเรียกภาพ ภาพเดิมๆก็จะมา
บางครั้งได้ผลชะงัดเหมือนกัน เพราะการเพ่งอะไร
จิตจะตั้งมั่นมากกว่า
และต้องคอยประคองภาพไว้ จนเหมือนกับว่า
ไม่กล้าหายใจ เพราะถ้าเคลื่อนนิดเดียว
ภาพก็จะหายไปทันที

ค่อนข้างจะชอบเขียนบล็อก เพราะได้บันทึกสภาวะ
ต่างๆที่ได้พบเห็นในปัจจุบัน และสามารถเก็บดูได้นานๆ
บางครั้งย้อนกลับไปดู ไม่เหมือนกับว่า
เราเป็นผู้เขียนสิ่งเหล่านั้นเลย
เหมือนอ่านบันทึกของใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยมากกว่า


:b8: ขอกราบอนุโมทนาบุญกับเจ้าของข้อความข้างต้นนี้ด้วยค่ะ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แก้ไขล่าสุดโดย ณ มรณา เมื่อ 07 ก.ย. 2009, 11:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟุ้งซ่านเกินไปน่ะ ช่างคิด ช่างเพ้อ
หลงไปแล้วแต่เข้าใจว่ารู้
รู้หมดว่าคิดเรื่องอะไรต่อมิอะไร แต่ไม่รู้ว่า"ใครคิด"
เรื่องที่คิดที่เห้นไม่สำคัญนะ สำคัญว่าใครเป็นผู้คิด

ต้องหันไปเดินจงกรม นั่งสมาธิ ให้มาก
ใจมันเหมือนปูในกระด้งน่ะ คิดไม่หยุด พม่าลากไป ไทยลากมา
มีอะไรสนใจ ปูก็ไต่ไปดู ไต่ไปสงสัย ไต่ไปดูแล้วพอมีอะไรใหม่มา
ก้ไต่ไปเรื่องใหม่ ไต่ไปไต่มา

ทำยังไงให้ปูมันนั่งอยู่กับที่แล้วคอยดูสิ่งปรากฏ
ใครจะไปใครจะมาก็ดูอย่างเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ใจมันเหมือนปูในกระด้งน่ะ คิดไม่หยุด พม่าลากไป ไทยลากมา
มีอะไรสนใจ ปูก็ไต่ไปดู ไต่ไปสงสัย ไต่ไปดูแล้วพอมีอะไรใหม่มา
ก้ไต่ไปเรื่องใหม่ ไต่ไปไต่มา


........

...:b1: ไต่ไปไต่มา... :b6: อืม...เห็นภาพค่ะ

สาธุ :b8:

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


นิมิตมจากสัญญา (ความทรงจำเก่า)
นิมิตมาจากการเนรมิต (มีจิตดวงอื่นส่งมาให้เราเห็น) เพราะเราดันไปสื่อจิตให้ไปหาเขา
นิมิตเกิดจากตาใน (จุกขุวิญญาณ) ตาเดียวกับที่เราใช้ฝัน

ขาดปัญญาก็ไม่สามารถรู้ชัดว่าที่เห็นนั้นมาจากใหนคืออะไร ทางทีดีก็อย่าไปยึดอะไรกับนิมิต หมั่นเจริญปัญญาให้มาก ปัญญายังไม่แข็งแรงก็อย่าไปถือนิมิต จะพาหลง :b13:

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: ขอบพระคุณค่ะ tongue

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิมิตในกามาวจรจิตเกิดจากกามสัญญาครับ
นิมิตในรูปาวจรจิตเกิดจากรูปสัญญาครับ
อารมณ์ในอรูปาวจรจิตเกิดจาก อรูปสัญญาครับ

โลกุตตระจิตเกิดจาก อนิจจสัญญา หรือทุกขสัญญา หรืออนัตตาสัญญา แล้วบรรลุอนิมิตตสมาธิ หรือบรรลุอัปปณิหิตตะสมาธิ หรือบรรลุสุญญตะสมาธิครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิมิตมาจากจิตปรุงแต่งและไม่ปรุงแต่งค่ะ

มาจากจิตปรุงแต่ง คือ หลอนตัวเองเพราะกิเลสครอบงำ

มาจากจิตไม่ปรุงแต่ง คือ การเข้าใจสัจธรรม รู้ในสิ่งที่ควรรู้ รู้เพื่อแก้กรรม

อย่างไรก็ตาม อะไรๆก็เราได้ทั้งนั้น เอานิมิตจากจิตปรุงแต่ง สอนเราโดยเอาสติ สมอง พิจารณา และถ้าจะให้ดีที่สุด เอาปัญญาพิจารณาค่ะ ปัญญาธรรม มาจาก ถือศีล ทำสมาธิ แค่นี้เองค่ะ ถ้าจะให้เร็ว ก็อย่าใส่กิเลส ไม่ต้องหวังใดๆกับการถือศีลและทำสมาธิค่ะ วันใดได้ปัญญาก็วันนั้นแหละค่ะ เพียรเท่านั้น ที่ต้องใช้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร